ร่างทองหลายคน ! ผี แรงต่อเนื่อง ถลุง บอร์นมัธ 3-0 เด เคอา เซฟ ท่ายาก
เล่นด้วยสไตล์แบบนี้ คว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้ เกมรุกดุดันเร้าใจ นี่คือฟอร์มของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำให้แฟนบอลสาวกปีศาจแดงยิ้มแก้มปริอยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาพวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ ทีมน้องใหม่ท้ายตารางอย่าง บอร์นมัธ ไป 3-0 ชนิดที่รูปเกมเป็นฝั่งของลูกทีมของ เอริก เทน ฮาก เหนือกว่าด้วยประการทั้งปวง
เกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระเบิดฟอร์มแจ่มไฉไล เอาชนะ บอร์นมัธ ไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก 3-0 โดยทั้ง3เม็ด มาจากการยิงไม่ซ้ำหน้ากันของ กาเซมิโร่ น.23 - ลุค ชอว์ เติมสูงมาซัด น.49 และปิดท้ายด้วยลูกยิงจ่อๆของ มาร์คัส แรชฟอร์ด น.89
ไม่ใช่เพียงแต่สกอร์เท่านั้นที่ขาดลอย แต่ทว่ารูปเกมทุกๆอย่างที่เป็นฟุตบอล ทีมสีแดงเมืองแมนเชสเตอร์ เหนือกว่าผู้มาเยือนจากแดนใต้ชัดเจน การต่อบอลที่ไหลลื่นในพื้นที่แคบๆ เวลาโดนเพรสเมื่อคืน ทำให้คนดูลืมไปได้อย่างสนิทใจว่า แมนฯยูไนเต็ด เคยมีปัญหาลำเลียงบอลจากหลังไปกลาง มาอย่างช้านาน
เกมนัดนี้กุนซือ เอริก เทน ฮาก ปรับทัพหลายตำแหน่งด้วยกัน เนื่องด้วยโปรแกรมการแข่งขันค่อนข้างซอยถี่ยิบ เราจึงได้เห็นพี่เขากลับมาอีกครั้ง สำหรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ออกสตาร์ทเป็น11ตัวจริง ยืนกับเซ็นเตอร์คู่ขาอย่าง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ แถม ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ยังได้ลงเป็นตัวจริง ในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ พร้อมขยับ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ไปเป็นตัวรุกด้านขวา
กาเซมิโร่ ยังเล่นได้อย่างดุดันไม่เกรงใจใครอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่เกมรับเท่านั้นที่ " พี่เกษม " ทำได้ดีในเรื่องของการตัดบอล เข้าสกัด แต่ทว่าในเรื่องของวิสัยทัศน์การจ่ายบอล เจ้าตัวก็ทำได้ในระดับดีเลิศอีกด้วย แถมยังมีประตูมาฝากในนัดนี้ จากการสอดขึ้นไปยิงลูกฟรีคิก ของ คริสเตียน อิริคเซ่น
ส่วน ลุค ชอว์ ที่เล่นเป็นเซ็นเตอร์(แก้ขัด) มาอย่างโดดเด่นใน2เกมก่อนหน้ากับ ฟอเรสต์ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน พอมาเมื่อคืน เจ้าตัวได้กลับไปเล่นในตำแหน่งที่ถนัดแบ็กซ้ายและก็ยังทำผลงานร่างทองได้ดีต่อเนื่อง รุกรับได้อย่างสมดุล เติมเกมดี เสียบอลยาก แถมยังมีประตูมาฝาก จากลูกยิงด้วยเท้าขวาข้างที่ไม่ถนัดอีกด้วย
แม้รูปเกมจะเป็นทางฝั่งปีศาจแดงที่เหนือกว่าชัดเจน แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่า บอร์นมัธ ของ กุนซือ แกรี่ โอนีล ก็มีโอกาสสวนกลับแสบๆเหมือนกัน โดยเฉพาะในรายของ ไจดอน แอนโธนี่ ที่ได้ยิงเหน่งๆ 2ครั้ง แต่ทว่าโดนความยอดเยี่ยมของ ดาบิด เด เคอา เซฟไว้ได้อย่างไม่มีที่ติ รวมไปจนถึงลูกโด่งของ บอร์นมัธ เอง ดูจะโจมตีคู่เซ็นเตอร์ของ ยูไนเต็ด ได้ไม่น้อย
