ผีรออยู่ข้างหลัง! อิงส์ ยิงทีมเก่านักบุญฝังหงส์ 1-0
ปัญหาบานปลายไปกว่าที่คิดเสียแล้วสำหรับลิเวอร์พูลในช่วงโมงนี้ หลังล่าสุดบุกไปพ่ายให้กับเซาแธมป์ตันที่ เซนต์ แมร์รี่ 0-1 โดยผู้ที่สังหารประตูชัยไม่ใช่ใครคนออื่นที่ไหน แดนนี่ อิงส์ อดีตดาวยิงของทีมหงส์แดงนั่นเอง
ก่อนเกมการแข่งขัน ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ สะดุดมาแล้ว2เกมติด เสมอกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1 เจ๊านิวคาสเซิ่ล แบบไร้สกอร์ 0-0
เกมกับทีมนักบุญมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ขุนพล เรด แมชชีน ต้องเก็บ3แต้มให้ได้ เพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา ก่อนศึกอภิมหาสงครามแดงเดือด
แต่จบ90นาที กลายเป็นทีมดังแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเติล ที่พาทีมหักปากกาเซียนเก็บ3แต้มเข้ากระเป๋าได้สำเร็จ
โดยสิ้นเสียงนกหวีดยาว กุนซือชาวออสเตรียถึงกับนั่งคุกเข่าร้องไห้เลยทีเดียว เมื่อสามารถปราบไอดอลของเขาอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้
รูปเกมโดยรวมหงส์แดงทำได้ดีในเรื่องของการครอบครองบอล ขาดแค่จังหวะสุดท้ายเท่านั้น ที่ยังขาดๆเกินไปทุกคน ทั้ง3ประสานแดนหน้าอย่าง ซาดิโอ มาเน่ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่
รวมถึงแบ็กจอมบุกที่เปิดบอลได้โคตรเนียนอย่าง เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ –อาร์โนลด์ ที่เปิดบอลไม่ขาดก็ล้นในเกมนี้
ฟากทีมเจ้าบ้านที่ต้องชมเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือ ระเบียบวินัย และความอดทนในเกมรับ ที่ช่วยกันสกัดกั้น จังหวะสุดท้ายก่อนได้อยู่หมัด ทั้ง ไคล ปีเตอร์-วอล์คเกอร์
รวมถึงคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟอย่าง แจ็ค สตีเฟ่น และ ยาน เบดนาเร็ค ที่จัดการเคลียร์ลูกครอสจากด้านข้างของทีมหงส์แดงได้อย่างหมดจด
ไคล ปีเตอร์ –วอล์คเกอร์ เด่น แนวรับนุกบุญแน่นหนา
สปอร์ตไลท์ของเกมนี้คงหนีไม่พ้น แบ็กขวาดาวรุ่งของทีมนักบุญอย่าง ไคล ปีเตอร์ –วอล์คเกอร์ ที่จัดการ ซาดิโอ มาเน่ ให้เล่นได้อย่างไม่ถนัดถนี่
คอยตอดคอยทำลายเกมของดาวเตะชาวเซเนกัลตลอด แถมยังลำเลียงบอลขึ้นไปเติมเกมรุกได้เป็นอย่างดีเสียด้วยในช่วง45นาทีแรก
สถิติส่วนตัวของแบ็กวัย23ปี หลังจบเกม ชนะการดวล11ครั้ง เคลียร์บอล7ครั้ง เข้าแท็กเกิ้ล6 ครั้ง ตัดบอล6ครั้ง
แม้ว่าในเรื่องของเกมบุกจะค่อนข้างเล่นในรูปแบบที่โดน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จับทางได้ง่าย แต่ในเรื่องของเกมรับเจ้าตัวทำได้อย่างไร้ที่ติในนัดนี้
ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟอย่าง เบดนาเร็ค และ แจ็ค สตีเฟ่น ก็เหมือนมีพรายกระซิบมาบอกอยู่ตลอดว่าบอลสุดท้ายจะตกอยู่ในตำแหน่งไหน ทั้งคู่ก็คอยบล็อกอ่านจังหวะบอลตกได้ตลอด
