เข้าชิงไปแล้วครึ่งตัว ! หงส์ เปิดบ้านจม เรือดำน้ำสบาย 2-0
แม้ว่าจะเป็นม้ามืดเขี่ยทีมดังตกรอบมาขนาดไหน แต่ทว่าเมื่อจับฉลากมาดวลกับลิเวอร์พูล ในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนมองจากมุมไหนเหลี่ยมไหน ก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่ บียาร์เรอัล จะหยุดความร้อนแรงและความปราถนาที่จะคว้า4แชมป์ ของทัพหงส์แดงได้
ผลลัพธ์90นาทีที่ แอนฟิลด์ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศนัดแรก เป็นทางฝั่งของทีมเจ้าบ้านลิเวอร์พูล เอาชนะ บียาร์เรอัล ไปได้เบาะๆ 2-0 โดยรูปเกม90นาที เป็นลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่เหนือกว่าผู้มาเยือนจากสเปนชัดเจน
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามก็ต้องชื่นชมแท็กติกการเล่นเกมรับของ ทีมเรือดำน้ำสีเหลืองด้วยที่ทำกันได้เป็นอย่างดีกับการหยุดผู้เล่นแนวรุกของหงส์แดง แต่ทว่าสมาธิที่เสียไปของกองหลังทำให้ บียาร์เรอัล โดนลงโทษในช่วงเวลาที่ห่างกันไม่ถึง 3นาที
เปร์วิส เอสตูปิญาน ผู้โชคร้าย สกัดเข้าประตูตัวเอง น.53 และ ซาดิโอ มาเน่ อาศัยช่วงที่แนวรับทัพ " เยลโล่ ซัพมารีน " เป๋ บวกเม็ดที่2 นาทีที่ 55 เมื่อลิเวอร์พูล นำห่าง2-0 ต้องบอกได้เลยว่าเกมแทบจะจบปิดประตูให้ บียาร์เรอัล ไล่ตีเสมอ หรือยิงลูกตีไข่แตกกลับมาได้เลย
รูปเกม ลิเวอร์พูล เหนือกว่าทุกเหลี่ยมมุมพื้นที่ของสนาม ติอาโก้ อัลกันตาร่า ฉายฟอร์มยอดกลองกลาง ที่กำหนดจังหวะการเล่น จ่ายบอลแม่นยำ โยกออกซ้ายทีขวาที จนแนวรับผู้มาเยือนปวดหัวไปหมด เป็นเกมที่3ติดต่อกันแล้วที่ ห้องเครื่องชาวสเปนรายนี้ ผ่านบอลแม่นยำแตะหลัก 90%
อีกหนึ่งผู้เล่น ที่เหมือนจะเจองานสบายสุดๆของ ลิเวอร์พูล นั่นก็คือ อลิสซง เบคเกอร์ เพราะตลอดทั้งเกม ลูกทีมของ อูไน เอเมรี่ มีโอกาสยิงเพียงแค่ครั้งเดียว เป็นลูกซัดที่เบาหวิวตรงกรอบแต่ไม่มีความอันตรายใดๆ แถมยังล้ำหน้าไปก่อนอีกด้วย
ส่วน เซ็นเตอร์ ที่มักจะได้รับโอกาสในฟุตบอลถ้วยอย่าง อิบราฮิมา โกนาเต้ กองหลังร่างยักษ์ ที่ถึงแม้จะเป็นตัวสำรองของ โฌเอล มาติป แต่ทว่าเมื่อได้ลงสนามคราใด ก็ทำหน้าที่ได้แบบไร้ที่ติตลอด แทบจะไม่มีความเหลือมล้ำกับตัวจริง แถมยังมีลูกกลางอากาศที่แข็งแกร่งสุดๆ
ชัยชนะ 2-0 นัดที่ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เปรียบพอสมควรกับการไปเยือนนัดที่2ที่สเปน รวมไปจนถึงสถานการณ์ในลีก น่าจะทำให้พวกเขาสามารถสลับสับเปลี่ยนผู้เล่นตามความเหมาะสมได้ แตกต่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังก้ำกึ่งและสูสีมากๆ กับ เรอัล มาดริด กับผลลัพธ์สกอร์ 4-3
โกนาเต้ ตัวสำรองที่ไม่สำรอง
ฤดูกาลนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ค่อนข้างจะชัดเจนมากๆ เกี่ยวกับสถานะของ อิบราฮิมา โกนาเต้ ปราการหลังร่างยักษ์ที่ย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัวราวๆ 36ล้านปอนด์ โดยในพรีเมียร์ลีก กองหลังขาวฝรั่งเศสรายนี้ ลงบู๊ไปเพียงแค่8นัดเท่าเท่า บทบาทเป็นตัวสำรองเสียมากกว่า
แต่ทว่าสำหรับในฟุตบอลด้วยแล้ว โกนาเต้ คือเซ็นเตอร์ตัวหลักของทีมและจับคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้อย่างไม่ขัดเขิน นี่เป็นนัดที่6แล้วที่ แนวรับชาวฝรั่งเศสรายนี้ได้ลงบู๊ในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เกมกับ บียาร์เรอัล ก็เช่นกัน โกนาเต้ ผนึกกำลังกับ ฟาน ไดค์ ได้อย่างยอดเยี่ยม ปล่อยให้ตลอด90นาที ผู้มาเยือนมีโอกาสจบสกอร์เพียงแค่1ครั้งเท่านั้น แถมยังไม่เข้ากรอบอีกด้วย สิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมกองหลังวัย22ปีรายนี้ นั่นก็คือ การเช็กไลน์ล้ำหน้า ที่ดันไลน์ได้พร้อมๆกันกับแนวรับคนอื่นได้เป็นอย่างดี
ศูนย์หน้าของ ทีมเรือดำน้ำสีเหลืองอย่าง อาร์เนาต์ ดันยูม่า แทบจะเป็นวิญญาณไร้ตัวตนในสนามไปเลย ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ แถมยังแน่นล่ำ ทำให้ โกนาเต้ มีจุดเด่นมากๆในเรื่องลูกกลางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคืน ช่วง20นาทีแรก เจ้าตัวเอาชนะ ลูกกลางอากาศไปได้ 4ครั้ง จากการดวล4หน
อีกหนึ่งสถิติที่ โกนาเต้ ทำได้ดีมากๆ และถือว่าเป็นตัวนำโชคของหงส์แดงเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ 23นัดทุกรายการ ที่เจ้าตัวลงสนาม ลิเวอร์พูล ยังไม่เคยปราชัยพบกับความพ่ายแพ้เลย ชนะ 17 - เสมอ 6
มาเน่ สร้างสถิติซัดประตู รอบน๊อกเอ้าท์
ช่วงครึ่งฤดูกาลแรกต้องบอกเลยว่า ซาดิโอ มาเน่ เป็นหนึ่งในนักเตะเกมรุกของหงส์แดง ที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคนหนึ่งเช่นกัน เพราะใช้โอกาสจบสกอร์ค่อนข้างเปลือง แถมยังหวะยิงก็ส่ง จังหวะส่งก็กลับเลือกยิงเองดื้อๆซะงั้น
อย่างไรก็ตามใรช่วงครึ่งฤดูกาลหลังต้องบอกว่า " พี่ณเดช " เรียกความมั่นใจมาได้มากโขทีเดียวกัน หลังกลับมาจากศึก แอฟริกัน เนชั่น คัพ ในฐานะรองแชมป์กับทีมชาติเซเนกัล ประจวบเหมาะกับช่วงที่ ซาลาห์ ฟอร์มแผ่วลงไปเล็กน้อยเช่นกัน
ประตู 2-0 ของ มาเน่ ถือส่าสำคัญมากๆ เพราะเป็นการเผด็จศึกต่อเนื่อง จากจังหวะ1-0 ในเวลาไม่ถึง 3นาที ช่วงที่ ทีมเรือดำน้ำสีเหลืองกำลังเมาหมัดเป๋ เพราะนั่นเป็นการปิดประตูไม่ให้ ลูกทีมของ อูไน เอเมรี่ มีลุ้นกับช่วงเวลาที่เหลือเลย
อย่างไรก็ตาม ปีกชาวเซเนกัลรายนี้ ก็พลาดโอกาสทองไปเหมือนกันใน 45นาทีแรก เพราะโขกลูกเปิดของ โม ซาลาห์ ที่ไร้ตัวประกับออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยแท็กติกของ เจเค ทำให้เลือกถอด มาเน่ ออกจากสนามเพื่อเก็บสด แล้วให้ ดิโอโก้ โชต้า ลงมาแทน .73
