โอเล่ ไม่ Move On ! ผีสากกะเบือเจ๊าพาเลซ 0-0
คำถามน่าจะพรั่งพรูเต็มไปหมดสำหรับแฟนบอลปีศาจแดงในช่วงนี้ เมื่อคำว่าลูปนรก ทำท่าจะโคจรเวียนมาหาพวกเขาอีกครั้ง สำหรับผลงานในพรีเมียร์ลีกระยะหลังๆ นับตั้งแต่ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังไม่ Move On กับผลเสมอ 0-0 สักที โดยเฉพาะนัดล่าสุดเมือคืนวันพุธที่ผ่านมา ทำได้แค่เจ๊ากับทีมรองบ่อนอย่าง คริสตัล พาเลซแบบไร้สกอร์ และเป็นรูปเกมที่เรียกเสียงสบถกร่นด่าทั้งนักเตะและโค้ชได้อย่างเต็มปาก
พลพรรคอสูรแดงทำแต้มหล่นหายในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง นั่นยิ่งทำให้สถานการณ์การลุ้นท็อปโฟร์ชุลมุนเข้าไปใหญ่
เพราะนั่นเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ ทีมที่ตามมาอย่าง เซลซี - ลิเวอร์พูล - เวสต์แฺฮม - เอฟเวอร์ตัน ไปจนถึงสเปอร์ส พร้อมทำแต้มไล่จี้ขึ้นมาหายใจรดต้นคออีกครั้ง
สิ่งที่น่าตำหนิของทีมรองจ่าฝูงในนัดนี้คือ ไอเดียเกมรุกที่ตีบตัน ไร้ความสร้างสรรค์ ไร้จินตนาการ ในยามที่ บรูโน่ แฟร์นันเดซ โชว์ฟอร์มไม่ออก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็กลายเป็นทีมที่ปราศจากพิษสงไปแทบหมดสิ้น
ส่วนผู้เล่นที่พอจะฝากความหวังในแนวรุกรองลงมาอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด แมตช์นี้ก็กลายเป็น " แรชชี่ " คนเดิมที่ทำอะไรน่าหงุดหงิดไปหมด
กองกลางอย่าง เฟร็ด ก็จ่ายบอลเสียบ่อยหน ลนลานกับจังหวะการเล่นหลายๆช็อต แถมยังทำเสียฟาวล์โง่ๆให้เห็นอีกด้วย
ที่ต้องโดนจัดหนักจัดเต็มที่สุดคงหนีไม่พ้น กุนซือหน้ายิ้มอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่คิดช้าทำช้า กว่าจะเปลี่ยนตัว รวมไปจนถึงการไม่กล้าได้กล้าเสียในยามที่ทีมต้องการชัยชนะ
เปลี่ยนกองกลางตัวรับออก เอากองกลางตัวรับเข้ามา นี่คือแท็กติกการแก้เกมแบบของของน้าโอเล่ ในยามที่ทีมปีศาจแดงต้องการได้ประตูเป็นอย่างยิ่งยวด
เท่านั้นยังไม่พอเมื่อเห็นว่าลูกทีมยังไร้วี่แวว ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายคู่แข่ง กุนซือชาวนอร์เวย์ ก็ปล่อยให้โควตาเปลี่ยนตัว 1ตำแหน่งหมดไปฟรีๆซะงั้น ทั้งที่ข้างสนามยังพอมีผู้เล่นตัวรุกอย่าง อาหมัด ดิยาโล่
ด้านทีมเจ้าบ้านก็ต้องชื่นชมในเรื่องของความอดทน และการเล่นเกมรับอย่างมีระเบียบวินัย ไม่สมาธิหลุดง่ายๆ โดยเฉพาะเซ็นเตอร์ฮาร์ฟจอมเก๋าอย่าง แกรี่ เคฮิลล์ ที่สกัดกั้นการโจมตีทางริมเส้นของทีมผีแดงได้แทบทั้งหมด
น่าเสียดายที่เกมสวนกลับ ทีมปราสาทเรือนแก้วเฉียบคมน้อยไปหน่อย มิเช่นนั้น 3แต้ม คงมาอยู่ในมือพวกเขาไม่ยาก
ในวันที่ผีแย่แต่ ชอว์ ยังยอดเยี่ยม
นี่คงเป็นเพียงแข้งนักเตะปีศาจแดงไม่กี่คนที่โชว์ฟอร์มได้เข้าตา สวนทางกับผลงานแย่ๆของทีม ลุค ชอว์ แสดงให้เห็นว่าฤดูกาลนี้เจ้าตัวพัฒนาฝีเท้ารุดหน้าขึ้นไปอย่างมาก นับตั้งแต่มี อเล็ก เตลเลส ย้ายเข้ามากดดันตำแหน่งตัวจริงแบ็กซ้าย
