ฆาตกรรมหมู่ ! ผีโคตรโรคจิตเปิดบ้านหลอนนักบุญ 9-0
90 นาทีที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อคืนเรียกได้ว่าคือเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่ของวงการลูกหนังโดยแท้จริง หลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่มเซาธ์แฮมป์ตัน แบบเอาตายไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด 9-0
จุดสำคัญมากๆถึงสาเหตุความพินาศย่อยยับของทีมนักบุญ เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึง90วินาทีของเกมการแข่งขัน
เมื่อแข้งดาวรุ่งวัยของทีมอย่าง อเล็กซานเดร ยานเควิทซ์ พี่พึ่งเดบิวต์ลงเล่นให้ทีมเป็นนัดที่2 ที่พยายามเข้าไปแย่งบอลจาก สก็อต แม็คโทมิเน่ย์
แต่ทว่าการเข้าบอลดังกล่าวของแข้งละอ่อนวัย19ปี ทั้งอันตราย น่าเกลียด และเจตนาทำร้าย ทำร้ายเจ้าหนูแม็คทอมอย่างชัดเจน
เพื่อนร่วมทีมนักบุญรวมถึงกุนซือย่าง ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล ต่างทำหน้ายอมรับชะตากรรม และไร้ข้อโต้แย้งกับใบแดงดังกล่าวแทบทั้งหมด
ไม่เพียงแค่ ยานเควิทซ์ เท่านั้นที่โดนใบแดง ยาน เบดนาเร็ค กองหลังตัวเก่งของทีมก็มาทำเสียจุดโทษพร้อมโดนไล่ออกจากสนามเช่นกันช่วงท้ายเกม น.86
โดยนอกจากนี้ทัพ เดอะ เซนต์ ยังดวงแตกสุดๆจากจังหวะที่ควรได้ลูกตีไข่แตกไล่มา 4-1 น.54 เมื่อ เช อดัมส์ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ได้แล้ว
แต่ทว่าต้องมาโดนการตีเส้นแบบมิลลิเมตร ทำให้ลูกยิงดังกล่าวของอดีตหัวหอก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ถูกตัดสินว่าเป็นลูกล้ำหน้าไป
อย่างไรก็ตามก็ต้องชื่นชนพลพรรคนักเตะปีศาจแดง รวมถึงความกระเหี้ยนกระหือที่จะเอาประตูต่อๆ แบบไม่หยุดหย่อนของกุนซืออย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ด้วย ที่ยังสั่งให้ลูกทีมบุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังเพิ่มสถิติผลต่างประตูได้เสีย
ส่วนคนที่ไม่ถูกพูดถึงไม่ได้คงหนีไม่พ้น บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ปลดล็อค ให้ตัวเองได้สำเร็จ หลังจากที่ไร้แอสซิสต์ ไร้ประตูในเวทีพรีเมียร์ลีกมา5นัดติดต่อกัน
โดยนัดนี้เพลย์เมคเกอร์ชาวโปรตุเกส กดไป1ตุง และถวายพานให้เพื่อนร่วมทีม2ครั้ง
บทเรียนที่ต้องจำไปชั่วชีวิตของ ยานเควิทซ์
เกมเมื่อคืนว่ากันว่าน่าจะจบตั้งแต่ไม่ถึง2นาทีแรกของเกมเมื่อ อเล็กซานเดร ยานเควิทซ์ แข้งดาวรุ่งของทีมนักบุญ ไปโดนใบแดง จากการเจตนาเล่นน่าเกลียดใส่ สก็อต แม็คโทมิเน่ย์
ใบแดงที่ถูกควักออกมาจาก ไมค์ ดีน ของแข้งวัย19ปี ทำให้เพื่อนร่วมทีมแทบทุกคนรู้ชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นต่อไปในทันที ด้วยการต้องเล่นเพียงแค่10คน กับเวลาอีกกว่า90นาทีที่เหลือ
โดย ยานเควิทซ์ ได้สร้างอีกสถิติเลวร้ายที่เจ้าตัวคงไม่อยากจดทำนัก เมื่อกลายเป็นนักเตะคนที่4ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่โดนใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่2นาทีแรก
น่าเกลียด รุนแรง อันตราย เจตนาทำร้ายคู่แข่ง นี่คือคำนิยามกับจังหวะใบแดงของแข้งวัยละอ่อนของทีมนักบุญ
ยังโชคดีที่ แม็คโทมิเนย์ ไม่ได้รับอันตรายบาดเจ็บมากนัก แต่ก็มีรอยช้ำลากยาวจากสตั๊ดของยานเควิทซ์ฝากเอาไว้
การลงสนามเพียงนัดที่2ให้กับทีมนักบุญของ แข้งดาวรุ่งชาวสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้นเหตุแห่งโศกนาฏกรรม ความพ่ายแพ้ที่ยับเยินที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
