ป็อกฮีโร่ ! ผีบุกเชือดมิลาน1-0 กรุยทางรอบ8ทีม
แม้จะไม่ใช่เกมที่เล่นดีมากสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แต่ทว่าพลพรรคปีศาจแดงก็ยังดีพอที่จะบุกไปเอาชนะ เอซี มิลาน 1-0 (สกอร์รวม 2-1)
โดยได้ ปอล ป็อกบา สวมบทตัวสำรองซุปเปอร์ซับ ซัดประตูชัยให้ทีมในช่วงต้นครึ่งหลัง น.49
แบ่งกันไปคนละครึ่งนี่คือนิยามของเกมที่ ซาน ซิโร่ ระหว่างเจ้าบ้าน เอซี มิลาน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 45นาทีแรกเป็นทางฝั่งของทัพ ปีศาจแเดง-ดำ ที่ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายครองเกม
แต่ทว่าจังหวะเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย ลูกทีมของ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ไม่ขาดก็ล้นเกินไปเอง
โดยเฉพาะในรายของศูนย์หน้าจำเป็นอย่าง ซามูเอล กาสตีเยโฆ่ ที่แทบจะสร้างความอันตรายหนักอกหนักใจให้กับแนวรับปีศาจแดงไม่ได้เลย แข้งชาวสเปนรายนี้ ตลอด65นาที ที่อยู่ในสนาม มีโอกาสสับไกลยิงเพียงแค่1ครั้งเท่านั้น
แม้ทัพรอสโซเนรี่ จะพยายามแก้เกมด้วยการเอา ชลาตัน อิบราฮิโมวิช ลงมาป่วนแนวรับปีศาจแดง นอกจากลูกโขกให้ ดีน เฮนเดอร์สัน ออกแรงเซฟแล้ว หอกชาวสวีเดนแทบจะไม่ได้บอลและทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยนอกจากการล้ำหน้า
นานๆทีจะเห็น น้าโอเล่ เปลี่ยนตัวแล้วเกิดเป็นผลดี เมื่อถอด มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เล่นไม่ค่อยออก (อาจะด้วยความฟิตที่ยังไม่เต็มร้อย) แล้วใส่ ปอล ป็อกบา ลงมาเพิ่มชีวิตชีวากระชุ่มกระชวยในแผงมิดฟิลด์
สุดท้ายก็เป็นกองกลางชาวฝรั่งเศสรายนี้แหละที่ซัดประตูโทนพาทีมเข้ารอบ8ทีมสุดท้าย
นอกจากป็อกบา แล้วคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ อย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ก็เล่นกันได้ดีแข็งแกร่งมากๆ เซ็นเตอร์ค่าตัว80ล้านปอนด์ก็โดดเด่นสุดๆในเรื่องลูกกลางอากาศ
ส่วนกองหลังชาวสวีดิชก็เล่นได้อย่างเหนียวแน่น สกัดเคลียร์บอลลูกอันตรายได้หลายครั้ง
ผู้เล่นที่น่าผิดหวังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงจะเป็นปีกอย่าง ดาเนี่ยล เจมส์ แม้ว่าแข้งร่างเล็กชาวเวลส์รายนี้ จะใช้ความขยันวิ่งไล่บอล หรือใช้ความเร็วชิงจังหวะเล่นได้หลายหน
แต่ทว่าจังหวะสุดท้ายหรือจังหวะที่ควรจะเลือกจ่ายให้ทีมได้ประโยชน์ เจมส์ ทำได้แย่มากๆ รวมถึงจังหวะการเลี้ยงบอลอย่างไร้จุดหมายของเจ้าตัวที่ทำให้ทีมเสียโอกาสในการทำประตูหลายๆครั้ง