แบ็กก้นงอนเลือดผู้ดี เกือบจะทำแอสซิสต์ได้ถึง2ครั้งในช่วง20นาทีแรก โดยเฉพาะจังหวะได้สับไกลในเขตโทษของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เจ้าเน้นมากไปหน่อยจนซัดบอลออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
รวมถึงจังหวะครอสมาให้ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ได้ซัดเหน่งๆ บริเวณกรอบเขตโทษ แต่ทว่าน่าเสียดายที่เจ้าตัวซัดวืดหวดไม่โดนบอล ถ้าเป็นร่างปรกติของดาวเตะชาวโปรตุเกสจังหวะแบบนี้น่าจะใส่สกอร์ได้เลย เพียงแต่ไม่ใช่วันนี้
รับและรุกคือสิ่งที่ ชอว์ ทำได้อย่างสมดุลในเกมกับทีมปราสาทเรือนแก้วเมื่อคืน แม้ว่าในช่วงครึ่งหลังจะดรอปลงไป เพราะเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆก็โชว์ฟอร์มกันไม่ออกด้วย
แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในแข้งปีศาจแดงที่ทำตัวไม่เรียกเสียงกร่นด่า แต่สิ่งที่ ชอว์ อาจจะต้องปรับในเกมต่อๆไปนั่นคือ
การหลุดพื้นที่การยืนตำแหน่ง ให้ผู้เล่นในตำแหน่งปีกขวาของ คริสตัล พาเลซ อย่าง อันดรอส ทาวเซนต์ ทะลุขึ้นมาเล่นริมเส้นจังหวะอันตรายหลายครั้งในช่วงครึ่งหลัง
เฟร็ด เห็นลูกบอลเป็นลูกระเบิด
จากร่าง " เอ็นโกโล่ เฟร็ดเต้ " มาวันนี้ เฟร็ด ก็กลายสภาพคืนร่างมาเป็น เฟร็ด เวอร์ชั่นบราซิลเสิ่นเจิ่น อยากที่เราเคยเห็นในช่วงแรกที่ย้ายมาร่วมทีม สิ่งที่เราเห็นจากมิดฟิลด์ชาวแซมบ้าในนัดนี้ก็คือการจ่ายบอลเสียแบบนับครั้งไม่ถ้วน
รวมถึงจังหวะสอดขึ้นไปเล่นเกมรุกของเจ้าตัว จังหวะเลี้ยงจังหวะกระชากแม้จะดูติดๆขัดๆมากๆ แต่ก็ยังพอฝืนเข้าไปได้
แต่พอมาถึงจังหวะการวางเท้าจบสกอร์ อดีตดาวเตะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ ผู้นี้ทำได้ในระดับที่ย่ำแย่หรือเรียกวิกฤติร้ายแรงเลยก็ว่าได้
สถิติ 1ประตู จาก67นัดในพรีเมียร์ลีก ก็บ่งบอกถึงความเฉียบขาดในการจบสกอร์เป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างจากคู่มิดฟิลด์ตัวรับพาร์ทเนอร์อย่าง สก็อต แม็คโทมิเนย์ ที่โผล่สอดขึ้นมาจบสกอร์ได้อย่างหนักหน่วง แม่นยำ รุนแรง
เกมกับพาเลซ เมื่อคืนนอกจากจะจ่ายบอลเสียบ่อยหนแล้ว การตัดเกมหรือความพยายามแย่งบอลจากเท้าผู้เล่นเจ้าบ้านก็มักจะจบลงด้วยการทำฟาวล์จนเสียจังหวะของเกมหลายครั้ง (3ฟาวล์)
เฟร็ดผ่านบอลไปทั้งสิ้น 63 ครั้ง ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ ในเกมที่ทีมต้องการลำเลียงบอลไปยังแดนหน้าเพื่อหมายเอาประตูคู่ต่อสู้ เพราะมิดฟิลด์ตัวรับของทีมอีกคนอย่าง เนมานย่า มาติช ยังผ่านบอลไปถึง99ครั้งเลยทีเดียว
ในเกมที่ทีมต้องการความมีเสถียรภาพในแดนกลาง การออกบอลในจังหวะที่ให้เพื่อนร่วมทีมได้เปรียบ รวมถึงการคุมจังหวะจะโคนการเล่น ช็อตไหนควรเร่ง ช็อตไหนควรผ่อน