อารมณ์ชั่ววูบที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อคืนน่าจะทำให้ ยานเควิทซ์ จดจำไปเป็นบทเรียนได้ตลอดชีวิตการค้าแข้งของเจ้าตัวเลยทีเดียว
ไอ้แมงมุมเวอร์ชั่นอัพเกรด ชอว์ก็ร้อนแรง
ตลอดระยะเวลา1ฤดูกาลครึ่งที่ อารอน วาน - บิสซาก้า เจ้าตัวถูกตั้งคำถามเสมอถึงคุณภาพในการเล่นเกมรุก โดยเฉพาะก่อนเกมเหมือนกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะมากระตุ้นให้เจ้าตัวพัฒนาศักยภาพการเล่นเกมบุกให้ดีมากขึ้น
เพราะซีซั่นก่อน ไอ้แมงมุม ไม่สามารถทำประตูให้ทีมปีศาจแดงได้เลย แต่มาฤดูกาลนี้อดีตแบ็กขวา คริสตัล พาเลซ ซัดไปได้แล้วถึง2ประตู รวมเกมเมื่อคืนกับทีมนักบุญด้วย
รวมถึงยังมีลูกครอสให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ได้ซัดเข้าไป นอกจากนี้แล้วในเรื่องของเกมรับ วาน - บิสซาก้า ก็ยังทำได้ไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อมีจังหวะเสียบสกัดสวยๆ ในจังหวะที่ แดนนี่ อิงส์ กำลังหลุดไปยิง
ส่วน ลุค ชอว์ แม้จะได้ลงเล่นเพียงแค่45นาที แต่ก็ยังสามารถฝากผลงาน 2แอสซิสต์ ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ เมื่อถวายพานให้ทั้ง อารอน วาน - บิสซาก้า และ เอดิสัน คาวานี่ สำเร็จโทษส่งบอลไปกระทบก้นตาข่ายได้สำเร็จ
การย้ายเข้ามาของ อเล็ก เตลเลส ดูเหมือนจะเป็นการปลุกกระตุ้นฟอร์มของแบ็กซ้ายก้นงอน ให้โชว์ฟอร์มได้เปรี้ยงปร้างมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในชีวิตการค้าแข้ง
รวมไปจนถึง ตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวจริงทีมชาติอังกฤษ ที่ก่อนหน้าดูเหมือนจะแบเบอร์สำหรับ เบน ชิเวลล์ ชักจะไม่แน่นอนเสียแล้ว เมื่อชอว์เองก็อัพเกรดฟอร์มการเล่นของตัวขึ้นมาได้อีกขั้นเช่นกัน
สถิติ45นาที ลุค ชอว์
92% ผ่านบอลแม่นยำ
53 สัมผัสบอล
7 การแย่งบอล
5 สร้างสรรค์โอกาส
4 การครอสบอล
2 แท็คเกิ้ล
1 โอกาสยิง
2 แอสซิสต์
แรชฟอร์ด แซง คันโตน่า
เห็นยึกๆยักๆ ทำตัวเรียกเสียงสบถจากแฟนบอลบ่อยๆ แต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เองก็สามารถพังประตู ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว 83ลูก แซงหน้า เอริค คันโตน่า ที่ทำไป82ประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าความเก่งกาจความสม่ำเสมออิทธิพลต่อทีม จะเป็น คิง คันโตน่า ที่ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน แต่ทว่าแรชชี่ เองก็ยังพอมีเวลาที่จะพัฒนาฝีเท้าการเล่นในช่วงที่ค้าแข้งยังถิ่นโรงละครแห่งความฝันอีกต่อไป
รวมถึงการทำลายสถิติ 85ประตู ของจอมปั่นฟรีคิก ขวัญใจแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดกาลอย่าง เดวิด เบ็คแฮม ที่แรชฟอร์ดจ่อจะแซงได้ในทุกขณะเวลานี้
แต่ทว่าก็น่าแปลกใจไม่น้อยเมื่อพบว่า 8ประตูในพรีเมียร์ลีก ที่แรชฟอร์ดทำได้ในฤดูกาลนี้ จะมาจากเกมในบ้านเพียงแค่2ลูกเท่านั้น
การแข่งขันของ คาวานี่ และ มาร์กซิยาล
เกมนี้ เอดิสัน คาวานี่ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก่อน อองโตนี่ มาร์กซิยาล อีกนัดหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นทางฝั่งทีมนักบุญที่เหลือผู้เล่นเพียงแค่10คน จึงทำให้หอกชาวอุรุกวัย เล่นได้ง่ายขึ้น
