เรือใบแชมป์ ! ผีสำรอง โดนจิ้งจอกขย้ำคาบ้าน 2-1 โซยุนซู โขกชัย
เนื่องด้วยโปรแกรมที่ถี่ยิบต้องเตะ3นัดในรอบ5วัน ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นทำให้ก่อนเกมที่จะฟาดแข้งกับ เลสเตอร์ หลายๆคนคาดการณ์กันว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะโรเตชั่น นักเตะขนานใหญ่หลายตำแหน่ง เพื่อพักแข้งสำคัญไว้ฟัดเกมแดงเดือดสุดสำคัญกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงดึกคืนวันพฤหัสบดีนี้
และก็เป็นอย่างที่หลายคนคาดหมายจริงๆ พี่ปีศาจแดง ใช้ผู้เล่นตัวสำรองยกชุด มีผู้เล่นที่เป็นดีกรีตัวจริงบ่อยๆก่อนหน้าเพียงแค่ เมสัน กรีนวู๊ด และ ดาบิด เด เคอา เท่านั้น
เราจึงได้เห็นเหล่าตัวสำรองหลายๆคนในฤดูกาลนี้ รวมไปจนถึงแข้งดาวรุ่งที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามอย่าง แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ -อาหมัด ยิยาโล่ รวมไปจนถึง แอนโธนี่ อีลังก้า ได้โอกาสสำแดงพิษสง
ฟากผู้มาเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการ3แต้มสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการทำ อันดับไปเล่นฟุตบอลรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากที่2นัดหลังสุด หลุดเสมอ และแพ้ จนทำให้ทีมตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่คับขันอีกครั้ง นัดนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เลยจัดเต็ม11ผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามฟัดกับผีแดง แต่ทว่ายังไม่มี จอห์นนี่ อีแวนส์ ที่บาดเจ็บมาก่อนหน้า
รูปเกมก็เป็นไปตามคาด45นาทีแรกเป็นทางฝั่งของ ทีม เดอะ ฟ็อกส์ ที่ทำได้ดีกว่าชัดเจนทั้งในเรื่องของการครองบอล และสร้างสรรค์โอกาสเข้าทำประตู และก็ขึ้นนำไปก่อนจากลูกยิงผีจับยัดสุดสวยของ ลุค โธมัส ฟูลแบ็กวัยละอ่อน น.10
แต่ทว่าอย่างไรแม้รูปเกมที่ไม่ได้ดีมาก แต่ปีศาจแดงก็มาได้ความยอดเยี่ยมของ เมสัน กรีนวู๊ด ที่หลอกล่อแนวรับ เลสเตอร์ แล้วยิงเรียดด้วยขวาผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไป หลังจากนั้นเกมของทีมปีศาจแดงก็เหมือนจะดีขึ้นมานิดหน่อย แต่ทว่าก็ไม่สามารถสร้างสรรค์หาโอกาสจบสกอร์เหน่งๆได้เลย
จนแล้วจนรอดแนวรับของ ทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์ ที่ขาดเจ้าเวหาอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ก็โดนลงโทษจากลูกตั้งเตะจนได้ เมื่อ ชักลาร์ โซยุนซู เติมขึ้นมาโขกเต็มกบาลเอาชนะตัวประกบอย่าง เนมานย่า มาติช ส่งบอลเสียบตาข่ายเข้าไป น.66
แม้ว่า น้าโอเล่ จะส่งผู้เล่นตัวจริงอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด - เอดิสัน คาวานี่ รวมไปจนถึง บรูโน่ แฟร์นันเดซ ลงมาแก้เกมหมายเอาประตูคืน แต่ทว่าก็ดูเหมือนจะสายเกินไปเสียแล้ว
สถิติตลอดทั้งเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หาโอกาสจบสกอร์ได้เพียง3ครั้งเท่านั้น และนี่จึงเป็นการบ่งบอกส่งสัญญาณเตือนกุนซือชาวนอร์เวย์ว่า คุณภาพผู้เล่นตัวจริงและตัวสำรองของทีมนั้นแตกต่างกันมากแค่ไหน
