เหมือนดั่งนิยาย ! โรนัลโด้ เดบิวต์ ซัดเบิ้ล ผีถล่มสาลิกาดง 4-1
เรียกได้ว่าเป็นการประเดิมเดบิวต์ (รอบ2) ที่สวยงามจริงๆสำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่เซ็นสัญญาและซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่กี่วัน แต่ทว่าไม่ใครเคลือบแคลงและสงสัยในการออกสตาร์ทตัวจริงของสตาร์ชาวโปรตุเกสเลย
โรนัลโด้ ได้ออกสตาร์ทกับปีศาจแดงเป็นครั้งแรกในรอบ12ทีม หลังย้ายออกจากโรงละครแห่งความฝันเมื่อปี 2009 คู่แข่งที่เขาเผชิญหน้าด้วยทีมแรกกับการรีเทิร์นกลับมาเล่นยังลีกเมืองผู้ดี คือ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทีมที่CR7ถูกโฉลกในการล่าตาข่ายมากๆ
โดยผลสุดท้ายที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คู่ระหว่างเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ นิวคาสเซิ่ล ก็จบลงด้วยชัยชนะของลูกทีมโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ถล่มผู้มาเยือนไป 4-1 พระเอกของเกมคงหนีไม่พ้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เหมาทำคนเดียว2ประตูในเกมดังกล่าว
บรูโน่ แฟร์นันเดซ ก็ไม่น้อยหน้ายิงไกลสุดสวยเบิกสกอร์ที่ 4ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของตนได้ ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ มิคาอิล อันโตนิโอ ของเวสต์แฮม ส่วนประตูปิดท้ายของปีศาจแดง ก็เป็นของอีกหนึ่งแข้งที่แฟนๆคิดถึง(มั้ง)เช่นกัน นั่นก็คือ ลูกตอกฝาโรงของ เจสซี่ ลินการ์ด
แม้สกอร์จะดูขาดลอย 1-4 แต่ทว่ารูปเกมนั้นบอกได้เลยว่าลูกทีมของ สตีฟ บรูซ เล่นได้ตามแท็กติกมากๆนั่นก็คือรับแบบรถบัส รอโต้สวนกลับอย่างเดียว ซึ่งทีมดังภาคอีสานก็ทำได้ดีเลยทีเดียว แม้จะโดนกดอยู่ฝ่ายเดียว แต่เวลาเล่นเกมสวนกลับทีมสาลิกาดงก็น่ากลัวใช่ย่อย
โดยเฉพาะนักเตะสายจี๊ดประเภทลากเลื้อยอย่าง มิเกล อัลมิร่อน และ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ที่แม้จะได้บอลน้อยครั้ง แต่ทว่าเมื่อใดที่บอลติดอยู่กับเท้า 2แข้งชาวปารากวัยและแข้งชาวฝรั่งเศส ต้องบอกเลยว่าน่ากลัวสุดๆ เพราะนี่คือนักเตะประเภทความเร็วสูงไปกลับบอลได้ดี คล่องตัว หาทางจับยาก
โอเค แม้ว่าจะคว้า3แต้มเข้ากระเป๋าพร้อมด้วย การประเดิมสุดสวยที่เรียกกำลังใจอย่างมากโข ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ทว่าทีมของน้าโอเล่ ก็มีจุดที่ต้องปรับเช่นกันนั่นก็คือ เกมรับที่ดูจะเสียสมาธิง่าย พร้อมที่จะหลุดเสียประตูอยู่บ่อยๆ
รวมไปจนถึงคู่มิดฟิลด์ตัวกลางในนัดนี้อย่าง ปอล ป็อกบา และ เนมานย่า มาติช ที่เป็นแข้งประเภทอืดช้าเป็นเรือเกลือทั้งคู่ กองกลางชาวเซอร์เบียวัย33ปีรายนี้้ ยืนตำแหน่งในการเล่นเกมรับผิดพลาดหลายครั้ง โดยเฉพาะลูกโดนตีเสมอ1-1ของ ฮาเวียร์ มันกีโย่ ก็เกิดจากความผิดพลาดในแดนกลาง รวมถึงการหลุดตำแหน่งของ ลุค ชอว์ อีกด้วย
เดบิวต์ในฝัน CR7 ไม่ต้องใช้เวลานับหนึ่งนาน
