Bale is Back ! ไก่คืนฟอร์ม ไล่จิกเบิร์นลี่ย์อ่วม 4-0
แม้ที่ผ่านมาจะหนักไปทางโชว์ผลงานดีในฟุตบอลถ้วยเสียเป็นส่วนใหญ่ สวนทางกับฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันที่ย่ำแย่ในพรีเมียร์ลีก แต่ทว่านัดที่สเปอร์สไม่ควรพลาดดรอปแต้มด้วยประการทั้งปวง พวกเขาก็ทำได้อย่างเช่นเกมเมื่อคืนนี้
ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ของ โชเช มูรินโญ่ เปิดบ้านเอาชนะทีมโซนตกชั้นอย่าง เบิร์นลี่ย์ ไปแบบสบายๆไม่ซีเรียส 4-0
ด้วยคุณภาพของนักเตะรวมถึงกึ๋นดีกรีของกุนซือทั้งสองฝั่งที่แตกต่างกัน จึงทำให้เมื่อคืนเป็นการปูพรมบุกเดินหน้าฆ่าเพียงฝ่ายเดียวของทีมเจ้าบ้าน
แกเร็ธ เบล ชื่อนี้หากไม่พูดถึงก็คงกระไรอยู่เมื่อดาวเตะพญาวานรท่านนี้ ระเบิดฟอร์มที่เราคุ้นเคยกดไป2เม็ด ทำทางจ่ายแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมไปอีก1
แม้จะอยู่ในสนามไม่ครบ90นาที แต่รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไม่มีใครโต้แย้งถ้าจับมอบให้สตาร์ชาวเวลส์รายนี้
นอกจากเบลแล้ว ผู้เล่นคนอื่นๆในแนวรุกอย่าง แฮร์รี่ เคน - ลูคัส มูร่า ก็ทำให้ที่ของตัวเองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มีประตูมาฝากสาวก " ยิดอาร์มี่ " เช่นกัน
" โอปป้าเกาหลี " อย่าง ซน เฮือง-มิน แม้ไม่มีรายชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ก็ยังทำทางแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมได้ถึง2ครั้ง
หากจะเปรียบว่าแนวรุกของไก่เดือยทองเมื่อคืนเป็น ปืนหนักอาวุธสงคราม ยิงเบิร์นลี่ย์และ นิค โป๊ป ไส้แตก เกมรุกของทีมเยือนก็คงเป็นเหมือนปืนพลาสติกฉีดน้ำ ที่แทบจะไร้พิษสงความน่ากลัวใดๆเลย
มาเต วิด้า และ เจย์ โรดริเกซ ไม่ได้สร้างความปั่นป่วนคุกคามแนวรับของทีมเจ้าบ้านเลย บรรดาหน่วยหนับสนุนทางริมเส้นก็ไม่ได้ตามตามนัด
ทั้งที่คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟของเจ้าบ้านอย่าง ดาวิซอน ซานเชซ และ โทบี้ อันเดอร์ไวไรลด์ จะไม่ได้เหนียวแน่นแข็งแกร่งอะไร
3คะแนนสำคัญของสเปอร์ส ส่งผลให้พวกเขายังอยู่ที่อันดับ8ของตารางคะแนน แต่ทว่าตามหลังทีมอันดับ4พื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างเวสต์แฮม อยู่เพียงแค่6แต้ม แต่ทว่าทีมไก่เดือยทองเองยังแข่งน้อยกว่าทีมขุนค้อน1นัดด้วยกัน
Bale is Back
ทำท่าจะไม่ได้ไปต่อกับทีมเสียแล้วกับสถานการณ์ของ แกเร็ธ เบล ก่อนหน้า เมื่อใช้เวลาส่วนใหญ่บนซุ้มม้านั่งสำรอง และจะได้วาดลวดลายในฟุตบอลถ้วยรายการ ยูโรป้าลีก เสียเป็นส่วนใหญ่