ส่วนผู้ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ดูจะคู่ควรไม่น้อยสำหรับความกระหายในแมตช์ดังกล่าว เพราะนี่คือหนึ่งในนัดสุดสำคัญในการคว้าตัว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลยทีเดียว เราจึงได้เห็นผู้เล่นของทีมจิ้งจอกสีน้ำเงิน ทรุดและตะโกนร้องสะใจ หลังสิ้นเสียงนกหวีดยาว จบ90นาที จาก เคร็ก พอลสัน ที่โอล แทร็ฟฟอร์ด เมื่อคืน
เช็กฟอร์ม ลูกกรอกคะนองดาวรุ่งผี
นี่เป็นเกมที่พลพรรคปีศาจแดงมีความจำเป็นมากๆที่จะต้อง โรเตชั่น นักเตะเอาไว้บู้เกมสุดสำคัญในศึกแดงเดือด กับ ลิเวอร์พูล ในคืนวันพฤหัสบดี เราจึงได้เห็นบรรดาแข้งผู้เล่นวัยละอ่อนได้ลงสนามวาดลวดรายสำแดงฝีเท้ากันถ้วยหน้า
แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ (20ปี) นี่เป็นนัดแรกที่เจ้าตัวได้ออกการออกสตาร์ทเป็นผู้เล่นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ภาพรวมที่ออกมาเมื่อคืนถือว่าไม่จืดเลยสำหรับ เจ้าหนูวัย20ปีรายนี้ ในเรื่องของเกมรุก วิลเลี่ยมส์ แทบจะประสานงานกับ อาหมัด ดิยาโล่ ไม่ได้เลย แถมจังหวะการจ่ายบอลของแบ็กเลือดผู้ดีรายนี้ ก็ทำเสียหลายครั้ง
มิหนำซ้ำจังหวะทีทีมเสียประตู 0-1 ก็เป็นเจ้าตัวที่แหละ หุบเข้าไปตรงกลาง จนเปิดพื้นที่ว่างให้ ลุค โทัส ตะบันเสียบมุมตาข่ายแบบผีจับยัด โดยตลอดทั้งเกม วิลเลี่ยมส์ ได้ครอสบอลเข้าไปในเขตโทษ เลสเตอร์ เพียงแค่หนเดียวเท่านั้น
อาหมัด ดิยาโล่ (18ปี) นี่คือการออกสตาร์ทตัวจริงในพรีเมียร์ลีกหนแรกของ ปีกชาวไอเวอรี่ โคสต์ รายนี้ และก็ใช้เวลาเพียงแค่15นาที ในการแอสซิสต์ให้กับ เมสัน กรีนวู๊ด ส่องตาข่าย ความเร็วและความคล่องตัวที่คือสิ่งที่อดีตดาวรุ่ง อตาลันต้า ทำได้ดีมากๆในนัดนี้
แต่ทว่าเรื่องของสรีระร่างกายความแข็งแกร่ง เป็นอะไรที่เจ้าตัวต้องพัฒนาต่อไปในอนาคต หากว่าต้องการสู้กับบรรดาตัวผู้เล่นเสือสิงกระทิงแรดในพรีเมียร์ลีก เปอร์เซ็นต์การผ่านบอลของปีกผิวสีรายนี้ ก็มีความแม่นยำเพียงแค่ 57.9%
แอนโธนี่ อีลังก้า (19ปี) นี่น่าจะเป็นแข้งที่แฟนผีไม่น่าคุ้นชื่อมากที่สุดแล้ว และนี่เป็นการเปิดตัวนัดแรกของเจ้าตัวในเครื่องแบบปีศาจแดงเลย โดยแนวรุกชาวสวีเดนผู้นี้ ได้ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีกฝั่งซ้าย
เป็นอีกหนึ่งแข้งปีศาจแดงที่ โดนแนวรับทีมสุนัขจิ้งจอกเก็บกินเอาง่าย ด้วยรูปร่างที่เล็ก และดูจะลุกลี้ลุกลนมากๆเวลาได้บอล แต่ก็พยายามแก้ตัวด้วยความขยัน วิ่งเข้าหาบอล แต่ทว่ามันก็แทบจะไม่ส่งผลอิมแพคต่อทีมเลย
มาติซ ยิ่งแก่ยิ่งเก๋าแถมดีเกินคาด
นี่เป็นอีกหนึ่งตัวผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจเมื่อคืน มาติช ในวัย32ปี ได้รับโอกาสลงเล่นในตำแหน่งที่ถนัดนั่นก็คือ มิดฟิลด์ ตัวกลางคู่กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค และก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละ ที่เล่นได้โดดเด่นกว่า กองกลางแดนกังหันลม
แม้จะช้าสปีดในการเล่นลดน้อยถอยลงไปสวนทางกับอายุอานามที่มากขึ้น แต่ทว่าเกมเมื่อคืนเวลาที่ มาติช ได้บอล แล้วพยายามกระชากตะลุยไปข้างหน้า ต้องบอกว่าเป็นจังหวะที่เนียนตามากๆ ช้าแต่พริ้ว นี่คือคำนิยามของ มิดฟิลด์ ชาวเซอร์เบีย กับฟอร์มเมื่อคืนนี้ได้เลย
