เจ้ายุโรปตัวจริง ! มาดริด บุกทุบ เซลซี 3-1 เบนเซม่า แฮตทริก ร่างทอง
คู่ควรกับคำว่า " ราชา แห่งเจ้ายุโรป " ด้วยประการทั้งปวงสำหรับ เรอัล มาดริด กับฟอร์มการเล่นอันสุดยอดเมื่อคืน ที่สามารถบุกไปเอาชนะ เซลซี ถึงถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้ไม่ยากเย็นนัก 3-1 พร้อมการระเบิดร่างทอง (อีกครั้ง) ของ คาริม เบนเซม่า หนึ่งในดาวยิงที่ฮ็อตที่สุดของโลก ถ้าวัดกันตามฟอร์ม ณ วินาที นี้
เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8ทีมสุดท้ายนัดแรก ระหว่างเจ้าบ้าน เซลซี ของ โธมัส ทูเคิ่ล ต้อนรับผู้มาเยือน ทีมแชมป์ยุโรป 13สมัยอย่าง เรอัล มาดริด โดยก่อนเกมดังกล่าว พลพรรคสิงห์บูลส์ พึ่งจะเสียความมั่นใจในเกมลีกมาหลังพ่ายให้กับ เบรนท์ฟอร์ด คาบ้าน 1-4
ทางฝั่ง เรอัล มาดริด พวกเขาก็มีข่าวดีตรงที่กุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ หายจาก โควิด-19 กลับมาคุมทีมข้างสนามได้อีกครั้ง ซึ่งผลลัพธ์90นาทีที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็เป็นทัพราชันชุดขาวทีทำได้ดีกว่า เจนจัดรอบด้านบุกมาเอาชนะไปได้ 3-1 พร้อมการระเบิดร่างทองของ "เฮียเบนซ์ "
คาริม เบนเซม่า สวมบทพระเอกอีกครั้ง ด้วยการทำแฮตทริกใส่ทีม สิงห์บูลส์ โดยเฉพาะ2ตุงที่มาจากลูกโขก ต้องบอกได้เลยว่าเป็นการโหม่งที่ยากมากๆ แต่ทว่าดาวยิงวัย24ปีรายนี้ ทำมันได้อย่างไม่มีที่ติ ชนิดคะแนนเต็ม10 ก็ต้องซูฮกให้10ไปเลย
ทางฝั่งของเซลซี ไม่รู้ว่าความปราชัยคาบ้านในเกมพรีเมียร์ลีก ส่งผลต่อความมั่นใจของพวกเขามายังฟุตบอลถ้วยยุโรปหรือไม่ โดยเฉพาะในแนวรับต่างพากันแจกของขวัญให้คู่แข่งกันอย่างเพลินเพลินทั้งช็อต หมูหกไม่น่าเชือของ เอดูอาร์ เมนดี้ ส่วน ติอาโก้ ซิลวา ที่น่าจะเก๋าในเกมแบบนี้ก็มาหลุดเช่นกัน
โดยเฉพาะในรายของ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น ที่มีข่าวว่าเซ็นล่วงหน้ากับบาร์เซโลน่าแล้ว เหมือนสมาธิกระเจิงไปหมด เอาไม่อยู่เลยกับการประกบ คาริม เบนเซม่า รวมไปจนถึงโดนนักเตะที่มีทักษะส่วนตัวสูง มีความคล่องแคล่วอย่าง วินิซิอุส เผาเล่นงานตลอด
ยังไม่นับเกมในแดนกลางที่เซลซี เป็นรองทัพ โลส บลังโกส อย่างชัดเจน เมื่อเจอพวกกระดูกบอลแข็งโป๊กในบอลถ้วยยุโรปอย่าง โทนี่ โครส - กาเซมิโร่ และ ลูก้า โมดริช ที่ต่างพากันซิวแชมป์ยูซีเแอล ร่วมกับสโมสรมาแล้วคนละ 4สมัย รวมถึงจังหวะ50-50 เรอัล มาดริด ฉวยความได้เปรียบหรือทำได้ดีกว่าตลอด
