ต้อนรับพ็อตเตอร์โหด ! ไบร์ทตัน สอนบอลสิงห์เละ 4-1 ทรอสซาร์ ตะบัน
โดนต้อนรับกลับคืนถิ่นเก่าอย่างดุดันจริงๆสำหรับ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ในการมาเยือน เอเเม็กซ์ สเตเดี้ยม ของ ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่กำลังควานหาชัยชนะนัดแรกนับตั้งแต่เจ้าตัวออกจากตำแหน่งไปรับงานที่เซลซี โดยผลลัพธ์ 90นาที เป็นทางฝั่งทีมดังแดนใต้ ที่หักปากกาเซียน เอาชนะไปได้แบบไร้ที่ติ 4-1
เซลซี ที่ยังไม่แพ้ใครเป็นระยะเวลา9นัดแล้วนับตั้งแต่ พ็อตเตอร์ เข้ามารับตำแหน่ง ต้องลงใต้บุกไปเยือน ไบร์ทตัน ที่มีผู้จัดการทีมคนใหม่เป็น โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ โดยกุนซือชาวอิตาเลี่ยนรายนี้ ยังไม่สามารถพา ไบร์ทตัน เก็บ3แต้มได้เลย ตลอด5นัดที่ผ่านมา
การปลดล็อคครั้งแรกของ เด แซร์บี้ ก็เกิดขึ้นในเกมกับเซลซีนี่แหละ เมื่อสุดท้ายแล้วเป็นไบร์ทตัน ที่สอนบอลเซลซี ไปอย่างขาดลอย 4-1 โดยพวกเขาได้ประตูจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ น. 5 และการสงเคราะห์ทำเข้าประตูตัวเองอีกสองลูกของ รูเบน ลอฟตัส -ชีค น.14 และ เทรเวอร์ ชาโลห์บา น.42 ก่อนทีจะมาได้ลูกปิดท้ายจาก ปาสกาล กรอสส์ น.90+2
ส่วนผู้มาเยือนไล่คืนมาได้ลูกเดียวจากลูกโขกของ ไค ฮาแวร์ตช์ น.48 นอกจากสกอร์ที่ขาดลอย 4-1 แล้ว ลูกเกม แท็กติก วิธีการเล่นต่างๆของ สิงห์น้ำเงินดูจะแพ้ทีมเจ้าบ้านทุกกระบวนท่า
โอเคว่ามีความผิดพลาดส่วนบุคคลของแข้งเซลซี ทำเข้าประตูตัวเอง2หน แต่ทว่าแท็กติกการวางแผนของ พ็อตเตอร์ ก็ดูจะเข้าทางไบร์ทตันไม่น้อย ด้วยระบบหลัง3ของสิงห์บูลส์ ที่ไม่มีวิงแบ็กอาชีพจริงๆ แต่กลับใช้ตัวรุกอย่าง คริสเตียน พูลิซิซ และ ราฮีม สตอร์ลิง มาเล่น ทำให้เวลาเจอเกมสวนกลับ หรือแทงจากริมเส้นบอลทะลุไปถึงแผงหลังแทบทุกครั้ง
ประกอบกันกับบรรดาหน่วยล่าสังหารของเซลซีเกมเมื่อคืน ต่างพากันโชว์ฟอร์มไม่ออกแทบทุกราย โดยเฉพาะ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่เป็นในเวอร์ชั่นที่ทำตัวน่าหงุดหงิดกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ใช่เวอร์ชั่นยิงกระฉูดอยู่ถูกที่ถูกเวลาแต่อย่างใด
ส่วน เลอันโดร ทรอสซาร์ แม้จะมีจังหวะการเล่นที่น่าหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ทว่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์1ประตู และการมีส่วนร่วมกับเกมรุกก็ถือว่าตัวริมเส้นชาวเบลเยี่ยมรายนี้ทำงานได้สัมฤทธิผลอยู่ไม่น้อย แถมยังคงสถิติที่ชอบล่าตาข่ายทีมใหญ่ในซีซั่นนี้อีกด้วย
โรเบิร์ต ซานเชซ โกลของไบร์ทตัน แม้จะมีพลาดกับประตูตีไข่แตกของเซลซี ที่ลูกโหม่งของ ไค ฮาแวร์ตช์ ไม่ได้หนีตัวมากนัก แต่ตลอดทั้งเกมต้องบอกเลยว่า โกลวัย24ปีรายนี้ โชว์ให้เห็นว่า ทำไมถึงจะได้ไปลุยบอลโลก 2022กับทีมชาติสเปน ทั้งจังหวะเซฟสวยๆ การอ่านบอล การออกมาเล่นลูกกลางอากาศที่ทำได้แบบไร้ที่ติ
