ถ้วยนี้ของข้า ! ลาป๊อร์กต์ โชกชัย เรือเชือดไก่ 1-0 ซิวคาราบาว คัพ
แม้ว่าสกอร์จะออกมาเฉียดฉิวแค่ 1-0 แต่ทว่าด้วยรูปเกมรวมถึงทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เป็นฟุตบอล ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส แพ้อย่างราบคาบเลยก็ว่าได้ ทั้งรูปเกม เปอร์เซ็นต์การครองบอล โอกาสการทำประตู รวมไปจนถึงความยืดหยุ่นในรูปแบบแผนการเล่น
เอเมอริค ลาป๊อร์กต์ ที่ในซีซั่นปัจจุบันตกเป็นตัวสำรองของคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟอย่าง รูเบน ดิอ๊าซ และ จอห์น สโตนส์ ก็สวมบทฮีโร่ โขกประตูชัย น.82 พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เถลิงแชมป์แรกของฤดูกาล ด้วยถ้วย คาราบาว คัพ ได้สำเร็จ
การคว้าแชมป์คาราบาวคัพ (ลีก คัพ) ดังกล่าว ส่งผลให้ทัพเรือใบสีฟ้าเป็นเจ้าแห่งถ้วยใบเล็กสุดของเกาะอังกฤษตัวจริงเสียงจริง เพราะนี่คือการคว้าแชมป์ดังกล่าวของของทีม ได้เป็นสมัยที่4ติดต่อกันเข้าให้แล้ว 2018 / 2019 / 2020 / 2021 และยังเป็นหนที่3ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกด้วย
ฟากทางฝั่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส นี่ก็เป็นอีกครั้งที่พลพรรคคลับไก่ ต้องชวดการคว้าโทรฟี่แชมป์แรกมาประดับสโมสร ทำให้การรอความความสำเร็จของทีมไก่เดือยทองต้องรอไปมากกว่า13ปีเข้าให้แล้ว
ซึ่งแชมป์สุดท้ายที่พวกเขาเคยได้สัมผัส ก็คือถ้วย ลีก คัพ เมื่อปี 2008 นี่แหละ ในยุคของกุนซือ ฆวนเต้ รามอส
ความปราชัยดังกล่าวเราจึงได้เห็น ซน ฮึง-มิน ถึงขนาดนั่งลงร้องไห้หลังสิ้นสุดเสียงนกหวีด90นาที ซึ่งนี่เป็นอีกเกมที่โอปป้าซน แผลงฤทธิไม่ออกเลย เมื่อบอลไม่ค่อยมาถึงเจ้าตัว ส่วน แฮร์รี่ เคน ที่อุตส่าห์สลัดอาการเดี้ยงลงสนามช่วยทีม แต่ทว่าก็เป็นเกมที่่หอกเบอร์1ทีมชาติอังกฤษรายนี้เงียบเป็นเป่าสากไปเลย
ความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องของถ้วยรางวัลความสำเร็จว่ากันว่านี่อาจเป็นอีกหนึ่งปฎิกิริยา ที่อาจทำให้ แฮร์รี่ เคน ตัดสินใจอำลา ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส เพื่อโอกาสในการคว้าความสำเร็จมากกว่า มีที่ไหน ดาวยิงที่ซัดประตูให้สโมสรมากถึง 219ประตู รวมทุกรายการ จะไม่เคยได้แชมป์เลยแม้แต่หนเดียว
ความพ่ายแพ้ของสเปอร์ส ดังกล่าว อีกหนึ่งกลุ่มบุคคลที่สมควรโดนตำหนิด้วยนั่นก็คือทีมงานทางฝั่งบอร์ดบริหาร ที่ตัดสินใจด่วนปลด โชเซ่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่งเร็วเกินไป เพราะเกมบอลด้วยที่มีความหมายนัดเดียวจอดแบบนี้ กุนซือชาวโปรตุเกส น่าจะมีแท็กติกทีเด็ดที่พอจะพลิกเกมหารูชนะได้บ้าง
ไรอั้น เมสัน กุนซือหนุ่มวัย29ปี ที่มีประสบการณ์คุมทีมใหญ่เพียงแค่นัดเดียว ต้องมาด้วยกับกุนซือผู้ผ่านสิงห์เหนือเสือใต้ ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
