ศึกแห่งคนรวย ! เปแอชเช เปิดบ้านทุบซิตี้ 2-0 เมสซี่ ปลดล็อค
เป็นอีกหนึ่งเกมที่สนุกและเต็มไปด้วยคุณภาพจริงๆสำหรับคู่บิ๊กแมตช์ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สัปดาห์นี้ ระหว่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับ ผู้มาเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ว่ากันว่าเป็นศึกของสองสโมสรที่มีเจ้าของทีมรวยที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้
เกม90นาทีที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ชัยชนะตกเป็นของเจ้าบ้านเปแอชเช 2-0 โดยพวกเขาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก ลูกยิงของ กาน่า เกย์ น.8 และมาได้ประตูตอกฝาโรงปิดท้าย2-0 กับลูกยิงสุดสวยอันเป็นซิกเนเจอร์ของ ลิโอเนล เมสซี่ น.74
โดยนี่คือประตูแรกของ " คิง เลโอ " ในสีเสื้อของเปแอชเช เลยทีเดียวหลังจากที่ก่อนหน้านั้น 3นัด (2ตัวจริง 1ตัวสำรอง) ยังเท้าบอด พลันที่กระซวกประตูดังกล่าว เมสซี่ ดูจะสะใจเป็นอย่างมาก บ่งบอกถึงความอัดอั้นและการรอคอยประตูแรกจากต้นสังกัดใหม่จริงๆ
แม้ว่าจะดูฝืดเคืองไปบ้างในเรื่องของสถิติการทำประตูนับตั้งแต่ย้ายสังกัด เพราะกำลังปรับตัวให้เข้ากับระบบทีม แต่เวลามีช็อตที่จูนติดหรือเข้าฝัก เมสซี่ ก็ยังเป็นนักเตะที่ร้ายกาจและหาทางจับยากที่สุดคนหนึ่งเสมอ
ส่วนทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็มาในสไตล์การเล่นแบบฉบับของตัวเอง นั่นก็คือการคอนโทรลเกมได้มากกว่า กดดันให้ ปารีส ต้องเป็นฝ่ายต้องเล่นเกมรับเสียส่วนใหญ่ แม้จะพึ่งเปิดฤดูกาลใหม่ แต่ปัญหาของทัพเรือใบสีฟ้านั่นก็คือการจบสกอร์จังหวะสุดท้าย
ไม่มีเกมไหนเลยในฤดูกาลนี้ ที่พวกเขารูปเกมเป็นรองคู่แข่ง แต่นี่คือนัดที่3แล้วที่ทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์ เป้าสะอาดในซีซั่นนี้ ( 0-1 สเปอร์ส / 0-0 เซาธ์แฮมป์ตัน / และล่าสุด 0-0 เปแอชเช ) เพราะขาดหน้าเป้าตัวจบสกอร์ที่ดี
ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิง ในนัดนี้ได้รับความไว้วางใจให้ยืนในตำแหน่งหน้าเป้า มีโอกาสยิงเพียงแค่ 2ครั้ง แถมยังทำบอลลั่นเสียการครองบอลไปถึง3หน
เรียกได้ว่าอิมแพคกับเกมน้อยจริงๆสำหรับ ดาวเตะก้นงอนรายนี้ ส่วน แบร์นาโด้ ซิลวา นั้นพลาดโอกาสทองอย่างน่าเกลียดเมื่อซ้ำลูกจ่อๆระยะ2หลา ชนคานออกไป
สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่และน่ากังวลสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ไม่มีใครปฎิเสธว่าพวกเขาเป็นทีมที่ยอมเยี่ยมขนาดไหน แต่ทว่าในสถานการณ์ที่โดนคู่แข่งขึ้นนำไปก่อน ขุนพลเรือใบสีฟ้า แทบจะไม่สามารถแซงกลับมาคว้าชัยชนะได้เลย เช่นกันกับการฟาดแข้งกับ เปแอชเช เมื่อคืน
เมสซี่ ปลดล็อค เบิกลูกแรกกับเปแอชเช
