เดินหน้าล่าท็อปโฟร์ ! ผีงานชิว ถล่ม เจ้าป่า 3-0 แรชฟอร์ด ดาวเด่น
ก่อนเกมที่จะต้องเปิดบ้านต้อนรับทีมน้องใหม่โซนท้ายตารางอย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นต่อผู้มาเยือนมากๆอยู่แล้ว ซึ่งทีมเจ้าป่า ยังไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยในเกมเยือนซีซั่นนี้ ทำให้ผลลัพธ์90นาทีที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ได้พลิกล็อคอะไร กับชัยชนะ3-0 ของทัพปีศาจแดง แบบไม่ยากเย็นนัก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหาในการจัดทัพในแผงหลังพอสมควร เนื่องจาก ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังไม่ได้กลับมาฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม ส่วนเซ็นเตอร์อย่าง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ มีอาการป่วยทั้งคู่ โดย "เฮียเลิฟ " ไม่ได้มีชื่ออยู่ในทีมเลย รวมไปจนถึง ดิโอโก้ ดาโล่ต์ แบ็กขวาที่ไม่มีชื่อเช่นกัน
นั่นทำให้ เอริก เทน ฮาก จัดทัพโดยการขยับ ลุค ชอว์ มาเล่นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟคู่กับ ราฟาเอล วาราน แบ็กขวาให้โอกาส อารอน วาน -บิสซาก้า และแบ็กซ้ายเป็น ไทเรลล์ มาลาเซีย ส่วนผู้มาเยือนมาในระบบ4-3-3 พร้อมการคืนถิ่นเก่าของ เจสซี่ ลินการ์ด
เกมในครึ่งแรกก็อยู่ภายใต้การคอนโทรลของปีศาจแดงอย่างสิ้นเชิง และเจ้าบ้านก็ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จาก ลูกสูตรที่ คริสเตียน อิริคเซ่น เปิดลูกเตะมุมเรียดเสาแรกมาให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด สอดเข้ามายิงตะบันเข้าไป น.19
ก่อนที่อีก3นาทีต่อมาจากจังหวะสวนกลับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไหลบอลให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่แปไม่ดีนัก แต่ทว่าโกล ฟอเรสต์ อย่าง เวย์น เฮนเนสซี่ย์ กลับพุ่งตัวเอนไปอีกทางแล้วย้อนมาปัด แต่ทว่าเซฟไม่ดีบอลปลิ้นเข้าประตูไปเฉย
ท้ายครึ่งแรก ลูกทีมของ สตีฟ คูเปอร์ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้แล้ว แต่ทว่าลูกโขกของ ไรอัน เยสต์ ไปแฉลบขา วิลลี่ โบลี่ ที่ยืนล้ำหน้าอยู่ไปเสียก่อน จบ45นาทีแรก เจ้าบ้านนำห่าง 2-0 พอออกสตาร์ทครึ่งหลัง แมนฯยูไนเต็ด เหมือนจะผ่อนเกมลง ทำให้ผู้มาเยือนมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่ดีกว่าครึ่งแรก แต่ทว่า ฟอเรสต์ เอง ก็ไม่สามารถหาโอกาสจบสกอร์ที่เหมาะเหม่งได้
จนท้ายที่สุดแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะ 3-0 จากจังหวะที่ กาเซมิโร่ จ่ายสุดเฉียบทะลุให้ ตัวสำรอง เฟร็ด ยิงเสียบมุมในเขตโทษเข้าไป น.87 จบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าวและ3แต้มของกุนซือ เอริก เทน ฮาก
โดยแมตช์ดังกล่าวพลพรรคปีศาจแดง มีนักเตะที่ฟอร์มเด่นหลายคนทั้ง ลุค ชอว์ - มาร์คัส แรชฟอร์ด รวมไปจนถึง กาเซมิโร่ ที่เก็บกินเกมในแดนกลางได้อย่างหมดจด และยังมีแอสซิสต์ ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ และคลาสอันยอดเยี่ยม
ส่วนที่น่าผิดหวังกว่าใครเพื่อนนั่นก็คือ "พี่หมุน " แอนโทนี่ ที่ทำอะไรก็น่าหงุดหงิดไปหมด และสุดท้ายก็ไม่ได้สำแดงพิษสงอะไร ถูกเปลี่ยนตัวออก เพียงแค่ น.65 ให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ มาเล่นแทน