1ประตูที่ทำได้เมื่อคืนทำให้ ซาดิโอ มาเน่ ซัดใน รอบน้อกเอ้าท์ ยูซีแอลได้ลูกที่ 14แล้ว ทำสถิติเป็นนักเตะชาวแอฟริกา ที่ทำประตูได้ในรอบดังกล่าวมากที่สุด เทียบเท่ากับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ของเซลซี
ติอาโก้ โชว์คลาสความยอดเยี่ยมต่อเนื่อง
แม้จะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ทว่านี่เป็นหนึ่งในนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมากๆในนัดนี้ นั่นก็คือ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กับการควบคุมเกมในแดนกลางได้อย่างเสร็จสรรพ วิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล รวมไปจนถึงความแม่นยำต่างๆ
ประตูแรกปลดล็อคความอึดอัดของลิเวอร์พูล ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากกองกลางชาวสเปนรายนี้นี่แหละ แถมเจ้าตัวยังเกือบใส่สกอร์ได้ด้วย กับลูกซัดไกลบอลพุ่งไปชนสามเหลี่ยมออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงนี้เป็นฟอร์มที่ดีที่สุดในเครื่องแบบหงส์แดง ของ ติอาโก้ เลยก็ว่าได้ เอาแค่3เกมหลังสุด อดีตดาวเตะ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด รายนี้ มีเปอร์เซ็น9Nผ่านบอลแม่นยำมากๆ 96% กับ แมนฯยูไนเต็ด - 98% กับเอฟเวอร์ตัน และล่าสุดกับ 96% กับ บียาร์เรอัล
ติอาโก้ เอาชนะ การดวลได้3ครั้ง ผ่านบอลยาวแม่นยำ9ครั้ง ในส่วนของเกมรับยังช่วยทีมตัดบอลได้ถึง 6หน อีกด้วย นับตั้งแต่ที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ย้ายออกจากทีมไป ลิเวอร์พูล แทบจะไม่มีกองกลางประเภทตัวทำเกมเลย จะหนักไปทางผึ้งงานมากกว่า
เห็นทีจะมี ติอาโก้ นี่แหละที่ใกล้เคียงสุด แม้ว่าจะไม่ได้เล่นในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์จ๋าก็ตาม แต่ก็มีมิวิสัยทัศน์ในการผ่านบอล คิลเลอร์พาส หรือลูกตะบันไกล (ที่เริ่มมีให้เห็นเรื่อยๆระยะหลัง) ไม่แพ้พวกตัวปั้นเกมเบอร์10เลย
แนวรับเยี่ยม ทำ อลิสซง งานสบาย
ไม่ว่าใครจะมาจับคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ทั้ง โฌแอล มาติป หรือ อิบราฮิโม โกนาเต้ นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหรือสิ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำขึ้นมาเลย เกมกับ บียาร์เรอัล ก็เช่นกัน อาจจะด้วยกองกลางที่ครองเกมได้เบ็ดเสร็จ เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ แนวนับไม่ต้องเจองานหนักนัก
เมื่อคืนผู้มาเยือนจากสเปน มีโอกาสยิงตลอด90นาทีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หรือมีจังหวะยิงเข้ากรอบ1ครั้ง แต่ทว่าก็เป็นลูกที่ล้ำหน้าไปเสียก่อน อีกหนึ่งจุดที่ลิเวอร์พูลทำได้ดีมากๆในซีซั่นนี้นั่นก็คือ การจับล้ำหน้า
