เขาคือตำนาน ! หงส์ เข้าวินทดเจ็บ เชือด วูล์ฟ 1-0 โอริกี้ โชว์เทพ ซัดชัย
เพียบพร้อมและอุดมไปด้วยคุณสมบัติแชมเปี้ยนส์จริงๆสำหรับ ลิเวอร์พูลชุดนี้ ภายใต้การคุมบังเหียนของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในรอบหลายๆปีที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขาจะมีบางนัดที่ฟอร์มไม่ค่อยดี แต่ทว่าทีมเครื่องจักรสีแดง ก็ยังคงหาวิธีส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย พาตัวเองได้ผลการแข่งขันที่ดีกลับมาเสมอ
ค่ำคืนที่ โมลินิวซ์ กราวน์ ก็เช่นกัน ลิเวอร์พูล ซิว3แต้มสุดสำคัญเข้ากระเป๋าแบบสุดระทึก อัตราความดราม่าสูง หลังจากที่ตลอด90นาที วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ สวมวิญญาณ หมาป่าหนังเหนียวเจาะยากยันสกอร์อยู่ที่ 0-0
แต่ทว่าช่วงทดเวลาที่ 90+4 สิ่งที่สาวก เดอะ ค็อป รอมาทั้งเกมก็เกิดขึ้นจนได้ ฮีโร่ผู้ควบม้าขาวซัดประตูช่วงนาทีบาปพาลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะสุดสำคัญดังกล่าวกลับบ้าน และวีรบุรุษฮีโร่ของเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ดิว็อค โอริกี้ ตัวสำรองซุปเปอร์ซับ
เทพกี้ ใช้โอกาสเดียวที่เหมาะเหม่ง เสกบอลหายวับเข้าไปกองตรงก้นตาข่ายราวกับมีเวทมนต์ จากลูกเปิดเข้ามาให้ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โอริกี้ แตะบอลด้วยเท้าขวา หมุนตัวอย่างพริ้วไหว ซัดด้วยซ้ายลอดขา คอเนอร์ โดดี้ ผ่าน โชเซ่ ซา เป็นประตูชัยให้กับทีม
แม้จะเป็นชัยชนะที่ดูขี้เหร่ไปหน่อย ถ้ามองในเรื่องฟอร์มการเล่น รายละเอียดระหว่างเกม แต่ทว่านี่คือสิ่งที่ทีมที่อยากก้าวขึ้นไปเป็นแชมเปี้ยนส์ ล้วนต้องมีคุณสมบัตินี้ติดตัวทั้งสิ้น ในวันที่เล่นแย่ นักเตะผิดฟอร์มไปหลายคน แต่ยังสามารถออกจากสนามด้วยผลงานแข่งขันที่ต้องการได้
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ ดิโอโก้ โชต้า นี่คือเหล่าบรรดาแข้งนักเตะของลิเวอร์พูล ที่เล่นกันได้อย่างผิดฟอร์มจากมาตรฐานเดิมที่เคยเซ็ตไว้
โดยเฉพาะ โชต้า ที่ผลงานไม่ค่อยเปรี้ยงเท่าไหร่กับการบุกมาเยือนถิ่นเก่าเมื่อ พลาดโอกาสทองสำคัญในการซัดประตูหนหนึ่ง เมื่อยิงไปติดบล็อกผู้เล่นทีมหมาป่า ทั้งที่ปากประตูไม่มีโกลทีมเจ้าบ้านแล้ว