แรชฟอร์ด ติดเครื่องจากบอลโลก
ถ้าเทียบฟอร์มกับฤดูกาลที่แล้ว 2021-2022 เรียกได้เลยว่านี่คือ จากหน้าเท้าเป็นหลังมือได้เลย สำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เพราะภายใต้ยุคของกุนซือ เอริก เทน ฮาก " แรชชี่ " คือตัวเลือกอันดับแรกของทีมในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็นจากด้านข้างซ้าย-ขวา หรือหน้าเป้า
เกมกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อคืน มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัดสุดๆนั่นก็คือตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่แข้งลูกหม้อปีศาจแดงรายนี้ จะฉายแสดงด้วยผลงาน1ประตู 1แอสซิสต์
เม็ดแรกต้องชมแท็กติกการเล่นลูกนิ่งของทีมเลย โดยปรกติเรามักจะไม่ค่อยได้เห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประตูจากลูกตั้งเตะเท่าไหร่ แต่ทว่าเมื่อคืนจากลูกเตะมุม (ที่มาจากการซ้อมเป็นอย่างดี) คริสเตียน อิริคเซ่น ปาดเรียดมาเสาแรก ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หนีตัวประกบมายังจุดนัดพบตวัดยิงเข้าไป
ลูกสองก็เป็นจากจังหวะสวนกลับ ดร.แรชฟอร์ด ใจกว้าง แอสซิสต์ให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล แปแล้วมีโชคเล็กน้อย เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ปัดลูกที่ไม่หนีมือเท่าไหร่ ไหลเข้าไปซุกก้นตาข่ายดื้อๆ
เมื่อคืน ดร.แรช มีส่วนสำคัญกับเกมรุกมากๆ จ่ายบอลจังหวะสำคัญๆแม่นยำ ไม่เล่นจังหวะนรกเหมือนแต่ก่อน น่าเสียดายที่โอกาสเหมาะๆอีก2ครั้ง แรชฟอร์ด จะบวกสกอร์เพิ่มให้ตัวเองไม่ได้ ซึ่งในครึ่งหลังก็มีหลายช็อตเหมือนกันที่ ดาวเตะเบอร์10รายนี้ ยืนตำแหน่งดีๆ มีพื้นที่จ่ายให้ แต่ทว่าเพื่อนร่วมทีมดันทำเสียก่อนซะงั้น
นอกจากฝีเท้าแล้ว ความมั่นใจนี่คือสิ่งที่ แรชฟอร์ด มีมากๆในฤดูกาลนี้ 10ประตู รวมทุกรายการ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ ปีศาจแดง กำลังตัดสินใจมอบสัญญาฉบับใหม่พร้อมค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นให้ ดาวเตะลูกหม้อรายนี้
แผงแบ็กโฟร์แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ด้วยความที่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังไม่กลับมาจากฉลองแชมป์โลกกับอาร์เจนติน่า บวกกับ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ มีอาการป่วย รวมถึง แม็คไกวร์ ที่ยังไม่ฟิตเต็มร้อยเท่าไหร่ ( หรือไม่ก็ เอริก เทน ฮาก ไม่ไว้ใจ ) แถมแบ็กขวาตัวจริงอย่าง ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ยังไม่พร้อมในเกมนี้
ทำให้กุนซือชาวดัตช์ต้องจัดตัวแก้ขัดไปก่อน ไม่ว่าจะเป็น อารอน วาน -บิสซาก้า ได้ออกสตาร์ทเป็นแบ็กขวาตัวจริง ไทเรลล์ มาลาเซีย ได้เล่นในตำแห่งแบ็กซ้าย แทนที่ของ ลุค ชอว์ ที่ถูกขยับไปเล่นเซ็นเตอร์กับ ราฟาเอล วาราน
ที่ผ่านมา ชอว์ เคยเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฝั่งซ้ายมาก่อนในระบบหลัง3 แต่ทว่าเกมนี้นั้นไม่ใช่ โอเค อาจเพราะด้วยว่าคู่แข่งนั้นอ่อนชั้นกว่า ถึงกระนั้นก็ดีก็ต้องชม แข้งหมายเลข23รายนี้ด้วยที่เสียบแทนในตำแหน่งเซ็นเตอร์ได้อย่างไม่มีที่ติเลย ชิงจังหวะบอลสำคัญๆได้ตลอด
ลุค ชอว์ ในบทบาทเซ็นเตอร์เล่นได้ดีกว่าที่คาดไว้ ยืนตำแหน่งดีไม่หลงง่ายๆ ตัดบอลได้3ครั้ง - เคลียร์บอล 2หน แถมยังผ่านบอลไปมากถึง 112ครั้งอีกด้วย