ลูกทีมของ "โลกิ " โดนจับล้ำหน้าไปทั้งหมด4ครั้งเมื่อคืน แผงแบ็กโฟร์ลิเวอร์พูลมีระเบียบวินัยสุดๆ ทั้งเซ็นเตอร์และ วิงแบ็ก ไม่ใช่แค่ในเวที ยูซีแอล แต่ในพรีเมียร์ลีก ลูกทีมของ คล็อปป์ ก็ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นกันกับการเช็กล้ำหน้า
นักเตะสายจี๊ดของ บียาร์เรอัล อย่าง อาร์เนาต์ ดันยูม่า ไปไม่เป็นเลยเมื่อเจอความใหญ่ของ โกนาเต้ แถมยังมี ฟาน ไดค์ เป็นยักษ์ปักหลักอีกหนึ่งด่านขวางหน้า เกมรับที่หนียวแน่นทำให้อลิสซง เจอกับงานที่เบามากๆ ใน3เกมหลัง
โกลชาวบราซิล เก็บคลีนชีตได้ใน3เกมหลังสุด โดยที่ต้องออกแรงเซฟเพียงแค่2ครั้งเท่านั้น 1ครั้ง กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - 1ครั้ง Vs เอฟเวอร์ตัน และ ไม่ต้องออกแรงเซฟเลย (0ครั้ง) เกมกับ บียาร์เรอัล เมื่อคืนที่ผ่านมา แถมยังเป็นคลีนชีต ที่25รวมทุกรายการ ของนายด่าน " พี่หมี " เข้าให้แล้ว
บียาร์เรอัล ใช้แต้มบุญหมดแล้วรึเปล่า
จะว่าไปการแหวกนรกโกงความตายของ บียาร์เรอัล มาถึงรอบรองชนะเลิศ ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพรส์สุดๆเหมือนกัน กับการสวมบทเป็น แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ปราบทั้ง ยูเวนตุส และ บาเยิรน มิวนิค เข้ามาได้
แต่ทว่าหากเรามองรายละเอียดในเกม กับ ยูเวนตุส และ บาเยิร์น มิวนิค ต้องบอกว่าพลพรรคเรือดำน้ำ ถือว่ามีดวงเฮงเหมือนกัน โอเคว่าลูกทีมของ อูไน เอเมรี่ มีวินัยในการเล่นเกมรับที่ดีมากๆ มีทีเด็ดในการสวนกลับ
รอบ16ทีม และรอบ8ทีม ต้องถือว่า บียาร์เรอัล มีดวงเกื้อหนุนเสริมช่วย เพราะทั้งทีมเจ้าม้าลาย และพลพรรคตาหมี ต่างยิงนกตกปลา ใช้โอกาสเปลืองทั้งคู่ ทำให้พวกเขาฝ่าด่านมายังรอบตัดเชือกได้
อย่างไรก็ตามสำหรับการดวลกับลิเวอร์พูลนั้นถือว่าเป็นอีกขึ้นหนึ่งไปเลย เพราะหงส์แดง นั้นเป็นของจริงกระดูกแข็งโป๊ก แม้ว่าเจ้าบ้านจะใช้โอกาสที่ค่อนข้างเปลืองในการจบสกอร์ ยิงเข้า 2จาก โอกาส12ครั้ง แต่ทว่าด้วยรูปเกมนั้น ลูกทีมของ " เจเค " ไม่เปิดโอกาสให้ บียาร์เรอัล ได้ลืมตาอ้าปากเลย
ตลอด90นาที ทีมเรือดำน้ำมีโอกาส จบสกอร์เพียงแค่ครั้งเดียว แถมยังได้ครองบอลแค่ 33% ศูนย์หน้าคู่ของพวกเขาอย่าง อาร์เนาต์ ดันยูม่า และ ซามูเอล ชุควูเซ ต่างก็หายถูกลักพาตัวออกจากเกมอย่างไร้ร่องรอย
แม้จะได้กลับไปเล่นที่บ้านสเปน แต่ผลห่างสกอร์ที่มากถึง2ลูก และฟอร์มการเล่นทีกระฉูดแตกของทีมเครื่องจักรสีแดง นั่นก็เป็นโอกาสที่ยากเข็นครกขึ้นภูเขาเหลือเกินที่ บียาร์เรอัล จะทะลุเข้ารอบชิงได้ หลังจาก2รอบที่ผ่านมาสวมบทเป็น " แจ็ค ผู้ฆ่ายักษ์ " อาจจะถึงเวลาแล้วแหละที่พวกเขาจะโดน ยักษ์ฆ่า คืนบ้าง
- คอลัมน์นิสต์
- 1178
- 28 เม.ย. 2565 15:33