เหตุเกิดเพราะไม่คม ! หงส์ โดน นาทีบาป วิลล็อค ซัดทดเจ็บเสมอ 1-1
เมื่อเห็นโปรแกรมสัปดาห์ที่ใครๆก็คิดว่าน่าจะเป็นงานขนมหวานกรุบสำหรับลิเวอร์พูลในการเก็บ3แต้มเข้ากระเป๋า เกมกับทีมที่กองหลังไม่ค่อยดีอย่างนิวคาสเซิ่ล และได้เล่นในสนามที่คุ้นเคยอย่างแอนฟิลด์
แต่ทว่าจบ90นาที สิ่งที่แฟนบอล เดอะ ค็อป วาดฝันไว้กลับไม่เป็นอย่างนั้น พลพรรคหงส์แดงที่ทำท่าว่าจะเก็บ3แต้ม ทำอันดับไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กลับโดนลูกยิงทีเด็ด นาทีปาป ของ โจ วิลล็อค น.90+5
ทั้งที่ก่อนหน้า ไม่กี่นาที VAR ก็โกงความตายให้ลิเวอร์พูลมาแล้วรอบหนึ่ง กับจังหวะซัดประตูของ คัลลัม วิลสัน โดนยึดคืนเพราะโดนจับแฮนด์บอลไปก่อน
ผลลัพธ์ด้วยการแบ่งแต้มจะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากลิเวอร์พูลเอง ที่ขาดความเฉียบคมในการส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายมากๆ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดประตูขึ้นนำสุดสวยตั้งแต่ น.3 หลังจากนั้นก็เป็นทางฝั่งหงส์แดงนี่แหละที่ ปูพรมบุกเข้าใส่อยู่ข้างเดียว
เจอร์เก้น คล็อปป์ กะโค่นลูกทีมของ สตีฟ บรู๊ซ ให้แหลกแหลวคามือ ด้วยการส่ง4ประสานในแดนหน้าลงกันอย่างพร้อมเพรียง ทั้ง โม ซาลาห์ - ซาดิโอ มาเน่ - โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ดิโอโก้ โชต้า มองเป็นระบบ 4-2-4 / 4-2-3-1 หรือเป็น 4-2-2-2 ก็ยังได้
ความไม่เฉียบคมไม่เด็ดขาดนี่แหละที่ทำให้3แต้ม หลุดออกจากมือของลิเวอร์พูลไป ทีมเครื่องจักรสีแดงมีโอกาสล่อเป้าสาลิกาดงถึง22ครั้ง แต่ทว่าก็ยิงนกตกปลาไปเสียหมด
หรือไม่ก็โดนฟอร์มปลาหมึกยักษ์เข้าสิงของ มาร์ติน ดูบราฟก้า จัดการปัดป้องไปได้อย่างราบคาบ
โดยเฉพาะในรายของ ดิโอโก้ โชต้า ที่เมื่อคืนไม่เหมือน โชต้า ที่เราๆรู้จักคุ้นเคยเลย ดาวเตะชาวโปรตุเกสรายนี้ผิดฟอร์มเป็นอย่างมาก โอกาสสับไกล4ครั้งของเจ้าตัว ไม่ได้เป็นช็อตที่ใกล้เคียงที่จะส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายเลย
ส่วนอีกรายอย่าง ซาดิโอ มาเน่ ก็เหมือนจะความมั่นใจหายไปจนหมดสิ้นแล้ว ณเดช ของแฟนบอลหงส์แดง มีจังหวะจบสกอร์ถึง6ครั้ง แต่ทว่าไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้เลย แถมยังสร้างจังหวะน่าหงุดหงิดอยู่หลายหนเช่นกัน
ฟากผู้มาเยือน สาลิกาดง ก็เล่นแบบเจียมเนื้อเจียมตัว 3-5-2 หรือจะมองตามวิธีการเล่นเป็น 5-3-2 ก็ได้ คนเดียวที่ดูเหมือนพอจะมีพิษสงในการเล่นเกมโต้กลับนั่นก็คือ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ที่จี๊ดจ๊าด เร็วคล่อง แข็งแกร่งเหลือเกิน จนโดนนักเตะลิเวอร์พูล เตะทำฟาวล์ตัดเกมลงไปนอนกองกับพื้นหลายครั้ง