ส่วนทางด้าน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ของ บรูโน่ ลาจ ตลอดทั้งเกมถือว่าลูกทีมของกุนซือชาวโปรตุเกสรายนี้ทำได้ดีมาก ในเรื่องของเกมรับ โดยเฉพาะ3เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ มักซ์ คิลแมน - คอนอร์ โคดี้ -โรแม็ง ซาอิสส์ ที่ทำหน้าที่ของตัวเองรวมถึงผนึกกำลังเป็นกำแพงหินได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องมาตกม้าตายเพราะตัวเองแท้ๆกับการเลือกเปลี่ยนตัว วิงแบ็กซ้ายที่ฟอร์มดีตลอดทั้งเกมออกอย่าง รายาน ไอต์ นูรี่ ออก แล้วให้ คี-ยานา ฮูเฟร์ ลงสนามมาเล่นแทน น.90+2 และก็เป็นเจ้าหนูวัย19ปี ที่ประกบซาลาห์พลาดในจังหวะประตูชัย จนโดนลงโทษอย่างสาสมในที่สุด
เขาคือตำนาน เทพโอริกี้ พระเอกควบม้าขาว
ซีซั่นที่ผ่านมา ดิว็อค โอริกี้ ดูเหมือนจะหมดอนาคตและไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปแล้ว เพราะเมื่อได้รับโอกาสเป็นตัวสำรองซุปเปอร์ซับ คราใด หอกชาวเบลเยี่ยมรายนี้ก็ไม่สามารถตอบแทนความไว้วางใจได้ตลอด แต่ทว่าซีซั่นนี้ดูเหมือนมันจะแตกต่างกันออกไป
แม้ว่า ดิโอโก้ โชต้า จะเล่นผิดฟอร์มไป ทำหมูหกไปครั้งหนึ่ง แต่ทว่าความเฉียบคม ความน่าไว้เนื้อเชื่อใจ แข้งโปรตุเกสรายนี้ ก็ยังคงดูพึ่งพาได้มากกว่า ดิว็อค โอริกี้ แต่ทว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่คิดเช่นนั้น เพราะกุนซือชาวเยอรมันรายนี้มองเห็นพลังงานที่หลับไหลอยู่ในตัวดาวยิงขั้นเทพ
โอริกี้ ถูกหย่อนลงสนามไปแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เล่นผิดฟอร์มไป น.68 ส่วน ดิโอโก้ โชต้า ก็ถูกเปลี่ยนออก น.82 ให้ อเล็กซ์ ออกเหล็ก เชมเบอร์เลน ลงมาเล่นแทน
ท้ายที่สุดแล้วการจั่วไพ่ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ได้ผลสุดๆ เมื่อเทพกี้ สวมบทเป็นฮีโร่ทำประตูชัยให้กับทีม รับบอลจากลูกเปิดเรียดของซาลาห์ หันหลังให้ประตู
ทันใดนั้นเอง โอริกี้ ก็แตะบอลด้วยขวาพลิกบอลอย่างพริ้วไหวเป็นสายน้ำ ยิงบอลลอดขา คอเนอร์ โคดี้ ผ่านโกล โชเซ่ ซา เข้าไปซุกก้นตาข่าย น.90+4
โดยหลังจบเกม เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงกับมาหยอดหวานยกย่องดาวเตะขั้นเทพชาวเบลเยี่ยมรายนี้ ว่าเป็นเหมือนนักเตะระดับตำนานอย่างแท้จริง
" ดิว็อค โอริกี้ คือตำนานของการจบสกอร์ เขามีหลายเหตุผลที่ทำให้เป็นดาวยิงที่น่าทึ่ง เขาไม่ได้ลงสนามบ่อยๆ แต่ผลหวังว่าเขาจะได้พบผู้จัดการทีมที่ส่งเขาลงสนามมากกว่าผม เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่จบสกอร์ได้ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น ทีมของเรามี3ตัวรุกที่ยอดเยี่ยม เขาจึงไม่ได้ลงเล่นบ่อยๆ แต่เขาก็ยังเป็นคนที่คิดบวก รักสโมสรแห่งนี้ เขาพร้อมทุ่มเททำทุกๆอย่าง และเขาก็ทำได้แบบน่าเหลือเชื่อ "
ฤดูกาลนี้ในพรีเมียร์ลีก โอริกี้ ยังไม่เคยได้ออกสตาร์ทเป็น11ผู้เล่นตัวจริงเลย ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง 3นัด แต่ทว่าก็เป็นซุปเปอร์ซับทำได้2ประตู ในขณะที่มีเวลาลงเล่นรวมแล้วแค่ 38นาทีเท่านั้น