ไม่ได้กลับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงเพื่อพักร้อนจริงๆสำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้จะอายุปาเข้าไป36ปีแล้ว นี่คือวัยของนักฟุตบอลทั่วๆไปที่ใกล้จะรีไทร์เต็มที แต่สำหรับ โรนัลโด้ นั้นไม่ใช่เลย แม้จะเคยกวาดโทรฟี่แชมป์มาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน แต่ความกระหายในความสำเร็จของเจ้าตัวไม่ได้จางหายไปเลย
โรนัลโด้ ได้กลับรีเทิร์นรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในฐานะนักเตะของทีมปีศาจแดงครั้งแรก นับตั้งแต่ปี2009 และเป็นเกมแรกในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปีเดียวกันในแมตช์กับอาร์เซน่อล (0-0)
แฟนบอลปีศาจแดงที่โรงละครแห่งความฝันดีใจมากๆ เมื่อปรากฎชื่อของ CR7 ลงสนามเป็นตัวจริงในแมตช์ดังกล่าว ขนาดแค่ช่วงวอร์มลงมาซ้อมเล็กๆน้อยๆ ยังเรียกเสียงกรี๊ดปรบมือกันระนาวเลยทีเดียว
แม้ว่าช่วงออกสตาร์ทเกม โรนัลโด้ จะมีจังหวะยิงแป๊กให้เห็น รวมไปจนถึงพยายามยิงมุมแคบส่งบอลเข้าข้างตาข่าย แต่ทว่าเมื่อมีโอกาสเหมาะเหม่งเพียงแค่หนแรกสตาร์ชาวโปรตุเกสรายนี้ ก็ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปเลย
จังหวะตามซ้ำจ่อๆลูกยิง ของ เมสัน กรีนวู๊ด แม้จะดูเหมือนง่าย แต่ถ้าดูจากภาพช้าจะเห็นว่า พี่โด้ วิ่งออกตัวไปหาบอล ตั้งแต่จังหวะที่เจ้าหนูไม้เขียว สับไกลบอลออกจากเท้า
ราวกับรู้ว่าโกลนิวคาสเซิ่ลอย่าง เฟร็ดดี้ วู้ดแมน จะรับกระฉอกออกมา นี่คือการบ่งบอกถึงสัญชาตญาณ ในการล่าตาข่ายของโรนัลโด้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนเม็ดที่2ก็มาในช่วงเวลาที่ทีมพึ่งโดนตีเสมอ1-1 เป็นเวลาที่อาจทำให้โมเม้นต์เหวี่ยงไปทางผู้มาเยือน แต่ทว่า โรนัลโด้ ก็ไม่ปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น ประตูขึ้นนำ2-1 CR7 วิ่งทำช่องได้ดีมาก แม้ลูกจ่ายของ ลุค ชอว์ จะย้อนหลังไปนิดหน่อยแต่ทว่าสตาร์ชาวโปรตุเกส ยังเกี่ยวบอลมาเล่นได้ พร้อมควบตะบึง เข้าไปซัดผ่านลอดขา วู้ดแมน อย่างสวยงาม
แม้ระยะทางจะอีกยาวไกลให้ โรนัลโด้ พิสูจน์กับปีศาจแดง แต่การมาของเจ้าตัวทำให้เพื่อนร่วมทีมรายอื่นๆดูกระชุ่มกระชวยขึ้นมา และด่าทีใจของเจ้าตัว แฟนบอลที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ขานรับด้วยเป็นอย่างดี (Siuuuu) Viva Ronaldo
รูปเกมขาดลอย 4-1 แต่ในสนามนั้นแตกต่างออกไป
ถ้าใครไม่ได้ชมเกมถ่ายทอดสดเมื่อคืนเห็นสกอร์ทีมปีศาจแดงถล่มเอาชนะไปได้ 4-1 พร้อมเห็นรายชื่อหน่วยสังหารทำประตูมี โรนัลโด้ กดเบิ้ล -บรูโน่ แฟร์นันเดซ รวมไปจนถึงเจสซี่ ลินการ์ด คงคิดว่าเป็นชัยชนะที่สบายบรือของลูกทีมน้าโอเล่
แต่ทว่ารูปเกมกลับไม่ใช่สิ่งที่ขาดลอยขนาดนั้นเลย นิวคาสเซิ่ล มาในแผนรถบัส2ชั้นเต็มตัว ระบบหลัง5 การไม่เปิดพื้นที่ให้ปีศาจแดงโจมตี เล่นเอาเจ้าบ้านหาช่องจังหวะสับไกลแบบถนัดถนี่ไม่ได้เลย ซึ่งจังหวะใกล้เคียงที่สุดึรั้งแรกก็มาจาก ลูกตามซ้ำเป็นประตูของ โรนัลโด้ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกนั่นเลย
ทีมสาลิกาดงแม้จะเล่นเกมรับเป็นหลัก แต่ทว่าเวลาสวนกลับมาโดยนักเตะประเภทที่มีความเร็วสูงอย่าง อัลมิร่อน และ แซงต์-มักซิแม็ง สเต็ปการกระชากลากเลื้อยของดาวเตะสาลิกาดงอันตรายและชวนปวดหัวมากๆ
