Save แลมพาร์ด ! เม้าท์ วอลเลย์ พาสิงห์เชือดฟูแล่ม10ตัว 1-0
เกือบไปแล้วสำหรับเซลซีของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เมื่อกว่าจะเอาชนะฟูแล่มที่เหลือ10คนตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกได้ ต้องมาลุ้นถึงช่วง15นาทีสุดท้าย
โดย เมสัน เม้าท์ สวมบทพระเอกขี่ม้าขาว วอลเล่ย์ ตูมเดียว น.78 พาทีมสิงห์บูลคว้าชัยชนะได้หนแรกในรอบ3นัด ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ7ของตารางคะแนน
อย่างไรก็ตามว่ากันว่าจุดเปลี่ยนของเกมที่ทำให้ทีมของ สก็อต ปาร์คเกอร์ ต้องปราชัยในเกมดังกล่าว นั่นก็คือการเสียค่าโง่ใบแดงของแข้งวัยละอ่อน
แอนโทนี่ โรบินสัน ที่เจตนาเปิดปุ่มเล่นหนักใส่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จนโดน ปีเตอร์ แบ็งค์ส ควักใบแดงไล่ออกจากสนามแบบไม่ลังเล
การคว้า3แต้มสำคัญเพื่อเซฟเก้าอี้ของซุปเปอร์แฟร้งค์ แม้ว่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ แต่ทว่าเมื่อมองดูรายละเอียดในเกม จะพบว่าเซลซี ทำตัวน่าผิดหวังไม่น้อย
เมื่อรูปเกมก่อนที่ทางทีมเจ้าสัวน้อยจะโดนใบแดง เป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่บุกกดดันใส่ผู้มาเยือน สร้างความหนักอกหนักใจให้คู่เซ็นเตอร์อย่าง ติอาโก้ ซิลวา และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ในช่วง 15นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก
หากไม่ทิ้งโอกาสยิงนกตกปลาไปเอง ทีมเจ้าสัวน้อยควรที่จะขึ้นนำไปก่อนด้วยซ้ำจากจังหวะยิงจ่อๆในเขตโทษของ อีวาน คาวาเลยโร่ แต่ทว่าทำหมูหกพลาดไปแบบไม่ได้ลุ้นเลย
ส่วนผู้มาเยือนเซลซี แลมพาร์ด คงมีการบ้านกองโตให้ต้องตามแก้หลายอย่าง ทั้ง จังหวะการเซ็ตเกมเข้าทำที่ตื้อมากๆ เวลาที่เจอกับทีมที่เล่นเกมรับแบบเต็มตัว
ฟอร์มที่ตกลงไปของ คริสเตียน พูลิซิซ รวมถึงความมั่นใจที่ถูกลักพาตัวหายออกไปจากสนามอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหวนกลับมาของ ติโม แวร์เนอร์
ฟูแล่มหลังเหนียวขึ้น
หากใครยังจำตอนต้นฤดูกาลได้ เราทุกคนจะเห็นว่าการจัดการระเบียบเกมรับของฟูแล่มมีความสับสนอลหม่านมากๆ มั่วซั่ว โดยเฉพาะในเกมเปิดสนามที่พ่ายให้กับอาร์เซน่อลสบายๆ0-3
3นัดแรกในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีทีมเจ้าสัวน้อยโดนคู่แข่งยิงรัวไส้แตกไป10เม็ด แต่ทว่า5นัดหลังสุด (ไม่ร่วมนัดกับเซลซี) ฟูแล่มมีวิวัฒนาการที่ดีขึ้น เมื่อเสียไปเพียงแค่3ลูกเท่านั้น
การประสานงานกันของ3กองหลังอย่าง โอล่า ไอน่า - โจอาคิม แอนเดอร์เซ่น – โตชิน อดาราบิโอโย่ ที่ผนึกกำลังกันได้อย่างดีจนช่วยให้ฟูแล่มมีเกมรับที่เหนียวขึ้นผิดหูผิดตา
โดยเฉพาะ แอนเดอร์เซ่น 190 ซม. และ อดาราบิโอโย่ 196 ซม. ที่เปรียบเสมือนยักษ์ปักหลักในแผงรับให้กับทีมคอยสกัดกั้น เกมบุกทั้งลูกบนพื้นและลูกครอสกลางอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