แต่ขณะเดียวกันก็ต้องชมจังหวะการเคลื่อนที่ การชิ่งบอลจ่ายบอลของ เจ้าของฉายา เอล มาทาเดอร์ ด้วยที่ทำให้เกมไหลลื่น และทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นในจังหวะที่ง่ายขึ้น
หอกชาวอุรุกวัย มีลูกโขกอันทรงพลังมาฝากบนสกอร์บอร์ดในนัดนี้ รวมถึงขยันไล่บอล วิ่งหาพื้นที่จนแนวรับของทีมนักบุญปั่นป่วน
แม้ว่าจะมีเวลาอยู่ในสนามเพียงแค่45นาที แต่นั่นก็เพียงพอที่จะเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ
จนทำให้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตปราการหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บอกว่า คาวานี่ ต้องได้เล่นต่อในครึ่งหลัง ตอบแทนที่ระเบิดเพลงแข้งได้ดีขนาดนี้
ส่วนผู้ลงมาแทนในช่วงครึ่งหลังอย่าง อองโตนี่ มาร์กซิยาล ก็เหมือนจะมีสภาวะไฟลนก้น มุ่งมั่นผิดปรกติ เพราะอยากพิสูจน์ตัวเองเหมือนกัน
บวกกับช่วงท้ายเกมที่เซาธ์แธมตัน เหลือ9คน จนทีมไม่สมประกอบ ก็กลายเป็นงานง่ายของ ดาวยิงหน้านิ่งทันที
หมักเซียว ซัดไปได้2ประตู กับการลงสนาม45นาทีดังกล่าว นั่นอาจเป็นการส่งสัญญาณกลายๆว่า เขาเองก็ไม่อยากสูญเสียตำแหน่งศูนย์หน้าตัวจริงของทีมให้กับ คาวานี่ เช่นกัน
ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล กุนซือผู้โคตรบอบช้ำ
หลายๆคนน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่ากุนซือชาวออสเตรียผู้นี้ อารมณ์อ่อนไหวแค่ไหน หากใครจำได้ ครั้งที่เจ้าตัวพาทีมโค่นเอาชนะลิเวอร์พูลได้สำเร็จ 1-0
หลังสิ้นสุดเสียงนกหวีด ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล ถึงกับลงไปนั่งกับพื้นน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว
เพราะนั่นเป็นการเอาชนะ ผู้จัดการทีมที่เป็นไอดอลของเจ้าตัวมาตลอด อย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เป็นครั้งแรกในชีวิตการเป็นกุนซือ
ส่วนเกมนัดนี้ที่ลูกทีมของ ฮาเซนฮุทเทิล โดนปีศาจแดงของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ฆาตกรรมหมู่ที่โรงละครแห่งความฝัน 9-0
เพียงแค่ใบแดงตั้งแต่2นาทีแรกของ ยานเควิทซ์ ก็ทำเอาเจ้าตัวหน้าบอกบุญไม่รับ รวมถึงยอมรับชะตากรรมหายนะที่ต้องเจอกับ เวลาเกือบ90นาทีที่เหลือ
อาการ สีหน้า รีแอคชั่น ของกุนซือวัย53ปี กับทุกๆลูกที่ทีมนักบุญโดนส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย
บ่งบอกให้รู้ว่าตัวเขาเองเจ็บปวดเสียใจแค่ไหน กับภาพตรงหน้าที่เห็นลูกทีมโดนกระทําชําเรา
แต่ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เซาธ์แฮมป์ตัน โดนคู่แข่งกระซวกไส้แตก 9-0 หากย้อนความกลับไปฤดูกาลที่แล้ว คงจำกันได้กับ นัดที่เลสเตอร์ บุกมาชนะทีมนักบุญถึง เซนต์ แมรี่ส์ 9-0 เมื่อเดือนตุลาคม 2019
สถิติสกอร์ความพ่ายแพ้ที่ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก นั่นก็คือที่ความห่าง 0-9
ซึ่งเกิดขึ้น3ครั้ง และ ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล มีส่วนชื่อถูกจารึก จาก2ใน3แมตช์ดังกล่าวด้วย
สถิติพ่ายแพ้ขาดลอยที่สุดในประวัติศาตร์พรีเมียร์ลีก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 9-0 อิปสวิช ทาวน์ : 1995
เลสเตอร์ ซิตี้ 9-0 เซาธ์แฮมป์ตัน : 2019
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 9-0 เซาธ์แฮมป์ตัน : 2021
สถิติดังกล่าว ฮาเซนฮุทเทิล คงไม่อยากจดจำมันในชีวิตเท่าไหร่นัก
- คอลัมน์นิสต์
- 367
- 03 ก.พ. 2564 15:12