3คะแนนดังกล่าวทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยในลีกได้ 4นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว แถมยังอยู่อันดับ 4 มีแต้มเท่ากับอันดับ3นิวคาสเซิ่ล ที่แข่งมากกว่าพวกเขา1นัด แต่ ปีศาจแดง ยังเป็นรองเรื่องประตูได้เสีย แถมยังทิ้งห่างทีมอันดับ5อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส มากถึง5แต้มอีกด้วย
กาเซมิโร่ ดี ดุดัน ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง
ตอนย้ายจากเครื่องแบบชุดขาวมาสวมเครื่องแบบปีศาจแดงใหม่ๆ ดูน่ากังวลเล็กน้อยเหมือนกันสำหรับ กาเซมิโร่ เพราะเจ้าตัวก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกับการปรับตัวและรอโอกาส ให้ได้ลงสนามเป็น11ตัวจริง หรือช่วงที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ก็ยังดูแปลกๆเหมือนกันสำหรับแข้งชาวบราซิลรายนี้
แต่ทว่าหลังปรับตัวได้ และยึดตำแหน่ง11ตัวจริงได้สำเร็จ นั่นก็ไม่มีอะไรหยุดยั้ง กาเซมิโร่ ได้เลย นี่เป็นอีกนัดแล้วนัดเล่าที่ " พี่เกษม " โชว์คลาสโชว์ฟอร์มได้เด็ดดวงสุดๆ เอาในเรื่องของเกมรับ เจ้าตัวก็ทำได้ในแบบมาตรฐานของตัวเองมาตลอด นั่นก็คือความดุดันในการเข้าบอล ชิงจังหวะการเล่นต่างๆ
เกมรับไม่มีใครสงสัยในตัวมิดฟิลด์แซมบ้ารายนี้อยู่แล้ว ยิ่งมาเจอคู่มิดฟิลด์บอร์นมัธที่อ่อนชั้นกว่าอย่าง เจฟเฟอร์สัน เลอมาร์ กับ ลูอิส คุ๊ก ทำให้กลายเป็นงานหวานเจี๊ยบขนมกรุบเลย ส่วนเกมรุก อดีตกองกลาง เรอัล มาดริด ก็มีทีเด็ดเหมือนกัน ในเรื่องของการจ่ายบอล ไปข้างหน้า ทีค่อนข้างแม่นยำและหวังผลเป็นคีย์พาสได้
นอกจานี้แล้ว กาเซมิโร่ ยังการันตีความยอดเยี่ยมด้วยการทำประตูแรกใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้ด้วยการเติมขึ้นไปสอดยิงลูกฟรีคิกของ คริสเตียน อิริคเซ่น ได้อย่างเหมาะเหม่งลงตัวสุดๆ
กาเซมิโร่ สัมผัสบอล70ครั้ง / เอาชนะการครอบครองบอลได้11ครั้ง / ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย6ครั้ง / ผ่านบอลสำเร็จ 59หน ด้วยฟอร์มแบบนี้ทำให้แฟนปีศาจแดง ลบฝันร้ายจากมิดฟิลด์คู่กลางอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ และ เฟร็ดไปได้แบบปลิดทิ้ง
ชอว์ร่างทอง หรือ ชอว์แบร์โต้ คาร์ลอส
หยิบจับเล่นตำแหน่งไหนก็ดีไปหมดจริงๆสำหรับ ลุค ชอว์ ณ วินาทีนี้ หลัง2เกมก่อนหน้ากับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน ดาวเตะก้นงอนถูกจับดัดแปลงให้ไปยืนเป็นเซ็นเตอร์ และทำได้อย่างไม่มีที่ติได้รับคำชมเป็นอย่างมาก
โดยกับบอร์นมัธ เมื่อคืน ลุค ชอว์ ได้กลับไปยืนในตำแหน่งที่ถนัดอีกครั้งนั่นก็คือแบ็กซ้าย และเจ้าตัวก็องค์ลงอย่างต่อเนื่องร่างทองเป็น " ชอว์แบร์โต้ คาร์ลอส " เกมรับไม่มีข้อผิดพลาดอะไรน่าเกลียด เกมรุกนั้นเจ้าตัวทำได้ ดุดัน เร้าใจแฟนๆเหลือเกิน
ประตู 2-0 ที่ ลุค ชอว์ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย จุดเริ่มต้นก็มาจากเจ้าตัวนี่แหละที่ ค่อยๆแกะบอลที่โดนเพรสในเขตโทษตัวเอง แล้วทำชิ่งกับ แรชฟอร์ด ค่อยๆเลี้ยงตะลุยขึ้นมากจากฝั่งซ้าย ป้ายไปให้ บรูโน่ แตะต่อให้ กานาร์โช่