โชต้า พลาดแบบไม่น่าเชื่อ
เวลาที่ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ เดี้ยงหายไปจากทีม นี่คือช่วงที่ได้รับโอกาสตัวจริงอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลงานสำหรับ ดิโอโก้ โชต้า แข้งชาวโปรตุเกส หลังซัดไปได้4ประตู จาก3นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แต่ทว่าการบุกไปเยือนถิ่นเก่าเมื่อคืนของ โชต้า ถือว่างานกร่อยไปหน่อย
เมื่อคืน โชต้า มีโอกาสส่องตาข่ายถึง4หนด้วยกัน แต่ที่พลาดแบบไม่น่าให้อภัยสุดๆเห็นทีจะเป็นจังหวะที่ โซเช่ ซา ออกมาดักบอลพลาดสื่อสารไม่เข้าใจกันกับ โรแม็ง ซาอิสส์ ทำให้ เจ้าตัวได้ลากเข้าไปยิงในเขตโทษโดยที่ไม่มีผู้รักษาประตู
ณ วินาทีนั้น มีแค่เพียง โชต้า กับผู้เล่นกองหลังทีมหมาป่าอย่าง คอเนอร์ โคดี้ และ มักซ์ คิลแมน ที่ทั้งคู่ต่างพยายามทำตัวให้ใหญ่ที่สุดเพื่อขัดขวางลูกยิงของแข้งชาวโปรตุเกสรายนี้ ทั้งที่มุมก็กว้างแต่ทว่าสุดท้ายแล้ว ดิโอโก้ โชต้า ก็ยิงบอลไปติดบล็อกของ โคดี้ เต็มๆ ชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเหลือเชื่อ
แม้จะเคลื่อนที่หางช่องว่างได้ค่อนข้างดี แต่ทว่าการเฉียบคมในการจบสกอร์นี่คือสิ่งที่ แข้งวัย25ปีรายนี้ ทำได้ไม่เพอร์เฟคส์ในการกลับมาเยือนถิ่นเก่าหนนี้ รวมไปจนถึง3เซ็นเตอร์ของวูล์ฟ ก็สร้างความหนักอกหนักใจให้โชต้าได้พอสมควร
ถึงกระนั้นก็ดี โชต้า นั้นยังมีสถิติที่ยอดเยี่ยมไม่เบานับตั้งแต่ย้ายมาร่วมถิ่น แอนฟิลด์ เพราะระเบิดตาข่ายในพรีเมียร์ลีกได้มากถึง 17ประตูด้วยกัน ในระยะเวลาเพียง33นัด ในขณะช่วงที่ค้าแข้งกับทีมหมาป่า เจ้าตัวได้ใช้เวลาถึง 67 นัด ถึงจะซัดไปได้16ประตูในลีก
อดาม่า " เร็ว แรง แข็ง " แต่ไร้ประโยชน์
จะว่าไปนี่ถือว่าเป็นนักเตะที่ โอเวอร์เรต สุดๆในพรีเมียร์ลีกช่วง 2-3ปีทีผ่านมาเลยก็ว่าได้สำหรับ อดาม่า ตราโอเร่ ที่บางช่วงถูกตั้งค่าตัวทะลุไปถึง 70ล้านปอนด์เลยทีเดียว เกมกับหงส์แดงเมื่อคืน "พี่กล้าม " ก็ยังโชว์ฟอร์มลงเอยแบบเดิมๆ
เรื่องของความเร็ว ความแข็งแกร่ง ไม่มีใครโต้เถียงโต้แย้งกับ อดาม่า อีกแล้ว แต่ทว่าการตัดสินใจในจังหวะการเล่นสุดท้าย ทีเด็ดทีขาด และประโยชน์สูงสุดในการเล่นให้เป็นทีม ดาวเตะชาวสเปนรายนี้ทำผิดพลาดให้เห็นเป็นระยะๆ
ความเร็ว ความแข็งแกร่ง ชนกระจุยกระจายของ อดาม่า ตราโอเร่ ดูเหมือนจะปั่นป่วน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เฟอร์จิล พาน ไดค์ ได้พอสมควร แต่ทว่าสุดท้ายแล้วก็ได้แค่นั้น