กองหลังชาวโปแลนด์ มีสมาธิมากๆในการรับมือกับลูกครอสรวมถึงการเล่นลูกกลางอากาศเวลาโดนบอมบ์เข้าใส่
ด้าน แจ็ค กองหลังวัย26ปี ที่ได้ลงสนามแทน ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ก็ไม่ทำให้กุนซือชาวออสเตรียผิดหวัง เมื่อประสานงานกับ เบดนาเร็ค ได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าฤดูกาลนี้เจ้าตัวจะไม่ค่อยได้ลงสนามมากนัก แต่เมื่อได้รับโอกาสก็ไม่ทำให้ ฮาเซนฮุตเติล ต้องผิดหวังกับความไว้วางใจที่มอบให้เลย
อิงส์ ยิงทีมเก่า (อีกแล้ว)
ดาวยิงวัย28ปี พยายามเก็บอาการเล็กน้อยหลังกระทุ้งประตูใส่อดีตต้นสังกัดเก่าได้ ประตูโทนเดียวของเกมเกิดขึ้นตั้งแต่นาทีที่2
ซึ่งจังหวะการยิงของ แดนนี่ อิงส์ ถือว่าเฉียบขาดเหลือร้ายเอามากๆ ทั้งน้ำหนักและทิศทาง โดยถ้าให้ยิงอีกกี่หนไม่รู้จะเสียบเข้าที่มุดเดิมเปล่า
ประตูของอิงส์ อาจจะต้องตำหนิความผิดพลาดในการยืนเช็กตำแหน่งล้ำหน้าของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมถึงการเคลียร์บอลพลาดของ เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ด้วย
นอกจากจะช่วยเกมบุกแล้ว ดาวยิงชาวอังกฤษ ยังมาเล่นเกมรับช่วยทีมในจังหวะที่โดนผู้มาเยือนกดจนแทบจะโงหัวไม่ อิงส์ ยังเล่นได้หลากหลายตามแท็กติกของโค้ช เมื่อโยกมาเล่นด้านกว้างริมเส้นได้
ขยับให้ดาวเตะรุ่นน้องอย่าง นาธาน เทลล่า หุบไปเล่นด้านในแทน การเคลื่อนที่การหาตำแหน่งของเจ้าตัว สร้างความหนักอกหนักใจให้แนวรับทีมหงส์แดงอยู่เสมอใน 45นาทีแรก
36 ประตู จาก75นัด ในเกมพรีเมียร์ลีกกับทีมนักบุญ น่าจะช่วยให้เจ้าตัวลืมช่วงเวลา3ปี 14นัด 3ประตู ที่เป็นเหมือนฝันร้ายกับทีมหงส์แดงลงได้
20ล้านปอนด์ที่จ่ายให้ทีมดังลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ไซต์ คุ้มค่าทุกเพนนีจริงๆ
เทรนด์ฟอร์มหลุด
เป็นอีกหนึ่งเกมที่แบ็กเจ้าของว่าที่ตัวจริงทีมชาติอังกฤษ เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเองที่เคยทำได้มากๆ อาจจะเป็นเพราะเคยถูกอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปก่อนหน้า ทำให้ฟอร์มยังไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่
สิ่งที่เราเห็นสำหรับเทรนด์ในเกมนี้คือ การเปิดบอล ที่มีอยู่สองอย่าง เปิดติด กับเปิดล้น ซึ่งสิ่งนี้เคยเป็นจุดขายซิกเนเจอร์ของเจ้าตัวมาโดยตลอด
ประตูแรกที่เสียเจ้าตัวก็มีส่วนผิดพลาดต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกันเพราะไม่สามารถเคลียร์บอลที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่จะไปถึง แดนนี่ อิงส์ ได้
รวมไปถึงการรับมือกับปีกความเร็วสูงของทีมเจ้าบ้านอย่าง มุสซ่า เฌมเนโป ที่เทรนด์โดนหลอกจนเสีย ตำแหน่ง โดนกระชากบอลหายหลายครั้ง