หากว่าเกมเมื่อคืน แอนโทนี่ โรบินสัน ไม่เสียใบแดงแบบน่าเขกกะโหลก พวกเขาอาจมีแต้มติดไม้ติดมือมาก็เป็นได้ โอเค แม้พลังทำลายล้างพลานุภาพในเกมรุกของฟูแล่ม จะยังไม่เอาไหน
แต่เกมรับที่แน่นหนาอัพเกรดขึ้น ก็พอจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้พวกเขามีลุ้นรอดจากการหล่นกลับไปเล่น ลีก เดอะแชมเปี้ยนชิพ ได้
เซลซีแนวรุกสุดทื่อ
4นัดหลังสุดเซลซี ผลิตสกอร์ในพรีเมียร์ลีกได้เพียงนัดละ1ตุงเท่านั้น เกมกับฟูแล่มถ้าจะพูดกันให้ตามตรงก็คือยังไม่เห็นมุมที่ลูกทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายของฟูแล่มได้เลย หากทีมเจ้าบ้านไม่เหลือผู้เล่น10คน
เราจะสังเกตเห็นได้ว่าก่อนที่ฟูแล่มจะเหลือ10คน ทีมสิงห์บูล จะสร้างโอกาสโจมตีได้ก็ต่อเมื่อเป็นจังหวะที่เพรสซิ่งแย่งบอลกลับคืนมาได้แล้วโจมตีเร็วเสียเป็นส่วนใหญ่
แต่การเข้าทำของเซลซีในยามที่ฟูแล่มตั้งใจเล่นเกมรับจริงๆพวกเขาทำอะไรแทบไม่ได้เลย
โดยเฉพาะผู้เล่นในแนวรุกอย่าง คริสเตียน พูลิซิซ ที่ฟอร์มตกไปอย่างน่าใจหายจากฤดูกาลที่แล้ว ยอดแข้งชาวอเมริกา เลี้ยงบอลแทบไม่ผ่านนักเตะทีมเจ้าบ้านเลย
แถมยังสร้างสรรค์เกมจังหวะอันตรายให้ทีมไม่ได้ นับตั้งแต่เดี้ยงหายเจ็บกลับมาดาวเตะหมายเลข10 ดูเหมือนจะยังฟิตไม่เต็มถังรวมถึงเรียกจังหวะฟอร์มการเล่นเก่าๆไม่ได้เสียที
ส่วน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ได้โอกาสลงสนามเป็น11ตัวจริงก่อนหน้า ติโม แวร์เนอร์ และ แทมมี่ อับราแฮม ก็เหมือนจะขาดแรงสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีม
แม้โดยภาพรวมหอกชาวฝรั่งเศสจะมีส่วนร่วมต่อเกมรุกของทีม ดึงบอล พักบอล วิ่งฉีกตัวผู้เล่นให้เพื่อนร่วมทีมได้เล่นง่ายขึ้น แต่ทว่าเวลาที่ต้องจบสกอร์ ชิรูด์ ยังทำได้ไม่เด็ดขาดพอ
เมสัน เม้าท์ เซฟเก้าอี้แลมพาร์ด
แม้ช่วงที่ผ่านมาจะโดนแซะว่า เป็นลูกรักของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพราะได้ลงสนามเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกไปแล้วถึง16นัด มากที่สุดในบรรดามิดฟิลด์ของทีมในเวลานี้
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามเราๆก็ต้องยอมรับกันว่า เมสัน เม้าท์ คือผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางของเซลซีที่โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอที่สุดในเวลานี้
ลูกวอลเล่ย์เปรี้ยงเดียวจอดของเจ้าตัวช่วยให้ทีมหายใจโล่งคอคว้า3คะแนนสำคัญได้สำเร็จ
ก่อนหน้ามิดฟิลด์วัย22ปี เกือบซัดประตูในครึ่งแรกได้ด้วยซ้ำเมื่อซัดบอลไปชนคานเข้าอย่างจัง สถิติสำคัญๆหลังเกมระบุชัดเจนว่าเจ้าตัวสมควรที่จะได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะแมตช์ ในนัดนี้
โอกาสยิง : 4
สร้างสรรค์โอกาสการทำประตู : 7
