ฮาแวร์ตซ์ฮีโร่!เชลซีทำได้ล้มแมนฯซิตี้1-0 คว้าแชมป์UCLสมัย2
ไค ฮาแวร์ตซ์ สวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยพาเชลซีเฉือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เข้าป้่ายคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก(UCL)สมัยที่2
เกมรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ปอร์โต้ ประเทศโปรตุเกส "สิงห์บลูส์"เชลซี เปิดศึกเจอทีมอังกฤษด้วยกันอย่าง"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้
นักเตะที่ลงสนามของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำโดยเควิน เดอ บรอยน์,อินคาย กุนโดกัน นำทัพแนวรุกพร้อมด้วย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิล โฟเด้นและริยาด มาห์เรซ
ด้านเชลซี ก็มีข่าวดีเหมือนกัน เอดูอาร์ เมนดี้ หายเดี้ยงกลับมาเฝ้าเสาทำให้อุ่นใจเพิ่ม สามประสานแดนหน้าวันนี้ เป็น ติโม แวร์เนอร์, เมสัน เม้าท์ และไค ฮาแวร์ตซ์
โดยเกมครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมรุกแลกกันอย่างสนุก มีจังหวะทำประตูหลายครั้ง แต่ยังไม่เฉียบคมพอในจังหวะสุดท้าย แต่เป็นเชลซีที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย
น.38 เชลซีต้องเปลี่ยนผู้เล่นคนแรกเมื่อติอาโก้ ซิลวา กองหลังจอมเก๋ามีอาการบาดเจ็บต้องส่งอันเดรส คริสเตียนเซ่น ลงมาเล่นแทนตั้งแต่ปลายครึ่งแรก
น.42 เชลซี ขึ้นนำ 1-0 เริ่มจากเมนดี้เตะยาวขึ้นมาก่อนเบน ชิลเวลล์ ป้ายมาให้ เมสัน เม้าท์ จับก่อนแทงบอลทะลุช่องทีเดียวให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดเดี่ยวไปลากหนีเอแดร์ซอนที่ออกมานอกกรอบก่อนยิงโล่งๆ เข้าไป
ครึ่งหลัง แมนฯซิตี้พยายามทำเกมรุกเพื่อยิงประตูตีเสมอ น.55 เกมต้องหยุดลงชั่วขณะหลังจากรูดิเกอร์ไปปะทะกับเดอ บรอยน์ตรงกลางสนามทำเอาเจ็บกันไปทั้งคู่ ต้องให้หมอลงมาดูอาการสักพักก่อนที่เดอ บรอยน์ หางตาบวมปูดร้องไห้โดนเปลี่ยนออกเอา กาเบรียล เชซุส ลงสนามมาแทน
จากนั้น"เรือใบสีฟ้า"โหมบุกอย่างหนักแต่กองหลังเชลซียังช่วยกันป้องกันไว้ได้หลายจังหวะ น.76 แมนซิตี้ส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงมาเล่นแทนราฮีม สเตอริ่ง ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของ"กุน"กับทีม"เรือใบสีฟ้า"
ท้ายเกมแมนซิตี้บุกหนักแต่สุดท้ายยิงประตูไม่ได้ จบเกม เชลซี เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปครองสมัยที่2