บางทีผลลัพธ์ของเกมมันอาจจะรู้หรือคาดเดากันได้ จากคุณภาพของผู้จัดการทีมก่อนที่จะลงสนามด้วยซ้ำ
เกมแทบจะจบตั้งแต่ 45นาทีแรก
ไม่ได้ดูหมิ่นหรือดูแคลน สเปอร์ส แต่อย่างใด เพราะรูปเกมตลอด45นาทีแรก แม้สกอร์จะยังตรึงอยู่ที่ 0-0 แต่ทว่าสิ่งที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำกับทีมไก่เดือยทองนั้น เรียกว่า เอ้าท์คลาส หรือเป็นบอลที่เหมือนผู้ใหญ่รังแกเด็กได้เลยก็ว่าได้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วางแผนแท็กติกการเล่นไม่ให้ พลพรรคกลับไก่ลืมตาอ้าปากหายใจเลยก็ว่าได้ ครึ่งแรกสิ่งเดียวที่ทีมเรือใบสีฟ้าขาดอยู่นั่นก็เพียงสกอร์ปลดล็อคขึ้นนำเท่านั้น ราฮีม สเตอร์ลิง - ฟิล โฟเด้น และ เควิน เดอ บรอยน์ ริยาด มาห์เรซ ที่คือบรรดาเหล่านักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ปั่นป่วนแนวรับสปอร์สเป็นอย่างมาก
ราฺฮีม ที่ยิงไปติดบล็อคของ เอริค ดายเออร์ / โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ที่บล็อคลูกยิงจ่อๆของ ฟิล โฟเด้น ได้อย่างไม่น่าเชื่อ รวมไปจนถึงช็อตซุปเปอร์เซฟของ โยริส กับ ลูกยิงที่จะเสียบมุมเข้าไปของ ชูเอา กานเซโล่ นี่คือโอกาสจะๆที่ลูกทีมของ เป๊ป ควรจะขึ้นนำ
หลังเป่านกหวีดหมดเวลา 45นาทีแรก คนที่โล่งใจกว่าใครของนักเตะสเปอร์ส เห็นที่จะเป็นแบ็กซ้าย-ขวาอย่าง เซร์คิโอ เรกิลอน และ แซร์ช โอริเย่ร์ ที่โดนพาทัวร์ตลอดทั้งเกม
สถิติในครึ่งแรกนั้นเอกฉันท์มากๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และสเปอร์ส เองก็โชคดีมากๆแล้ว ที่ครึ่งแรกไม่เสียประตูเลยแม้แต่เม็ดเดียว
โอกาสยิงประตู : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 / สเปอร์ส 1
เปอร์เซ็นต์การครองบอล : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 64 / สเปอร์ส 36
แฮร์รี่ เคน รีเทิร์น
แม้จะเป็นที่หวาดเสียวอยู่ไม่น้อยว่า ดาวยิงคนเก่งอย่าง แฮร์รี่ เคน จะฟิตกลับมาลงสนามในนัดชิงชนะเลิศนี้ได้หรือไม่หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บในเกมที่เสมอกับเอฟเวอร์ตัน 2-2 และชวดลงเล่นในเกมที่เฉือนเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1
แต่ทว่าในท้ายที่สุด เคน ก็ผ่านความฟิตลงสนามบู๊ให้สเปอร์สในนัดชิงดำสุดสำคัญนี้ได้ แต่ทว่านี่เป็นอีกหนึ่งเกมที่หอกวัย28ปี แผลงฤทธิ์แผลงศรไม่ออกเลย เพราะเจอการควบคุมเกมคอนโทรลลูกบอลแบบเบ็ดเสร็จข้างเดียวของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แฮร์รี่ เคน เมื่อแทบไม่ได้บอล อันตรายในเกมบุกของสเปอร์สก็ลดน้อยถอยลงไปด้วย นอกจากต้องเจอการประกบติดแบบรดต้นคอจากคู่เซ็นเตอร์อย่าง รูเบน ดิอ๊าซ และ เอเมอริค ลาป๊อร์กต์ แล้วยังมีมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง แฟร์นันดินโญ่ เข้ามาป่วนอีกราย