ส่วน วาน-บิสซาก้า ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงนัดแรกในลีกซีซั่นนี้ ก็ดูจะลดความเงอะงะ จากแต่ก่อนไปได้ในระดับหนึ่ง เข้าบอลดุดัน ผ่านบอลได้แม่นยำขึ้น แม้ว่าจะต้องปรับปรุงอีกพอสมควรก็ตาม
ทางฝัง ไทเรลล์ มาลาเซีย กับบทบาทแบ็กซ้าย เจ้าหนูชาวดัตช์ ถือว่าเติมเกมบุกใช้ได้เลย เสียที่จ่ายบอลจังหวะสุดท้ายไม่แม่น แต่ก็เกือบเติมขึ้นไปทำประตูได้ ทว่าอย่างไรก็ตามในส่วนของเกมรับ มาลาเซีย ก็มีหลุดๆให้เห็นเช่นกัน เล่นได้ไม่ละเอียดไม่เนี๊ยบพอ โดนใบเหลืองจากจังหวะเข้าสกัดช้า แต่ภาพรวมถือว่าผ่านนะ
กาเซมิโร่ ดุดันไม่เกรงใจใคร
เรื่องฝีมือและความครบเครื่องต้มยำในแดนกลาง ไม่มีใครสงสัยในความสามารถและฝีมือของ กาเซมิโร่ อยู่แล้ว ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ห้องเครื่องชาวบราซิล ก็บรรเลงเพลงแข้งให้เห็นว่าตัวเองสำคัญกับเกมในแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขนาดไหน
เมื่อคืนกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่คุณภาพนักเตะอ่อนชั้นกว่า นั่นจึงทำให้เห็นได้ชัดมากๆว่า กาเซมิโร่ เอาอยู่หมดจดกับเกมในแดนกลาง เมื่อดวลกับมิดฟิลด์ทีมผู้มาเยือนอย่าง ไรอัน เยตส์ -โอเรล ม็องกาล่า - เรโม ฟรอยเลอร์ " พี่เกษม " เก็บกินได้หมดจด
ดุดันไม่เกรงใจใคร นี่คือสิ่งที่อธิบายฟอร์มของ กาเซมิโร่ เมื่อคืนได้เลย วิ่งพล่านไปทั่วสนาม เข้าบอลแบบดุดัน เฉียบขาดแม่นยำ ถึงรากถึงโคน ประตู2-0ที่ปีศาจแดงสวนกลับก็เป็น อดีตห้องเครื่อง เรอัล มาดริด นี่แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นแหย่สกัดบอลแถวๆเขตโทษตัวเองเขี่ยออกมาให้เพื่อนเล่นต่อได้
คลาสบอล เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ กองกลางชาวบราซิลรายนี้ มอบให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เต็มๆเมือคืน จ่ายบอลก็เยี่ยม แถมยังมีแอสซิสต์ สุดเฉียบเป็นเครื่องการันตีผลงานให้ เฟร็ด ได้สังหารตอกฝาโรง 3-0 ท้ายเกมอีกด้วย
สถิติตัวเลขหลังเกมของ กาเซมิโร่ นั้นสุดยอดมากๆทั้ง สัมผัสบอล 104 ครั้ง / ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย 13ครั้ง / ชนะการดวล7ครั้ง / แท็กเกิ้ล5ครั้ง / ตัดบอล2ครั้ง / เคลียร์บอล3ครั้ง /สร้างสรรค์โอกาส 3ครั้ง
ฟอร์มของ กาเซมิโร่ แทบจะทำให้ลืมไปเลยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหาคู่มิดฟิลด์ ที่เรื้อรังมา 2-3 ฤดูกาลแล้ว ยิ่งพอกองกลางของทีมไม่ใช่คู่หูนรกแตกอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ กับ เฟร็ด ก็ยิ่งทำให้เห็นพัฒนาการและความแตกต่างอย่างชัดเจน
แอนโทนี่ (พี่หมุน) ทำตัวน่าผิดหวัง
ด้วยความที่คู่แข่งห่างชั้น เป็นทีมน้องใหม่โซนท้ายตาราง นั่นทำให้ ผู้เล่น11ตัวจริงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นกันได้ดีหรือเสมอตัวกันทุกคน แต่ทว่าก็มีนักเตะอยู่1รายเมื่อคืนของทีมเจ้าบ้านที่ทำตัวได้น่าผิดหวังสุดๆ
ซึ่งใครคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "พี่หมุน " แอนโทนี่ โดยกับทีมชาติบราซิล เมื่อบอลโลก2022ที่ผ่านมา อดีตแข้งอาแจ็กซ์รายนี้ เมื่อได้ลงสนามก็โชว์ฟอร์มได้ไม่เข้าตาเท่าไหร่