การผ่านบอลที่ดี รุกและรับอย่างสมดุล นี่คือสิ่งที่กัปตันทีมปีศาจแดง (เฉพาะกิจ) ทำได้อย่างน่ากระแทกฝ่ามือให้เมื่อคืน นิ่งและใจเย็นทุกครั้งเวลาแก้บอลที่โดนเพรสซิ่งในเขตโทษตัวเอง การอ่านเกมการครองบอล การกำหนดจังหวะจะโคนในการออกบอลที่คือสิ่งที่มาติชทำได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่ทว่าก็มีจุดน่าตำหนิด่างพร้อยจุดเดียวตรงที่ ไม่พยายามเทกตัวขึ้นโหม่งบอลกับ ชักลาร์ โซยุนซู จนเป็นเหตุทำให้ เซ็นเตอร์ชาวตุรกีรายนี้ โขกเต็มกบาล เป็นประตูชัยให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้
เนมานย่า มาติช Vs เลสเตอร์ ซิตี้ (45นาทีแรก)
52 สัมผัสบอล ( มากที่สุด )
6 แย่งบอล ( มากที่สุด )
5 ชนะการดวล ( มากที่สุด )
3 เลี้ยงบอลผ่าน
3 ตัดบอล
2 บล็อค
ฟาน เดอ เบ็ค ยังน่าผิดหวังต่อเนื่อง
นัดนี้เป็นโอกาสที่ดีมากๆที่ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค จะได้พิสูจน์ตัวเองจริงๆจังๆสักที หลังช่วง1เดือนที่ผ่านมา อดีตกองกลางอาแจ็กซ์ รายนี้มีสัญญาณที่ดีขึ้น เมื่อถูกส่งลงมาเล่นเป็นตัวสำรองแล้วแสดงความกระตือลือล้น เล่นได้ดีหลายนัด
โดยเฉพาะในเกมที่เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 ดอนนี่ ลงมาเป็นตัวสำรอง แล้วแอสซิสต์ให้ " นายพราน " เอดิสัน คาวานี่ แทปอินง่ายๆ เข้าไป แต่ทว่าการได้ออกสตาร์ทเป็น11ผู้เล่นตัวจริงกับ เลสเตอร์ ซิตี้ กองกลางชาวดัตซ์รายนี้ ก็ฉายภาพความน่าผิดหวังให้เห็นอีกครั้ง
ฟาน เดอ เบ็ค ได้ออกสตาร์ทเล่นในตำแหน่งที่ถนัดถนี่นั่นก็คือมิดฟิลด์ตัวกลาง คู่กับ เนมานย่า มาติช ซึ่งว่ากันว่าน่าจะเป็นนัดที่ กองกลางวัย24ปีรายนี้ ได้พิสูจน์ตัวเองจริงๆจังๆสักที แต่ทว่าภาพรวม90นาที เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าตัวก็สอบไม่ผ่านอีกครั้ง
แม้ว่าเกมนี้จะไม่ได้ก่อความผิดพลาดอะไร แต่ อิมแพค กับเกม ฟาน เดอ เบ็ค ก็ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเข้าตากรรมการเลย มีเพียงแค่จังหวะแปะจ่ายบอลคืนหลัง จ่ายบอลในพื้นที่ใกล้ๆ ครึ่งแรกยังพอถูๆไถๆได้ แต่ครึ่งหลังคือไม่ไหวเลย
การขาดแรงกระหาย รวมไปถึงพละกำลัง นี่คือสิ่งที่ VDB ต้องปรับตัวให้เข้ากับเวทีฟุตบอลลีกเมืองผู้ดีให้ได้อย่างเร็ว เกมเมื่อคืน ฟาน เดอ เบ็ค ไม่มีการจ่ายบอลแบบคีย์พาสเลย แต่ก็ยังดีที่มีจังหวะตัดบอล1ครั้ง รวมถึงเข้าแท็กเกิ้ลได้อีก2หน
ตอนแรกหลายคนคงสงสัยและเคลือบแคลงใจโกรธให้กับน้าโอเล่ อยู่ไม่น้อย ว่าทำไมไม่ยอมส่งมิดฟิลด์เจ้าของค่าตัว40ล้านปอนด์ลงสนามสักที แต่เมื่อเห็นฟอร์มที่เจ้าตัวโชว์ออกมาในเกมกับ เดอะ ฟ๊อกส์ ก็น่าจะทำให้เข้าใจกุนซือชาวนอร์เวย์รายนี้อยู่บ้าง
กรีนวู๊ด ผู้นำแนวรุกวัยละอ่อน ชุดผีสำรอง
เมื่อเห็นรายชื่อ11ผู้เล่นตัวจริงเมื่อคืน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปรับผู้เล่นมากถึง10ตำแหน่ง แต่ทว่าก็ยังมี เมสัน กรีนวู๊ด ที่ยังคงได้ออกสตาร์ทเป็น11ผู้เล่นตัวจริง ในฐานะบทบาทกองหน้าตัวเป้า หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้นำในแนวรุกของทีมปีศาจแดงชุดสำรองนี้ได้เลย
