เตต้าปังพินาศ ! เบรนท์ฟอร์ดน้องใหม่ เปิดบ้านทุบปืนสบาย 2-0
แค่เปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2021-2022 ก็เห็นแววหนทางขรุขระปังพินาศเสียแล้ว สำหรับอาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของ มิเคล อาร์เตต้า เมื่อพลพรรคปืนใหญ่บุกไปทำศึกลอนดอนกับทีมน้องใหม่ที่พึ่งกลับมาเล่นในเวทีสูงสุดของอังกฤษในรอบ74ปีอย่าง เบรนท์ฟอร์ด แต่ทว่าพวกเขากลับโดนฝันร้ายพ่ายกลับออกมาอย่างเสียราคาสุดๆ
เกมที่สนาม คอมมิวนิตี้ สตเดี้ยม ระหว่างเจ้าบ้าน เบรนท์ฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของอาร์เซน่อล ก่อนเกมทางฝั่ง เดอะ กันเนอร์ส เจอกับปัญหาในการจัดทัพพอสมควร เมื่อพวกเขาจะไม่สามารถใช้งานกองหน้าตัวหลักของทีมอย่าง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง และ อเลซ็องด์ ลากาแซตต์ ได้
ทำให้เป็นโอกาสของหอกดาวรุ่งอย่าง โฟลาริน บาโลกัน นักเตะแข้งใหม่ป้ายแดนอย่าง เบน ไวท์ และ อัลเบิร์ต แซมบี้ โลคอนก้า ห้องเครื่องคนใหม่ได้ออกสตาร์ทเป็น11ผู้เล่นตัวจริง ส่วนทางฝั่งเจ้าบ้าน ทีมผึ้งน้อย โดยกุนซือ โธมัส แฟร้งค์ มาด้วยขุนพลเต็มอัตราศึกเท่าที่จะดีได้ อิวาน โทนี่ย์ ดาวยิงตืนระเบิดของทีมฟิตพอที่จะกลับมาลงสนามเป็น11ตัวจริง
ออกสตาร์ทเกมมาก็เป็นเหมือนทางฝั่งอาร์เซน่อลที่จะครองเกมได้ดีกว่า และพอมีโอกาสเข้าทำจบสกอร์แต่ทว่าก็แทบจะไม่มีช็อตที่ใกล้เคียงเลย แต่ทว่าอยู่ดีๆดื้อๆ เบรนท์ฟอร์ดก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากการเคลียร์บอลไม่ขาดของ คาลัม แชมเบอร์ส สุดท้ายเป็น เซร์กี้ กานอส ซัดบอลเรียดเสียบเสาแรกเข้าไป น.22
พอบทจะเสียประตูอาร์เซน่อลก็ยังเป็นอาร์เซน่อล อยู่วันยังค่ำ บอลไดเร็คที่มาจากลูกทุ่มไกลหวังผล การประกบตัวกันที่ผิดพลาดของแผงหลัง ทำให้บอลกระดอนสูงหนึ่งจังหวะไปเข้าหัวมิดฟิลด์อย่าง คริสเตียน นอร์การ์ด โขกเข้าไปเต็มศรีษะง่ายๆ 2-0 น.77
แม้ว่าในช่วงครึ่งหลังทีมปืนใหญ่จะพยายามสร้างสรรค์เกมบุกมากแค่ไหน ก็แทบจะไม่มีโอกาสที่จะแจ้งเลยมีแค่ลูกยิงของ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่โกลเบรนท์ฟอร์ด อย่าง ราบิด รายา เซฟบอลที่กำลังจะเสียบเสาแรกออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม จบเกม90 นาที เป็นทีมน้องใหม่ประเดิมพรีเมียร์ลีกด้วยการเก็บ3แต้มเข้ากระเป๋าไป
บทสรุปดังกล่าวเชื่อว่าแฟนบอลอาร์เซน่อล ควันออกหูและพร้อมวิจารณ์จัดหนักจัดเต็มทีมรักแน่ๆ กับผลงานในสนามอันแสนเละเทะดังกล่าว และเมื่อเหลือบมองไปดูโปรแกรมนรกอีก2นัด
ข้างหน้าที่พวกเขามีคิว เปิดบ้านพบกับเซลซี และออกไปเยือนทีมที่พวกเขาแพ้ทางมาตลอดในระยะหลังอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถ้ายังห่วยแตกแบบนี้ เราอาจได้เห็นพวกเขา ออกสตาร์ทด้วยการพ่าย3นัดรวดก็เป็นได้...