ฮีโร่ ที่ชื่อป็อกบา
ช่วงที่กองกลางเลือดน้ำหอมรายนี้ได้รับบาดเจ็บ เชื่อว่าแฟนบอลปีศาจแดงคงคิดถึงชื่อของ ปอล ป็อกบา ไม่น้อย เพราะเป็นช่วงที่ประจวบเหมาะพอดีกับแนวรุกของทีมฝืดเคือง
ในวันที่ บรูโน่ แฟร์นันเดซ แสดงอาการล้าระหว่างเกมหรือแมตช์ไหนที่เจ้าตัวเล่นไม่ออก เกมรุกและการสร้างสรรค์เกมจากแดนกลางของทีมก็ดูจะเป็นอัมพาตจริงๆ
เกมกับมิลานก็เป็นอีกครั้งที่ ยูไนเต็ด เล่นเหมือนไม่อยากเป็นผู้ชนะ ทั้งที่สถานการณ์คือทีมต้องได้ประตูเอาชนะเพื่อผ่านเข้ารอบ8ทีมสุดท้าย
นี่เป็นครั้งที่ต้องชื่นชม น้าโอเล่ ที่แก้เกมถูกต้องด้วยการเอา ป็อก ป็อกบา ลงสนามแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด ในการออกสตาร์ท45นาทีหลัง
เมื่อมีกองกลางเจ้าของค่าตัว 89 ล้านปอนด์ในสนาม เกมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดีขึ้นอย่างทันตาเห็น เกมจากแดนกลางเหมือนมีพลัง กระปี่กระเป่า ดูคึกคักมากขึ้น โดย ป็อกบา ใช้เวลาเพียงแค่4นาทีในการซัดประตูที่ทีมต้องการได้
มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส เยือกเย็นและนิ่งมากพอ ที่จะหลอกยิงมุมแคบเสาแรกผ่าน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ไปได้ แม้ว่าหลังจากนั้นป็อกบาจะยังมีจังหวะที่เล่นติดๆขัดๆบ้าง
แต่ทว่าก็มีหลายครั้งเหมือนกันที่เจ้าตัว บังบอล จ่ายบอลในจังหวะสวยๆ เลี้ยงกินตัว ผู้เล่น เอซี มิลาน ได้
สถิติหลังเกมระบุความยอดเยี่ยมของ ปอล ป็อกบา ได้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะมีเวลาอยู่ในสนามเพียงแค่45นาที แต่เจ้าตัวก็ยังสามารถหาโอกาสยิงได้3ครั้ง ( มากที่สุดในทีม) และสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนอีก2ครั้ง ( มากที่สุดในทีม)
แดน เจมส์ เล่นอย่างไร้จุดหมาย
ไม่มีใครปฎิเสธอยู่แล้วสำหรับเรื่องความเร็วของ ดาเนี่ยล เจมส์ แต่ทว่าระยะหลังๆผลงานของเจ้าตัวในการได้รับโอกาสลงสนามภาพรวมยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก
ความขยันความมุ่งมั่นทุ่มเทนี่คือสิ่งที่ดาวเตะชาวเวลส์รายนี้ทำได้ดีมาตลอด จังหวะวิ่งไล่เพรสบอลในแดนคู่แข่งคือสิ่งที่เราๆได้เห็นกันเป็นประจำอยู่แล้ว สำหรับ เจมส์
แต่ทว่าในเรื่องของการตัดสินใจการเข้าทำต่างๆในจังหวะเกมรุก ดาเนี่ยล เจมส์ ดูจะทำได้แย่ตลอดไม่ว่าจะเป็นการจ่าย หรือการเลือกเล่นซ็อตที่พยายามฝืนไปเอง แข้งหมายเลข21 ทำได้น่าหงุดหงิดในทุกๆจังหวะ
ยังไม่รวมช็อตที่ต้องปะทะกับแนวรับ เอซี มิลาน เจมส์ โดนอัดกลิ้งไม่เป็นท่าหลายครั้ง