1แต้มที่แตกต่างกัน นิวคาสเซิ่ลได้คะแนนอันล้ำค่าในการดิ้นรนหนีการตกชั้น ซึ่ง สถานการณ์ตอนนี้ก็น่าจะลอยตัวแล้วเมื่อ3นัดหลังสุดเก็บไป7แต้ม
ส่วนลิเวอร์พูล ถือว่าเสียหายเป็นอย่างมากสำหรับการดร็อปแต้มดังกล่าว ทำให้โอกาสในการทำอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
โชต้า&มาเน่ ฟอร์มหลุดในนัดสำคัญ
ไปๆมาช่วงแรกนี่คือนักเตะที่ฝากความหวังในการผลิตสกอร์ได้มากที่สุดของทีม แม้ว่าจะลงสนามไม่กี่นัด และโดนอาการบาดเจ็บรบกวนไปช่วงหนึ่ง
แต่ ดิโอโก้ โชต้า ก็ยังซัดรวมไปได้ถึง12ประตู รวมทุกรายการ น้อยกว่า ซาโอ มาเน่ ที่ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอแค่ลูกเดียว (มาเน่13)
แข้งชาวโปรตุเกส มีโอกาสส่องไกลถึง4ครั้งเกมเมื่อคืน และเป็นโอกาสที่จะแจ้งมากถึง3ครั้ง แม้ว่าภาพรวมการประสานงานของ4แนวรุกทีมหงส์แดงเมื่อคืนจะสอดประสานกันได้อย่างไหลลื่นมากๆ แต่ก็ต้องมาตกม้าตายในจังหวะสุดท้ายตลอด
ซาลาห์ : 3 ครั้ง
มาเน่ : 6 ครั้ง
ฟิร์มิโน่ : 3
โชต้า : 4
16 ครั้งนี่คือโอกาส ในการส่องตาข่ายทีมสาลิกาดงเมื่อคืน ของ4แนวรุก Fantastic4 แต่ทว่าแปรเปลี่ยนให้เป็นประตูได้เพียงแค่1ลูกเท่านั้น ถ้าในยามที่ท็อปฟอร์ม หรือเอาแค่่ในช่วงที่ความเฉียบขาดลั่นไกเท่าๆเดิม น่าจะมี 3-4ประตูให้เห็นแน่ๆ
ส่วนในรายของ ซาดิโอ มาเน่ นี่หนักเอาการเลย แข้งชาวเซเนกัล ขาดความมั่นใจสุดขีด โดยเฉพาะจังหวะที่ โมซาลาห์ จ่ายตัดมาให้เจ้าตัวได้เดี่ยวๆกับ ดูบราฟก้า
ตัวของมาเน่เองพยายามจะเอาชัวร์ล็อกหลบ แต่ทว่าโดนนายด่านชาวสโลวาเกีย ควักบอลออกจากเท้าได้ แบบเสียเชิงไปเลย
16นัดหลังสุดสถิติน่าตกใจมากๆ สำหรับ ซาดิโอ มาเน่ เมื่อแข้งหมายเลข10รายนี้ ซัดไปได้เพียง2ประตู และทำไปได้แค่3แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น เมื่อไหร่ปีกตัวความหวังของทีมรายนี้จะกลับมาเปรี้ยงปร้างสยดสยองอีกครั้ง แฟนหงส์ก็ยังคงหาคำตอบกันไม่ได้
ซาลาห์ 20UP
ประตูที่ โม ซาลาห์ ซัดใส่นิวคาสเซิ่ลได้ นับเป็นลูกที่20เข้าให้แล้วที่ สตาร์แดนอียิปต์ ทำได้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ นั่นเท่ากับว่านี่คือฤดูกาลที่3จาก4ฤดูกาล ที่แข้งวัย28ปีรายนี้ซัดไปได้20ประตูขึ้นไป
ลูกยิงเอี้ยวตัวตัววอลเล่ย์แสกหน้า ดูบราฟก้า นั้นบ่งบอกคุณภาพและความสามารถของบังโม ได้เป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่เมื่อคืน เจ้าตัว น่าจะมีรายชื่อบนสกอร์บอร์ดได้มากกว่า1ประตู
ซาลาห์ กลายเป็นแข้งนักเตะลิเวอร์พูล คนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่ ทำได้20ประตูขึ้นไปในพรีเมียร์ลีกได้ถึง 3ฤดูกาล แม้แต่ หลุยส์ ซัวเรส ยังทำไม่ได้ในจุดนั้น