เคน ที่เท้าบอดในนัดนี้ เชื่อว่าไม่มีแฟนบอล ยิด อาร์มี่ คนไหนโทษดาวยิงทีมชาติอังกฤษ รายนี้เลย เนื่องด้วยเข้าใจในคุณภาพนักเตะ รวมไปจนถึงฝีมือของผู้จัดการทีมทั้งสองฝั่งที่ดูจะห่างชั้นกันเป็นอย่างมาก สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าความพ่ายแพ้
นั่นก็คืออนาคตของ แฮร์รี่ เคน ที่ไม่รู้เจ้าตัวจะคิดอย่างไรกับสถานปัจจุบันของตัวเอง ที่อายุมากขึ้นทุกวัย แต่ยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการใดๆเลย ถ้วยโทรฟี่และแชมป์นี่คือสิ่งที่ ดาวยิงหมายเลข10ของทีมรายนี้ โหยหาและต้องการมาโดยตลอด ทั้งที่มอบทุกความสามารถสิ่งทุกอย่างให้กับสเปอร์สหมดแล้ว
แฮร์รี่ เคน Vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้
33 สัมผัสบอล
22 ผ่านบอล
2 เคลียร์บอล
1 แท็กเกิ้ล
1 เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง
0 สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อน
0 โอกาสยิงประตู
สเปอร์ส น่าจะใส่ เอ็นดอมเบเล่ เป็นตัวจริง
แม้ว่ามันจะไม่มีอะไรการันตี การวิเคราะห์ต่างๆนาๆหลังจบเกม การเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อาจไม่สามารถแปรเปลี่ยนอะไรบางอย่างในสนามได้ แต่ทว่าเมื่อคืนเป็นเกมที่น่าเสียดายไม่น้อยเลยสำหรับสเปอร์ส กับการเลือกจัดตัวผู้เล่น
เกมนี้กุนซือหนุ่มใช้คู่มิดฟิลด์เป็น ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก การเลือกใส่มิดฟิลด์ชาวเดนมาร์กรายนี้ ไม่มีใครเคลือบแคลงสงสัยเลย เพราะนี่คือหนึ่งในห้องเครื่องของทีมที่ ถ้าไม่เจ็บ ไม่ลา ไม่สาย ไม่แบน อดีตแข้งเซาธ์แธมป์ตันรายนี้คือตัวเลือกอันดับ1ในตำแหน่งกองกลาง
แต่ทว่าพาร์ทเนอร์ อีกคนที่ถูกส่งลงสนามกลับเป็น แฮร์รี่ วิงค์ส ที่ซีซั่นนี้แทบไม่ค่อยถูกส่งลงสนามเลย นัดชิงดำนี้เห็นได้ชัดเจนว่าเกมในแดนกลางของ สเปอร์ส เป็นรองทีมดังจากเมืองแมนเชสเตอร์ อย่างสุดกู่ เมื่อทีมไม่สามารถเก็บบอลหรือแก้จังหวะโดนเพรสซิ่งได้เลย
เกมในลักษณะนี้ไก่เดือยทองจำเป็นมากๆที่ต้องหานักเตะที่ Build up เกมจากแดนกลาง ขึ้นไปหากองหน้าหรือบรรดาผู้เล่นในแนวรุกพื้นที่ที่สามได้ซึ่ง ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ คือนักเตะที่มีออปชั่น และความสามารถที่จะทำในสิ่งที่สเปอร์สขาดหายไปในเกมนี้ได้
น่าเสียทายที่ ไรอั้น เมสัน กุนซือหนุ่ม ไม่เลือกส่งมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส รายนี้ลงสนามเลยแม้แต่ในโควต้าตัวสำรองทั้ง4คน
เซร์คิโอ เรกีลอน บ่อน้ำมันของไก่นัดชิง
นี่คือหนึ่งในนักเตะของ สเปอร์ส ที่ทำตัวผิดหวังมากที่สุดคนหนึ่ง แบ็กซ้ายสเปนรายนี้ เปรียบเสมือนขุมทรัพย์บ่อน้ำมัน ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฉกฉวยโอกาสโจมตีได้หลายครั้งเลยทีเดียว นัดนี้เหมือน เซร์คิโอ เรกีลอน จะดูประหม่าและตื่นเต้นมากไปหน่อยสำหรับเกมนัดชิง
