ท็อปโฟร์นั้นขอด้วยได้ไหม ! ไก่ เปิดบ้าน ทุบค้อนสบาย 3-1 ซน เหมาเบิ้ล
แม้โอกาสสำหรับการจบอันดับ4จะมีอยู่ไม่มาก แต่ทว่าก็ยังคงที่จะสานต่อโอกาสและความหวังดังกล่าวไว้เสมอสำหรับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส หลังจากความพ่ายแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ พลพรรคคลับไก่ก็กลับมาโชว์ฟอร์มแกร่งอีกครั้งด้วยชัยชนะ2เกมติดต่อกัน เหนือไบร์ทตัน (กลางสัปดาห์) และล่าสุดกับศึกลอนดอนดาร์บี้ กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ไก่เดือยทอง เปิดสนาม ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส สเตเดี้ยม ทำศึกลอนดอนดาร์บี้ ต้อนรับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ของ เดวิด มอยส์ ที่ยังมีลุ้นเล็กๆ กับการทำอันดับท็อปโฟร์ไปเล่นในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เช่นกัน
โดยตลอด90นาที เป็นทางฝั่งของลูกทีม อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ค่อนข้างเหนือกว่าผู้มาเยือนบานเบอะ และก็ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากการสกัดเข้าประตูตัวเองของ เคิร์ท ซูม่า น.9 ก่อนที่จะมาได้เพิ่มฉีกหนีเป็น2-0 จาก ซน เฮือง-มิน น.24
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม เดอะ แฮมเมอร์ส ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ไล่ตีคืนมาได้ 2-1 จากจังหวะที่ เคร็ก ดอว์สัน โหม่งชงมาให้ ซาอิด เบนราห์ม่า กระทุ้งเข้าไป น.35 ส่วนเกมในครึ่งหลังก็ยังคงเป็นเจ้าบ้านที่สร้างโอกาสได้น้ำได้เนื้อมากกว่า และสุดท้ายมาได้ประตูตอกฝาโรง 3-1 จาก ซน เจ้าเก่าคนเดิม .88
การคว้า3แต้มดังกล่าว ส่งผลให้สเปอร์ส ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ5ของตาราง แซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แข่งเท่ากันอยู่1แต้ม และไล่บี้ทีมอันดับ4อาร์เซน่อล อยู่เพียง3แต้ม แม้ว่าจะแข่งมากกว่าทีมปืนใหญ่1นัดก็ตาม
ส่วนเกมเมื่อค่ำคืนผู้เล่นที่โดดเด่นเมื่อคืนคงหนีไม่พ้น " โอปป้า ซน " ที่เหมาทำคนเดียว2ประตู กับจังหวะจบสกอร์สุดเฉียบขาด แต่คนที่จะไม่ชมก็คงไม่ได้เลยนั่นก็คือ แฮร์รี่ เคน ที่ทำไป2แอสซิสต์ แถมจังวะขึ้นนำ 1-0 ก็เป็น ดาวยิงกัปตันทีมรายนี้เแหละที่ปาดเข้ามา
หัวหอกคนเก่งของ สเปอร์ส กลายเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องสุดๆไปแล้ว หลังจากที่ฟอร์มตกมาพักใหญ่จากข่าวลือช่วงต้นซีซั่น ที่เจ้าตัวส่อแววจะย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนที่จะมาคืนฟอร์มตังแต่ปีใหม่2022 เป็นต้นมา เคน เป็นทั้งกองหน้า และเพลย์เมคเกอร์หมายเลข10ให้กับทีม มีลงมาล้วงบอลเชื่อมเกม ลำเลียงบอลไปแทนหน้าตลอด