เกมเมื่อคืนกับ ฟอเรสต์ แข้งเบอร์21ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และเป็นเหมือนผู้เล่นแกะดำเพียงคนเดียวที่ไม่เข้าพวกนั่นก็คือ โชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐานสุดๆ ถ้าจะใช้คำนิยามให้เห็นภาพฟอร์มเมื่อคืน ก็คงจะเป็น ทำตัวน่าหงุดหงิด
ทั้งที่ผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายของ ทีมเจ้าป่า ไม่ได้มีชื่อชั้นอะไรมากอย่าง เรนาน โลดี้ (ที่อยู่ในช่วงฟอร์มตกมาจาก แอต.มาดริด) แต่ตัวของ แอนโทนี่ ก็ไม่ได้แสดงพิษสงอะไรออกมาเลย มิหนำซ้ำจังหวะการเลี้ยงก็ดูติดๆขัดๆพิกล ผ่านบอลไม่แม่น แถมยังชอบเล่นท่ายากจนเพื่อนร่วมทีมต้องวิ่งเก้อหรือเสียจังหวะ
เมื่อคืนไม่ใช่ว่า แอนโทนี่ ไม่มีโอกาสยิงประตูเลย ปีกค่าตัว 100ล้านยูโร ได้บอลจากการไหลสั้นๆของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ในเขตโทษ แต่เจ้าตัวก็ยิงไม่หนีมือจนไปติดเซฟ เฮนเนสซี่ย์ แบบเสียของ
นับตั้งแต่โชว์ลีลาบรรลือโลกหมุน 360องศา 2รอบ หลังจากนั้นก็เจ็บไม่ได้ลงสนาม ดูเหมือนว่า แอนโทนี่ เอง จะเป็นนักเตะอีกหนึ่งรายที่ค่อยๆทำฟอร์มหล่นลงไป แต่ทว่าก็ยังพอมีเวลาพิสูจน์ตัวเองอยู่ เนื่องจาก เจดอน ซานโช่ ยังไม่พร้อมกลับมาจากโปรแกมการฝึกซ้อมแยกเดี่ยว
ลินการ์ด กลับบ้าน / เจ้าป่า เอามุมไหนรอดตกชั้น
นี่คือการกลับมาเยือนถิ่นเก่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครั้งแรกของ เจสซี่ ลินการ์ด ในฐานะนักเตะฝั่งตรงข้าม โดย " บีนส์ บีนส์ บีนส์ " พึ่งย้ายออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา แบบไม่มีค่าตัว และได้เซ็นสัญญา1ปี กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ลินการ์ด ได้ค่าจ้างมหาศาลเลยทีเดียวกับทีมน้องใหม่ 200,000 ปอนด์/สัปดาห์ แต่ทว่าเมื่อเทียบกับผลงานที่ตอบแทนมาแล้ว ต้องบอกได้เลยว่าไม่คุ้มค่าจริงๆ 14นัดในลีก 0 ประตู 0 แอสซิสต์ " มหาเทพลินการ์ด " กลับมาเจอทีมเก่า แต่ทว่าไม่ได้ใช้สิทธิกฎยิงประตูทีมเก่าแต่อย่างใด
เนื่องจากตัวรุกวัย30ปีรายนี้ แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกม ไม่ได้บอล กลายเป็นบุคคลสูญหาย ลินการ์ดถูกตัดออกจากเกม โอกาสจ่ายบอล 22ครั้ง /โอกาสยิง 0 / สร้างสรรค์โอกาส 0 ก่อนที่จะมีอาการบาดเจ็บ และเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่หัววัน น.53 ให้ ลูอิส โอไบรอั้น มาเล่นเทน
โดยช่วงที่ถูกเปลี่ยนตัวออก เจสซี่ ลินการ์ด ได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลามกับแฟนบอลปีศาจแดงเลยทีเดียว ส่วน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เล่นมาจนจะครึ่งฤดูกาลแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าระบบที่ลงตัวที่สุดของพวกเขาคือแผนไหน
การหว่านซื้อนักเตะมามากถึง 22รายในตลาดซัมเมอร์ ด้วยงบกว่า 152 ล้านปอนด์ สตีฟ คูเปอร์ กุนซือ ที่(ยังอุตส่าห์)ได้รับสัญญาใหม่ ยังไม่เห็นแนวทางที่ชัดเจนเลยว่า ทีมจะเล่นระบบไหน สไตล์ยังไง 11ผู้เล่นตัวจริงที่ดีที่สุดมีใครบ้าง
ปัจจุบัน ฟอเรสต์ อยู่อันดับ 19ของตาราง มี13แต้ม จาก16นัด ดูจากรูปการณ์และฟอร์มหลายๆอย่าง มีโอกาสมากๆเหมือนกันที่ทีมเจ้าป่า จะหล่นไปเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ทันทีในฤดูกาลเดียว ทั้งที่รอคอยการโผล่ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดนานถึง 24ปีก็ตาม
- คอลัมน์นิสต์
- 453
- 28 ธ.ค. 2565 14:08