หน้าไม่คมทั้งคู่ ! ลีดส์ เปิดบ้านเจ๊ายันเซลซี 0-0
ก่อนเกมหลายคนคงคิดว่าคงไม่ใช่งานยากสำหรับ โธมัส ทูเคิ่ล นัก กับการบุกมาควัก3แต้ม ยังถิ่น เอลแลนด์ โร้ด ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่พักหลังๆ เป๋แพ้ติดต่อกันมาหลายๆนัดอย่างน่าเกลียด
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามลูกทีมของ มาร์เชโล่ บิเอลซ่า ก็สามารถแชร์แต้มในการเจอกับเซลซีได้ หลังสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลา 90นาที สกอร์จบลงด้วยผล 0-0 ด้วยรูปเกมที่ทีมยูงทองไม่ได้เป็นรองมากนัก มีจังหวะโต้กลับเจ็บๆแสบๆให้เห็นเหมือนกัน
ในช่วง45นาทีแรกแม้ทางฝั่ง ลีดส์ ยูไนเต็ด จะครองเกมเป็นรองแต่ทว่าโอกาสการทำประตูที่จะแจ้งเป็นของทีมเจ้าบ้านอย่างเห็นได้ชัด
อย่างจังหวะยิงของ ไทเลอร์ โรเบิร์ต ที่เกือบจะย้อยเสียบเสาไปแล้ว แต่ทว่า เอดูอาร์ เมนดี้ ก็เซฟด้วยปลายมือบอลบอลกระดอนไปชนคานออกไป
รวมถึงอีกจังหวะที่เจ้าเก่าอย่าง ไทเลอร์ โรเบิร์ต ที่แทปอินง่ายๆเข้าไปแต่ทว่า คนที่จ่ายถวายพานมาให้อย่าง พาทริค แบมฟอร์ด อยู่ในตำแหน่งที่ล้ำหน้าไปก่อนประตูดังกล่าวจึงไม่เกิดขึ้น
ส่วนเซลซี ก็แทบจะครองเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จนับตั้งแต่ที่ พาทริค แบมฟอร์ด ได้รับบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 35
เพราะแข้งที่ลงมาแดนอย่าง โรดริโก้ ก็ไม่สามารถสำแดงพิษสงอะไรได้เลย มิหนำซ้ำยังถูกเปลี่ยนตัวออก น.79อีกด้วย
ฟากเซลซีก็น่าเสียดายไม่น้อยที่ ไม่สามารถควัก3แต้มกลับกรุงลอนดอนได้ แม้จะมีเกมรับที่เหนียวแน่นกับระบบเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ3คน แต่ทว่าการเข้าทำในเขตพื้นที่สุดท้าย ทีมสิงห์บูลส์ ยังขาดตกบกพร่องตลอด
ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ได้รับบทบาทให้เป็นกองหน้า FALSE 9 ก็ทำตัวได้น่าผิดหวังอีกครั้ง เมื่อพลาดโอกาสทองในการทำประตูในช่วงครึ่งแรก รวมถึงยิงทิ้งยิงขว้างในช่วง45นาทีหลัง
ไค ฮาแวร์ตซ์ กับบทบาท FALSE 9
หลังจากที่ทำหน้าที่ดังกล่าวได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะเอฟเวอร์ตัน 2-0 โธมัส ทูเคิ่ล เลยตอบแทนผลงานของวันเดอร์คิดชาวเยอรมันรายนี้ ด้วยการส่งลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งในเกมกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด
ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้รับบทบาทตัดแต่งพันธุกรรมให้มายืนในตำแหน่ง FALSE 9 อีกครั้ง เกมกับทีมยูงทองถามว่า ฮาแวร์ตช์ เล่นดีไหม ก็คงตอบได้ไม่เต็มปาก และถ้าถามต่อไปว่าแย่ไหม ก็ไม่ถึงขนาดที่ทำให้แฟนบอลด่าขนาดนั้น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สตาร์ชาวเยอรมันรายนี้ได้ลงเล่นในตำแหน่ง ฟอลส์ ไนน์ เพราะในยุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เจ้าตัวก็เคยถูกดันไปเล่นมาแล้ว แต่ไม่ค่อยเวิร์คนัก
แต่ทว่าในยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล นั้นแตกต่างกันออกไป แม้จะไม่มีประตูมาฝากในเกมกับเอฟเวอร์ตัน แต่ ฮาแวร์ตซ์ ก็มีส่วนร่วมทั้งสองประตู ทั้งยิงบอลไปแฉลบ เบน ก็อดฟรีย์ เปลี่ยนทางเจ้าประตู รวมไปจนถึงเรียกจุดโทษให้กับทีมได้
ส่วนเกมกับลีดส์ แม้ไม่มีสกอร์มาฝาก แต่ทว่าในเรื่องของการหาพื้นที่การทำประตู การประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม แข้งวัย21ปี มีพัฒนาการขึ้นมาอีกระดับหนึ่งจากยุคของ แลมพาร์ด
ไค ฮาแวร์ตซ์ มีโอกาสส่องประตูให้ทีมถึง4ครั้ง แต่ทว่า2ครั้งที่ตรงกรอบ กลับไม่ห่างตัว อิลลาน เมส์ลิเย่ร์ มากนัก มีครั้งหนึ่งที่ตรงตัวรับสบาย อีกหนต้องปัดบอลทิ้ง
กองเต้ ยังสำคัญกับทีม
ในช่วงที่ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทีมใหม่ๆ เป็นช่วงที่ประจวบพอเหมาะพอดีที่ เอ็นโกโล่ กองเต้ มีอาการบาดเจ็บและต้องพักรักษาตัว ทำให้คู่มิดฟิลด์ของเซลซีตอนนั้นเป็น จอร์จินโญ่ และ มัตเตโอ โควาซิซ
ซึ่งทั้งสองกองกลางชาวอิตาลีและโคเอเชีย ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีโคตรๆ ทำให้เกมในแดนกลางของเซลซีมีความสมดุล คำถามจึงตกมาอยู่ที่ว่าแล้วตำแหน่งของ เอ็นโกโล่ กองเต้ ละ ?