ส่วนผู้เล่นที่ถูก โธมัส ทูเคิ่ล ส่งลงมาแก้เกมอย่าง " บิ๊กตู้ " โรเมลู ลูกากู ก็ทำตัวได้น่าผิดหวังเช่นเคย กับโอกาสได้โหม่งโล่งๆ แต่ทว่าเจ้าตัวก็โขกถากเสาออก รวมไปจนถึง อิมแพค การมีส่วนร่วมกับทีม ดาวยิงค่าตัว 97.5ล้านปอนด์ รายนี้ ทำอะไรออกมาได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย
สมราคาคู่ควรราชันแห่งยุโรป 13สมัย
เป็นถ้วยรายการที่ เรอัล มาดริด เหมือนมีบัพพลังพิเศษเพิ่มขึ้นมาเสมอสำหรับ เวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เอาแค่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ผ่านมา พวกเขาที่รูปเกมตกเป็นของ เปแอชเช ทั้งสองนัด แต่ทว่าก็มีช่วงเล่นดีเพียงแค่ 20-30 นาทีจาก180นาทีดังกล่าว ก็ทำให้พวกเขาเองสามารถปลิดชีพคู่แข่งได้
แดนกลางของทัพราชันชุดขาว โดดเด่นมาก ครองเกม จังหวะจะโคน ในการเล่นเกมรุกและรับได้เกือบหมด มีดึง เร็ว-ช้า ตาม สถานการณ์ รวมถึงจังหวะ50-50 เรอัล มาดริด ทำได้ดีกว่าเซลซีตลอด
สามกองกลางอย่าง โทนี่ โครส - กาเซมิโร่ และ ลูก้า โมดริช ชื่อเหล่านี้มีความเขี้ยวลากดินในเวทียุโรปทั้งสิ้น เพราะพวกเขา เคยคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เรอัล มาดริด มาได้4สมัย เรื่องประสบการณ์ ความเจนจัดไม่มีอะไรต้องสงสัยเลย
โดยเส้นทางของราชันชุดขาวปีนี้ ค่อนข้างคล้ายกับ ฤดูกาล2017-2018 (ที่เป็นแชมป์) ไม่น้อย เพราะเป็นปีที่พวกเขาผ่านคู่แข่งหนักๆในรอบนอกเอ้าต์ มาได้ทั้ง เปแอชเช - ยูเวนุตส และ บาเยิร์น มิวนิค
ของซีซั่นนี้ เรอัล มาดริด ฝ่าด่าน เปแอชเช (เจ้าเก่า) และกำลังปราบเซลซี รวมถึงในรอบรองชนะเลิศก็มีโอกาสสูงที่ ลูกทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ จะได้ดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เล่นรัดกุม เกมบุก เกมสวนกับมีประสิทธิภาพ แถมยังเขี้ยวลากดินตอนขึ้นนำ 3-1 มีถ่วงเวลา เจ็บนิดเจ็บหน่อยลงไปนอนตลอด ภาพรวมเมื่อคืนแสดงให้เราเห็นและเข้าใจว่าทำไม เรอัล มาดริด คือราชันแห่งยุโรป ที่คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ได้มากที่สุด 13สมัย
วินิซิอุส วัยรุ่นวัยคะนอง
แม้จะจะโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังมากๆใน ศึก เอล กลาซิโก 2สัปดาห์ก่อน แต่ทว่าก็มาแก้ตัวได้ในเกมกับเซลซี เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา จากผลงาน 1แอสซิสต์ เปิดสุดคมทั้งน้ำหนักและเวลาให้ กับ คาริม เบนเซม่า โขกตุงตาข่ายเข้าไป