พ็อตเตอร์ วางแท็กติกผิดพลาด
ถ้าวัดด้วยศักยภาพตัวผู้เล่นและฟอร์มในระยะหลังต้องบอกว่าเป็นเซลซีที่ดีกว่าอย่างชัดเจน ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในยุคของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ 5นัดที่ผ่านมา พวกเขายังดูรูปแบบการเล่นติดขัดๆ ยังไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย ขนาดกับทีมบ๊วยอย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอรเรสต์ ยังทำได้แค่เจ๊าในบ้าน0-0
ส่วนเซลซี ในช่วงฮันนีมูนของ พ็อตเตอร์ 9นัด พวกเขาเอาชนะได้6 ไร้พ่าย แต่ทว่า2เกมหลังในลีกกับ เบรนท์ฟอร์ด และ แมนฯยูไนเต็ด พวกเขาก็มีจุดอ่อนหรือรูปเกมมีแผ่วให้เห็นเช่นกัน
เกมบุกเยือน ไบร์ทตัน เกรแฮม พ็อตเตอร์ ยังคงมาในแผน 3-4-2-1 ทั้งที่ผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์มีอาการบาดเจ็บถึง2คนทั้ง คาลิดู คูลิบาลี่ และ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ทำให้ต้องขยับเอา มาร์ค กูกูเรย่า มาเล่นเซ็นเตอร์ฝั่งขวา
ซึ่งปัญหาระบบหลัง3เกมนี้ อยู่ที่ผู้เล่นตำแหน่งวิงแบ็กที่เกมนี้เป็นตัวรุกจ๋าๆอย่าง คริสเตียน พูลิซิซ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ซึ่งไม่ใช่วิงแบ็กธรรมชาติ เกมรุกอาจใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่ทว่าเกมรับสองแข้งชาว อเมริกัน และ อังกฤษ แทบไมได้วิ่งมาช่วยงานแผงหลัง3เซ็นเตอร์เลย
นั่นจึงทำให้เกมริมเส้นของไบร์ทตันทั้งซ้ายและขวา ผ่านสะดวกสบายตลอดทั้ง เปร์วิส เอสตูปินญาณ และ คาโอรุ มิโตมะ แข้งเลือดญี่ปุ่น ยังไม่นับ เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ส่ายไปส่ายมาได้ตลอด
ส่วนเกมในแดนกลางก็เป็นอีกครั้งที่เซลซี แพ้คู่แข่งเหมือนในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะพวกเขามีมิดฟิลด์เพียงแค่2คนนั่นก็คือ มัตเตโอ โควาซิซ และ รูเบน ลอฟตัส -ชีค ซึ่งรายหลังแม้จะมีรูปร่างสูงใหญ่ แต่เซนส์การจ่ายบอลจังหวะสำคัญๆ การตัดสินใจยังดูน่าขัดหูขัดตาสุดๆ
อาจถึงเวลาลองดร็อป ราฮีม
แม้จะซื้อมาในช่วงที่ไม่ได้พีคเท่าไหร่ และมีราคาแพงถึง 47.5ล้านปอนด์ แต่ทว่าเซลซีก็คาดหวังกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อยู่ไม่น้อยกับควมเจนจัดในเวทีพรีเมียร์ลีก แต่ทว่าถึงตอนนี้ที่ได้ลงสนามในลีกไป11นัด ราฮีม ฝากผลงานไปแค่3ประตู กับอีก1แอสซิสต์เท่านั้น
ผลงานที่ฝืดเคืองของดาวเตะก้นงอนเมื่อคืน นั่นทำให้นี่เป็นเกมที่6ติดต่อกันแล้วในพรีเมียร์ลีก ที่ สเตอร์ลิง ทำประตูหรือแอสซิสต์ ไม่ได้เลย มีเวลาได้อยู่ในสนามแค่ 63นาที โอกาสยิง0ครั้ง แถมยังมีเปอร์เซ็นต์ในการผ่านบอลแม่นยำแค่ 54.2%เท่านั้น