แนวรับปืนหนังที่บทลงเอยจบลงแบบเดิม
อาร์เซน่อล ด้วยการเสริมทัพนักเตะอย่าง เบน ไวท์ เข้ามาถึง50ล้านปอนด์ น่าจะทำให้พวกเขาวาดฝันถึงเกมรับที่หนักแน่นแข็งแกร่งเป็นหินผามากกว่าเดิมอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าผลลัพธ์เพียงแค่นัดแรกก็ต้องทำให้พวกเขาต้องตื่นขึ้นมาพบกับความเป็นจริงของเกมรับที่ยังอ่อนปวกเปียกไม่หาย
นัดนี้ต้องไม่ลืมว่าคู่แข่งของพวกเขาคือ เบรนท์ฟอร์ด ทีมน้องใหม่ที่พึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาสูดอากาศในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเป็นครั้งแรกในรอบ74ปี สไตล์บอลทรงบอลยังเป็นในรูปแบบทีมของ เดอะแชมเปี้ยนชิพ อยู่เลย นักเตะของทีม " เดอะ บีส์ " ก็ไม่ได้มีทักษะส่วนตัวที่สูงส่งขนาดนั้น จังหวะกระชากลากเลื้อย ไถ ก็มาแบบทื่อๆ ไม่ได้มีสเต็ปซับซ้อนอะไรเลย
ประตูแรกที่เสียก็มีจุดเริ่มต้นมาจาก คาลัม แชมเบอร์ส ที่เคลียร์บอล ไม่ขาด ซึ่งจังหวะที่ เซร์กี้ กานอส ได้เก็บตกลากเข้ามายิง ก็เป็น แชมเบอร์ส เจ้าเก่าคนเดิมนี่แหละที่ ยืนประกบห่างมิหนำซ้ำ ยังปล่อยให้ลูกยิงของ ดาวเตะชาวสเปนทะลุบล็อครอดขาเสียบเสาแรกไปได้
ส่วนจังหวะเสียประตูลูก 2-0 เรียกได้ว่าเป็นความผิดพลาดระดับอนุบาลมากๆ ในเรื่องของการยื่นคุมพื้นที่จัดระเบียบในแนวรับ เพราะไม่มีแข้งนักเตะปืนคนไหนไปสกรีนผู้เล่นของเบรนท์ฟอร์ด ที่มาขวางทาง แบรนด์ เลโน่ เลย มิหนำซ้ำการกะจังหวะบอลตกที่ผิดพลาดของลูกทุ่มจาก แมด โซเรนเซ่น ก็ไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำเพราะมีผู้เล่นทีมปืนใหญ่หลายคนที่ยืนอออยู่ในเขตโทษ
ส่วนกองหลังคนใหม่ค่าตัว 50ล้านปอนด์ อย่าง เบน ไวท์ เป็นการประเดิมที่น่าผิดหวังเช่นกันของเจ้าตัว เพราะในช่วงครึ่งแรก โดน ไบรอัน เอ็มบิวโม่ พลิกหลบหายเข้าไปซัดง่ายๆแบบเสียเชิง ดีที่ลูกยิงของกองหน้าชาวฝรั่งเศสไม่คมพอบอลหลุดเสาออกไป รวมถึงการดวลลูกอากาศกับ อีวาน โทนี่ย์ กองหลังวัย23ปีรายนี้ ก็เสียท่าซะเป็นส่วนใหญ่
สถิติ เบน ไวท์ Vs เบรนท์ฟอร์ด
45.5% ชนะการดวล (5/11)
42.8% ชนะลูกกลางอากาศ (3/7)
หรือเบรนท์ฟอร์ด จะเท่ากับ นิวสโต๊ค
นอกจากสีเสื้อลายเสื้อจะเหมือนกันแล้ว ท่วงทำนองสไตล์การเล่นในบางจังหวะก็ทำให้แฟนบอลอย่างเราๆเห็นภาพซ้อนของ เบรนท์ฟอร์ด กับ สโต๊ค ซิตี้ อีกหนึ่งทีมที่เคยโลดแล่นยังเวทีพรีเมียร์ลีกอยู่ไม่น้อย
ทรงบอลแบบ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่จังหวะต่อบอลกระชากลากเลื้อยดูจะทื่อๆไปหน่อย รวมถึงมีลูกทีเด็ดจากลูกทุ่มไกล โดยพวกเขามีมือขว้างที่รับตำแหน่งดังกล่าวถึงสองคน ไม่ว่าจะเป็น เอธาน พินน็อค และตัวสำรองอย่าง แมด โซเรนเซ่น มือฉมังที่นำมาด้วยประตูทิ้งห่าง 2-0 ส่วนกองหน้าอย่าง อิวาน โทนี่ย์ ก็มีออปชั่นที่หลากหลายนั่นคือ ลงมาล้วงบอลพักบอลให้เพื่อนได้
3เซ็นเตอร์แบ็กของพวกเขาอย่าง คริสตเอฟเฟอร์ เอเยอร์ 198 ซม. / ปอนตุส แยนส์สัน 194 ซม ./ เอธาน พินน็อค 189 ซม. ล้วนแล้วเป็นเหมือนยักษ์ปักหลักทั้งสิ้น ด้วยส่วนสูง ที่ยากแก่บรรดาแนวรุกตัวเล็กจิ๋วของอาร์เซน่อล จะชนะดวลลูกกลางอากาศได้