วินิซิอุส จูเนียร์ ใช้ความสามารถของตัวเอง ความคล่องแคล่ว ความเร็ว ทักษะส่วนตัวสไตล์บราซิล เล่นงาน รีส เจมส์ และ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น อย่างได้ผล โดยเฉพาะกับกองหลังชาวเดนมาร์ก ที่เอาไม่อยู่เลย กับการต้องดวลกับในสถานการณ์ที่มีทั้งพื้นที่เวลาให้กระชากลากเลื้อย
แต่ทว่าก็มีหลายช็อตเหมือนกันที่ ดาวเตะวัย21ปีรายนี้ ดูจะจังหวะเยอะมากเกินไปหน่อย มีช็อตหลุดไปยิงเน้นๆชนคาน 1หน เลี้ยงบอลติด หรือจับบอลแย่ๆรวมกันไป 7ครั้ง
การเล่นกับบอลริมเส้นฝั่งซ้าย ดาวเตะชาวบราซิล ทำได้ดีมากๆ และที่สำคัญนอกจากจะทำ แอสซิสต์ แล้ว วินิซิอุส ก็เล่นจ่ายต่อบอลประสานงานเข้าขากันได้เป็นอย่างดีกับ คาริม เบนซม่า รวมไปจนถึงแบ็กซ้ายของทีมอย่าง แฟร์ล็องต์ เมนดี้
อย่างไรก็ตาม ดาวรุ่งริมเส้นฝั่งขวาของทีมอย่าง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ดูจะเล่นไม่ออกเท่าแนวรุกหรือเพื่อนร่วมทีมรายอื่นๆ เพราะเจอความเก๋าเขี้ยวของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จัดการได้อย่างอยู่หมัด แต่ทว่าก็ยังมีข้อดีในเรื่องของความขยัน และความดุดัน บางทีแข้งอุรุกวัย วัย23ปีรายนี้ อาจเหมาะกับการเล่นเป็นมิดฟิลด์ด้านในมากกว่า
คริสเตียนเซ่น ใจลอยไปกับบาร์เซโลน่า แนวรับพลาดเรียงตัว
หลังจากที่มีข่าวว่าได้เซ็นสัญญาล่วงหน้ากับ บาร์เซโลน่า ไปแล้ว ก็ดูเหมือนจะทำให้เจ้าตัวฟอร์มหลุดไม่มีสมาธิหรือผลงานไม่อยู่กับร่องกับรอยจริงๆสำหรับ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น เพราะนี่คือหนึ่งในนักเตะที่เล่นแย่ที่สุดของเซลซี เมื่อคืน
นี่คือกลายเป็นกรวยจราจรไปเลยสำหรับ คริสเตียนเซ่น เมื่อต้องรับมือกับ ดาวเตะที่มีความเร็วสูงอย่าง วินิซิอุส ประะตูแรกที่เสียก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่วิ่งไปตามจังหวะแทงทะลุช่องให้แข้งชาวบราซิลหลุดไปเปิดไม่ทัน
หรือในคราวที่ต้องประกบตัวการโจมตีจากด้านข้างของราชันชุดขาว เซ็นเตอร์แดนโคนมรายนี้ ก็ให้ทั้งพื้นที่และเวลาคู่แข่งในการเลือกเพลย์การโจมตีมากจนเกินไป การยืนตำแหน่งแย่ รวมถึงการสื่อสารกับ 2เซ็นเตอร์อย่าง ติอาโก้ ซิลวา และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์
ชัดเจนที่สุดก็เป็นประตูที่สองที่โดน เบนเซม่า โขกเข้าไป ก็ต้องโทษทั้ง ติอาโก้ ซิลวา และเจ้าตัวด้วยที่ยืนประกบกันไม่ดีจนมีช่องว่างให้หอกชาวฝรั่งเศสได้ขวิดเข้าไป
โดยผลงานที่น่าผิดหวังของ คริสเตียนเซ่น ก็สะท้อนออกมาให้เห็นผ่านการถูกเปลี่ยนตัวออก ในช่วงพักครึ่งให้ มัตเตโอ โควาซิซ ลงมาบู๊แทน
