โครงการชะลอแชมป์ ! สิงห์ โคตรเฉียบ บุกพลิกแซงเรือใบ ทดเจ็บ 2-1
เห็นฟอร์มเซลซีทั้งในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เปิดบ้านสอนบอลเอาชนะ เรอัล มาดริด 2-0 รวมถึงเกมล่าสุด ที่ลูกทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล อาจหาญบุกไปเหยียบจมูก ว่าที่แชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม 2-1 นัดชิงดำยูซีแอล ที่จะถึงคงดุเดือดเลือดพล่านไม่น้อย
เซลซี พักโครงการคว้าเแชมป์พรีเมียร์ลีกให้เร็วที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไว้ชั่วคราว เมื่อพวกเขาโชว์ฟอร์มระดับมาสเตอร์พีช ด้วยการบุกไปเอาชนะทีมเรือใบสีฟ้าคารัง 2-1โดย มาร์กอส อลอนโซ่ รับบทเป็นฮีโร่ กดประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+2
ก่อนเกม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาในระบบการเล่น 3-5-2 ใช้ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน เล่นหน้าคู่กับ กาเบรียล เซซุส พักผู้เล่นคนสำคัญๆในแนวรุกอย่าง ริยาด มาห์เรซ - เควิน เดอ บรอยน์ -ฟิล โฟเด้น รวมไปจนถึง อิลคาย กุนโดกัน
เกมในครึ่งแรกต้องบอกเลยว่าทีมดังแห่งกรุงลอนดอนทำได้ดีมากๆ มีจังหวะสวนกลับ เจ็บๆใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยตลอด แต่ว่าก็ต้องชมแนวรับระบบหลัง3ของทัพเรือใบด้วยที่เช็กล้ำหน้าได้ดีหลายครั้ง โดยเฉพาะกับในรายของ ติโม แวร์เนอร์
จะว่าไปทีมสิงห์บูลส์ก็ทั้งโชคร้ายและโชคดีในช่วงปลายครึ่ง 45นาทีแรก เพราะมาเสียประตูช่วงน.44 จากความผิดพลาดบวกโชคร้ายของ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น จนท้ายที่สุด ราฮีม สเตอร์ลิง ล่อเป้าเข้าไป แถมยังยังมาเสียจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากการเล่นที่ไม่เนี๊ยบของดาวโรจน์ของทีมอย่าง บิลลี่ กิลเมอร์
ซึ่ง ณ โมเม้นต์ นั้น หาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำประตูฉีกหนีห่างไปเป็น 2-0 จะทำให้รูปเกมทุกอย่างความได้เปรียบ การกำหนดทิศทางการเล่นต่างๆ จะอยู่ในอุ้งมือของทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์ ทันที
แต่ทว่าผู้รับหน้าที่สังหารอย่าง เอลกุน ไม่รู้ซาตานตนไหนหรืออะไรดลใจให้ตัดสินใจยิงจุดโทษแบบลูกชิพเหนือชั้นปาเนก้า แต่ทว่าก็ต้องชม เอดูอาร์ เมนดี้ เหมือนกันที่ไม่หลงพุ่งทางไปมุมใดมุมหนึ่งสุดตัว รับลูกยิงของหอกชาวอาร์เจนติน่า ให้หน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บกันเลยทีเดียว
แม้ว่าความปราชัยดังกล่าวจะไม่ได้ทำให้ โทรฟี่แชมป์หลุดมือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่อย่างใด แต่ทว่าด้วยฟอร์มของเซลซี ที่ร้อนแรงนรกแตกบวกเหนียวแน่นขึ้นมาเรื่อยๆ น่าจะทำให้เราๆเห็นภาพนัดชิงชนะเลิศที่อิสตัลบูล ว่ารูปเกมจะออกมาสูสีขนาดไหน
และต้องอย่าลืมว่า แม้จะพึ่งย้ายมายังเวทีพรีเมียร์ลีกได้ไม่ถึงได้ไม่ถึง4เดือน แต่ ทูเคิ่ล ก็ได้ประลองฝือมือเก็บ เป๊ป มาแล้วถึง2หน และสามารถโค่นลูกทีมของยอดกุนซือชาวสแปนิช ได้ทั้งสองครั้งสองคราทั้งใน เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ (1-0) รวมไปจนถึงเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุด (2-1)