มิดฟิลด์จอมขยันชาวฝรั่งเศส เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาก็ค่อยๆได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และทำได้ดีมากๆในเกมที่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0
สิ่งที่ กองเต้ มีมากกว่าทั้ง จอร์จินโญ่ และ มัตเตโอ โควาซิซ นั่นก็คือความขยัน รวมไปจนถึงการทำงานสรกปกปัดกวาดเช็ดถู ก่อนที่บอลจะไปถึงทรีโอ 3เซ็นเตอร์แบ็ก
อดีตกองกลางเลสเตอร์ ซิตี้ เปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่คอยขับเคลื่อนเกมในแดนกลางของเซลซี นอกจากจะรับแล้ว จังหวะที่ต้องรุก กองเต้ ยังมีช็อตสวยๆกระชากไปยังหน้าเขตโทษของคู่แข่งได้อีกด้วย
สถิติ เอ็นโกโล่ กองเต้
106 สัมผัสบอล
88% ผ่านบอลแม่นยำ
11 แย่งบอล
5 เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง
4 เคลียร์บอล
3 แท็กเกิ้ล
3 สร้างสรรค์โอกาส
2 ตัดบอล
1 บล็อค
1 โอกาสยิงประตู
ที่ไหนมีบอล... ที่นั่นมี เอ็นโกโล่ กองเต้
เซลซี กับ กองหน้า ?
น่าแปลกใจเหมือนกันที่ไลน์อัพ 11ผู้เล่นตัวจริงของเซลซีไม่มีศูนย์หน้าอาชีพ ทั้งที่ ติโม แวร์เนอร์ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ก็ฟิตไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มีเพียงแค่ แทมมี่ อับราฮัม ที่ยังเดี้ยงอยู่
มองอย่างให้เข้าใจ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมัน อาจจะมองว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่เล่นเกมเพรสซิ่งดี จึงอาจจะตัดสินใจตัดโควต้ากองหน้าออก แล้วเอาผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์มาเล่นเป็น ฟอลส์ ไนน์
ซึ่งการเลือก ฮาแวร์ตซ์ อาจจะหมายถึง การให้วันเดอร์คิด ชาวเยอรมันรายนี้ มาแย่งไล่บอลเพรสซิ่งในบางจังหวะที่ ทีมยูงทองกำลังเซ็ตบอลจากแดนหลัง
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามผลการแข่งขันจะเป็นตัวบ่งบอกว่าแผนของผู้จัดการทีมถูกหรือผิด ซึ่งผลลัพธ์ 0-0 ที่เอลแลนด์ โร้ด ก็เป็นเครื่องสะท้อนว่าแท็กติกหรือการเลือกจัดทีมของ ทูเคิ่ล ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่
ในกรณีของ ติโม แวร์เนอร์ พอเข้าใจได้เพราะอดีตหอกไลป์ซิกรายนี้ ถึงแม้จะมีฟอร์มการเล่นที่ชัดเจนมากขึ้นในยุคของทูเคิ่ล การมีส่วนร่วมกับประตู
รวมถึงความมั่นใจนี่คือสิ่งที่ แวร์เนอร์ พัฒนาขึ้นมาจากยุคของแลมพาร์ด แต่การจบสกอร์จังหวะสุดท้าย หอกชาวเยอรมันรายนี้ยังทำได้ไม่ดีนัก
น่าคิดเหมือนกันว่าในยามที่เซลซีเกมตื้อๆ ทูเคิ่ล น่าจะลองวัดด้วยการส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงมากดดันลูกกลางอากาศกับแนวรับของ ลีดส์ ยูไนเต็ด
ถึงแม้จะเข้าๆออกๆระหว่างตัวจริงกับตัวสำรอง แต่หอกชาวฝรั่งเศสรายนี้ ก็เป็นรองอันดับ2ดาวซัลโวของทีมรวมทุกรายการ เมื่อซัดไปได้ 11ประตู มีแค่ แทมมี่ อับราแฮม ที่เหนือกว่า (12ประตู)
อิลลาน เมส์ลิเย่ร์ การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของลีดส์