หรือแม้กระทั้ง เอดูอาร์ เมนดี้ ที่เหนียวหนึบเป็นปลาหมึกมาตลอด ก็มาทำพลาดทำรถเข็นส้มหล่นหน้าบ้านให้ เบนเซม่า ยิงเข้าไปง่ายๆ ในแผงหลังเห็นทีจะมี เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ที่โชว์ฟอรร์มได้แข็งแกร่งสอบผ่านรายเดียว
" กัปตันเดฟ " จัดการปิดพื้นที่ของ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ได้อย่างอยู่หมัด แถมยังเกือบซัดประตูได้อีกด้วยแต่ทว่าโดนความสุดยอดของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดบอลที่กำลังจะเสียบสามเหลี่ยมออกไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
รวมไปจนถึงน่าเสียดายจังหวะเปิดของเจ้าตัว ที่บอลแฉลบแล้วไปเข้าทาง โรเมลู ลูกากู ได้โขกไร้ตัวประกบ แต่โหม่งออกทำบอลหลุดเสาไปดื้อๆ
ซุปเปอร์เบนซ์ คาริม เบนเซม่า
ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากมายเลยสำหรับฟอร์มการเล่นของ คาริม เบนเซม่า เมื่อคืน นี่คือกองหน้าระดับท็อปของโลก ณ นาทีนี้ 3ประตูที่กดใส่เซลซี เมื่อคืนก็ตอบคำถามอยู่แล้วกับความยอดเยี่ยมของดาวยิงชาวฝรั่งเศสรายนี้
ลูกโหม่งทั้ง2ลูก ที่ คาริม เบนเซม่า ส่งผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ ต้องบอกได้เลยว่าไม่ใช่การโขกที่ง่ายๆเลย ต้องเป๊ะทั้งจังหวะ เวลา ความแรงและวิธีบอล แถมยังเป็นการโหม่งแบบต้องเอี้ยวตัวหน่อยๆด้วย แต่ทว่ากองหน้าวัย34ปีรายนี้ ทำได้แบบไร้ที่ติจริงๆ
ปราดเปรียว ครองบอลได้ดี พาพื้นที่ว่างได้เก่ง จบสกอร์คนดุจใบมีด นอกจากนี้ เบนเซม่า ยังมีออปชั่นพิเศษที่ดาวยิงระดับท็อปไม่ค่อยจะทำกันได้ก็คือ ความขยัน เพราะนี่เป็นนัดที่สองติดต่อกันแล้วในยูซีแอล ที่เจ้าตัวใช้ความขยันวิ่งกดดันโกลคู่แข่งจนออกบอลพลาด
จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ก็โดนมาแล้ว จนล่าสุดเป็น คิวของ เอดูอาร์ เมนดี้ และนี่เป็นการกดแฮตทริก ในเวทียูซีแอลได้เป็นนัดที่สองติดก่อกัน ซึ่งในประวัติศาสตร์ถ้วยนี้มีนักเตะก่อนหน้าเพียงแค่3รายที่เคยทำได้นั่นก็คือ หลุยส์ อาเดรียโน่ - ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
เบนเซม่า เคยโดน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ บดบังความโดดเด่นมาตลอด แต่ทว่าหากใครดู ราชุนชุดขาว ยุคนั้นเล่นเป็นประจำจะเห็นว่า กองหน้าชาวฝรั่งเศสรายนี้แหละ ที่ทำให้ CR7 เล่นง่ายขึ้น เพราะมีตัวหลอก มีคนดึงตัวประกบ ให้สตาร์ชาวโปรตุเกส มีโอกาสจบกอร์บ่อยครั้ง