นี่คือสิ่งที่เฟร็ด ทำได้ไม่ดีเลยในนัดนี้ เป็นการบ้านที่เจ้าตัวจะต้องแก้ในนัดต่อๆไป
ดีน เซฟผี
ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เลยทีเดียวสำหรับการออกสตาร์ทเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงในเกมเยือน คริสตัล พาเลซ โดย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มาอธิบายเหตุผลแบบน่าคิดว่า ดาบิด เด เคอา หลุดออกจากทีมไปในนัดดังกล่าวด้วยเหตุผลของเรื่องส่วนตัว
แม้ว่าตลอดทั้งเกม ดีน เฮนเดอร์สัน จะไม่ได้โชว์ลูกเซฟอะไรมาก แต่ทว่าช็อตปล่อยของสำคัญของนายด่านเลือดผู้ดีรายนี้ก็มาช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90+
เมื่อออกมาบล็อกทางลูกยิงหลุดเดี่ยวโล่งๆของ พาทริค ฟาน อานโฮลท์ ได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นคือจังหวะการเซฟที่ทำให้ปีศาจแดงมีแต้มกลับออกมาจาก เซลเฮิร์ท ปาร์ค ได้เลย
ความแตกต่างในการยืนเฝ้าเสาของ ดีน เฮนเดอร์สัน และ ดาบิด เดเคอา มีให้เห็นชัดเจนมากในนัดนี้ นั่นก็คือเรื่องของการออกมาตัดบอลลูกกลางอากาศ
รวมไปจนถึงการตะโกนสั่งการเพื่อนร่วมทีมที่ อดีตนายด่าน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดทำได้ดีกว่า โกลชาวสเปน
การออกบอลด้วยเท้า " ดีโน่ " ก็ดูจะทำได้แม่นยำกว่า สิ่งที่น่าคิดสำหรับเกมนี้นั่นก็คือ การที่น้าโอเล่ เลือกใช้ ดีน เฮนเดอร์สัน เฝ้าเสาในแมตช์ดังกล่าว
อาจเป็นการส่งสัญญาณใบ้บอกว่าเจ้าตัวกำลังพิจารณาความเหมาะสมว่าใครควรได้เป็นนายด่านมือ1ของทีมในซีซั่นต่อไปก็เป็นได้
9 คลีนชีต จาก14นัดที่ลงเฝ้าเสาให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เลวเลยใช่ไหมสำหรับผลงานของ นายด่านมือ2อย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน
โจเอล วอร์ด ทำแรชฟอร์ดไปไม่เป็น
แม้ว่าส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะความห่วยแตกและไร้ประสิทธิภาพในเกมรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วย แต่ทว่าเราก็ต้องชื่นชมแนวรับของ คริสตัล พาเลซ ด้วยเช่นกัน ที่แม้ว่าประสิทธิภาพตัวผู้เล่นจะเป็นรอง แต่ก็ผนึกกำลังสามัคคีกันได้อย่างดี
ตลอด90นาทีเมื่อคืนทีมปีศาจแดงยิงบอลเข้ากรอบเพียงแค่1ครั้งเท่านั้น ซึ่งมาจากจังหวะซัดนอกกรอบเขตโทษของเนมานย่า มาติซ ตั้งแต่นาทีที่ 12
โจเอล วอร์ด ที่ได้เล่นในตำแหน่งแบ็กขวาในนัดนี้่ สื่อหลายสำนักเทคะแนนให้เจ้าตัวเป็น แมน ออฟ เดอะแมตช์ ด้วยผลงานที่โดดเด่นโดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกที่เคลียร์บอลจากการครอสด้านข้างก่อนที่บอลจะมาถึง เอดิสัน คาวานี่
ดาวเตะวัย31ปี จัดการปิดกลอนใส่กุญแจมือ มาร์คัส แรชฟอร์ด จนทำให้แรชชี่ แทบจะสร้างจังหวะกระชากลากเลื้อยบริเวณริมเส้นฝั่งช้ายไม่ออกเลย