ในเรื่องของเกมรุก สเตอร์ลิง ดูจะมีจังหวะการเล่นที่ดูขัดหูขัดตาไม่น้อย นั่นก็คือเข้าสูตรเดิมกับ จังหวะควรเลี้ยงกลับจ่าย จังหวะควรจ่ายกลับเลี้ยง แถมยังดูไม่เข้าขากันมากๆกับ เมสัน เมาท์ - ไค ฮาแวตร์ช รวมไปจนถึงกับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์
สื่ออย่าง 90 Min ให้คะแนน ราฮีม สเตอร์ลิง เพียงแค่1คะแนนเท่านั้น ซึ่งเว็บให้คะแนนส่วนใหญ่ให้เจ้าตัวไม่ค่อยมีเกิน5คะแนน
เข้าใจว่าด้วยธรรมชาติในการเล่นเป็นตัวรุกจ๋า ทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมรับไม่ดีเท่าไหร่ แต่สำหรับบทบาทวิงแบ็กซ้าย สเตอร์ลิง ควรที่จะเล่นเกมรับช่วยทีมได้กว่านี้ สำหรับการมาไล่บอลเกมจากทางริมเส้นของไบร์ทตัน ที่จะทะลุมาถึงคู่เซ็นเตอร์ หรือการปิดเกมจากด้านข้างจาก เปร์วิส เอสตูปินญาณ ที่โจมตีเซ็นเตอร์ฝั่งซ้ายของทีม มาร์ค กูกูเรย่า อย่างสนุกสนาน
กูกูเรย่า นึกว่าจะแบเบอร์ในยุค พ็อตเตอร์
ปรกติผู้จัดการทีมใหม่ มักจะเลือกใช้นักเตะจากทีมเก่าให้ได้รับโอกาสมากกว่าบ่อยครั้ง เพราะคุ้นมือ มองตาก็รู้ใจ รู้จักวิธีใช้งาน นี่คือสิ่งที่หลายคนน่าจะมองถึง สถานการณ์ของ มาร์ค กูกูเรย่า กับเซลซี ที่มีเจ้านายคนเก่าเป็น เกรแฮม พ็อตเตอร์
แต่ว่านี่คือนัดที่4ติดต่อกันแล้วในพรีเมียร์ลีก ที่แบ็กซ้ายหัวฟูรายนี้ เล่นไม่จบเกมครบ90นาที แถมยังมีบางแมตช์ที่โดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่หัววันด้วย ไม่ว่าจะเป็นนัดกับวิลล่า น.46 (ออกสตาร์ทครึ่งหลัง) เกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นี่หนักหน่อยตั้งแต่ น.36
เมื่อคืนกับไบร์ทตันเช่นกันที่ กูกูเรย่า โดนถอดออกตั้งแต่น.64 โอเค ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าแข้งค่าตัว 55ล้านปอนด์ ได้เล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดด้วยนั่นก็คือ เซ็นเตอร์ฝั่งซ้าย ซึ่งปรกติเจ้าตัวจะได้เล่นในบทบาทวิงแบ็กหรือแบ็กซ้าย
เวลาโดนตัวริมเส้น ที่เป็นสายเร็วและสายคล่องเลี้ยงจี้โจมตี ดูน่าหวาดเสียตลอด โดยเฉพาะกับการรับมือ โซลลี่ มาร์ช ซึ่งเวลาที่แท็กติกของทีมแย่ แล้วต้องเปลียนฟอร์เมชั่นรูปแบบการเล่น แบ็กชาวสเปนรายนี้ จะเป็นตัวเลือกอันดับแรกในการเปลี่ยนตัวออกเสมอ
เมื่อคืน มาร์ค กูกูเรย่า มีสถิติในการเล่นเกมรับที่ไม่ค่อยดีนัก นั่นก็คือ ไม่มีจังหวะแท็กเกิ้ล ตัดบอลเลย แถมยังมีสถิติตัวเลขเคลียร์บอลได้เพียงแค่1ครั้งเท่านั้น ซึ่งการกลับถิ่นเก่าแดนใต้เมื่อคืน แบ็กวัย24ปี ยังได้รับเสียงโห่จากแฟนบอลไบร์ทตัน เป็นของขวัญอีกด้วย
ทรอสซาร์ ตัวแสบทีมใหญ่
เป็นหนึ่งในนักเตะตัวรุกของ ไบร์ทตัน ที่โชว์ฟอร์มได้แจ่ม ลีลาพริ้วไหวมานานแล้ว แต่ทว่าในเรื่องของทีเด็ดทีขาด การทำประตูหรือ แอสซิสต์ ดูจะเป็นสิ่งที่ เลอันโด ทรอสซาร์ ยังทำได้ไม่เด็ดขาดเท่าที่ควรจะเป็น