ส่วนขุนค้อน การปราชัยดังกล่าว ก็ทำให้พวกเขาแทบจะโอกาสน้อยมากๆแล้ว กับการทำอันดับ4ไปเล่น เวที ยูซีแอล เพราะผลงานแกว่งไปมาในระยะหลัง ชนะ - เสมอ - แพ้ สลับกันไปมา โดยหัวหอกจอมถึกของพวกเขา มิคาอิล อันโตนิโอ ที่ต้นซีซั่นฮ็อตกระฉูดแตก แต่ทว่าระยะหลัง ก็กลายร่างเป็นสากกะเบือจอมทื่อไปแล้ว
Best Combination ซน&เคน
ถ้านับเป็นสถิติตัวเลขนี่คือคู่หู คู่ขา ที่ดีที่สุดคู่หนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว สำหรับ แฮร์รี่ เคน และ ซน เฮือง มิน หลังจากที่ค่ำคืนที่ผ่ายมา เคน ประสานงานคอมโบ ทำ2แอสซิสต์ ให้ ตี๋ซน กดเหมาคนเดียว2ประตู
เคน มีส่วนร่วมกับทั้ง3ประตูที่สเปอร์สได้โดยตรงเมื่อคืน ดอกแรกก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่กระชากแหวกสาม ปาดบอลเข้าไปในเขตโทษ จน เคิร์ท ซูม่า ทำพลาดสกัดเข้าประตูตัวเอง ส่วนอีกสอง ก็เป็นจังหวะจ่าย และ โขก ทำแอสซิสต์ ให้ ซน เฮือง-มิน หลุดเข้าไปล่อเป้า
ศูนย์หน้าหมายเลข10รายนี้เปลี่ยนสไตล์การเล่นของตัวเองในช่วง 1-2ปีที่ผ่านมา ในบทบาทกองหน้า เคน ทำได้ไม่มีที่ติอยู่แล้ว นอกจากนี้เจ้าตัวยังเพิ่มบทบาทออปชั่นเป็นเพลย์เมคเกอร์ หมายเลข10ให้กับทีมได้อีกด้วย วิสัยทัศน์ การจ่ายบอลคิลเลอร์พาส แฮร์รี่ เคน ทำได้ไม่เป็นรองเหล่าเพลย์เมคเกอร์พันธุ์แท้เลย
ตลอดทั้งเกม เคน จ่าย บอลคีย์พาสไปได้ถึง4ครั้ง ส่วน คู่ขาอย่าง " ตี๋ซน " แม้จะไม่ค่อยมีจังหวะกระชากลากเลื้อยให้เห็น แต่ทว่าเมื่อถึงคราวที่ต้องเผด็จศึกหนุ่มจากแดนกิมจิรายนี้ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเสมอ
น่าเสียดายทีเจ้าตัวควรจะมี แฮตทริก ด้วยซ้ำ จากจังหวะที่ คูลูเซฟสกี้ ปาดมาให้ แต่ทว่าล้มตัวกวาดบอดแม่นไปหน่อย ชนเสาออกหลังไป อย่างไรก็ตามนี่คือฤดูกาลที่6ติดต่อกันแล้วที่ ซน เฮือง-มิน ซัดประตูในพรีเมียร์ลีก ได้หลัก10+
โดยที่คือหนที่ 39 ที่ แฮร์รี่ เคน และ ซน เฮือง-มิน ทำประตูได้จากการแอสซิสต์ให้ของคู่หู มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ทิ้งห่างคู่อันดับ2 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเซลซี ที่ทำไป36ประตู
โรเมโร่ แข็งแกร่งหินผา
หลังจากย้ายมาเมื่อช่วงซัมเมอร์ และต้องใช้เวลาปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษพอสมควรเลยทีเดียว สำหรับ ปราการหลังเจ้าของ ดีกรีกองหลังยอดเยี่ยมของ กัลโช่ เซเรีย อา อย่าง คริสเตียน โรเมโร่
ถ้าไม่เจ็บไม่ป่วย โรเมโร่ จะได้ออกสตาร์ทเป็น 3เซ็นเตอร์แบ็กตัวจริงของ สเปอร์ส ผนึกกำลังกับ เอริค ดายเออร์ และ เบน เดวิส และแน่นอนเกมเมื่อคืน แนวรับชาวอาร์เจนติน่ารายนี้ ต้องรับหน้าที่ตามประกบติด " พี่ถึก " มิคาอิล อันโตนิโอ
กองหลังวัย23ปีรายนี้ จัดการ อันโตนิโอ ได้อย่างอยู่หมัด จนดาวยิงเชื้อสายจาไมก้ารายนี้ ทำอะไรไม่ถนัดแทบไม่มีบทบาทในเกมรุกของเวสต์แฮม จนท้ายที่สุด ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ น.57