โดยเฉพาะครึ่งแรกที่เจ้าตัวพยายามกระชากบอลผ่านหนี ฟิยาโก โทโมริ แต่ทว่าโดนกองหลังชาวอังกฤษวัย23ปีรายที่ ใช้ไหล่กระแทกล้มไม่เป็นท่า
แม้ว่าจะก้ำกึ่งว่าจังหวะนั้นเป็นการฟาวล์หรือจุดโทษหรือไม่ เพราะในเวทียูโรป้าลีก ไม่มีการใช้ VAR มาติดสิน แต่ก็ต้องยอมรับว่า จังหวะเข้าปะทะเข้าเบียดกับคู่แข่ง ดาเนี่ยล เจมส์ ทำได้แย่มากๆ
เพราะทั้งตัวเล็กและไม่แข็งแกร่ง มักจะเสียเปรียบแนวรับที่รูปร่างสูงใหญ่อยู่เป็นประจำ แถมยังกระชากบอลไม่ค่อยผ่านคู่แข่งอีกด้วย
จากสถิติเมื่อคืนระบุว่า เจมส์ มีจังหวะ Bad Control หรือทำบอลเสียมากถึง8ครั้งด้วยกัน
เมื่อบระเจ๊าหลาลงสนาม
น่าเสียดายไม่น้อยที่ ชลาตัน อิบราฮิโมวิช ไม่สามารถลงสนามเป็นตัวจริงได้ทั้งสองนัด ทั้งในเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ ซานซิโร่ เพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ
แต่ทว่าเกมเมื่อคืนหอกชาวสวีเดน ยังสามารถลงมาช่วยทีมในฐานะตัวสำรอง ลงมาเล่นแทน ซามูเอล กาสตีเยโฆ่ ที่รับบทเป็นหัวหอกจำเป็นในนาทีที่ 65
การลงมาของดาวยิงติสต์แตกแตกสร้างความกดดันให้กับคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ไม่น้อยเมื่อ
อิบราฮิโมวิช ที่สูงถึง195เซ็นเตอร์เมตร กดกันคู่เซ็นเตอร์อย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ วิคเเตอร์ ลินเดอเลิฟ ได้ดีกว่า กาสตีเยโฆ่ ที่สูงเพียง179 เซนติเมตร แน่ๆ
ชลาตัน อิบราฮิโมวิช เกือบทำสกอร์ให้กับทีมได้จาก การเปิดครอสเข้ามาบอล ฮาคาน คัลฮาโนกลู แต่ทว่าลูกโขกของเจ้าตัวที่เอาชนะตัวประกบอย่าง ลุค ชอว์ ได้ แต่ทว่าน่าเสียดายที่บอลไม่ผ่านมือ ดีน เฮนเดอร์สัน
นอกจากจังหวะนั้นเจ้าของฉายา บร๊ะเจ้าหลา ก็แทบไม่ได้มีโอกาสสร้างจังหวะคุกคามแนวรับทีมปีศาจแดงเลย แถมยังมีจังหวะโดนเช็กดักล้ำหน้าไปถึง 3ครั้งด้วยกัน
นี่สิ " ดิ ไอซ์แมน "
นี่คือหนึ่งในกองหลังของทีมปีศาจแดงที่โดนตำหนิแบบหนักๆมาตลอดในช่วงที่ทีมเสียประตูบ่อยๆ ความผิดพลาดส่วนบุคคลเริ่มต้นก็มาจากกองหลังสาวสวีเดนรายนี้อยู่เป็นนิจ
แต่ทว่าฟอร์มในระยะหลังของ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ก็พัฒนาขึ้นมาได้อย่างน่าตกใจ (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะดีแตกเมื่อไหร่) เมื่อคืนปราการหลังจอมปัดผมสามารถเคลียร์สกัดลูกอันตรายจากเกมรุกของ มิลาน ได้หลายหน