เพราะอดาม่า ดูจะติดเลี้ยงหวงบอลมากจนเกินไป ไม่สร้างประโยชน์ให้กับทีม ดูจะสบสนตลอดว่า จังหวะนั้นจังหวะนี้ควรกระชากเลี้ยงไปต่อเอง หรือจ่ายทำทางให้เพื่อน
ตลอด 88นาที ที่ได้วาดลวดลายในสนาม แข้งกล้ามโต มีการผ่านบอลเพียงแค่ 18ครั้งเท่านั้น แถมยังมีเปอร์เซ็นต์ความแม่นยำในการจ่ายบอลแค่ 61% ไม่มีการครอสบอลเข้าในเขตโทษเลย มีแค่การเรียกฟาวล์จากผู้เล่นลิเวอร์พูลได้4ครั้ง
ภาพรวมเมื่อคืนดูเหมือนเจ้าตัวจะเอ็นจอยกับฟุตบอลชายเดี่ยวมากกว่า การเล่นเป็นระบบทีม น่าเสียดายที่จุดเด่นความเร็ว ความแข็งแกร่งของดาวเตะวัย25ปีรายนี้ จะใช้ไม่ถูกทางและเกิดประโยชน์กับทีมน้อยมาก
โดยสถิติตัวเลขไม่เคยหลอกใครจริงๆ 9นัดตัวจริง และอีก4นัดในฐานะตัวสำรอง อดาม่า ตราโอเร่ ยังทำประตูหรือแอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก2021-2022 ไม่ได้เลย
หมาป่าผิดพลาดที่เปลี่ยน รายาน ไอต์ นูรี่ ออก
นอกจาก3เซ็นเตอร์แบ็กที่ผนึกกำลังกันได้อย่างเหนียวแน่นๆ รายาน ไอต์ นูรี่ วิงแบ็กซ้ายดาวรุ่ง ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน สวมวิญญาณ หมาป่าหนังเหนียวตายยาก ไม่โดนลิเวอร์พูล ถลกหนังหัวสักที
แบ็กดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสรายนี้กลับมายึดตัวจริงตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งซ้ายจาก แฟร์นันโด มาร์ชาล ได้อีกครึ่งหนึ่งหลังจากที่ช่วงต้นฤดูกาลโดนยึดตำแหน่งตัวจริงไป หากเมื่อคืนทีมหมาป่ามิดแลนด์ เก็บ1แต้มจากลิเวอร์พูลได้ วิงแบ็กวัย20ปีรายนี้ สามารถเป็น แมน ออฟ เดอะแมตช์ของทีมได้เลย
วีรกรรมของ ไอต์ นูรี่ ในนัดนี่้นั่นก็คือ การลักพาตัว โม ซาลาห์ ใส่กระเป๋า เล่นเอาสตาร์ชาวอียิปต์รายนี้แผลงฤทธิไม่ออก รวมไปจนถึงการรับมือกับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กับการพยายามครอสบอลลูกริมเส้นได้เป็นอย่างดี นี่ยังไม่นับมาช่วยตามซ้อน ซาอิสส์ จังหวะสำคัญๆ
เจ้าหนูวัย20ปีรายนี้ มีสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้ง ครอสบอลได้ 3ครั้ง / ชนะการดวล 11จาก12ครั้ง / เข้าแท็กเกิ้ล5ชนะครั้ง / เคลียร์บอล 3หน / และแย่งบอลได้ถึง 11ครั้ง นี่คือนักแตะที่ทำให้เกมฝั่งขวาของลิเวอร์พูล ติดๆขัดๆเป็นอัมพาตอย่างแท้จริง
ว่ากันว่า วูล์ฟแฮมป์ตัน น่าจะมีแต้มแน่ๆสำหรับเกมเมื่อคืน แต่ทว่าจุดเปลี่ยนสำคัญนั่นก็คือการที่ รายาน ไอต์ นูรี่ ถูกเปลี่ยนตัวออก น.90+2 (รายงานหลังเกมบอกว่ามีอาการเจ็บ) แล้วให้ คี-ยานา ฮูเฟร์ ผู้เป็นอดีตเด็กหงส์เก่าลงมาเล่นแทน
แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่2นาทีที่ คี-ยานา ฮูเฟร์ ได้ลงสนามแต่ทว่านั้นก็คือจุดเปลี่ยนของเกมอย่างแท้จริง เมื่อวิงแบ็กวัย19ปีรายนี้ พยายามเลี้ยงบอลไปข้างหน้าจนทำบอลเสีย
แทนที่จะครองบอลถ่วงเวลาไว้ รวมถึงประตูชัยของลิเวอร์พูล ก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่โดน ซาลาห์ ใช้ความเร็วแตะบอลหนีง่ายๆ ไปถวายพานให้ โอริกี้ ลงโทษ
ลิเวอร์พูล จิตวิญญาณ ของแชมเปี้ยนส์
สำหรับทีมที่จะไปถึงฝั่งฝันเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้ว จริงๆต้องมีคุณสมบัติหลายอย่างมาก ทั้งความเก่ง ความสม่ำเสมอ โชค สิ่งที่ลิเวอร์พูลฉายภาพความเป็นแชมเปี้ยนส์ออกมาเมื่อคืนนั่นก็คือ การคว้า3แต้ม ในรูปเกมที่ไม่เพอร์เฟคส์นัก
ผู้เล่นบางคนของหงส์แดงในนัดนี้โชว์ฟอร์มไม่ออก ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - ดิโอโก้ โชต้า - ซาดิโอ มาเน่ รวมไปจนถึง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เอง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็หาวิธีส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายเก็บ3แต้มกลับออกมาได้
หลังจาก ดิว็อค โอริกี้ เสกบอลให้ไปกองตรงก้นตาข่าย วินาทีนั้น ทั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ และเหล่าบรรดาผู้เล่นของลิเวอร์พูลทั้งตัวจริงและบนซุ้มม้านั่งสำรองต่างดีใจกันสุดขีดเต็มไปด้วยพาสชั่น กระโดดกอดอารมณ์ร่วมสูงเป็นอย่างมาก บ่งบอกถึงความกลมเกลียวกันในทีมได้เป็นอย่างดี
นับตั้งแต่ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาเป็นนายใหญ่แห่งถิ่น แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่ได้ประตูชัยช่วงนาทีที่ 90มากที่สุดแล้วในพรีเมียร์ลีก (13ครั้ง)
ซึ่งคาแร็กเตอร์ ของผู้ชนะที่คือสิ่งที่ เจเค ถ่ายทอดให้หงส์แดงนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวเข้ามาเป็นผู้จัดการทีม แทนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เมื่อตุลาคม2015
คล็อปป์ ทำให้ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมเครื่องจักรสีแดงเต็มตัว เอาเฉพาะในฤดูกาลนี้ พวกเขาระเบิดตาข่ายในพรีเมียร์ลีกไปได้ถึง 44ประตู จาก15นัด หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ย 2.93 ลูกต่อแมตช์ (เกือบ3ลูกต่อนัด)
ส่วนสถิติในการดวลกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ต้องบอกได้เลยว่าทีมหงส์แดงกินดิบ และเป็นต่อสุดกู่มากๆ เพราะตลอด10นัดหลังสุดที่พบกัน ลิเวอร์พูลถลกหนังหัวทีมหมาป่า ได้ราบคาบทั้ง10นัด ซัดไปได้21 และเสียไปเพียงแค่ 1เม็ดเท่านั้น
- คอลัมน์นิสต์
- 515
- 05 ธ.ค. 2564 13:30