เรียกได้ว่าต้องรอถึงนัดที่4เลยทีเดียว แฟนบอลอย่างเราๆถึงจะได้เห็น การซัดประตูแรกของ ลิโอเนล เมสซี่ กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง การได้ออกสตาร์ทตัวจริงนัดนี้กับ คิลิยัน เอ็มปั๊ปเป้ และ เนย์มาร์ ต้องบอกได้เลยว่านั่นคือสิ่งที่อันตรายและปวดหัวสุดๆของแนวรับฝั่งตรงข้าม
กับทีมเมืองหลวงลีกฝรั่งเศส เมสซี่ ไม่ได้อิสระในการเล่นในฐานะตัวฟรีเหมือนกับช่วงที่อยู่บาร์เซโลน่า สตาร์ชาวอาร์เจนติน่า รายนี้ได้เล่นตำแหน่งกองหน้าฝั่งขวา บทบาทความสำคัญของเจ้าตัวต่อทีมจึงถูกลดบทบาทไปอย่างเห็นได้ชัด
เมสซี่ เมื่อคืนแม้จะได้บอลน้อย แต่ทว่าบอลมาถึงเจ้าตัวก็ไม่จ่ายเสียทำพลาดง่ายๆ เล่นบอลง่ายๆกับเพื่อนร่วมทีม ไม่ฝืนแอ็คอาร์ต ตลอดทั้งเกม "คิง เลโอ " มีโอกาสสับไกลเพียงแค่หนเดียวเท่านั้น แต่1ครั้งนั้นก็มากพอที่จะเปลี่ยนสกอร์ให้กับทีมได้
ประตูสุดสวยของเจ้าตัวก็เป็นการเข้าทำที่เราเห็นกันอย่างคุ้นเคยในสีเสื้อบาร์เซโลน่า เมสซี่ สปีดเลี้ยงกระชากบอลตัดเข้าในทำชิ่ง1-2กับ เอ็มปั๊ปเป้ ก่อนปั่นด้วยซ้ายเข้าไปอย่างสวยงามชนิดที่ เอแอร์ซอนได้แค่มองหมดสิทธิเซฟป้องกัน
บทบาทการเล่นที่เปลี่ยนไปเมื่อย้ายมาสวมเสื้อของ เปแอชเช นั่นอาจทำให้เราได้เห็น ลิโอเนล เมสซี่ ผลิตสกอร์ได้น้อยลงกว่าสมัยที่อยู่ทีมเจ้าบุญทุ่ม เพราะภาระการทำประตูคู่แข่งยังมีแข้งนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์อย่าง คิลิยัน เอ็มปั๊ปเป้ และ เนย์มาร์ ที่พร้อมล่าตาข่ายให้ทีมเช่นกัน
กาน่า เกย์ อีกดาวเด่นของทีม
เมาริซิโอ เปเซ็ตติโน่ มาในรูปแบบการเล่นที่รัดกุมอยู่ไม่น้อย เพราะมาในระบบแผนการเล่น 4-3-3 โดย 3มิดฟิลด์ที่ "พอช " เลือกส่งลงสนามในเกมฟัดทีมเรือใบ ล้วนเป็นสายพันธุ์ประเภทเล่นเกมรับทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น อันเดร์ เอร์เรร่า - มาร์โก แวร์รัตติ รวมไปจนถึง กาน่า เกย์
โดยการเลือกส่งมิดฟิลด์เชิงรับลงมาก็ดูเหมือนจะได้ผลอยู่พอสมควร เพราะเปอร์เซ็นต์การครองบอลของทีมเจ้าบ้านไม่ได้เป็นรองผู้มาเยือนนัก นั่นก็คือ 47% ต่อ53% ทั้งที่หลายๆทีมที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รูปเกมเปอร์เซ็นต์การครองบอลของพวกเขาจะเป็นรองทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์รายนี้อย่างสิ้นเชิง
ส่วนผู้เล่นที่โดดเด่นสุดๆในแผนกองกลางคงหนีไม่พ้น กาน่า เกย์ เพราะนอกจากจะทำประตูสุดสวยขึ้นนำเร็วให้ทีมเล่นง่ายแล้ว ห้องเครื่องชาวเซเนกัลรายนี้ ก็ทำหน้าที่บทบาทของตัวเองในตำแหน่งมิดฟิลด์ได้อย่างไร้ที่ติ
ทั้งในเรื่องของ การตัดเกมจากบอลที่มาจากแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ให้บรรดาผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกของทีมเยือนได้เล่นบอลง่ายๆ ทำงานสกปรก อยู่ในแทบทุกพื้นที่ของสนาม เกย์ ผ่านบอลแม่นยำถึง 91% รวมถึงแย่งบอลกลับคืนมาได้ถึง 8ครั้ง เข้าแท็กเกิ้ลได้อีก5หน