ก่อนที่เจ้าหนูดาวรุ่งเบอร์49 จะเบิ้ลเข้ามาตรงกลางในเขตโทษ ให้ ลุค ชอว์ ที่สอดเข้ามาในเขตโทษ ยิงด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัดผ่านมือ มาร์ค เทรเวอร์ส เข้าไปอย่างสุดสวย เป็นจังหวะการเข้าทำที่แสดงให้เห็นความยอดเยี่ยมของทีมเวิร์คอย่างสุดๆ ส่วนลูก 3-0 ก็เป็น ชอว์ คนนี้นี่แหละที่วางบอลยาวคีย์พาสไปให้ บรูโน่ แฟร์นันเดซ แอสซิสต์ ถวายพานให้ แรชฟอร์ด
เมื่อคืน ลุค ชอว์ ได้สัมผัสบอลมากถึง 117 ครั้ง / เอาชนะการครอบครองบอล 12ครั้ง / ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย10ครั้ง โดยประตูดังกล่าวที่แบ็กซ้ายก้นงอนรายนี้ทำได้ นี่คือลูกแรกของเจ้าตัวที่สนาม โอลด์ แทร็ฟอร์ด นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2018 เลยทีเดียว
" เดอะ คิง " แม็คไกวร์ รีเทิร์น
หายหน้าหายตาจากการได้ลงสนามเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกไปนานเลย สำหรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ โดยหลังกลับมาจากบอลโลก ก็กลายเป็น ลุค ชอว์ ที่ทำหน้าที่ขัดตราทัพเซ็นเตอร์ได้เป็นอย่างดี จนกองหลังหัวแตงโมรายนี้ทำได้แค่นั่งบนม้านั่งสำรอง
ซึ่งหนสุดท้ายที่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในลีก ต้องย้อนไปปลายเดือนตุลาคม ที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 ซึ่งการได้ลงเล่นเป็น11ตัวจริงนัดกับบอร์นมัธ คู่หูของ แม็คไกวร์ เป็น วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ
ถ้ามองในภาพรวมของเกมถือว่ากองหลังค่าตัว80ล้านปอนด์รายนี้ ก็ไม่ได้ก่อความผิดพลาดอะไรแบบน่าเกลียด แต่ทว่าก็มีช็อตพลาดง่ายๆเข้าตาเช่นกัน กับการเลือกจ่ายบอลให้เพื่อนง่ายๆ แต่ดันจ่ายไม่แม่นออกหลังจนทีมเสียลูกเตะมุมแบบไม่น่าเสียซะงั้น
โอเค ลูกกลางอากาศ แม้ แม็คไกวร์ จะเอาอยู่ แต่ทว่าด้วยความเป็นคนไม่เนี๊ยบ เก็บงานไม่ละเอียดจึงทำให้เป็นเรื่องน่าหวาดเสียวเหลือเกินสำหรับเซ็นเตอร์กัปตันทีม อาการเลิ่กลั่กลนลาน ยังมีให้เห็นอยู่เป็นระยะ แม้ว่าจะไม่มีทำพลาดให้ทีมต้องเสียประตูก็ตาม
ด้วยความที่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ เป็นคู่เซ็นเตอร์ที่เมื่อจับคู่กันเมื่อไหร่มีหวาดเสียวตลอด เนื่องจากดูจะไม่ให้สุ้มให้เสียงกัน แต่ทว่าก็ยังดีที่แนวรุกบอร์นมัธ มีความอ่อนชั้นมากไปหน่อย บวกกับ ฟอร์มเซฟมหาเทพของ ดาบิด เด เคอา ที่บินช่วยเซฟไว้ได้กับจังหวะเหน่งๆ 2ครั้ง
ถึงกระนั้นก็ดี การได้ลงสนามและช่วยให้ปีศาจแดงเก็บคลีนชีตได้ ก็น่าจะทำให้กองหลังเบอร์5 พอที่จะเรียกความมั่นใจมาได้บ้าง ถ้าเอาในแง่ของตัวเลขอย่างเดียว แม็คไกวร์ ถือว่าไม่เลวเลย เพราะมีจังหวะเคลียร์บอลได้3ครั้ง ตัดบอลและเข้าแท็กเกิ้ล ได้อย่างละ2หน
เด เคอา เซฟ เซฟไม่มีเบื่อ ดุจเทวดา
มีข่าวออกมาตลอดเหมือนกันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังที่จะมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่ในฤดูกาลหน้า 2023-2024 เนื่องจากกุนซือ เอริก เทน ฮาก มองว่า ดาบิด เด เคอา ไม่ตอบโจทย์ของตนในเรื่องของการเป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้เยี่ยมตามปรัชญาของตน