โถ...เอลกุน
ภาพที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน อ้าปากตาค้างหลังจากที่ มาร์กอส อลอนโซ่ กดประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+2 น่าจะบ่งบอกถึงความผิดหวัง และรู้สึกผิดกับความผิดพลาดของตนมากๆเลยทีเดียว กับผลลัพธ์การปราชัยของทีมเมื่อคืน
เอลกุน ก่อนลงสนามก็ลุ้นที่จะล่าตาข่ายในเวทีพรีเมียร์ลีกได้เทียบเท่ากับ เวย์น รูนี่ย์ ที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 183ประตู เพราะหอกเลือดฟ้า-ขาว รายนี้ตามอยู่เพียงแค่ประตูเดียว และโอกาสดังกล่าวก็มาถึงจริงๆ
ก่อนโอกาสดังกล่าว เซร์คิโอ กุน ก็ควรที่จะสังหารประตูได้เหมือนกัน เมื่อ กาเบรียล เซซุส ที่ฉกบอลได้มาจาก อันเดรียส คริสเตียนเซ่น แล้วจ่ายตัดเข้าในมาให้ แต่ทว่า ดาวยิงวัย32ปีรายนี้กลับจับบอลลั่น จนหาจังหวะยิงไม่ได้ แต่ทว่าเดชะบุญที่บอลเด้งไปหา ราฮีม สเตอร์ลิง อัดเน้นๆเข้าไป
บิลลี่ กิลเมอร์ ที่เสียท่าให้กับ เซซุส จนทีมเสียจุดโทษ กุน ได้โอกาสที่จะใส่ชื่อบนสกอร์บอร์ดอีกครั้ง เมื่อเป็นมือสังหารเป้านิ่งระยะ12หลา วินาทีนั้น ไม่รู้มีซาตานตนไหน ไปกระซิบข้างหู ดาวยิงสูงสุดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รายนี้ ว่าให้ชิพเหนือๆแบบ ปาเนก้า
และผลลัพธ์ก็ออกมาอย่างที่เห็นนายด่านชาวเซเนกัล ไม่ได้หลงเหลี่ยมหลงทางแต่อย่างใด แม้จะกำลังพุ่งไปทางขวามือ แต่ก็เอี้ยวตัวกลับมาคว้าลูกบอลที่เบาหวิวไปได้แบบสบายๆ ส่วนกุนซือข้างสนามอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อเห็นช็อตดังกล่าวแล้วถึงขนาดส่ายหัวเดินหนีด้วยความผิดหวังแบบสุดๆ
หากจุดโทษดังกล่าวถูกส่งไปซุกบนก้นตาข่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะจบ45นาทีแรกด้วยการนำเซลซี 2-0 ทีมเรือใบสีฟ้าจะกลับมาเล่น45นาทีหลังด้วยสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป และแน่นอนว่าผลลัพธ์อาจจะไม่จบลงด้วยความพ่ายแพ้แบบนี้
เดฟ จัดการเก็บสเตอร์ลิงใส่กระเป๋า
นี่เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นในแนวรับที่โดดเด่นมากๆของเซลซีเมื่อคืน สำหรับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กัปตันเดฟเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฝั่งขวา ในระบบการเล่นหลัง3 และก็โชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี แม้อายุอานามจะปาเข้าไป31ขวบแล้ว
จากนักเตะที่เหมือนจะหมดประโยชน์ในยุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แต่ทว่าโธมัส ทูเคิ่ล ก็กลับมาขัดฉวี เจียระไน ให้กลับมาเป็นเพชรเม็ดเดิมอีกครั้ง ด้วยการกลับมาเล่นระบบหลัง3 ซึ่งเป็นระบบที่ อัซปิลิกวยต้า โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นมาตลอด
การติดประกบ ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นเงาตามตัวจนแผงฤทธิไม่ออกเวลาดวลเดี่ยวนี่คืองานที่ ดาวเตะแดนกระทิงดุรายนี้ทำได้ดีมากๆ (อาจจะยกเว้นลูกที่โดนนำ 1-0) รวมไปจนถึงลักพาตัว อเกวโร่ จนแทบจะเกือบหายไปจากสนามในครึ่งแรก
ยังไม่รวมจังหวะแอสซิสต์อันชาญฉลาด ที่ไม่เลือกตบเข้าด้านใน ที่มีแข้งแมนซิตี้ รอสกัดอยู่หลายคน แต่ อัซปิลิกวยต้า กลับเลือกตบย้อนกลับมาตรงบริเวณหัวกะโหลก ให้กับ ฮาคิม ซีเย็ค ที่ค่อนข้างว่างอยู่ แล้วสุดท้ายก็เป็นปีกชาว โมร็อกโก รายนี้ที่ซัดด้วยซ้ายเสียบเสาเข้าไป