สถิติ โจเอล วอร์ด หลังเกม
80.4 % ผ่านบอลแม่นยำ
73 สัมผัสบอล
46 ผ่านบอล
7 เคลียร์บอลจังหวะอันตราย
3 ตัดบอล
2 ชนะลูกกลางอากาศ
1 แท็กเกิ้ล
น้าโอโล่กลับมาปอดแหกอีกรอบ
0-0 เรอัล โซเซียดาด
0-0 เซลซี
0-0 คริสตัล พาเลซ
นี่คือผลงานของปีศาจแดง 3นัดหลังสุด แนวรับรัดกุมเหนียวแน่นขึ้นก็จริง แต่ทว่าเกมรุกเมื่อ บรูโน่ แฟร์นันเดซ เล่นไม่ออกไปสักคนหนึ่ง ยูไนเต็ด ก็เหมือนเป็นทีมที่พิการในเกมรุกไปเลย
นับตั้งแต่ชึ้นนำเป็นจ่าฝูงตอนเอาชนะเบิร์นลี่ย์ 10นัดต่อมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ3 เสมอ6 แพ้1
แถมปัจจุบันโดนจ่าฝูงเพื่อนบ้านอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่างไปแบบไม่เห็นฝุ่น14แต้มเข้าให้แล้ว เรียกได้ว่าเลิกฝันถึงแชมป์ลมๆแล้งๆ ถึงแชมป์ได้เลย
เกมกับพาเลซ น่าตำหนิโซลชาไม่น้อย ที่ทนดูลูกทีมที่ไม่มีท่าที่ว่าจะคุกคามทำประตู คริสตัล พาเลซ ได้ ปล่อยให้เล่นกันไปจนถึงนาทีที่74 ถึงจะมีการขยับปรับเปลียนในซุ้มผู้เล่นบนม้านั่งสำรอง
แต่อนิจจา นอกจากจะความรู้สึกช้าไปแล้ว น้าโอเล่ ยังเปลี่ยนตัวอย่างปอดแหกมีที่ไหนได้ทีมกำลังต้องการประตูเพื่อคว้า3แต้ม
แต่กลับถอดกองกลางตัวรับอย่าง เฟร็ด ออก แล้วเอากองกลางตัวรับอย่าง สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ ลงมาแทน เรียกว่าปรัชญาล้ำลึกจริงๆสำหรับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
เมื่อลูกทีมตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเข้าตาจน โซลชา ไม่สามารถโชว์กึ๋นการแก้เกมหรือปรับเปลี่ยนแท็กติก ไปในทิศทางที่ทำให้รูปเกมดีขึ้น และเพิ่มโอกาสในการส่องตาข่ายคู่ต่อสู้ได้เลย
แถมโควตาเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายกุนซือหน้ายิ้มก็ยังไม่เลือกใช้ อาหมัด ดิยาโล่ ตัวรุกของทีมอีกคนมาเสี่ยงวัดดวง ด้วยการถอดมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง เนมานย่า มาติช ออกไป ปล่อยให้เวลาผ่านหมด90นาทีไปดื้อๆ
เข้าใจว่าแข้งดาวรุ่งชาว ไอวอรี่ โคสต์ อาจจะยังดูดิบและเด็กเกิน แต่การที่ทีมต้องการชัยชนะ น้าโอเล่ ก็ควรที่จะมีความกล้าหาญหรือกล้าได้กล้าเสียกล้าวัดมากกว่านี้
อย่าลืมนะว่าคู่แข่งที่อยู่ตรงหน้าคือ คริสตัล พาเลซ ดีกรีชื่อชั้นนักเตะแทบจะเป็นรอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทุกตำแหน่งไม่มีอะไรที่ โซลชา ต้องกลัวเลย
น่าคิดไม่น้อยว่าการเล่นการคุมทีมด้วย Mentality แบบนี้ เมื่อเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ร้อนแรงแบบสิบล้อเบรกแตก ในวันอาทิตย์ที่จะถึง สภาพของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะออกมาเละขนาดไหน
- คอลัมน์นิสต์
- 529
- 04 ม.ค. 2564 15:07