ทีมจะเล่นไม่ได้ลื่นไหลเลยหากไม่มี กองกลางวัย32ปีรายนี้ แต่ทว่าอย่างนั้นก็ต้องยกความดีความชอบให้กับคู่พาร์ทเนอร์อย่าง อันเดร์ เอร์เร่า และ มาร์โค แวร์รัตติ ด้วยที่ทำหน้าที่บทบาทของตัวเองได้อย่างอดทนและมีวินัย
โดยเฉพาะมิดฟิลด์ชาวอิตาเลี่ยนในนัดนี้ที่เล่นได้นิ่งมากๆ ควบคุมกำหนดTempo การออกบอลได้เป็นอย่างดี รวมถึงการจ่ายบอลที่แม่นยำ เซ็ตเกม ทำให้เปแอชเช ได้เล่นบอลสวนกลับได้อย่างเต็มที่ เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้ แวร์รัตติ เกมเมื่อคืนเลี้ยงบอลผ่านผู้เล่น ซิตี้ ได้ถึง5ครั้งด้วยกัน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขาดหน้าเป้า
เกมพ่ายให้กับ เปแอชเช เมื่อคืนไม่ใช่ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีโอกาสสำเร็จโทษทีมเจ้าบ้านเลย มีจังหวะซัดเข้ากรอบถึง 9ครั้ง ยิงออกหลุดออกนอกกรอบ5ครั้ง แต่ทว่าก็ยิงนกตกปลาออกไปเอง หรือ ยิงไม่ได้หนีมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า สักเท่าไหร่
เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้โอกาสเชื่อใจ ราฮีม สเตอร์ลิง ออกสตาร์ทในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า แต่ทว่า ราฮีม ที่ยืนเป็นกองหน้าจริงๆ ไม่ได้ถอยต่ำมาล้วงบอล ไม่ได้เล่นในแบบ ฟอลส์ ไนน์ กลับไม่ได้สร้างพิษสงอะไรให้กองหลังหลังทีมเจ้าบ้านต้องหนักอกหนักใจเลย
เนื่องด้วยไม่ใช่ศูนย์หน้าโดยอาชีพ จังหวะเข้าทำ สัญชาติญาณในกรอบเขตโทษ จึงดูเกินๆล้นๆมากไปหน่อย ตลอดทั้งเกมดาวเตะก้นงอน มีโอกาสยิงเพียงแค่2ครั้ง หนึ่งในนั้นคือจังหวะโหม่งไปชนคาน
ช็อตต่อเนื่องดังกล่าวก็มีการพลาดแบบน่าเขกกะโหลกต่อเนื่องสำหรับ แบร์นาโด้ ซิลวา ที่ตามซ้ำลูกโหม่งของ ราฮีม จ่อๆ2หลา แต่ซัดไปชนคานเดี่ยวๆโล่งๆอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งประตูดังกล่าวหากส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้จะทำให้ โมเมนตัมเปลี่ยนเลยทันทีกับผลเสมอ 1-1
เรื่องการสร้างสรรค์เกม บรรดาเหล่าตัวเพลย์เมคเกอร์ ปีกริมเส้นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลยในยุโรป แต่ทว่าพวกเขาขาดหน้าเป้าแบบธรรมชาติในกรอบเขตโทษ คนที่จะคอยค้ำกองหลัง หรือปักหลักในเขตโทษเป็นเป้าที่ชัดเจนให้เพื่อนคอยเปิดป้อนให้ หรือคอยดึงตัวประกอบกองหลัง ให้ผู้เล่นแนวรุกคนอื่น ได้มีพื้นที่ในการเล่นมากขึ้น
9นัดรวมทุกรายการในซีซั่นนี้้ ทัพเรือใบสีฟ้า ซัดไปได้ถึง 24ประตู แต่ทว่าก็มีถึง3นัดด้วยกันที่ พวกเขาทำประตูคู่ต่อสู้ไม่ได้
ในความพ่ายแพ้ยังมี โรดรี้ ที่โดดเด่น
นี่จะเป็นซีซั่นที่ โรดรี้ จะมีบทบาทในแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นอย่างมากในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ เนื่องจากด้วยผู้เล่นตำแหน่งเดียวกันอย่าง แฟร์นันดินโญ่ ก็มีอายุปาเข้าไป 36ปีแล้ว