สิ่งหนึ่งที่ คริสเตียน โรเมโร่ โชว์ให้เห็นถึงความคู่ควรกับการเป็นกองหลังยอดเยี่ยมลีกอิตาลี นั่นก็คือ ความแข็งแกร่ง อดีตแข้งอตาลันต้ารายนี้ แทบจะไม่เสียเปรียบกับจังหวะเบียดกระแทก มีบางช็อตเล่นเอา เบห์ราม่า ลงไปนอนกับพื้นเลยทีเดียว
เข้าแท็กเกิ้ล 3ครั้ง - ตัดบอล 3ครั้ง - เคลียร์บอล จังหวะอันตราย3 หน นี่คือสถิติที่ยอดเยี่ยมของ กองกองหลังค่าตัว 55ล้านยูโร
แต่ทว่าก็ยังมีเรื่องที่น่าหวาดเสียวสำหรับ โรเมโร่ นั่นก็คือเป็นนักเตะประเภทที่เข้าบอลหวาดเสียตลอด รวมถึงอารมณ์ที่ร้อนและค้างไปตามสถานการณ์อาจทำให้เจ้าตัว โดนใบเหลือง หรือ ใบแดงได้ง่ายๆ
เบนตานกูร์ ลงตัว ฮอยจ์เบิร์ก
หลังจาก โอลิเวอร์ สคิปป์ บาดเจ็บไปก็เป็น โรดริโก้ เบนตานกูร์ นายนี้นี่แหละที่ได้จับคู่เป็นมิดฟิลด์คู่กลางร่วมกับ ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก โดยกองกลางชาวอุรุกวัยรายนี้ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ในเกมพรีเมียร์ลีกแล้ว6นัด เกมเมื่อคืนกับเวสต์แฮม ก็เช่นกัน
นานๆทีเราจะได้เห็น เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์เชิงรับลำดับต้นๆของลีก เล่นไม่ค่อยออก และปล่อยให้เกมในแดนกลางของทีมเป็นรองคู่แข่งอย่างชัดเจน รวมไปจนถึงในรายของ โธมัส ซูเช็ค ก็ไปไม่เป็นเช่นกันสำหรับเกมนี้
เบนตานกูร์ ทำได้ดีในเรื่องของ การควบคุมจังหวะเทมโป้ของเกม จังหวะไหนควรเร่ง จังหวะไหนควรผ่อน ครองบอลได้ดีเสียบอลยาก ผ่านบอลไปในพื้นที่สุดท้ายมากถึง10ครั้ง ชนะการดวล6ครั้ง แถมตลอดทั้งเกมยังมีเปอร์เซ็นต์การผ่านบอลแม่นยำถึง95%
ส่วน ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก ชื่อนี้ก็การันตีคุณภาพได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ทั้งบู๊ ทั้งลุยวิ่งได้ไม่มีวันหมด ทำงานหนักงานสกปรกเพื่อทีมได้อย่างไม่มีขัดเขิน
ตลอดทั้งเกมห้องเครื่องแดนโคนม ผ่านบอลไปมากถึง99ครั้ง กองกลางทีมเยือนอย่าง ซูเช็ค ที่ว่าโหดๆ ก็ถึงกับทำอะไรไม่ได้เลยในนัดนี้
ถ้าไม่มีอะไรผิดคาด คู่มิดฟิลด์ตัวจริงของ ไก่เดือยทองฤดูกาลหน้า จะเป็นการผนึกกำลังกันของ ฮอยจ์เบิร์ก และ เบนตานกูร์ นี่แหละ
อันโตนิโอ วิญญาณ สากกะเบือเข้าสิง
ช่วงต้นฤดูกาลต้องบอกได้เลยว่า นี่คือดาวยิงที่ฮ็อตและร้อนแรงเป็นไฟพะเนียงสุดๆในพรีเมียร์ลีก สำหรับ มิคาอิล อันโตนิโอ โดย5เกมแรกของซีซั่น หอกวัย31ปีรายนี้ กระทุ้งไปได้ถึง5ประตู พร้อมทำไปอีก 3แอสซิสต์
มิหนำซ้ำก็ยังสถาปนาตัวเองเป็นดาวยิงสูงสุดในพรีเมียร์ลีกให้กับ เวสต์แฮม แทนที่เจ้าของเดิมอย่าง เปาโล ดิ คานิโอ อีกด้วย แต่ทว่าหลังจากนั้นอะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนไป อันโตนิโอ ไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม บทบาทของเจ้าตัวก็เปลี่ยนไปมากกว่า
ดาวยิงสายล่ำรายนี้เหมือนจะกลายเป็นตัวหลอก ตัวชน ตัวสรีน ปะทะในแนวรุก ให้เหล่าบรรดาผู้เล่นริมเส้นสุดจี๊ดอย่าง จาร็อด โบเว่น และ ปาโบล ฟอร์นาลส์ เข้าไปสำเร็จโทษ
