"ไทย"สถิติข่มหวังบุกอัด"ฟิลิปปินส์"ตัดเชือกนัดแรก

"ทีมชาติไทย"หวังเก็บผลดีเกมบุก"ฟิลิปปินส์"ตัดเชือกอาเซียนคัพ 2024 นัดแรก สถิติไทยสุดข่มไร้พ่ายเจอกัน52ปี พร้อมส่ง"ศุภณัฏฐ์-พาตริก"ล่าตาข่าย

ฟุตบอล"อาเซียนคัพ 2024"ประจำวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2567 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คู่ที่สอง ทีมชาติฟิลิปปินส์ เปิดสนามริซัล เมโมเรียล พบ ทีมชาติไทย เวลา20.00 น.ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32, AIS PLAY , ยูทูป : BG SPORTS, Facebook : นกพลัส และ True sport2 ช่อง 667

เจ้าถิ่น ฟิลิปปินส์ ภายใต้การคุมทัพของ อัลเบิร์ต คาเปลลาส กุนซือชาวสเปนที่เพิ่งมารับงานคุมทีมเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำงานไปแล้ว 7 นัด ด้วยผลงาน ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 2 

พวกเขาผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศรายการชิงแชมป์อาเซียน ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ด้วยผลงานไร้พ่าย (ชนะ 1 เสมอ 3) โดยสร้างเซอร์ไพรส์ในนัดสุดท้ายด้วยการบุกเชือด อินโดนีเซีย ถึงถิ่น 1-0 ปาดหน้าเข้ารอบมาหวุดหวิด

ในส่วนของสภาพทีมเกมนี้เจอปัญหาเยอะพอตัว โดยเฉพาะกับการหมดสิทธิ์ใช้งาน อมานี่ อากีนัลโด้ กองหลังตัวเก่งสังกัดระยอง เอฟซี ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบในรอบแรก รวมถึง แพทริก เดย์โต นายทวารจอมหนึบที่คุ้นเคยกับไทยลีกเป็นอย่างดี ก็พลาดโอกาสลงเฝ้าเสาจากอาการบาดเจ็บ 

อีกทั้งยังจะไม่มี แพทริก ไรเชลท์ แนวรุกตัวเก๋าที่ประกาศเลิกเล่นหลังทีมเข้ารอบ จากเหตุผลเรื่องครอบครัวที่ต้องการไปดูแลภรรยาที่กำลังจะคลอดลูก ส่วนขุมกำลังทีเด็ดรายอื่นๆยังพร้อมเป็นตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็นดาวยิงอย่าง บียอร์น มาร์ติน คริสเตนเซ่น, ซานโดร เรเยส, สกอตต์ วูดส์ รวมถึง พอล ทาบินาส

ทางฝั่งทีมเยือน "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่เก็บชัยชนะมา 4 นัดรวด เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม โดยเกมนี้เจอปัญหาเรื่องของสภาพสนามที่ฟิลิปปินส์เป็นหญ้าเทียม ทำให้ต้องปรับจังหวะและเปลี่ยนสถานที่ซ้อมตั้งแต่ที่ไทย ก่อนจะออกเดินทางไปเยือนและได้โอกาสลงซ้อมสนามจริง 2 ครั้งเท่านั้น ทำให้ต้องพยายามปรับตัวให้ดีที่สุด

ในส่วนของสภาพทีมมีข่าวดีคือ เบนจามิน เจมส์ เดวิส กับ สุภโชค สารชาติ ที่มีภาพฝึกซ้อมกับทีมอยู่ตลอด ความฟิตอาจจะยังไม่เต็มถัง แต่ถ้าเกิดสถานการณ์คับขันก็มีโอกาสถูกเรียกใช้งานในช่วงท้ายเกม ส่วน เอกนิษฐ์ ปัญญา ยังไม่พร้อมสำหรับนัดนี้ ขณะที่ขุมกำลังรายอื่นๆยังอยู่กันครบ นำโดย โจนาธาร เข็มดี, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, อนันต์ ยอดสังวาลย์

11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม:ปฏิวัติ คำไหม(ผู้รักษาประตู),ศฤงคาร พรมสุภะ,พรรษา เหมวิบูลย์(โจนาธาร เข็มดี),นิโคลัส มิคเกลสัน,ทิตาธร อักษรศรี,วีระเทพ ป้อมพันธุ์,พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี,อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ(วิลเลียม เวเดอร์เฉอ),อนันต์ ยอดสังวาลย์(สุภโชค สารชาติ),ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา,พาตริก กุสตาฟส์สัน

ด้านสถิติการพบกันระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ฟิลิปปินส์ เฉพาะในศึกชิงแชมป์อาเซียน พบกันมาทั้งหมด 12 ครั้ง ฟิลิปปินส์ ชนะ 0 : เสมอ 2 : ไทย ชนะ 10 

ส่วนเกมล่าสุดที่เจอกันเป็นเกมฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ที่จ.สงขลา ทีมชาติไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 

โดย มาซาทาดะ อิชิอิ เฮ้ดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า "การที่ทีมต้องมาเจอกับสถานการณ์การเล่นสนามหญ้าเทียม ซึ่งเราได้ซ้อมสนามแข่งขันจริงมาแล้ว แน่นอนว่าทุกคนต้องพยายามทำให้ดีที่สุด"

"เราต้องพยายามปรับจูนกับสภาพต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะต้องเจอสถานการณ์แบบใดก็แล้วแต่ เราต้องปรับตัวให้ได้กับทุกสภาพที่ต้องเจอ" 

"เกมที่ฟิลิปปินส์เล่นกับอินโดนีเซีย เราไม่สามารถไปวิจารณ์อะไรได้ แต่จากที่ดูรายละเอียดการเล่นของฟิลิปปินส์มา พวกเขาแตกต่างจากก่อนหน้านี้ มีการแก้ไขปรับปรุงเกมรุกเกมรับที่ดีขึ้นกว่าที่เคยเจอกับเรา จากการที่เราได้ลองซ้อมกับสนามหญ้าเทียม ซึ่งเป็นสนามแข่งขันจริง ไม่ได้ทำให้แผนที่เตรียมมาต้องเปลี่ยนแปลงอะไร"