โดยเฉพาะการพุ่งไปบล็อกจังหวะที่ ฟร้องค์ เคสซี่กำลังจะหลุดเข้าไปยิงในช่วงครึ่งแรกได้อย่างยอดเยี่ยม การจับคู่ระหว่างเจ้าตัวกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ดูจะค่อยๆลงตัวมากขึ้น
เมื่อคืน วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ผ่านบอลเข้าเป้าได้ถึง 93 % ตัดบอลได้ถึง5ครั้ง เคลียร์บอลจังหวะอันตราย5ครั้ง และ บล็อคลูกยิง 1ครั้ง
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามก็ต้องชมแผงแบ็กโฟร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบันที่ช่วยกันเล่นได้อย่างเหนียวแน่น จนทำให้ทีมกลายเป็นทีมที่เสียประตูยากมากๆ ในระยะหลังๆ
7นัดหลังสุดรวมทุกรายการ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียไปเพียงแค่ 1ประตูเท่านั้น
0-0 เรอัล โซเซียดาด
0-0 เซลซี
0-0 คริสตัล พาเลซ
2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1-1 เอซี มิลาน
1-0 เวสต์แฮม
1-0 เอซี มิลาน
นักเตะเดี้ยงทำมิลานเป๋
ตอนแรกหลายๆคนคงคิดว่า นี่น่าจะเป็นการหวนกับมาคว้าถ้วย สคูเดตโต้ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ10ปีของ เอซี มิลาน เสียแล้ว เมื่อช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล พวกเขาไฉไลร้อนแรงและยอดเยี่ยมมากๆ
ในขณะเดียวกันยูเวนตุส ทีมที่เปลี่ยนกุนซือใหม่มาเป็น อันเดรีย ปิร์โล่ ก็ดร็อปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทีมปีศาจแดง-ดำ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกัลโช่ เซเรียอา ในช่วงครึ่งฤดูกาล 15นัดแรก ชนะ10 เสมอ 5 แพ้ 0
แต่ทว่านับตั้งแต่แพ้ ยูเวนตุส ในนัดที่16 ลูกทีมของสเตฟาโน่ ปิโอลี่ ก็เหมือนจะเป๋และแกว่งไปเลยบวกกับการแรงขึ้นมาเรื่อยๆของ อินเตอร์ มิลาน ทำให้พวกเขาหล่นมาเป็นรองจ่าฝูงและมีแต้มตามหลังทีมงูใหญ่ถึง9แต้มด้วยกัน
12นัดหลังสุดในลีก มิลานชนะเพียงแค่6 เสมอ1 และแพ้ไปถึง5 นอกจากนี้ทัพรอสโซเนรี่ ยังตกรอบ8ทีมสุดท้ายฟุตบอลถ้วย โคปา อิตาเลีย เมื่อแพ้ให้กับทีมคู่ปรับร่วมเมือง 1-2
เมื่อมาดูลิสต์รายชื่อนักเตะบาดเจ็บของเอซี มิลาน ก็น่าปวดหัวอยู่ไม่น้อยเพราะเป็นผู้เล่นตัวหลักทั้งนั้นอย่าง อิสมาเอล เบนนาเซอร์ - อันเต้ เรบิซ - ราฟาเอล เลเอา - ดาวิเด้ คาลาเบีย
ยังไม่รวมถึงพวก ชลาตัน อิบราฮิโมวิช และ ธีโอ เอร์นานเดซ ที่พึ่งสลัดอาการเดี้ยงหายกลับมา
สถานการณ์ ในปัจจุบันรวมถึงสภาพจิตใจและผลงานของทีมตอนนี้ มีโอกาสสูงมากๆที่ทีมยักษ์ใหญ่แห่งเมืองมิลาน จะมือเปล่าในซีซั่นนี้ทั้งที่ออกสตาร์ทมาอย่างสวยหรูเหลือเกิน
- คอลัมน์นิสต์
- 440
- 19 ม.ค. 2564 16:49