90นาทีที่ลงสนามเมื่อคืนกัปตันทีมคนเก่งของเซลซี ไม่ได้มีทีท่าแสดงให้เห็นถึงความเหน็ดเหนื่อยเลย และต้องไม่ลืมด้วยว่า ลูกถวายพานให้ ซีเย็ค นี่คือแอสซิสต์ที่33ของเจ้าตัวในเวทีพรีเมียร์ลีกแล้ว
และทำให้แข้งแดนกระทิงดุรายนี้กลายเป็นนักเตะในตำแหน่งกองหลังของเซลซี ที่แอสซิสต์ในเกมพรีเมียร์ลีกมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า Vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้
100% ชนะการดวล
97 สัมผัสบอล (มากที่สุด)
73 ผ่านบอลสำเร็จ (มากที่สุด)
9 ชนะการดวล (มากที่สุด)
5 แท็กเกิ้ล (มากที่สุด)
3 เคลียร์บอล (มากที่สุด)
2 ตัดบอล (มากที่สุด)
1 แอสซิสต์
แวร์เนอร์ อีกครั้ง และอีกครั้ง
การวิ่งพล่านๆไปทั่วนี่คือสิ่งที่เราเห็นกันได้อย่างคุ้นตาสำหรับ ติโม แวร์เนอร์ และเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็นอีกนัดสำหรับการฉายภาพซ้ำของอดีตหัวหอก แอร์เบ ไลป์ซิก รายนี้ แวร์เนอร์ ที่ในระยะหลังๆ ได้รับความไว้วางใจจาก ทูเคิ่ล ให้เป็นหัวหอกตัวจริงของทีม ก่อน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ แทมมี่ อับราฮัม อย่างต่อเนื่อง
น่าเสียดายที่2จังหวะที่ดาวยิงสัญชาติเยอรมันรายนี้ส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย จะเป็นจังหวะล้ำหน้าไปเสียหมด (และค่อนข้างล้ำไกลด้วย) หรือจังหวะที่พยายามปั่นบอลให้อ้อมเสียบเสาไกลนอกกรอบเขตโทษนั้นก็ไม่ได้ลุ้นไม่ได้ใกล้เคียงเลย
หากจะเปรียบการเข้าทำซัดประตูของ ติโม แวร์เนอร์ หลายครั้งอาจจะดูใจร้ายไปหน่อยหากจะบอกว่า มันเหมือนกับการเอาผ้าที่เปียกน้ำ เขวี้ยงใส่คู่แข่ง ซึ่งไม่ได้มีความหนักหน่วงรุนแรงอาวุธอานุภาพการทำลายล้างไม่ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้คู่แข่งแต่อย่างใด
ภาพรวมทั้งเกมหอกอินทรีเหล็กรายนี้ โดน เอเมอริค ลาป๊อร์กส์ ประกบจนแผลงฤทธิไม่ออก แต่ทว่าก็ยังดีที่เจ้าตัว มีจังหวะแอสซิสต์แก้ตัวช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ให้ มาร์กอส อลอนโซ่ สำเร็จโทษเข้าไป
แม้จะมีสัญญาณอะไรหลายๆอย่างดีขึ้นเมื่อกุนซือคนบ้านเดียวกันอย่าง ทูเคิ่ล เข้ามาเป็นนายใหญ่แห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ทว่าในระยะยาวแล้ว เซลซียังมีความจำเป็นมากๆในการคว้าตัวกระชากกองหน้าแบบโป้งเดียวปิดบัญชี ถ้าหากอยากก้าวไปถึงการลุ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า
เพราะเมื่อเหลือบมองไปดูรายชื่อท็อปสกอร์ของทีมในเวทีพรีเมียร์ลีกเมื่อผ่านโปรแกรมไปแล้ว34นัด ผู้ที่ซัดประตูในลีกได้มากที่สุดคือ ติโม แวร์เนอร์ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ นั่นก็คือจำนวนอันแสนน้อยนิดที่ 6 ประตู เท่านั้น
ราฮีม โชคดีที่รอดใบแดง
เกือบไม่ได้ซัดประตูขึ้นนำ1-0ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียแล้ว สำหรับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เพราะตั้งแต่นาทีที่12ของเกมเจ้าตัวก็ไปทำฟาวล์น่าเกลียดใส่ ติโม แวร์เนอร์ จนได้รับใบเหลืองแทน