เพื่อพิจารณาตลอดทั้งเกมต้องยอมรับแต่โดยดีว่า โธมัส แฟร้งค์ และลูกทีมผึ้งน้อยของพวกเขาสมควรออกจากสนามในค่ำคืนนี้ด้วย3แต้มมากกว่าอาร์เซน่อล เพราะด้วยความกระหายความทุ่มเทตลอดทั้งเกมนี่คือสิ่งที่แฟนบอลพวกเขาได้รับ หลังจากห่างหายไปจากเวที ลีกสูงสุดไปกว่า74ปี
โอเคว่านี้แค่อาจจะนัดแรก หนทางยังมีอีกยาวไกลให้พิสูจน์อีก37นัดที่เหลือ แต่ทว่าด้วยทรงการเล่นและผลงานที่โชว์ออกมาเมื่อคืน ทำให้สื่อหรือผู้สันทัดกรณีของอังกฤษหลายราย ได้ออกมาหล่นทัศนะว่า เบรนท์ฟอร์ด อาจะเป็นหนึ่งในทีมน้องใหม่ ที่สามารถอยู่รอดปลอดภัยในเวทีพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021-2022 นี้ได้สำเร็จ
อีวาน โทนี่ย์ นัดแรกในพรีเมียร์ลีกกับ เบรนท์ฟอร์ด
ก่อนเปิดฤดูกาล แม้ว่าจะไม่ใช่ดาวยิงระดับซุปเปอร์สตาร์ แต่ทว่านี่คือศูนย์หน้าที่ถูกจับตามองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ด้วยผลงานชิ้นอุกอาจ 33ประตู กับอีก10แอสซิสต์ ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เป็นขุนพลตัวเอกที่พาเบรนท์ฟอร์ด เลื่อนชั้นขึ้นมาได้
ก่อนเกมมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า ดาวยิงวัย25ปีรายนี้ อาจะไม่ฟิตพร้อมมากพอที่จะลงสนามเป็น11ผู้เล่นตัวจริงให้กับทีม แต่ทว่าจนแล้วจนรอด อีวาน โทนี่ย์ ก็สามารถพร้อมสมบูรณ์เต็มร้อยลงฟาดแข้งให้ทีมได้
ถ้าพูดในเรื่องของการจบสกอร์เรียกได้ว่า โทนี่ย์ โดนกองหลังปืนประกบติดอย่างหนัก จนไม่มีโอกาสได้สับไกลเหน่งๆเลย โดยบทบาทของเจ้าตัวจะเป็นในทิศทางผู้เล่นในแดนหน้า ที่ลงมาล้วงบอล พักบอลเก็บบอลจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมมากกว่า โดยเฉพาะคู่หูของเขาอย่าง ไบรอัน เอ็มบิวโม่ ที่ได้รับอานิงส์บอลจากการจ่าย การโขกมาให้หลายหน
พละกำลังและความแข็งแกร่งนี่คือสิ่งที่อดีตดาวยิงนิวคาสเซิ่ลรายนี้ โชว์ออกมาให้เห็นเกมฟัดกับอาร์เซน่อลเมื่อคืน แต่ทว่าสิ่งที่ โทนี่ย์ อาจจะต้องปรับอีกพอสมควรเห็นจะเป็น Tempo จังหวะการเล่นที่บางครั้งก็ดูช้าเกินไป หรือบางทีก็เหมือนจะเร่งลนเกินกว่าเหตุ
แม้จะไม่มีสกอร์หรือแอสซิสต์มาฝากทีมแต่ทว่าภาพรวมแล้วนี่คือเกมที่น่าประทับใจของ อีวาน โทนี่ย์ อยู่ไม่น้อย กับสถิติชนะการดวล12ครั้ง(มากที่สุด) ชนะการดวลลูกกลางอากาศ 6ครั้ง (มากที่สุด) เรียกฟาวล์ 4ครั้ง (มากที่สุด)
เมื่อไม่มี โอบา &ลากา
ก่อนเกมบุกเยือนทีมน้องใหม่ มิเคล อาร์เตต้า ต้องเจอปัญหาหนักใจอยู่ไม่น้อย โดยทั้ง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง และ อเลซ็องด์ ลากาแซตต์ มีอาการป่วยจนไม่สามารถส่งลงสนามได้ทั้งคู่ ไม่มีชื่อแม้กระทั่งเป็นผู้เล่นบนม้านั่งสำรอง
ทำให้โอกาสชิ้นมันในการถูกส่งลงสนามเป็นของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ประจำการเป็นแนวรุกฝั่งซ้าย และให้โอกาสดาวยิงวัยละอ่อน19ปีอย่าง โฟลาริน บาโลกัน ได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งหน้าเป้า ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ดูไม่จืดเลยทีเดียว เมื่อทั้งคู่แผลงฤทธิไม่ออก และยังถูกถอดออกจากสนามอีกด้วย