แม้จะมีโอกาสสับไกลเพียงแค่2ครั้ง แต่เจ้าหนู " ไม้เขียว " ก็แปรเปลี่ยนโอกาสดังกล่าวให้เป็นประตูได้สำเร็จ เมื่อหลอกล่อ โซยุนซู อย่างเนียนตาแล้ว ตวัดยิงลูกเรียดด้วยขวาอย่างเฉียบขาดผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไป
หลังจากที่ช่วงออกสตาร์ทต้นฤดูกาล เมสัน กรีนวู๊ด ก็เหมือนจะหาฟอร์มกลับเข้าฝั่งไม่เจอ เพราะแทบจะไม่ผลิตสกอร์ให้ทีมได้ แต่ทว่า10นัดหลังสุด ดาวยิงวัย19ปีรายนี้ ก็หลับมาโชว์ฟอร์มตีนระเบิดอีกครั้งเมื่อกดไปได้ถึง12เม็ด ในช่วงเวลาดังกล่าว
ไม่ใช่เพียงแค่กางมุ้งรอซัดประตูในเขตโทษตามบทบาทศูนย์หน้าตัวเป้าเพียงอย่างเดียว แต่ทว่ากรีนวู๊ด ยังลงมาBuild Up เกมกับเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย ความมั่นใจ การไม่ทำบอลเสียง่ายๆ รวมถึงลูกยิงอันเป็นเอกลักษณ์คมกริบเป็นใบมีด มีอยู่เต็มเปี่ยมในตัวศูนย์หน้าวัยละอ่อนรายนี้
แม้ว่าในตอนแรก กรีนวู๊ด จะไม่ได้เป็นหนึ่งช้อยส์ตัวเลือกใน26ขุนพลทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกยูโร 2020 ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต แต่ทว่าฟอร์มระยะหลังรวมถึงมิติการเล่นที่หลากหลาย ทั้งหน้าเป้าและบทบาทตัวริมเส้นฝั่งขวา ก็น่าจะทำให้ เซาธ์เกต พิจารณา ดาวเตะหมายเลข11ของทีมปีศาจแดงรายนี้มากขึ้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
เอ็นดิดี้ ผู้ขยี้ผี
แม้ว่าจะไม่ใช่นักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูหรือแอสซิสต์กับเลสเตอร์ เมื่อคืน แต่ทว่าความสำคัญและบทบาทของเจ้าตัว นี่คืออีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทีมสุนัขจิ้งจอกได้ผลลัพธ์การแข่งขัน3แต้มที่ต้องการ
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นหมายถึง มิดฟิลด์พลังช้างสารอย่าง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ที่ทำงานของตัวเองอย่างหนักหน่วงในแดนกลาง คอยวิ่งบดขยี้ ปัดกวาดเช็ดถูทำงานสกปรก จนทีมปีศาจแดงไม่สามารถขึ้นเกมจากตรงบริเวณกลางสนามได้ง่ายๆ
การที่ ฟาน เดอ เบ็ค ฉายแสงไม่ค่อยออก รวมไปจนถึงโอกาสในการซัดประตูตลอด90นาทีเพียงแค่3ครั้งของทีมเจ้าบ้าน เครดิตส่วนหนึ่งก็ต้องยกให้กับมิดฟิลด์ชาวไนจีเรียรายนี้ด้วย และสื่อชื่อดังหลายสำนัก ก็ได้ชี้นิ้วไปในทิศทางเดียวกันว่า เอ็นดิดี้ คู่ควรกับตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะแมตช์
หลายๆนัด เอ็นดิดี้ มักโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเสมอ ในยามที่ต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมที่ไม่ชอบการโดนเพรสซิ่งในแดนกลางเป็นอย่างมาก
มิดฟิลด์วัย24ปีรายนี้ ก็เลยใช้จุดแข็งของตัวเอง นั่นก็คือ พละกำลัง และความขยัน เซ้นต์ในการเล่นเกมรับ ปั่นป่วนการขึ้นเกมจากแดนกลางของทีมปีศาจแดงได้ตลอด
วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ Vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
14 แย่งบอลมากทีสุด
10 ชนะการดวลมากที่สุด
6 แท็กเกิ้ลมากที่สุด
4 ตัดบอลมากที่สุด
- คอลัมน์นิสต์
- 532
- 12 พ.ค. 2564 15:39