แซงต์ -แม็กซิแม็ง แข้งทรงผมขัดใจแม่จัดไป1แอสซิสต์ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ เวลาได้จังหวะบอลสวนกลับสวยๆ นิวคาสเซิ่ลมักจะเล่นในจังหวะที่ขัดหูขัดตาไปหล่อย จังหวะควรจ่ายก็ยิง จังหวะยิงกลับจ่ายซะงั้น
ตอนที่โดนนำ2-1 " เดอะ แม็กพายส์ " มีโอกาสเช่นกันที่จะตีเสมอเช่นกัน แต่ทำไม่ได้ ก่อนที่จะมาทำนบแตก โดนลูก 3-1 และ 4-1 และแพ้แบบขาดลอยในที่สุด
ทั้งที่ตามความเป็นจริง ลูกทีมของ สตีฟ บรูซ ก็สู้ได้อย่างดีตามแทกติกที่วางไว้แต่แรก แต่ความเฉียบคมและการตัดสินใจจังหวะสุดท้าย ที่พวกเขายังต้องปรับปรุงเป็นอย่างมาก
หลังผียังเสียประตูง่าย
ถ้าจะให้แยกแผงแบ็กโฟร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเป็นรายบุคคล เชื่อว่าพวกเขาดูจะไม่เป็นสองรองใครเลยในพรีเมียร์ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ลุค ชอว์ คือแนวรับตัวจริงทีมชาติอังกฤษ ราฟาเอล วาราน นี่ก็ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้มาก อารอน วาน -บิสซาก้า นี่ก็คือแบ็กขวาที่มีสถิติเข้าเสียบสกัดเบอร์ต้นๆของลีก
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อมายืนรวมกัน มักจะมีช่องว่างๆเล็กๆน้อยๆให้คู่แข่งเลือกโจมตีได้ตามใจชอบเสมอ อาจจะด้วยที่คู่มิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถชะลอเกมบุกของคู่แข่งได้ ทำให้บอลทะลุเข้ามาถึงคู่เซ็นเตอร์ได้ไว
ลูกที่โดนตีเสมอ1-1 ก็มาจากการเติมสูงของฟูลแบ็กทั้ง2ข้าง(แล้วลงไม่ทัน) โดยเฉพาะทางฝั่งของ ลุค ชอว์ ส่วน ราฟาเอล วาราน ก็ทำดีที่สุดแล้วในลูกที่เสียไป
แม็คไกวร์ ลูกกลางอากาศยังเป็นสิ่งที่ไว้ใจได้ของเซ็นเตอร์ฮาร์ฟหัวแตงโมรายนี้ แต่ทว่าความช้าอืดอาจของเจ้าตัว ทำให้เสียท่าโดนคู่แข่งประเภทความเร็วสูงเล่นง่านหลายครั้ง ประตูที่เสียก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่ชิงจังหวะบอลพลาด
4นัดที่ผ่านมา ปีศาจแดง เสียประตูไป3นัด เก็บคลีนชีตได้นัดเดียว ยิ่งเมื่อไปเทียบกับทีมคู่แข่งลุ้นแชมป์ทีมอื่นๆ อย่าง ลิเวอร์พูล - เซลซี - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเหล่านี้พึ่งเสียกันไปเพียงแค่ 1ประตูเท่านั้น แถมเกมรับยังดูเหนียวแน่นและไว้ใจได้กว่ายูไนเต็ดเสียอีก โอกาสน้อยมากที่ทีมคู่แข่งจะสร้างโอกาสยิงประตูเหน่งๆใส่พวกเขา
อัลมิร่อน เข้าขา แซงต์-มักซิแม็ง
แม้ว่าจะพยายามเล่นเกมรับมากแค่ไหน (3-5-2) แต่ด้วยสไตล์แล้ว นิวคาสเซิ่ล ดูจะไม่เป็นตัวเองเลยเวลาเล่นเกมอุดแบบรถบัส แต่ทว่าก็เข้าใจได้ เพราะต้องเจอกับหนึ่งในทีมที่เกมรุกดุดันที่สุดในลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
4นัดในพรีเมียร์ลีก สาลิกาดงโดนคู่แข่งกระซวกตาข่ายไปแล้ว 12ดอก หรือเฉลี่ยแล้ว1นัดพวกเขาจะโดนคู่แข่งเจาะไปถึง3ลูกเลยทีเดียว ส่วนในเกมรุกของพวกทีมจากแดนอีสานรายนี้ กดไป5ลูกจาก4นัด ซึ่งถือว่าไม่แย่เลย
อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง แข้งทรงผมขัดใจแฟนบอล ยังเป็นความหวังสูงสุดของ นิวคาสเซิ่ลเสมอ จังหวะการกระชากลากเลื้อย อันตรายดีนักแล แถมยังมีลูกล็อกส่งแบบตอกส้น ที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวไปแล้ว ความแข็งแกร่งความเตี้ยตัน ทำให้เจ้าตัวมีจุดศูนย์ถ่วงที่ดีล้มยาก
แม็คไกวร์ ดูจะมีปัญหาพอสมควรสำหรับการรับมือกับแข้งหมายเลข10ของนิวคาสเซิ่ลรายนี้ โดยเกมกับปีศาจแดง เจ้าตัวก็แอสซิสต์ให้ มันกีโย่ สำเร็จโทษเข้าไป ทำให้ในฤดูกาลนี้4นัด มักซิแม็ง ทำไปได้ 1ประตู 2แอสซิสต์
อีกหนึ่งแนวรุกที่ดูน่ากลัวที่สุดคนหนึ่งของ สาลิกาดง เมื่อคืนนั่นก็คือ มิเคล อัลมิรอน แม้ว่าจะยังไม่มีประตูหรือแอสซิสต์มาฝาก แต่นี่เป็นแข้งหนึ่งรายที่เป็นความหวังในเกมบุกของนิวคาสเซิ่ล
ดาวเตะชาวปารากวัย รายนี้มีสเต็ปการกระชากเลื้อยแบบลาตินอเมริกาขนานแท้ มีจังหวะกระชากหนีตัวประกบ แมนฯยู ให้เห็น เรียกได้ว่าเกมรุกของนิวคาสเซิ่ล เมื่อคืนเล่นกันอยู่เพียง2คนเลยก็ว่าได้
แม้ว่าเกมรับของพวกเขาจะสุดห่วย แต่เกมรุก น่าจะเป็นอาวุธ ที่พอทำให้พวกเขา ไม่ต้องดิ้นรนหนักในการตกชั้นซีซั่นนี้ โดยเฉพาะหากได้ คัลลม วิลสัน หายเจ็บกลับมา
อย่าลืมผม เจสซี่ ลินการ์ด
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กดไป2ประตู - บรูโน่ แฟร์นันเดซ ซัดไกลสุดสวย - ปอล ป็อกบา แอสซิสต์2 นี่คือไฮไลต์ผลงานที่ยอดเยี่ยม ของทัพปีศาจแดงเมื่อคืน แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่แฟนผีไม่ลืมเหมือนกันนั่นก็คือ การซัดประตูปิดกล่อง ของ เจสซี่ ลินการ์ด
" บีนส์ บีนส์ บีนส์ " ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันเจ้าตัวมีข่าวว่าไม่อยากต่อสัญญากับทีม ที่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ซัมเมอร์ 2020นี้ (จบฤดูกาล) เนื่องจากตัวของ ลินการ์ด มองว่าการอยู่ในทีมต่อ โอกาสในการลงสนามก็ยังจะน้อยลงเช่นเคย
เกมนี้ เจสซี่ ลินการ์ด ได้ออกสตาร์ทเป็นผู้เล่นตัวสำรอง ลงมาเล่นแทน เจดอน ซานโช่ น.66 ซึ่งเป็นเวลาที่มากโขเลยทีเดียวที่จะทำให้แข้งหมายเลข14รายนี้ ได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีเท้าของตัวเอง
นับตั้งแต่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเห็นได้ชัดว่า เทพลินการ์ด มีบทบาทกับเกมรุกมากกว่า เจดอน ซานโช่ ชัดเจน ทั้งในเรื่องของการประสานงาน ความเข้าอกเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีม ลินการ์ด จ่ายบอลแล้วพยายาม วิ่งหาช่อง หรือวิ่งฉีกหนีตัวประกบให้เพื่อนบ่อยครั้ง
จนสุดท้ายความพยายามของ ลินการ์ด ก็เป็นผล เมื่อเจ้าตัวมายิงตอกฝาโรงสุดสวย จากลูกจ่ายของ ป็อกบา ที่ มาร์ซิยาล ปล่อยผ่านมาให้เจ้าตัว จับด้วยขวา ล็อกด้วยขวา ยิงด้วยขวาเสียบเสาเข้าไปอย่างหมดจด
นี่นับเป็นประตูแรกของ เจสซี่ ลินการ์ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เกมที่บุกไปชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2020 เลยทีเดียว เห็นทีซีซั่นนี้ น้าโอเล่ อาจจะต้องลองให้โอกาส เทพลินการ์ด มากกว่าเดิมเสียแล้ว
- คอลัมน์นิสต์
- 487
- 12 ก.ย. 2564 14:18