แข้งชาวบราซิล มาร์ติเนลลี่ แทบจะไม่มีตัวตนในเกมบุกฝั่งซ้ายของ อาร์เซน่อล จังหวะการครอส เข้ามาให้เพื่อนกลายเป็น คีแรน เทียร์นี่ ที่สร้างโอกาสได้มากกว่า (แม้จะไม่แม่นเลย) ตลอด71นาทีที่อยู่ในสนามได้โอกาสซัดแค่หนเดียว โดนกองหลังอย่าง คริสตเอฟเฟอร์ เอเยอร์ ล็อกใส่กุญแจมืออยู่หลายครั้ง
โฟลาริน บาโลกัน ดาวรุ่งที่แฟนปืนเรียกร้องกันบางส่วน ก็ไม่ได้แตกต่างจาก มาร์ติเนลลี่ เท่าไหร่ นี่คืออีกหนึ่งแนวรุกที่ถูกตัดหายไปจากเกม โดยตลอด58นาทีที่อยู่ในสนามเจ้าหนูวัย19ขวบรายนี้ ได้สัมผัสบอลไปเพียงแค่13ครั้ง (น้อยสุดในสนาม)
แต่จะโทษเจ้าตัวฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้เพราะจังหวะครอสจากด้านข้างเข้ามา บาโลกัน อยู่ในเขตโทษโดดเดี่ยวเกินไป ขาดการสนับสนุนที่ดีจากเพื่อนร่วมทีม
มันอาจจะเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่า บาโลกัน ดีพอสำหรับการทะลุเข้ามาสู่ทัพปืนโต ชุดใหญ่หรือไม่ แต่ทว่านัดนี้มันก็สะท้อนให้เห็นปัญหาว่า ความแข็งแกร่งขุมกำลังในเชิงลึกของอาร์เซน่อลนั้นอ่อนแอกว่าทีมระดับท็อปอื่นๆมากมายแค่ไหน
ปืนใหญ่กับความเป็นไปได้ที่จะแพ้3นัดรวด
ออกสตาร์ทมาอย่างนี้เห็นทีจะทำให้กุนซืออย่าง มิเคล อาร์เตต้า เครียดและแก่ขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัวกับผลงานของลูกทีมที่แพ้ให้กับทีมน้องใหม่เต็งจ๋าตกชั้นอย่าง เบรนท์ฟอร์ด และต้องไม่ลืมว่าพวกเขามีโปรแกรมที่เอาตายอีก2เกมข้างหน้า
เปิดบ้านรับเซลซี ที่ฟอร์มกำลังดีวันดีคืน และมี "พี่ตู้" โรเมลู ลูกากู เข้ามาเสริมทัพเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย และต้องออกไปเยือนทีมที่พวกเขาแพ้ทางในเกมพรีเมียร์ลีกในระยะหลังอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี แจ็ค กรีลิช เข้ามาเสริมความน่าสะพรึงกลัวอีกราย
เป็นไปได้ไหมว่า อาร์เซน่อล อาจจะออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยฝันร้ายแพ้3นัดรวด และหล่นไปเป็นทีมโซนท้ายตารางคะแนน เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับพวกเขามาแล้วในฤดูกาล 2011-2012 แม้จะไม่ย่ำแย่เท่า แต่ ทัพปืนใหญ่ออกสตาร์ท3เกมแรกด้วยการมีแค่1แต้ม เสมอ นิวคาเซิ่ล 0-0 / แพ้ ลเวอร์พูล 0-2 / แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-8
ปัญหาเดิมๆของอาร์เซน่อล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว 2020-2021 หลังเสียประตูง่าย ครองบอลเยอะแต่หาจังหวะจบสกอร์ไม่เจอ โผล่มาให้เราเห็นตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาลกับแผลที่เปิดมากับทีมน้องใหม่ระดับแค่เบรนท์ฟอร์ด
อาจจะเป็นเหมือนที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ กูรูลูกหนังที่กล่าวหลังจากที่เสียลูก 0-2 ให้เบรนท์ฟอร์ด ว่า " ฤดูกาลใหม่ กับอาร์เซน่อลทีมเดิม "
- คอลัมน์นิสต์
- 706
- 14 ส.ค. 2564 14:43