ซึ่งแตกต่างจากในซีซั่นนี้ 2022-2023 ทรอสซาร์ ยังคงสานต่อลีลาที่พริ้วไหวเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือความได้น้ำได้เนื้อ จังหวะสุดท้าย เมื่อคืน1ประตูที่ซัดใส่เซลซีได้ ก็แสดงให้เห็นถึงความนิ่งความเยือกเย็นอยู่ไม่เบา ล็อกหลบ เกปา แล้วยิงหนีผู้เล่นทีมเยือนที่พยายามยืนป้องกันบนเส้นถึง2คน
นอกจากนี้ ทรอสซาร์ ยังเหมือนเป็นสารตั้งต้นในเกมบุกของทีมได้อีกด้วย ประสานงานกันได้กลมกลืนกับ โซลลี่ มาร์ช และ มิโตมะ ซึ่งเมื่อคืนดาวเตะชาวเบลเยี่ยม หาโอกาสซัดประตูได้มากถึง6ครั้งด้วยกัน
อีกหนึ่งจุดเด่นของ อดีตแข้งเกงค์ก็คือ เสามารถโยกส่ายไปเล่นได้หลายตำแหน่งในเกมรุก โดยเกมเมื่อคืน ทรอสซาร์ ไม่ได้เล่นในตำแหน่งวิงแบ็กเหมือนนัดที่เสมอ ฟอเรสต์ ทำให้มีอิสระในเกมรุกอยู่พอสมควร
ผ่านมา12นัดในลีกฤดูกาล 2022-2023นี้ เลอันโดร ทรอสซาร์ กระทุ้งไปได้แล้วถึง 7ประตู โดยมีถึง5ลูกเป็นการกระหน่ำใส่ทีมใหญ่ทั้ง ลิวอร์พูล (3) - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (1) ล่าสุดกับเซลซี (1) และอีกเพียงประตูเดียว ทรอสซาร์ จะทำยอดได้เท่ากับฤดูกาลที่แล้วที่ยิงในพรีเมียร์ลีกไป8ลูก
โรเบิร์ต ซานเชซ โชว์ให้เห็นว่าทำไมถึงจะได้ไปบอลโลก
การเป็นผู้รักษาประตูทีมขนาดเล็กนั่นเป็นเรื่องยากเหมือนกันที่จะติดทีมชาติยักษ์ใหญ่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโกลของ ไบร์ทตัน อย่าง โรเบิร์ต ซานเชซ ที่กำลังจะได้ไปลุยบอลโลกกลับทีมชาติสเปนแต่อย่างใด
เมื่อคืน โรเบิร์ต ซานเชซ ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ในเกมกับเซลซี เพราะครึ่งแรกเซฟลูกยิงของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ได้ถึง2หน จากทั้งลูกยิงและลูกโขก รวมไปจนถึงหยุดลูกยิงปั่นโค้งของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ได้
โอเค แม้เกมนี้นายด่านวัย24ปี จะไม่ได้เซฟลูกยากเยอะ แต่ทว่าอีกอย่างที่เจ้าตัวทำได้ดีนั่นก็คือ การรับลูกยิงที่ไม่กระฉอกออกมาให้คู่แข่งตามซ้ำ รวมไปจนถึงการออกมาเล่นลูกกลางอากาศที่ไว้ใจได้คว้าหนึบติดมือตลอด
12นัดในลีกซีซั่นนี้ ซานเชซ เก็บคลีนชีตได้4นัดด้วยกัน เสียไป15ประตู แม้จะไม่ได้อยู่ทีมขนาดใหญ่เหมือนกัน ดาบิด เค เคอา ( แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ) และ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (เซลซี) แต่โอกาสในการไปบอลโลกกับทีมชาติสเปน ซานเชซ สูงลิ่วกว่ามากๆเลยทีเดียว
ส่วนเกร็ดอีกอย่างที่น่าสนใจกับ3แต้มของ " เดอะ ซีกัลล์ " เมื่อคืนก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่ ไบร์ทตันเอาชนะเซลซีในเกมลีกได้ หลังที่ก่อนหน้านั้นดวลกันมา14ครั้ง แพ้ทัพสิงห์บูลส์ไป 10 / เสมอ4 ก่อนที่จะมาปลดล็อคนัดที่15ได้เมื่อคืน
- คอลัมน์นิสต์
- 318
- 30 ต.ค. 2565 14:43