แต่ทว่าใบเหลืองของแข้งหมายเลข7รายนี้ จัดได้ว่าเป็นใบเหลืองแก่ๆได้เลย เพราะผู้ตัดสิน แอนโทนี่ เทย์เลอร์ ได้มีการเช็ก VAR ย้อนหลังดูความรุนแรงว่าจะเปลี่ยนคำตัดสินเป็นใบแดงได้หรือไม่ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนคำตัดสินบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นแต่อย่างใด
ซึ่งถ้าเทียบตามบรรทัดฐานจากหลายๆเหตุการณ์การเข้าทำฟาวล์รุนแรงในทำนองเดียวกันกับ ราฮีม เกมเมื่อคืน เป็นโอกาสที่สูงมากๆเช่นกันที่ ทัพเรือใบสีฟ้าจะเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10คนตั้งแต่ช่วง15นาทีแรกของเกมการแข่งขัน
ส่วนในเรื่องของฟอร์มการเล่น สเตอร์ลิ่ง คือนักเตะในแนวรุกของ ซิตี้ ที่ฟอร์มตกสุดๆในซีซั่นนี้ เพราะหลายครั้งสูญเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับเคลื่อนลูกใหม่ ฟิล โฟเด้น โดย ราฮีม ไม่มีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดให้กับทีมเลยนับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ที่่ผ่านมา
ก่อนที่สุดท้ายเจ้าตัวจะปลดล็อคซัดประตูที่10ในเวทีพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้ และที่น่าตลกร้ายกว่านั้นก็คือแม้จะโดนโจมตีวิจารณ์เป็นอย่างหนัก แต่ดาวเตะก้นงอนรายนี้นี่แหละที่เป็นรองดาวซัลโวของทีมในเกมลีก ตามหลังเพียงแค่ อิลคาย กุนโดกัน ที่กดไป12ประตู เพียงแค่รายเดียว
ยกที่3 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า Vs โธมัส ทูเคิ่ล
แมตช์เมื่อคืนถือว่าเป็นการโหมโรงอุ่นเครื่องรอบใหญ่ ก่อนเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศที่อิสตัลบูล เลยก็ว่า ได้สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เซลซี ที่มีถ้วยใบหูใหญ่ของยุโรปเป็นเดิมพัน
2หนแรกที่เจอกันระหว่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ โธมัส ทูเคิ่ล ที่อังกฤษ ผลลัพธ์ออกมาเป็นกุนซือชาวเยอรมันปราบยอดกุนซือสมองเพชรชาวสเปนได้อย่างอยู่หมัดทั้ง2นัด
เซลซี 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ( เอฟเอ คัพ)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 เซลซี (พรีเมียร์ลีก)
ทั้งที่ก่อนหน้าที่ ทูเคิ่ล จะเข้ามาเป็นนายใหญ่แห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บุกมาโชว์ฟอร์มไล่ต้อนทีมสิงห์บูลส์คาถิ่น ในยุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด 1-3 แบบเอ้าท์คลาส มวยคนละรุ่นแบบหมดหนทางรูที่จะสู้มาแล้ว
อดีตกุนซือเปแอชเชรายนี้ ใช้เวลาไม่ถึงถึง4เดือน ในการเนรมิตเซลซีจากรถยนต์ที่ใกล้ผุผัง ให้กลายเป็นรถสปอร์ตคันหรู เครื่องแรง หรูหราวัสดุพรีเมียม จากเซลซี ที่หมดทางสู้ ซิตี้ แบบราบคาบ กลายมาเป็นล้มทีมสีฟ้าเมืองแมนเชสเตอร์2นัดติด ทั้งที่กลุ่มก้อนตัวผู้เล่นก็เป็นหน้าเดิมที่มีอยู่แล้ว
แต่ทว่านัดชิง อิงลิช ไฟน่อล ที่ตุรกี อิสตัลบูล (ที่อาจเปลี่ยนมาเตะที่ วิลล่า ปาร์ค) เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คงไม่ปล่อยให้ทีมของตัวเองเสียรังวัดเป็นหนที่3ติดต่อกันแน่ เพราะศึกครั้งนี้เดิมพันด้วย แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร 29 พฤษภาคมนี้ รู้คำตอบกัน
- คอลัมน์นิสต์
- 372
- 09 พ.ค. 2564 13:24