ภาพที่เราเห็นจนชินตาในแมตช์นี้สำหรับ เรกีลอน นั่นก็คือการโดน ริยาด มาห์เรซ มาทัวร์เผาเครื่องหลายครั้งหลายหน รวมไปจนถึงความผิดพลาดขั้นเบสิค ที่แข้งวัย24ปีรายนี้ เรียกเสียงสบถ จากแฟนบอล ยิดอาร์มี่ พอสมควร
โดยเฉพาะจังหวะในการทำเกมรุกที่นานๆที่สเปอร์สจะมีครั้ง ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก ที่ได้บอลในเขตโทษ แล้วไหลไปทางด้านซ้ายให้ เรกีลอน เข้ามาเติมเพื่อครอสเข้าไป แต่ทว่าแบ็กแดนกระทิงดุรายนี้กลับไม่เติมขึ้นไปตามนัดซะงั้น ทำบอลเสียออกหลังไปดื้อๆ
เรกีลอน ทำบอลเสียหลายหนจนเป็นเหตุที่ทำให้ทีมมีโอกาสโดน ซิตี้ ล่อเป้าหลายครั้ง รวมไปจนถึงจังหวะที่ต้องครองบอล จ่ายบอลเนี๊ยบๆ อดีตแข้ง เรอัล มาดริด รายนี้ทำได้ไม่เนียนตาเลย การยืนตำแหน่งของ เรกีล่อน เมื่อคืนก็หลุดและเหม่อต่อ ริยาด มาห์เรซ หลายหนด้วยกัน
รวมไปจนถึงการไปโดนใบเหลืองแบบไม่น่าโดน จาการไปสอย เควิน เดอ บรอยน์ ตั้งแต่ น.27 ทำให้เจ้าตัวต้องเล่นอย่างลำบากตลอดช่วงเวลาที่เหลือของเกม
เรกีลอน เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 0ครั้ง ตัดบอลได้แค่1ครั้ง บล็อคลูกยิงได้1ครั้ง และครอสบอลได้แค่เพียง1หนเท่านั้น ทั้งที่เล่นในตำแหน่งแบ็ก
ฟิล โฟเด้น อายุน้อย ร้อยความสำเร็จ
นี่เป็นอีกหนึ่งขวบปีที่ยิ่งใหญ่ของ ฟิล โฟเด้น เลยก็ว่าได้เพราะขยับจาก แข้งนักเตะดาวรุ่งของทีมขึ้นมาเป็นหนึ่งในกำลังหลักสำคัญในแนวรุกคนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปแล้ว
เกมนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ เมื่อคืนแม้ไม่มีสกอร์หรือแอสซิสต์มากฝากแฟนบอล แต่ทว่าการเคลื่อนที่ของ แข้งดาวรุ่งวัย20ปีรายนี้ มีประโยชน์ต่อรูปแบบการเล่นของทีมเรือใบสีฟ้ามากๆ
สกิลความสามารถของ โฟเด้น สามารถปั่นป่วนแรวรับของ สเปอร์ส ได้หลายหนด้วยกัน น่าเสียดายที่ ลูกซัดเหน่งๆของเจ้าตัวในกรอบเขตโทษ ไปโดนบล็อคของ โทบี้ อันเดอไวเรลด์ ชนเสาออกหลังไป
2คีย์พาส 2 เลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นสเปอร์ส 92%ผ่านบอลแม่นยำ นี่คือผลงานเด่นๆของ โฟเด้น เมื่อคืนนี้ เซร์คิโอ เรกิลอน และ โจวานี่ โล เซลโซ่ คือเหยื่อสองแข้งของทีมคลับไก่ ที่โดนแข้งดาวรุ่งนรกแตกรายนี้ หลอกล่อจนเสียเชิง
นอกจากความสามารถทางด้านลูกหนังที่พร้อมจะพัฒนาขึ้นไปได้อีกเรื่อยๆแล้ว สปิริต ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา นี่คือสิ่งที่โฟเด้น แสดงให้เห็นในนัดนี้ กับภาพการปลอบใจ ซน ฮึง-มิน ที่ทรุดร้องไห้ในสนามหลังความพ่ายแพ้
ฟิล โฟเด้น ในวัย20ปี
118 เกม
63 ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง
29 ประตู
21 แอสซิสต์
4x ลีก คัพ
2x คอมมิวตี้ ชิลด์
2x พรีเมียร์ลีก
1x เอฟ เอคัพ
- คอลัมน์นิสต์
- 444
- 26 เม.ย. 2564 15:22