สตาร์หมายเลข11ของทีมเครื่องจักรสีแดง ตามหลัง ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกปัจจุบันอย่าง แฮร์รี่ เคน ( 21ประตู) เพียงแค่ 1เม็ดเท่านั้น และมีโอกาสที่ ซาลาห์ จะพลิกแซงคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ ( Golden Boots) ไปครองได้ เนื่องจากเคน ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่
แม้ว่าจะมีหลายช่วงที่บังโมฟอร์มตก แต่ทว่าอย่างน้อยๆแล้วอดีตดาวเตะโรม่ารายนี้ ไม่เคยละเลยในเรื่องของการทำประตูเลย ( จะฟอร์มดร็อปยังไง ก็ยังยิงได้เรื่อยๆ) เห็นเงียบๆลงๆไป แต่ซีซั่นนี้ โม ซาลาห์ ยังซัดไปได้ถึง 29ประตูรวมทุกรายการเลยทีเดียว
ติอาโก้ ในแบบที่ควรจะเป็น
ความคาดหวังเยอะเหมือนกันสำหรับการย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มายัง ลิเวอร์พูล ของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า แต่ทว่าการเปลี่ยนสไตล์การเล่นจากบุนเดสลีก้า มาเป็นเวทีพรีเมียร์ลีกนั้นไม่ง่ายเลยสำหรับกองกลางชาวสเปนรายนี้
ติอาโก้ เก็บข้าวเก็บของย้ายมาร่วมถิ่น แอนฟิลด์ แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บที่ยังรบกวนอยู่ ทำให้ต้องรอสักระยะกว่าจะได้ประเดิมสนามนัดแรกให้กับทีมหงส์แดงได้
ไม่รู้เป็นเพราะด้วยเหตุผลที่บรรดาแข้งคีย์แมน หลายคนของ ลิเวอร์พูล บาดเจ็บหรือไม่ จึงทำให้หลายๆครั้ง ติอาโก้ รับหน้าที่ทำหลายบทบาทเกินไปในแดนกลาง จึงทำให้เจ้าตัวโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออก
ที่เราๆเห็นกันจนชินตานั่นก็คือจังหวะการตัดเกมเข้าบอลของ อัลกันตาร่า ที่โฉ่งฉ่างและเสียใบเหลือง เสียฟาวล์ แบบไม่น่าเสียหลายครั้ง แต่ทว่าเกมเมื่อคืนกับนิวคาสเซิ่ล ติอาโก้ นั่นต่างออกไป
กองกลางแดนกระทิงดุ แม้จะมีเวลาอยู่ในสนามเพียงแค่77นาที แต่ก็ผ่านบอลไปมากถึง111ครั้ง จ่ายคีย์พาส2ครั้ง วางบอลยาว4หน เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 3 และเข้าแท็กเกิ้ลได้มากถึง6ครั้ง
ถ้าในภาพรวมตลอดทั้งซีซั่นต้องยอมรับว่า ติอาโก้ ทำได้ไม่เท่าที่คาดหวังเลย แต่ทว่าผลงานในระยะหลังก็มีสัญญาณที่ดีว่า กองกลางวัย30ปีรายนี้ น่าจะมีอะไรดีๆ โชว์ให้สาวก เดอะ ค็อป เห็นในซีซั่นหน้า
ลิโอเนล แซงต์-มักซิแม็ง
7แต้มสำคัญจากโปรแกรม3นัดหลังสุด ทำให้นิวคาสเซิ่ล หายใจโล่งคอ มากพอที่จะรอดตกชั้นเป็นอย่างมาก เหตุผลสำคัญที่ทำให้ทีมสาลิกาดง กลับมาโกยแต้มได้ในช่วงนี้ นั่นอาจเป็นเพราะการกลับมาของ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง
ดาวเตะทรงผมขัดใจแม่ที่ฤดูกาลนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพักรักษาอาการบาดเจ็บ พึ่งจะกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ใน3เกมล่าสุดอย่าง เบิร์นลี่ย์ - เวสต์แฮม และลิเวอร์พูล แต่ทว่า3เกมดังกล่าว อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง อิมแพคต่อทีมเป็นอย่างมาก
เกมกับทีมหงส์แดงเมื่อคืน แข้งวัย24ปี โดดเด่นเป็นอย่างมากในเกมสวนกลับ เพราะเป็นผู้เล่นคนเดียวของ " เดอะ แม็กพายส์ " ที่สามารถสร้างความปั่นป่วนโกลาหล ให้เกมรับลิเวอร์พูล และต้องยอมตัดฟาวล์แลกกับใบเหลืองเพื่อหยุด สปีดนรกและความร้อนแรงของ แซงต์-มักซิแม็ง
น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมทีมไม่ทันเซ้นการจ่ายบอลของเจ้าตัวโดยเฉพาะ โจลินตัน และ มิเกล อัลเมรอน ที่ไปกั๊กกันเองในจังหวะจ่ายถวายพาลหลุดเดี่ยวของ แซงต์-มักซิแม็ง
ภาพที่เราเห็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนั่นก็คือ การเลี้ยงฝ่าวงล้อมนักเตะลิเวอร์พูล หรือไม่ก็ช็อตที่แข้งชาวฝรั่งเศสรายนี้ โดนเตะล้มลงไปกองกับพื้น
ขนาดรูปเกมของนิวคาสเซิ่ลที่เป็นรองอย่างสุดกู่แต่ทว่า สถิติส่วนตัวของดาวเตะเลือดน้ำหอมรายนี้ ไม่ได้ย่ำแย่เลย เมื่อจ่ายคีย์พาสได้ 1ครั้ง ครอสบอล 1ครั้ง วางบอลยาว1ครั้ง เรียกฟาวล์ได้ถึง3ครั้ง และที่สำคัญคือเลี้ยงบอลกินตัวผ่านนักเตะลิเวอร์พูลได้ถึง8ครั้ง เป็นสถิติที่มากที่สุดที่เจ้าตัวทำได้ในฤดูกาลนี้
ถ้าไม่อยากให้ภาระในเกมรุกหนักเกินไป นอกจาก คัลลัม วิลสัน นิวคาสเซิ่ล ก็ควรจะซื้อผู้เล่นที่มีคุณภาพกว่านี้ เพื่อมาซับพอร์ต " ลิโอเนล แซงต์-มักซิแม็ง " ในฤดูกาลหน้า
วิลล็อค ชอบ ยิงประตูสำคัญ
ไม่มีใครคาดคิดหลอกว่า โจ วิลล็อค จะเวิร์คกับนิวคาสเซิ่ลขนาดนี้หลังจากที่ยืมตัวมาจากอาร์เซ่อล เมื่อตลาดนักเตะหน้าหนาวที่ผ่านมา แต่ทว่า4ประตูจาก10นัด (7ตัวจริง 3สำรอง) น่าจะมีเหตุผลมากพอที่จะทำให้ สตีฟ บรูซ ซื้อขาดเจ้าตัวมาแบบถาวร ในฤดูกาลหน้า
แต่ทว่าก็อาจจะติดตรงที่ อาร์เซน่อล ที่ตั้งค่าตัวของดาวเตะวัย21ปีรายนี้ไว้สูงถึว20ล้านปอนด์เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าแพงมากๆ เมื่อเทียบกับอายุและในยุคที่สถานการณ์โควิด-19 เล่นงาน
วิลล็อค ก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวอันดับ2ของ นิวคาสเซิ่ลแบบงงๆ ทั้งที่ย้ายมาร่วมถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค แบบยืมตัวเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยนัดล่าสุดกับลิเวอร์พูล วิลล็อค ลงมาเป็นตัวสำรองนาทีที่64 เท่านั้น
4ประตูของ มิดฟิลด์วัย21ปีรายนี้สำคัญกับสาลิกาดงมากๆ เพราะเป็นหนึ่งในประตูของแต่ละนัด ที่ชี้เป็นชี้ตายแต้มผลการแข่งขันให้กับทีมได้เลย
- ประตูเปิดหัว เกมชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2
- ประตูตีเสมอ เกมเจ๊า สเปอร์ส 2-2
- ประตูชัย เกมชนะ เวสต์แฮม 3-2
- ประตูตีเสมอ เกมเจ๊า ลิเวอร์พูล 1-1
- คอลัมน์นิสต์
- 494
- 25 เม.ย. 2564 14:19