ด้วยวัย34ปี แต่ทว่า คาริม เบนเซม่า ยังรักษามาตรฐานการเล่นได้เป็นอย่างดี มิหนำซ้ำช่วงอายุ 30Up เป็นต้นมาเจ้าตัวกลับพีคกว่าเดิมด้วยซ้ำ ผลงานการล่าตาข่ายของเจ้าตัวในซีซั่นนี้ 37ประตู จาก36 นัด หาก เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ลาลีก้า หรือถึงแชมป์ ยูซีแอล เห็นทีรางวัล บัลลงดอร์ จะไม่หนี เบนเซม่า ไปไหนแล้ว
แท็กติกทูเคิ่ล เข้าทางชุดขาว บวก ลูกากู ยังทำให้ผิดหวัง
เซลซี มาในระบบเก่ง 3-4-1-2 ซึ่งตามปรกติก็เป็นระบบที่ดีที่สุดของเซลซีอยู่แล้วในยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล แต่ทว่าเมื่อมาเจอกับระบบ 4-3-3 ของ คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นแผนที่เจอกันแล้วเข้าทาง เรอัล มาดริด มากๆ
ราชันชุดขาวมีผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางมากกว่า1คน และเป็นทรีโอ้ที่กระดูกแข็งทั้งนั้น โครส - กาเซมิโร่ -โมดริช นั่นทำให้บอลจากกลางไปหน้าของทีมเยือน หลุดไปถึงแผงหลังของเซลซี ได้อย่างง่ายดาย รวมไปจนถึงจังหวะ 50-50 ที่ต้องฉวยโอกาสกันตรงเกมกลางสนาม เป็น มาดริด ที่ทำได้ดีกว่าตลอด
รวมถึงแท็กติกของ " อันเช่ " ทำให้ ราชันชุดขาว มีเวลาและพื้นที่ในการเล่นงานทีมเจ้าบ้าน เบนเซม่า ที่ไม่เป็นเป้านิ่งในเขตโทษ แต่ทว่าอาศัยการสอดเข้ามาโขก ( ประตูแรก)
โดยความผิดพลาดทางแท็กติกของเซลซี สะท้อนได้จากการโดนนำ2-0 ในครึ่งแรก และการเลือกถอด อันเดรียส คริสเตียนเซ่น ออกในการออกสตาร์ท45นาทีหลัง ให้ โควาซิซ ลงมาแทน
ส่วน โรเมลู ลูกากู ที่ตอนนี้กลายสภาพกลับไปเป็น " ไอ้ตู้เย็น " ได้รับโอกาสเป็นตัวสำรอง ก็ทำได้น่าผิดหวังแทบไม่มีอิมแพคกับเกม ถูกส่งลงมาเพื่อนเป็นตัวชน ดึงตัวประกบให้ ไค ฮาแวร์ตช์
และก็น่าเสียดายสุดๆที่ลูกเปิดแฉลบเข้ามาจากกราบซ้ายเข้ามาของ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ลูกากู ได้โขกโล่งๆไร้ตัวประกบในเขตโทษ แต่ทว่าหอกร่างใหญ่ชาวเบลเยี่ยม กลับโขกถากเสาออกไปดื้อๆ น.68 เชื่อว่าหากสิงห์บูลส์ ไล่มาได้ 2-3 จะทำให้เกมเปิดและกำลังใจโมเมนตัมไหลมาทางฝั่งเซลซีทันที
โดยมาจนถึงตอนนี้ โรเมลู ลูกากู เท้าบอดทำประตูไม่ได้ในรายการ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก มารวม9นัดติดต่อกัน แถมยังซัดรวมทุกรายการไปได้เพียงแค่ 12ประตู เท่านั้น ซึ่งถ้ามองแบบเป็นกลางก็ไม่น้อย แต่ทว่าเมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่หว่านลงไป 97.5ล้านปอนด์ ถือว่าไม่คุ้มค่าเลย
- คอลัมน์นิสต์
- 321
- 07 เม.ย. 2565 16:11