ประกอบกับสัญญาของ "เดฟ " ก็กำลังจะหมดลงในซัมเมอร์ 2023นี้ แม้ว่าจะมีสัญญาออปชั่นต่อเพิ่มออกไปอีก1ปีก็ตาม สัญญาใหม่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยื่นเข้ามาให้ทั้งที่ ตัว เด เคอา เองมีท่าทีพร้อมจะลดค่าเหนื่อยลงจากระดับเดิมที่ได้รับอยู่ 375,000 ปอนด์/สัปดาห์ ลงมา
เมื่อคืนกับ บอร์นมัธ นายด่ายชาวสแปนิช ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย มีจังหวะเซฟลูกยิงตรงตัวที่เข้ากรอบ 2-3 ครั้ง (ยืนตำแหน่งดี) และที่เด็ดดวงสุดๆ นั่นก็คือการเซฟลูกยิงที่จะเสียบมุมของ ไจดอน แอนโธนี่ ที่เกือบจะเสียบมุมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 2ครั้ง ซึ่งมองยังไงก็ต้องโดนอย่างน้อย1ลูกแน่ๆ
และที่พิเศษกว่านั้นเมื่อคืน นี่คือการเฝ้าเสานัดที่ 510 ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ ดาบิด เด เคอา อีกด้วย มากที่สุดเป็นอันดับ10ของสโมสร เท่ากับ โจ สเปนซ์ แถมนี่ยังเป็นคลีนชีตที่ 138 ในพรีเมียร์ลีก แต่ทว่าก็ยังห่างไกลจากจากอันดับ1อย่าง ปีเตอร์ เช็ก ที่ทำไปมากถึง 202 คลีนชีต อีกไกลโขทีเดียว
ส่วนการใช้บอลด้วยขาของ เด เคอา ที่ดูมีปัญหาฤดูกาลก่อนหน้านั้น เจ้าตัวก็ดูจะพัฒนาขึ้นไม่น้อย เวลาโดนเพรส ไม่ได้มีเพียงแค่สาดโด่งหนีไร้ทิศางแต่อย่างใด อายุ31ปี กับตำแหน่งผู้รักษาประตู เรียกว่า ยังใช้งานได้ยาวๆอีก 3-4ปีเลยทีเดียว หากมีการต่อสัญญาขึ้น
บอร์นมัธ สไตล์ดียังพอมีแววรอดตกชั้น
ด้วยฟอร์มการเล่น ชื่อชั้นนักเตะ คุณภาพทีมต่างๆ นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอยู่แล้วที่บอร์นมัธ จะบุกมาโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ราบคาบ 3-0 ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยดังกล่าว ไม่ใช่ว่า " เดอะ เชอร์รี่ส์ " ไม่มีโอกาสสร้างความลำบากใจให้เจ้าบ้านเลย
ลูกบอมบ์โด่งของบอร์นมัธ แม้ว่าจะไม่ได้มีโอกาสเหมาะเหม่งให้โขกมากนัก แต่ทว่านั้นก็สร้างความปวดหัวให้กับคู่เซ็นเตอร์อย่าง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับจังหวะเคลียร์บอลที่ขลุกขลิกอยู่ในเขตโทษไม่น้อย
ลูกโขกในเขตโทษของ ฟิลิป บิลลิ่ง น่าเสียดายที่เจ้าตัวโขกไปตรงตัวไม่หนีมือ ดาบิด เด เคอา ช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์ แม็คไกวร์&ลินเดอเลิฟ ทำให้ ไจดอน แอนโธนี่ ได้ตะบันเหน่งๆทางฝั่งซ้าย2หน แต่โดน เด เคอา ปฎิเสธ ไปได้อย่างเหลือเชื่อ
น่าเสียดายเหมือนกันสำหรับบอร์นมัธ กับการเล่นงานลูกกลางอากาศที่พวกเขา ไม่ได้ส่งเจ้าเวหา ที่มีความสูงถึง 197 ซม. อย่าง คีฟเฟอร์ มัวร์ ลงมาป่วนให้เร็วกว่านี้ (น.76) ความปราชัยดังกล่าวทำให้ทีมของ แกรี่ โอนีล อยู่อันดับ15ของตาราง มี16แต้ม จาก18นัด
สำหรับความพ่ายแพ้เมื่อคืน ทำให้บอร์นมัธ ยังมีสถิติมาเยือนถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ไม่ดีเลย เพราะนั่นเท่ากับ6นัด พวกเขาแชร์มาได้แค่1แต้ม แพ้ไปถึง5นัด โดนกระซวกไปถึง17ประตู
- คอลัมน์นิสต์
- 264
- 04 ม.ค. 2566 14:49