แต่ทว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอาการของ แกเร็ธ เบล จะค่อยๆดีขึ้นได้ลงสนามมาเป็นตัวสำรองในเกมพรีเมียร์ลีก และเจ้าตัวเองก็ทำได้ดีทุกครั้งเมื่อได้รับโอกาส
แม้จะไม่มีประตูมาฝาก แต่สิ่งที่แฟนบอลได้เห็นนั่นก็คือความกระตือรือร้น ความมุ่งมั่นตั้งใจ และอิมแพคต่อเกมรุกของทีมเป็นอย่างมาก
มูรินโญ่ เลยตอบแทนผลงานของสตาร์ชาวเวลส์ด้วยการเซอร์ไพรส์ส่งรายชื่อเป็น11ตัวจริงในพรีเมียร์ลีกนัดเจอกับ เบิร์นลี่ย์ และด้วยเวลาเพียง68วินาที เบล ก็ตอบแทนความไว้วางใจที่กุนซือชาวโปรตุเกสมอบให้
ก่อนที่จะมา ซัดอีก1ประตู และทำอีก1แอสซิสต์ ในเกมดังกล่าว น่าเสียดายที่เจ้าตัวโดนเปลี่ยนออกจากสนาม น.70 ให้ เอริค ลาเมล่า มิเช่นนั้นสามารถลุ้นกดแฮตทริกกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ได้เลย
การเล่นการขึ้นเกมทางฝั่งขวาของ แกเร็ธ เบล สามารถคุกคามปั่นป่วนแบ็กซ้ายของทีมเยือนอย่าง ชาร์ลี เทย์เลอร์ เป็นอย่างมาก การเล่นลูกกลางอากาศเมื่อคืนดาวเตะวัย31ปีก็โดดเด่นไม่แพ้กัน
เบล กำลังมั่นใจและทำได้ดีอีกครั้งกับทีมไก่เดือยทอง สภาพความฟิตร่างกายกำลังเข้าที่ ฟอร์มการเล่นเดิมๆที่กำลังทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมไปจนถึงภาษากายความมั่นใจ ความสุขที่ได้ลงเล่น ดาวเตะพญาวานรผู้นี้กำลังอยู่ในโมเมนต์ตัมที่ดี
อยู่ที่ว่าเจ้าตัวแล้วแหละว่าจะคงมาตรฐานฟอร์มการเล่นแบบนี้ รวมถึงรักษาสภาพความฟิตของร่างกายไปได้ตลอดรอดฝั่งกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้รึเปล่า
สถิติ แกเร็ธ เบล หลังเกม
100 % ชนะลูกกลางอากาศ
4 สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษ
3 โอกาสยิงประตู
2 เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง
2 ยิงเข้ากรอบ
2 ประตู
1 แอสซิสต์
อิทธิพลของ เคน และ ซน
แม้เกมนี้คู่หูดูโอ้นรกแตก จะทำประตูรวมกันได้เพียงแค่ 1ลูกเท่านั้น ซึ่งเป็น แฮร์รี่ เคน ที่ใส่สกอร์ได้ ส่วน ซน เฮือง -มิน แม้จะไร้ชื่อบนสกอร์บอร์ดแต่ทว่าก็ทำแอสซิสต์ไป2ครั้ง ให้กับ แกเร็ธ เบล เผด็จศึก
นั่นเท่ากับว่าคู่หูคอเลคชั่น อังกฤษ เกาหลีใต้ มีส่วนร่วมในการทำประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ให้สเปอร์ส คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วสูงถึง 81 %
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆนั่นก็คือ 41ประตูที่ทีมไก่เดือยทองทำได้ลีกฤดูกาลนี้ มี33ประตู ที่มาจากไม่คนใดคนหนึ่งระหว่าง เคน หรือ ซน ต้องมีส่วนเรื่องไม่ยิงก็จ่าย
ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ชี้บ่งบอกชัดเจนว่า แข้งเบอร์7และ10ของสเปอร์ส มีอิทธิพล ต่อเกมรุกของทีมขนาดไหน
โดยทั้ง เคน และ ซน ในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ทั้งคู่ทำประตูรวมกันไปได้ถึง24ประตูเข้าให้แล้ว โดยเฉพาะ " ซอนนี่ " ที่โดดเด่นมากๆไม้แพ้ แกเร็ธ เบล เลยสำหรับเกมเมื่อคืน ความเร็วของแข้งแดนกิมจิ ฉีกแนวรับเบิร์นลี่ย์เป็นชิ้นๆ
รวมถึงจังหวะจ่ายบอลแบบคิลเลอร์พาสที่แสดงให้เห็นทั้งวิสัยทัศน์ และไหวพริบที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
หากเพื่อนร่วมทีมจบสกอร์ได้คมกริบกว่านี้ " โอปป้า ซน " อาจมีมากกว่า2แอสซิสต์ก็เป็นได้
สถิติ ซน เฮือง-มิน หลังเกม
38 สัมผัสบอล
7 สร้างสรรค์โอกาส
6 พาบอลเข้าเขตโทษคู่แข่ง
4 แย่งบอลกลับคืนมา
3 สร้างสรรค์โอกาสสำคัญๆ
2 โอกาสยิง
2 แอสซิสต์
คลีนชีตที่100 ของ ฮูโก้ โยริส
แม้จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนักในฤดูกาลนี้สำหรับ ฮูโก้ โยริส ทั้งความผิดพลาดส่วนบุคคลของเจ้าตัวที่ทำให้ทีมเสียประตูหลายครั้ง รวมถึงความเหนียวหนึบของโกลชาวฝรั่งเศสรายนี้ที่ทำได้ไม่เท่ามาตรฐานเดิม
ช็อตที่ยากที่สุดของนายด่านวัย34ปี มีแค่จังหวะซัดในเขตโทษที่บอลโดนเหลี่ยมไม่ดี ของ เจย์ โรดริเกซ แม้จะพุ่งเช้ากรอบ แต่ก็เบาหวิวเสียใจโยริสรับเข้าซองไปได้แบบสบายๆ
แม้จะไม่ได้มีช็อตเชฟอะไรหวือหวา แต่สิ่งที่ต้องชมเจ้าตัวในเกมนี้นั้นก็คือ การสั่งการแผงเกมรับให้ยืนตำแหน่งกันได้อย่างมีระเบียบ เวลาที่รับมือลูกตั้งเตะ หรือลูกเตะมุมที่เป็นจุดแข็งของลูกทีม ฌอน ไดซ์
แต่ถึงกระนั้นก็ดี โยริส ก็คว้าคลีนชีตนัดที่100 กับสเปอร์สได้สำเร็จหลังย้ายมาจาก โอลิมปิก ลียง มาร่วมจอยคลับไก่ตั้งแต่ปี2012 เกมกับเบิร์นลี่ย์ แม้จะไม่ใช่นัดที่ต้องเจองานชุกมาก แต่เจ้าตัวก็ยังได้ออกแรงเซฟไปถึง3ครั้งด้วยกัน
นายด่านวัย34ปี เป็นเพียงผู้รักษาประตูคนที่16ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่เก็บคลีนชีตครบ100นัด และเป็นผู้รักษาประตูคนแรกในประวัติศาสตร์ของ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ที่เก็บคลีนชีตครบ100นัด
นานๆจะเห็น ดาวิดซอน ซานเชซ เล่นดี
ปรกติก็เป็นหนึ่งในนักเตะแนวรับของทีมที่มักจะโดนก้อนหินวิจารณ์โจมตีเวลาที่ทีมพลาดเสียประตูง่ายๆอยู่เสมอร่วมกับ เอริค ดายเออร์ และ ขาประจำอย่าง แซร์จ โอริเย่ร์
โอเคแม้ว่าจะเป็นเกมที่ถือว่าง่ายสำหรับกองกลังชาวโคลัมเบีย เพราะเมื่อมองไปที่แนวรุกของเบิร์นลี่ย์ แทบไม่มีใครที่ฝากผีฝากไข้เรื่องทำประตูได้เลย
