ไทยสวมชุุดแดงบู๊ซาอุฯ-ส.บอลอัดฉีดแล้ว13.2ล้าน
ทีมชาติไทยจะใส่เสื้อแดงเกมพบซาอุดีอาระเบีย ในศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบ8ทีมสุดท้าย ด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลฯอัดฉีดแล้ว13.2ล้านบาท
วันที่ 17 มกราคม 2563 ณ ห้องประชุมภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จัดประชุมผู้จัดการทีม เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบก่อนรองชนะเลิศ คู่ระหว่าง ไทย กับ ซาอุดิอาระเบีย
การประชุมในครั้งนี้นำโดย ผู้ควบคุมการแข่งขัน จาก สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย พร้อมด้วยฝ่ายต่างๆ อาทิ ฝ่ายจัดการแข่งขัน, ฝ่ายรักษาความปลอดภัย, ฝ่ายดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์, ฝ่ายพยาบาล, ฝ่ายสื่อ และฝ่ายการตลาด รวมถึงตัวแทนจาก ไทย และ ซาอุดิอาระเบีย
สรุปผลการประชุมผู้จัดการทีม มีดังนี้
ทีมชาติไทย จะสวมชุดสีแดง ผู้รักษาประตูสีชมพู ในเกมที่จะพบกับ ซาอุดิอาระเบีย ที่สนาม ธรรมศาสตร์ สเตเดียม ในวันที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 17.15 น.
- การแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย หากทั้งสองทีมยังเสมอกันใน 90 นาที จะมีการต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที และหากยังเสมอกันอีกจะตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ
- ในช่วงการต่อเวลาพิเศษ จะเพิ่มโควต้าการเปลี่ยนตัวสำรองได้อีก 1 คน
- ในการดวลจุดโทษ จะยิงสลับกันแบบ ABAB ตามปกติ
- นักเตะที่สะสมใบเหลืองมาในรอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด หากได้รับใบเหลืองเพิ่มอีก จะถูกแบนโดยอัตโนมัติ ในเกมรอบรองชนะเลิศ หากไม่ได้รับใบเหลือง จะมีการล้างใบเหลืองทันที หลังจากที่จบการแข่งขันรอบนี้
ด้าน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มอบเงินสนับสนุนสร้างขวัญและกำลังใจ จำนวน 13.2 ล้านบาท ให้กับทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างเยี่ยมในรอบแรกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 8-26 มกราคม 2563
ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อยู่กลุ่ม A ร่วมกับ ทีมชาติออสเตรเลีย,บาห์เรน และ อิรัก โดยมีผลงานเอาชนะ บาห์เรน 5-0 และพ่ายให้กับออสเตรเลีย 1-2 ก่อนปิดท้ายด้วยการเสมอ อิรัก 1-1 เก็บได้ 4 คะแนน เป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ
จากผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าว สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มอบเงินสนับสนุนเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ตามเงื่อนไขที่ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้แจ้งกับนักกีฬาและสต๊าฟฟ์โค้ช ในกรณีที่มีผลการแข่งขันสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ ทุกประตูจะได้รับลูกละ 2 ล้านบาท ซึ่งทีมชาติไทย เอาชนะ บาห์เรน 5-0 ได้รับ 10 ล้านบาท และได้รับอีก 3 ล้านบาท จากการพาทีมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เดินทางมาชมเกมการแข่งขันในสนาม ยังได้มอบเงินสนับสนุนไม่ว่าชนะหรือแพ้ถ้ายิงประตูได้อีกลูกละ 1 แสนบาท ตั้งแต่นัดที่ 2 และ 3 ซึ่งทีมชาติไทยทำได้ 2 ประตู จากการพ่ายให้กับ ออสเตเลีย 1-2 และ เสมอกับ อิรัก 1-1 รวมเป็นเงินทั้งสิ้นสมาคมกีฬาฟุตบอลได้มอบเงินจำนวน 13.2 ล้านบาท ให้แก่นักกีฬาและทีมงานผู้ฝึกสอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย พบกับ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ในวันที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 17.15 น. ณ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี