ไม่มีหมดหวัง ! หงส์ แซง นิว 2-1 คาร์วัลโญ่ ซัดชัย วินาทีสุดท้าย 90+8
หลังจากที่วันเสาร์ที่ผ่านมา เปิดบ้านเอาชนะทีมน้องใหม่ บอร์นมัธ ได้แบบไม่ระบมหัวแม่เท้า 9-0 ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะได้เดินเครื่องเก็บ3แต้มต่อเนื่องอีกครั้ง ด้วยการได้เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมฟอร์มดีอย่างนิวคาสเซิ่ล ที่ขาดผู้เล่นตัวหลักสำคัญในแมตช์นี้ไปหลายราย แต่ทว่ากว่าหงส์แดงจะเอาชนะได้ก็แทบรากเลือด
เกมกลางสัปดาห์ที่สนามแอนฟิลด์ ระหว่างเจ้าบ้านลิเวอร์พูลดวลกับ นิวคาสเซิ่ล ผลลัพธ์ 90นาที จบลงด้วย3แต้มของพลพรรคหงส์แดง ที่เฉือนทีมดังจากภาคอีสานไป 2-1ชนิดที่กว่าจะได้ประตูชัยต้องรอไปจนถึงเกือบวินาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ
ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทเกมเมื่อคืนถือว่าผิดฟอร์มมากๆเลยทีเดียวกับ 45นาทีแรก เพราะพวกเขาแทบจะหาจังหวะจบสกอร์เหมาะเหม่งไม่ได้ แถมยังมาโดนทีเด็ดลูกสวนกลับนิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำไปก่อน 1-0 น.38 จาก หอกค่าตัวแพงป้ายแดง อเล็กซานเดอร์ อิซัค
ครึ่งหลังทีมเครื่องจักรสีแดงเล่นกระเตื้องขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังหาจังหวะเผด็จศึกที่จะแจ้งไม่ได้ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จาก โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ น.61 หลังจากนั้นเป็นลิเวอร์พูล ที่โหมบุกหนัก และก็เปิดช่องว่างให้ผู้มาเยือนได้โต้ตอบเหมือนกัน
จนท้ายที่สุดแล้วด้วยความไม่ละเอียดของนิวคาสเซิ่ล ที่ทำดีมาตลอดทั้งเกม ก็มาทำนบแตกจนได้ เมื่อมาโดนตัวสำรองอย่าง ฟาบิโอ คาวัลโญ่ ยิงสุดสวยจังหวะขลุกคลิก ระยะ 4-5 หลาเข้าไป น.90+8 พร้อมการเฮฉลองที่สนามแทบแตก
แม้ว่าจะคว้า3แต้ม ได้ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุด แต่ทว่าระหว่างเกมลิเวอร์พูล ดูจะมีจุดที่ต้องให้ปรับให้แก้กันหลายเรื่องทั้ง เกมในแดนกลางที่มีปัญหาอีกแล้ว เหมือนนัดที่เจอกับฟูแล่ม นั่นก็คือพวกเขามักไปไม่เป็นเวลาเจอการเพรสซิ่งหนักจากแดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็แทบจะเป็น " เฮียแปะ " ตามอายุวัย
ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของ ลิเวอร์พูล เมื่อคืน หลายคนเทคะแนนไปให้เจ้าหนูสู้สุดใจอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่น่าจะเป็นผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์ที่ สร้างโอกาสสร้างจังหวะ ให้แนวรุกได้เล่นสะดวกสบายมากขึ้น ความคล่องแคล่ว ความเร็ว นี่คือสิ่งที่แข้งวัย19ปีรายนี้ เพิ่มให้ทีมในแดนกลาง
ส่วนผู้ปราชัยนิวคาสเซิ่ล ต้องบอกว่าก่อนเกมพวกเขาดูจะเสียเปรียบอยู่ไม่น้อย เพราะขาดผู้เล่นตัวหลัก เซ็นเตอร์ฮาร์ฟอย่าง ฟาเบียน แชร์ และปีกจอมจี๊ดจ๊าดตัวเจ็บอย่าง อัลล็อง แซงต์ มักซิแม็ง แต่ทว่าเมื่อเล่นไปรูปเกมของพวกเขาก็ไม่ได้เป็นรองเท่าไหร่ แต่ทว่าความไม่ละเอียด ไม่เนี๊ยบช่วงท้ายเกม ทำให้ ลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว โดนสำเร็จโทษในที่สุด
ฟิร์มิโน่ พิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้ง
2นัดแรกที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงเชื่อใจ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก่อน ดาร์วิน นูนเญซ แต่ทว่าผลงานของ " บ็อบบี้ " ก็ค่อนข้างน่าผิดหวัง ทั้งในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ฟูแล่ม แต่ทว่าด้วยความเสียค่าโง่ของ นูนเญซ ในเกมกับ คริสตัล พาเลซ ทำได้ ฟิร์มิโน่ ยังได้รับโอกาสต่อ
โดยแข้งชาวบราซิล เริ่มฉายฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้งในเกมที่ถลุงยับ บอร์นมัธ แบบหาทางกลับบ้านไม่ถูก 9-0 ด้วยผลงาน2ประตู 3แอสซิสต์ เกมเมื่อคืนก็เช่นกัน
ฟิร์มิโน่ เป็นผู้ซัดประตูตีเสมอ 1-1 ให้ทีมเครื่องจักรสีแดงกลับเข้ามาสู่เกมได้ ซึงก็ต้องชื่นชมเจ้าตัวด้วย ที่วิ่งสอดขึ้นมารับลูกจ่ายของ โม ซาลาห์ ได้ลงล็อกพอดี บอลไม่แรงมาก แต่ทิศทางแทบจะ100% นิค โป๊ป พุ่งสุดตัวยังไงก็ไม่ทัน
แม้จะลงเล่นในตำแหน่ง False9 แต่บทบาทของ ฟิร์มิโน่ แทบจะเป็นเหมือนผู้เล่นจอมทัพหมายเลข10มากว่า เพราะลงมาล้วงต่ำ ประสานงานกันได้เป็นอย่างดี กับ หลุยซ์ ดิอาซ มีจังหวะหนึ่ง " บ็อบบี้ " ได้รับเสียงเชียร์จากแฟนหงส์อย่าง ล้นหลาม เมื่อขยันวิ่งไล่บอลกลับคืนมาได้ในช็อตที่ สาลิกาดง จะเล่นเกมสวนกลับ
ด้วยรูปเกมที่ค่อนข้างอึดอัด แต่อดีตแข้งฮอฟเฟ่นไฮม์ รายนี้ยังหาโอกาสยิงได้มากถึง 5ครั้ง จ่ายคีย์พาสสได้2หน เกมนัดหน้าทีมจะได้ ดาร์วิน นูนเญซ พ้นโทษแบนกลับมา เราอาจจะได้เห็นดาวยิงค่าตัว 100ล้านยูโร ต้องออกสตาร์ทด้วยการเป็นตัวสำรองไปก่อนก็เป็นได้
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เด็กกำลังมั่นใจ
ด้วยความที่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ รวมไปจนถึง นาบี เกอิต้า ที่เป็นจอมเดี้ยงอยู่แล้ว ยังไม่หายดีสักที ทำให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ได้รับความเชื่อมั่นจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ออกสตาร์ทเป็นแผงตัวจริงในตำแหน่งมิดฟิลด์อย่างต่อเนื่อง
เจ้าหนูวัย19ปีรายนี้ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง4นัดติดในพรีเมียร์ลีกให้หงส์แดง และพึ่งทำประตูแรกให้สังกัดในเกมพรีเมียร์ลีก ได้นัดยำบอร์นมัธ 9-0 โดยกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เลือกถอด เอลเลียตต์ ออกจากเกมดังกล่าวตั้งแต่ออกสตาร์ทครึ่งหลัง เพื่อเก็บสดมาบู๊แมตช์นี้เฉพาะ
อดีตแข้งทรงผมหัวสัปปะรด เป็นผู้เล่นในแดนกลางของลิเวอร์พูล ที่เล่นดีที่สุดเมื่อคืน เพราะเป็นคนที่แก้เพรสซิ่งเอาตัวรอดจากแผงกลางของนิวคาสเซิ่ลได้ จังหวะเพลย์อันตรายของลิเวอร์พูล ก็มีจุดเริ่มต้นมาจาก เอลเลียตต์ นี่แหละ
ลูกตีเสมอ 1-1 ก็เป็น เอลเลียตต์ ที่เลี้ยงตะลุยตรงกลางสนามแล้วจ่ายให้ ซาลาห์ ได้ แอสซิสต์ ให้ ฟิร์มิโน่ ด้วยความที่เคยเล่นในตำแหน่งปีกมาก่อน ทำให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ มีสกิลความคล่องแคล่ว ว่องไว การเลี้ยงบอล ที่ดีกว่ามิดฟิลด์คนอื่นๆของลิเวอร์พูล
รวมถึงเกมรับ เอลเลียตต์ ยังมีช็อตขยันวิ่งไล่บอลจากเท้า โจลินตอน ได้อยู่หมัดอีกด้วย รวมถึงมีสถิติเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งมากถึง4ครั้ง วางบอลยาว4หน จ่ายจังหวะคีย์พาสได้ 1ครั้ง
วันที่แบ็กซ้าย-ขวา หงส์ ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน
นี่คืออาวุธโจมตีหนักของลิเวอร์พูล มาตลอดสำหรับลิเวอร์พูลในช่วง 3-4 ปีหลังนั่นก็คือ การเติมบุกสนุกแบบสุดซอยของแบ็ก จอมทะลุทะลวงอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ซึ่งก็ประจักษ์ด้วยหลักฐานจำนวนประตู แอสซิสต์ ที่มากมายของแบ็กเลือดผู้ดีและสก็อตสองรายนี้
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามเมื่อคืนกับนิวคาสเซิ่ล เราแทบไม่ได้เห็นจังหวะครอสอันตรายๆจาก แบ็กซ้ายขวาของลิเวอร์พูลเลย รวมไปจนถึงจังหวะที่ประสานงานกับตัวรุกอย่าง ซาลาห์ และ ดิอาซ
เจ้าหนู TAA ไม่มีใครเถียงอยู่แล้วในเรืองของเกมรุก แต่ทว่าระยะหลัง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ - อาร์โนล ดูจะมีปัญหากับเกมรับอยู่ไม่น้อย เมื่อคืนก็เช่นกัน ประตูแรกที่เสียก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่จ่ายบอลขวางสนาม จนโดน โจ วิลล็อค ตัดได้ ทำให้ทีมเสียเชฟเกมรับ จนโดน อิซัค ลงโทษในที่สุด
ส่วน ร็อบโบ้ ดีกว่าเทรนต์ แค่นิดหน่อยที่ไม่ได้ก่อความผิดพลาดในแนวรับ แต่เรื่องของเกมบุกต้องเรียกว่าบอดสนิททั้งคู่เลยก็ว่าได้ 3ครั้งคือจำนวนที่ครอสบอลรวมกันของ แบ็กซ้ายขวาลิเวอร์พูลเมื่อคืน
สุดท้ายเราจึงได้เห็น เจอร์เก้น คล็อปป์ แก้เกมในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นนักนั่นก็คือ การเลือกถอดเอาแบ็กตัวจริง2ข้างออกพร้อมกัน แล้วให้แบ็กตัวสำรองอย่าง คอสตาส ซิมิคาส และ เจมส มิลเนอร์ ลงมาแก้เกมบู๊แทน
อิซัค สวัสดีพรีเมียร์ลีก
ไม่รู้ว่าย้ายมาด่วนจี๋ กระชั้นชิดขนาดนี้ จะทำให้ได้มีเวลาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเปล่านะ สำหรับหอกค่าตัวแพงสถิติสูงสุดของสโมสรนิวคาสเซิ่ล 60ล้านปอนด์ อย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค จากเวทีลาลีก้า เรอัล โซเซียดาด
แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บ(อีกแล้ว) ของ คัลลัม วิลสัน ทำให้ อิซัค ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นกองหน้าตัวจริง ได้รับความไว้วางใจก่อน คริส วู้ด ที่ยังแทบผลิตสกอร์ให้ทีมไม่ได้นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เบิร์นลี่ย์ เมื่อเดือนมกราคม
เกมแรกของ อิซัค กับทีมดังภาคอีสานต้องเรียกได้ว่าช่วง 20นาทีแรก ดาวยิงวัยรุ่นชาวสวีเดน ดูมีจังหวะการเล่นที่ไม่เข้าขากับเพื่อนร่วมทีมเลย จังหวะจะโคนช้าไปหรือไม่ก็เร็วกว่าเพื่อนร่วมทีมตลอด อาจจะด้วยต้องปรับตัวกับฟุตบอลลีกใหม่และเพื่อนร่วมทีมใหม่
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามเมื่อได้มีโอกาสเผด็จศึกเหน่งๆ ศูนย์หน้าวัย22ปี ก็แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในการจบสกอร์ทันดี เมื่อรับลูกจ่ายของ ฌอน ลองสตาฟฟ์ เข้าไปซัดเสียบมุมสุดสวยผ่าน อลิซซง แบบหมดหนทางป้องกัน น.38
โดยอดีตหอก เรอัล โซเซียดาด น่าจะบวกประตูที่สองของตัวเองได้ จากจังหวะสวนกลับ ที่ล็อกหลบทั้ง โรเบิร์ตสัน และ โกเมซ จนหลังหัก พร้อมแต่งอีกหนึ่งจังหวะยิงเสาแรกเข้าไป แต่ทว่าท้ายที่สุดถูกยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด
64นาที ที่ได้อยู่ในสนาม แม้จะมีส่วนร่วมกับเกมน้อย แต่ทว่าลีลาจังหวะโยกหลอกสเต็ปการยิงต่างๆ น่าจะทำให้สาวกทูนอามี่ คาดหวังระยะยาวกับ อิซัค ได้อยู่ไม่น้อย
สาลิกาดงไม่เขี้ยวมากพอ
ก่อนเกมเริ่มขึ้น แม้ว่านิวคาสเซิ่ล จะออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ 2022-2023 ได้ถือว่าดีทีเดียว แต่ทว่าด้วยสภาพทีมเชื่อว่าน่าจะทำให้ทัพสาลิกาดง รอดออกมายาก รวมไปจนถึงลิเวอร์พูลเองก็ยังต้องการสานต่อฟอร์มที่ยอดเยี่ยมจากนัดที่ระเบิดโถส้วม บอร์นมัธ 9-0
ฟาเบียน แชร์ เซ็นเตอร์ตัวจริงที่สภาพไม่เต็มร้อย ได้ออกสตาร์ทเป็นผู้เล่นสำรอง แล้วให้ จามาล ลาสเซลล์ ที่หลังๆรั่วอย่างบ่อย ได้ยืนเซ็นเตอร์คู่กับ แดน เบิร์น แทน รวมไปจนถึงในแดนหน้าพวกเขาได้เงาตัวจี๊ด ตัวเจ็บอย่าง อัลล็อง แซ็งต์ มักซิแม็ง กองกลางคนสำคัญอย่าง บรูโน่ กิลมาไรส และศูนย์หน้าอย่าง คัลลัม วิลสัน
แม้ว่าตัวผู้เล่นจะเป็นรอง แต่รูปเกม45นาทีแรก " เดอะ แม็กพาย " ทำกันได้ดีมาก และขึ้นนำไปก่อน 1-0 โดยความผิดพลาดของลิเวอร์พูลในแดนกลาง ทำให้นิวคาสเซิ่ล มีโอกาสที่จะสวนกลับเจ็บๆหลายครั้ง แต่ผ่านบอลจ่ายบอลกันไม่ดีมากพอ
โดยเฉพาะ มิเกล อัลมิรอน ที่เวลาบอลอยู่กับตัวแทบจะไม่มีพิษสงเคลื่อนไปข้างหน้า หรือจ่ายจังหวะเพลย์การเล่นที่อันตรายเลย ช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วงท้ายๆ ในขณะที่นิวคาสเซิ่ล กำลังจะได้1แต้ม แต่ทว่าพวกเขากลับไม่เขี้ยวมากพอ
โจลินตอน ที่ได้บอลทางกราบขวา และมีพื้นที่ว่างเป็นรถบัส แต่แข้งชาวบราซิลรายนี้ กลับเลือกตะลุยเลี้ยงไปเปิดบอลเลยไปเสาสอง แทนที่จะพาบอลไปที่มุมธงกินเวลาหรือลุ้นเอาลูกเตะมุมดึงเวลาได้อีก
ช่วงทดเจ็บแนวรับนิวคาสเซิ่ล ร่วงถ่วงเวลาไปนอนกองกับพื้นหลายคน จนสุดท้ายมาเสียลูกเตะมุมแล้วโดน ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ซัดขลุกขลิก น.90+8 แทบจะจังหวะสุดท้ายของเกม เล่นเอาผู้เล่นสาลิกาดง ต้องเข่าทรุดไปตามๆกัน
- คอลัมน์นิสต์
- 330
- 01 ก.ย. 2565 14:33