ตอนออกสตาร์ตฤดูกาล หลายคนน่าจะงงมากๆว่า อิลลาน เมส์ลิเย่ร์ คือใครว่ะ? กับผู้รักษาประตูวัยเพียงแค่21ปี ที่ต้องมารับหน้าที่โคตรกดดันในเวทีลีกสูงสุดอังกฤษ
โกลวัยละอ่อนชาวฝรั่งเศสรายนี้ โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมากๆอีกหนึ่งนัด เมื่อเจ้าตัวเซฟลูกยิงที่ตรงกรอบของเซลซีได้ถึง 8ครั้ง การยืนตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมทำให้เจ้าตัวเซฟลูกสำคัญๆได้หลายหน
ช็อตเชฟลูกยิงของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่กำลังจะแสกหน้าเจ้าตัวเข้าประตูไป คือหนึ่งในโมเม้นต์สำคัญของเกมได้เลย
รวมไปจนถึงการออกมาตัดลูกครอสจากด้านข้างของเซลซี เมส์ลิเย่ร์ ก็ทำได้ดีอย่างไร้ที่ติ ทั้งลูกเลียด และลูกกลางอากาศ
แม้ว่าทัพยูงทองจะเสียไปถึง 46ประตูในพรีเมียร์ลีก แต่นั่นก็เป็นเพราะสไตล์การเล่นของกุนซืออย่าง มาร์เชโล่ บิเอลซ่า ที่ออกแบบให้ทีมเล่นอย่าง กล้าบ้าบิ่น พร้อมได้พร้อมโดน
แต่การเก็บได้ถึง 8คลีนชีต จาก28 เกมพรีเมียร์ลีก ซึ่งถือว่าไม่เลวเลยสำหรับโกลหน้าใหม่ของเวทีพรีเมียร์ลีก อย่าง อิลลาน เมส์ลิเย่ร์
ทิศทางของ ซิเย็คและพูลิซิซ
การที่ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาปรับเปลี่ยน INFORMATION รวมถึงแท็กติกการเล่นใหม่แบบใหม่ ที่ให้โอกาสผู้เล่นในตำแหน่งวิงแบ็กมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มเซ็นเตอร์ฮาร์ฟเข้ามาอีก1คนในระบบหลัง3 ทำให้ผู้เล่นในตำแหน่งแนวรุกริมเส้นโอกาสลงสนามต้องลดน้อยถอยลง
คริสเตียน พูลิซิซ และ ฮาคิม ซิเย็ค คือแข้งนักเตะที่ได้รับผลกระทบกับแผนการเล่นดังกล่าว ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่านี่เป็นครั้งแรกที่ พูลิซิซ ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงนัดแรกในยุคของ ทูเคิ่ล
ดาวเตะชาวสหรัฐ อเมริกา แม้จะเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด(วิงแบ็ก) แต่ก็โชว์ฟอร์มวูบวาบมากๆในครึ่งแรก ก่อนที่จะเงียบหายไปในครึ่งหลัง
แต่ทว่าอย่างน้อยเจ้าตัวก็มีสัญญาณที่ดีขึ้นหลังจากที่หายเจ็บกลับมาได้ระยะหนึ่ง เมื่อหาโอกาสซัดประตูได้ถึง 3ครั้ง จ่ายคีย์พาสได้อีก1หน
ส่วน ฮาคิม ซิเย็ค ที่เคยเปรี้ยงป้างมากๆ ในช่วงหนึ่งของยุคกุนซืออย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด (ก่อนที่จะเจ็บไปอีกรอบ) ภาพรวมปีกชาวโมร็อกโก แทบไม่ได้สร้างอิมแพคอะไรในเกมรุกของเซลซีเลย
รวมไปจนถึงการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมที่ยังดูติดๆขัดๆ และโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 69 ซิเย็ค สัมผัสบอลน้อยกว่าทุกคนในทีมเซลซี และผ่านบอลเข้าเป้าแค่ 71% เท่านั้น
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามอดีตดาวเตะอาแจ็กซ์รายนี้ อย่างน้อยก็ยังจ่ายคีย์พาสได้ถึง3ครั้งมากที่สุดในทีม เลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นลีดส์ถึง 2ครั้ง
- คอลัมน์นิสต์
- 479
- 14 ม.ค. 2564 16:43