แท็กเกิ้ล : 3
เลี้ยงบอลผ่าน : 3
ตัดบอล : 2
ผ่านบอลสำเร็จ 91%
ความมั่นใจที่หดหายของ ติโม แวร์เนอร์
ชักจะไปกันใหญ่เสียแล้วสำหรับฟอร์มการเล่นของ ติโม แวร์เนอร์ แม้ว่าเจ้าตัวจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้บ้าง
เมื่ออุตส่าห์ซัดตาข่ายทีมในลีกทูอย่าง มอร์แคมป์ มาได้ในเกมเอฟเอคัพ แต่ทว่านั่นก็เป็นแมตช์กับทีมรองบ่อนเท่านั้น
เกมนี้หอกชาวเยอรมันถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรอง ลงมาแทนที่ ชิรูด์ น.75 แต่ทว่าก็เหมือนจะยังกู่ฟอร์มการล่าตาข่ายไม่กลับเสียที
อดีตดาวยิงไลป์ซิก จับบอลลั่นจับบอลกระฉอกในหลายๆจังหวะ จนทำให้พลาดการเล่นจังหวะสวยๆที่เพื่อนร่วมทีมทำทางมาให้
โดยเฉพาะลูกหลุดเดี่ยวทดเวลาบาดเจ็บที่ คริสเตียน พูลิซิซ จ่ายถวายพานมาให้ จังหวะนั้นแวร์เนอร์ควรที่จะส่งบอลไปกองที่ก้นตาข่ายได้แล้ว แต่ทว่าเจ้าตัวกลับยิงหลุดออกนอกกรอบไปดื้อๆ
ภาษากายของกองหน้าวัย24ปี บ่งบอกเป็นอย่างยิ่งว่า แทบไม่มีความมั่นใจเหลืออยู่เลย นั่นเท่ากับว่าแวร์เนอร์ ซัดประตูให้เซลซีในพรีเมียร์ลีกไม่ได้มา 10นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว
ดูเหมือนว่าที่หลายๆคนวิเคราะห์กันว่า ที่เจ้าตัวยิงประตูไม่ได้ในระยะหลังๆเป็นเพราะการถูกปรับบทบาทการเล่นให้ไปยืนด้านข้าง น่าจะไม่ใช่เสียแล้ว
ความมั่นใจคือสิ่งที่แวร์เนอร์ ต้องได้รับการปลดล็อคและฟื้นฟูโดยเร็วโดยที่สุด
อเรโอล่า Hero to Zero
ถ้าเกมเมื่อคืนที่รังกระท่อมน้อย ลูกทีมของ สก็อต ปาร์คเกอร์ มีแต้มติดไม้ติดมือมา หนึ่งในฮีโร่ของทีมนอกจาก3เซ็นเตอร์ฮาร์ฟที่เล่นกันได้อย่างแข็งแกร่งแล้ว นายด่านคนสำคัญของทีมอย่าง อัลฟ้งส์ อเรโอล่า ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน
เจ้าตัวช่วยเซฟ ลูกโหม่งสุดอันตรายของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ได้อย่างหวุดหวิด รวมถึงอ่านทางลูกยิงไกลเรียดของ ฮาคิม ซิเย็ค ได้เป็นอย่างดี
แต่ต้องยอมรับกันตามตรงว่า ช็อตเสียประตู นายด่านชาวฝรั่งเศส มีส่วนร่วมต้องรับผิดชอบมากๆ เมื่อปัดลูกเปิดที่เหมือนจะไม่มีอะไรของ เบน ชิเวลล์ มาเข้าทาง เมสัน เม้าท์ หวดตูมเดียวเข้าไปไม่เหลือซาก
จังหวะดังกล่าว อเรโอล่า ทำผิดกับวิสัยของผู้รักษาประตูทั่วไปนั่นคือ ความไม่ละเอียดในการปัดบอล ซึ่งปรกติโกลแล้วมักจะเลือกปัดออกหลัง เพื่อเคลียร์จังหวะอันตรายไป
แต่ทว่าอเรโอล่า กลับเลือกปัดเข้ามายังหน้าเขตโทษของตัวเอง แล้วโดนคู่แข่งลงโทษในที่สุด
ผู้รักษาประตูเป็นตำแหน่งที่พลาดแทบไม่ได้ เพราะพลาดแล้วแทบจะหมายถึงการเสียประตูทันที แม้ว่าที่ผ่านมาจะทำดีมาทั้งเกมแต่การสมาธิหลุด
หรือเลือกเล่นจังหวะพลาดแค่หนเดียว อาจทำให้ทีมเสียหายถึงขนาดแพ้ เหมือนกับที่ อเรโอล่า ทำให้เห็นในนัดนี้
- คอลัมน์นิสต์
- 335
- 17 ม.ค. 2564 13:48