บทบาทการเล่นของกองกลางชาวสเปนรายนี้ ทำให้เหล่าบรรดาผู้เล่นกองกลางตัวรุกอย่าง แบร์นาโด้ ซิลวา และ เควิด เดอ บรอยน์ เติมเกมรุกได้อย่างมีอิสระมากขึ้น
ถึงกระนั้นก็ต้องชื่นชมในเรื่องของแท็กติกการเล่นที่บางจังหวะขยับเอา ไคล์ วอร์คเกอร์ และ ชูเอา กานเชโล่ หุบมายืนเป็นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวเสริมอีกแรง
โรดรี้ คือกองกลางที่โดดเด่นที่สุดของ ซิตี้ เมื่อคืน สถิติต่างๆของเจ้าตัวหลังจบเกม ออกมาได้น่าประทับใจมากๆทั้ง ผ่านบอลได้มากถึง72ครั้ง เข้าแท็กเกิ้ลได้ถึง4หน มากกว่าใครในสนามเมื่อคืน จ่ายคีย์พาสได้2ลูก รวมถึงวางบอลยาวอีก8ครั้งด้วยกัน
การเล่นที่เต็มไปด้วยความดุดัน นำลำเลียงบอลไปสู่แดนหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งคนที่ทำงานหนักสุดๆคนหนึ่งของทีมเมื่อคืน แม้ว่าผลลัพธ์จะลงเอยด้วยความปราชัยก็ตาม
กรีลิช ยังโชว์ฟอร์มได้ไม่คุ้มค่า โดน ฮาคิมี่ ล็อคกุญแจ
ยังเครื่องร้อนช้าไปมากๆสำหรับ แจ็ค กรีลิช สำหรับผลงานกับต้นสังกัดใหม่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2ประตู 2แอสซิสต์ จาก8นัด ก็ดูเหมือนจะไม่ได้แย่อะไร แต่สำหรับการลงทุน100ล้านปอนด์นั้น ผลงานดังกล่าวยิงถือว่าต่ำกว่าที่คาดหวังไปมาก
เกมกับเปแอชเช เมือคืน กรีลิช ได้ออกสตาร์ทตัวจริงในตำแหน่งที่ถนัดนั่นก็คือกองหน้าฝั่งซ้าย และก็เป็นอีกนัดเจ้าตัวเงียบสนิท ในการสร้างอิมแพคในเกมรุกให้กับทีม
มีโอกาสยิงเพียงแค่1ครั้ง และจ่ายคีย์พาสตลอดทั้งเกมได้2หน แถมยังถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่ นาทีที่ 68 ให้ ฟิล โฟเด้น ลงมาวาดลวยลายในสนามแทน
ด้วยตำแหน่งของ กรีลิช ทำให้เจ้าตัวต้องเจอกับหนึ่งในแบ็กขวาที่ดีที่สุดในยุโรปเวลานี้อย่าง อัชราฟ ฮาคิมี่ แล้วก็เป็นแข้งชาวโมร็อกโกรายนี้แหละที่ทำให้ กรีลิช โชว์ฟอร์มฉายแสงไม่ออกทำอะไรไม่ถนัด ถูกล็อกจับใส่กุญแจมือ
การขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายของอดีตแข้งแอสตัน วิลล่า รายนี้ ดูจะเลอะเทอะและมากจังหวะพอสมควร จนทำให้เกมชะงักอยู่ทางฝั่งซ้ายหลายครั้ง รวมไปจนถึง เพื่อนร่วมทีมที่ตีรถสอดเข้ามาในเขตโทษต้องตีรถเปล่าไป
นี่คือเกมที่สื่อทำวิเคราะห์หลังเกมหลายๆสำนักให้คะแนนฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวอยู่ที่ราวๆ 4-5คะแนนเท่านั้นจากเต็ม10
ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาแข้งหมายเลข10ของทีมคนนี้เล่นไม่ดีแต่ทว่าการเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กรีลิช จะต้องประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมมากกว่าสมัยที่อยู่กับ แอสตัน วิลล่า ที่ทุกๆอย่างของสิงห์ผงาด จะอยู่ที่การตัดสินใจของกรีลิช ฝ่ายเดียว
- คอลัมน์นิสต์
- 520
- 29 ก.ย. 2564 14:32