เกมกับสเปอร์ส เมื่อคืนก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน แต่ทว่า อันโตนิโอ มีโอกาสงามๆ ถึงสองครั้ง ทั้งจังหวะเบียด เดยัน คูลูเชฟสกี้ เข้าไปซัดทางฝั่งขวาในเขตโทษแต่ทว่ายิงถากเสาออกไป
รวมไปจนถึงจังหวะหยอดมาให้ของ อารอน แครสส์เวลล์ ระยะไม่ถึง10หลา แต่ทว่าเจ้าตัวคุมทิศทางบอลไม่ดี แปบอลโด่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ส่วนภาพรวมทั้งเกมถือว่า อันโตนิโอ โดน โรเมโร่ ล็อกตายใส่กุญแจมือไม่น้อย แถมยังมีจังหวะเล่นนอกเกมน่าเกลียดใส่ โรเมโร่ จนควรโดนใบเหลืองอีกด้วย โดยดาวยิงเบอร์9รายนี้ ถูก เดวิด มอยส์ ถอดออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ น.56 ให้ อังเดรย์ ยาร์โมเลนโก้ ลงมาเล่นแทน
ซึ่งหากนับผลงานในพรีเมียร์ลีกของ มิคาอิล อันโตนิโอ นี่คือเกมที่9ติดต่อกันแล้ว ที่เจ้าตัวเท้าบอด หรือเอาให้เห็นภาพชัดๆ ก็คือ 23เกมหลังสุดในลีก ดาวยิงหุ่นล่ำรายนี้กดไปได้แค่3ประตูเท่านั้น
วิบากกรรมเตะแมว ของ ซูม่า
หลังจากที่มีคลิป เตะทำร้ายแมวถูกปล่อยออกมา ชีวิตของ เคิร์ท ซูม่า ก็ไม่มีวันเหมือนเดิมเลย ทั้งเรื่องนอกสนาม และ ผลงานในสนาม รวมไปจนถึงมีคนรักแมวบางส่วน เรียกร้องให้ " เทพเคิร์ท " ถึงขนาดต้องชดใช้ด้วยการติดคุกติดตารางเลยทีเดียว
โดยมีบางนัดที่ ซูม่า หายตัวออกไปจากทีมดื้อๆก็มี ในเกมกับ เลสเตอร์ ก่อนที่สุดท้ายหลังจากนั้น เดวิด มอยส์ ก็ใส่ชื่อกองหลังวัย27ปีรายนี้ลงสนามแทบทุกนัด เกมกับสเปอร์สก็เช่นกัน
โดยทุกๆครั้งที่ ซูม่า ได้สัมผัสบอล ก็มีเสียงโห่สรรเสริญจากแฟนบอลไก่เดือยทุกจังหวะอย่างพร้อมเพียง ไม่รู้ว่านั่นมันส่งผลต่อฟอร์มในสนามของกองหลังอารมณ์ดีรายนี้ไหม เพราะตลอด90นาที เจ้าตัวเป็นบ่อน้ำมันอย่างชัดเจน
ประตูขึ้นนำ1-0 ที่ เคน ปาดเข้ามากดดันก็เป็น เคิร์ท ซูม่า นี่แหละที่สกัดเข้าประตูตัวเอง ส่วนประตู2-0 อดีตกองหลังเซลซีรายนี้ก็ประกบห่าง ซน เฮือง-มิน จนดาวเตะแดนเกาหลีรายนี้ ได้ลากจี้เข้าไปยิงอย่างอย่างถนัดถนี่
ส่วนประตูปิดปล่อง 3-0 ต้องรับไปเต็มๆทั้งสองคน ทั้ง เคร็ก ดอว์สัน และ เคิร์ท ซูม่า ที่ไม่ดูจังหวะขึ้นโขกพร้อมๆกัน แล้วเสียเปรียบ แฮร์รี่ เคน จน "ตี๋ซน " เจ้าเก่า ได้บอลไร้ตัวประกบ หลุดเข้าไปยิงล่อเป้าผ่าน ลูคัส ฟาเบียนสกี้
นี่ยังไม่นับรวมจังหวะการเล่นอื่นๆในเกมที่ ซูม่า ดูจะขาดๆเกินๆไป จนทำให้ทีมต้องเจอกับสถานการณ์ที่ลำบาก ส่วน เวสต์แฮม ด้วยคุณภาพเชิงลึกนักเตะของทีม น่าจะทำให้พวกเขายากที่จะรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองให้ตลอดรอดฝั่ง
ความหวังในการไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก ดูจะเลือนรางไปมากๆแล้ว แถม9นัดหลังในพรีเมียร์ลีก ลูกทีมของ เดวิด มอยส์ ยังมีเข้าผีออก ชนะ3 -เสมอ 2 และแพ้ไปถึง4 ยูโรป้าคอนเฟอเรนซ์ลีก อาจจะเป็นรายการถ้วยที่พอเป็นไปได้สำหรับพวกเขาก็เป็นได้
- คอลัมน์นิสต์
- 327
- 21 ม.ค. 2565 15:44