แต่ก็พอได้หายใจคล่องคอขึ้นบ้างเมื่อดาวเตะชาวมาลีเจ็บ ฝืนเล่นต่อไม่ไหวจนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม
สถิติที่น่าตกใจหลังจบเกมนั่นก็คือ เทรนด์ เสียบอลมากถึง38 ครั้ง ฟอร์มรวมถึงสภาพจิตใจของเจ้าตัวในตอนนี้ช่างห่างจากฤดูกาลที่แล้วเหลือเกิน
แนวรุกกำลังมีปัญหา
จากที่เคยเปรี้ยงปร้างดุดัน กระซวกตาข่ายคู่แข่งได้ดุดันดีนักแล แต่กลับกลายเป็นว่า3นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูลส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้เพียงแค่1ลูกเท่านั้น
เกมกับนักบุญลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ยิงเข้ากรอบเพียงแค่1ครั้ง ซึ่ง1ครั้งที่ว่าต้องรอไปจนถึงนาทีที่75จาก ซาดิโอ มาเน่ ถามว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ถ้ามองแบบภาพกว้างแบบไม่มีอคติรูปเกมของหงส์แดง การต่อบอลการครอบครองบอล ทำได้เหนือกว่าคู่แข่งตลอด
แต่ยังติดที่จังหวะในพื้นที่สุดท้ายที่ยังขาดๆล้นๆไปหน่อย โดยเฉพาะ บังโม ที่ดูเหมือนจะพยายามเล่นเพื่อตัวเองมากไปในหลายๆจังหวะ ทั้งที่บางโอกาสส่งให้เพื่อนร่วมทีมจะได้ลุ้นมากกว่า
หรือถ้ามีโอกาสได้สับไกลเองก็มักจะพลาดไปแบบไม่น่าเชื่อ ถ้าเป็นซาลาห์ในแบบที่เราคุ้นเคยหลายๆลูกเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้แล้ว
นี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี2018ที่ลิเวอร์พูลไม่ชนะเกมลีก3นัดติด (เสมอ เวสต์บรอมวิช 2-2 เสมอ สโต๊ค 0-0 แพ้ เซลซี 0-1)
ส่วนสถิติในเกมเยือนก็น่าเป็นห่วงไม่น้อย 9นัด ชนะ2 เสมอ5 แพ้2
VAR ไม่ยุติธรรมกับหงส์แดง
ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันได้อยู่ตลอดสำหรับมาตรฐาน การตัดสินของ VAR ที่ดูเหมือนจะตราชั่งไม่เท่ากันในแต่ละนัด ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่โชคร้ายครั้งแล้วครั้งเล่ากับเจ้าเทคโนโลยีนี้
โอเค แม้ว่าจะต้องโทษตัวเองด้วยที่ไม่สามารถคุกคามแนวรับทีมนักบุญได้เท่าที่ควร เพราะตลอด90นาทีหาโอกาสส่องตรงกรอบได้เพียง1หนเท่านั้น
แต่มันก็อดคิดไม่ได้เช่นกันจากจังหวะที่ จอร์จินโญ่ ไวนัลดุล ยิงบอลไปชนแขน แจ็ค สตีเฟ่น ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินในสนามอย่าง อังเดร์ มาริเนอร์ กลับมั่นใจไม่เป่าจุดโทษให้ผู้มาเยือนซะงั้น
ไม่เป่าพ่นลมนกหวีดไม่พอ เจ้าตัวยังมั่นใจถึงขนาดไม่เช็กดู VAR ย้อนหลังอีกด้วย
ซึ่งโดยปรกติแล้ว ถ้าเหตุการณ์สำคัญเช่น จุดโทษ ใบแดง ล้ำหน้า (จนนำไปสู่การทำประตู) VAR เจ้ากรรมจะถูกนำมาใช้พิจารณาช่วยเสมอ
คำตัดสินของ VAR กลายเป็นเหมือนเรื่องตลกร้ายที่แฟนบอลหงส์แดงชักจะขำไม่ออกกันแล้วในนาทีนี้
- คอลัมน์นิสต์
- 325
- 05 ม.ค. 2564 15:12