ดาวิดซอน ซานเชซ มีเกมที่ยอดเยี่ยมในการรับมือกับคู่กองหน้าของ " เดอะ คาเร็ตส์ " ยืนตำแหน่งได้ดี มีสมาธิกับเกม รวมถึงเก็บกินเรียบลูกกลางอากาศ ที่คือคำนิยามของ เจ้าตัวในนัดนี้
โมเม้นต์ที่เด่นที่สุดของอดีตกองหลังอาแจ็กซ์ นั่นก็คือการใช้ความใหญ่ แน่น หนา ถึก เบียดเอาบอลจาก มาเต วิด้า ที่กำลังหลุดเดียวเข้าไปล่อเป้าได้อย่างน่ากระแทกฝ่ามือให้
สิ่งเดียวที่น่ากังวลสำหรับแฟนไก่เดือยทองสำหรับ ฟอร์มของ ดาวิดซอน ซานเชซ นันก็คือพวกเขาไม่รู้เลยว่ากองหลังวัย24ปีรายนี้ จะฟอร์มผีเข้าผีออกอีกเมื่อไหร่ วันดีคืนดีเจ้าตัวอาจจะแปลงสภาพตัวเองเป็นบ่อน้ำมันให้คู่แข่งเจาะอีกก็เป็นได้
สถิติส่วนตัว ดาวิดซอน ซานเชซ
93 สัมผัสบอล
14 ชนะการดวล
11 ชนะลูกกลางอากาศ
10 เคลียร์บอล
5 แย่งบอล
4 ผ่านบอลยาวสำเร็จ
1 แท็กเกิ้ล
วิกฤติแนวรุกเบิร์นลี่ย์
ก่อนหน้าแม้จะมีคู่กองหน้าอันดับ1ของทีมอย่าง แอชลี่ย์ บาร์นส์ และ คริส วู๊ด ทีมก็ยิงประตูคู่แข่งยากอยู่แล้ว ยิงในตอนนี้นี้ ขาดทั้งดาวยิงชาวนิวซีแลนด์และอังกฤษไป แนวรุกของเบิร์นลี่ย์ ก็เป็นเหมือนปืนฉีดน้ำเอาไว้ขู่แนวรับคู่ต่อสู้จริงๆ
หลายนัดมาแล้วที่ ฌอน ไดซ์ ใช้คู่กองหน้าเป็นคู่มือ3และ4ของทีมอย่าง เจย์ โรดริเกซ และ มาเต วิด้า
โดยสองดาวยิงชาวอังกฤษและเช็ก ซัดประตูรวมกันในลีกฤดูกาลนี้ไปได้เพียงแค่1 ประตู จากการลงเล่นตัวจริงรวมกัน18นัด ย้ำเพียงแค่1ประตู ไม่ได้พิมพ์ตกหล่นแต่อย่างใด
เกมนี้แม้จะได้ คริส วู้ด หายเจ็บกลับมาลงสนามในฐานะตัวสำรอง แต่ทว่าด้วยองค์ประกอบของทีม ก็ไม่สามารถเอื้ออำนวยให้เบิร์นลี่ย์ ทวงประตูคืนคู่แข่งได้แต่อย่างใด
จะโทษกองหน้าฝั่งเดียวก็คงจะดูอคติไปหน่อย เพราะบรรดาผู้เล่นที่คอยเปิดป้อนจากริมเส้นอย่าง ดไวท์ แม็คนีล และ จอช บราวน์ฮิลล์ ก็ไม่เปิดบอลเข้ามาตามนัด หรือหาโอกาสในการครอสบอลจากด้านข้างแม่นๆไม่ได้เลย
เบิร์นลี่ย์ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้เพียงแค่ 18ครั้งเท่านั้น จากการลงเล่นไป26นัด มีเพียงทีมบ๊วยอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่แย่กว่า (15ประตู)
ที่แย่กว่านั้น เบิร์นลี่ย์ เท้าบอดถึง 14 จาก26นัดในพรีเมียร์ลีก สถานการณ์ตอนนี้ลูกทีมของ ฌอน ไดซ์ จมอยู่อันดับ15ของตาราง ทิ้งห่างอันดับ18โซนสีแดงตกชั้นอย่างฟูแล่ม เพียงแค่5แต้มเท่านั้น
เกมรุกทื่อขาดมิติ หวังพึ่งพาอะไรไม่ได้ บวกกับวันที่เกมรับของเบิร์นลี่ย์ไม่มาตามนัด โอกาสในการเก็บแต้มของพวกเขาก็แทบจะเป็นศูนย์ทันที
- คอลัมน์นิสต์
- 555
- 01 ม.ค. 2564 14:27