ผีควรไปต่อหรือพอกับป็อกบา ?
จะว่าไปเผลอพริบตาเดียวนี่ก็เข้าสู่ฤดูกาลที่5ของ ปอล ป็อกบา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้ว นับตั้งแต่ดาวเตะชาวฝรั่งเศสเลื้อยตูดดำๆกลับมาฝังหนอกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อซัมเมอร์ปี2016 ด้วยค่าตัวที่ตอนนั้นแฟนบอลหลายๆท่านคิดว่าพวก เอ็ด วู๊ดเวิร์ด บ้าไปแล้วเปล่าว่ะที่ยอมวอดวาย 89ล้านปอนด์ ให้กับ ยูเวนตุส และยังถือว่าเป็นนักเตะคนเดียวบนเมืองมนุษย์ที่เปิดตัวกับสังกัดใหม่ด้วยการเต้นโชว์สเต็ปเท้าไฟผ่านวีดีโอพรีเซ็นเทชั่น
สิ่งแรกเลยที่แฟนผีมักจะโดนแฟนบอลทีมอื่นล้อเลียนถากถางเกี่ยวกับเฮียป็อก นั่นคือการเสียค่าโง่ดึงนักเตะเก่าของตัวเองกลับมา แต่ต้องเสียตังค์ถึง89ล้านปอนด์ แถมตอนปล่อยยังปล่อยฟรีอีกต่างหาก
เรื่องนี้มีหลายคนที่เข้าใจถูก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เข้าใจผิด ประการแรกแมนยู ไม่ได้อยากปล่อยป็อกบา แต่เจ้าตัวเองอยากย้าย ว่ากันว่าจุดแตกหักเกิดขึ้นตอนนัดที่แมนยูเปิดบ้านแพ้ให้กับแบล็คเบิร์น 2-3 (ตอนสิ้นปีฤดูกาล2011-2012)
แมตช์ดังกล่าวนักเตะปีศาจแดงเจ็บกันหลายคน แถมพวกขาใหญ่อย่าง เวย์น รูนี่ย์ ก็แอบหนีเที่ยวกลางคืนจนโดน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดัดนิสัยตัดออกจากทีม นัดดังกล่าว ป็อกบา ควรได้โอกาสลงสนามในสภาพที่ทีมพิกลพิการ แต่ป๋าแกกลับใช้ พาร์ค ซี ซอง ซึ่งไม่ใช่กองกลางโดยธรรมชาติลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ นั่นคือจุดที่ทำให้ป็อกบาปรี๊ดแตก และเกิดอาการอยากย้ายในที่สุด
อีกตัวเร่งปฎิกิริยานั่นคือเอเย่นต์ตัวแสบอย่างพี่อ้วน มิโน่ ไรโอล่า หรือที่ป๋าตั้งฉายาให้พี่แกว่า Shit Bag หรือไอ้ถุงขี้ เพราะการย้ายสังกัดแต่ละครั้งเอเย่นต์จะได้ส่วนแบ่งค่าน้ำชาเสมอ ผีอยากต่อสัญญากับป็อกบาออกไป แต่เจ้าตัวไม่อยากสลัดน้ำหมึกเซ็นเพิ่ม ผลจึงออกมาที่แข้งชาวฝรั่งเศสย้ายไปจอยทัพกับทีมม้าลายแบบฟรีๆ
มาพูดถึงเรื่องผลงานเพียวๆของป็อกบากับแมนฯยูดีกว่า ถามว่าดีไหม ? ถ้าจะให้พูดตามตรงก็ยังไม่ค่อยน่าโสภาประทับใจสักเท่าไหร่คะแนนเต็ม10 เฮียป็อกน่าจะได้เพียงแค่ 5-6 โอเคแม้ว่าจะมีบางนัดที่เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างเทพ แต่ก็มีอีกหลายๆนัดเช่นกันที่เล่นไม่ออกสามวันดีสี่วันไข้ จะดีก็ดีไม่สุด เป็นที่พึ่งของทีมไม่ได้ แถมช่วงที่พีคก็ไม่สามารถรักษามาตรฐานการเล่นให้คงเส้นคงวาสม่ำเสมอได้ ถามว่าปัญหาอยู่ตรงไหน ?
ระบบการเล่น ว่ากันว่าป็อกบา จะเล่นได้เปร่งปรั่งเป็นประกายที่สุดในระบบ 4-3-3 ระบบที่ใช้กองกลางสามคน เหมือนสมัยที่อยู่กับยูเวนตุส ที่มีทั้ง อันเดรีย ปิร์โล่ และ อาร์ตูโร่ วิดัล คอยเป็นพี่ใหญ่ประคอง ถามว่าทีมปีศาจแดงเคยเล่นระบบนี้ไหม? จริงๆเคยเล่นสมัยกุนซือเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ โดยป็อกบา มี เนมานย่า มาติซ และ อันเดร์ เอร์เรร่า เป็น ลูกหาบให้ หรือแม้กระทั่ง 4-4-2 แบบไดมอนด์ในยุคน้าโอเล่ ผลออกมาเวิร์คในระดับหนึ่ง แต่ก็ใช้ไม่ได้ผลในระยะยาว
ส่วนในทีมชาติฝรั่งเศส ภายใต้การทำทีมของ ดิดิเย่ร์ เดชองส์ ป็อกบาฟอร์มกระฉูดแตกทะลุเพดานมากๆ กับชุดแชมป์โลก 2018 ในระบบ 4-2-3-1 โดยมี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คอยทำงานสกปรกปัดกวาดเช็ดถูให้ แถมยังมีความออปชั่นพิเศษสอดไส้ตรงที่หน้าบนซ้ายอย่าง แบลส์ มาตุยดี้ คอยวิ่งลงมาช่วยไล่บอล เล่นต่ำในแดนกลางด้วย
จะเห็นได้ว่าแผนการเล่นไม่น่าจะเกี่ยวมากนักกับฟอร์มของดาวเตะค่าตัว89ล้านปอนด์กับทีมปีศาจแดงมากนัก เผลอๆกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ โชเซ่ มูรินโญ่ พยายามหารูปแบบการเล่นที่เอื้อต่อป็อกบาทั้งนั้น หรือสร้างทีมโดยการมีป็อกบาเป็นศูนย์กลางตลอด แต่มันกลับไปไม่สุดเส้นชัยสักทีเหมือนติดชะงักอะไรสักอย่าง
สภาพแวดล้อมนักเตะเพื่อนร่วมทีม ถามว่ามีส่วนกับฟอร์มไหม ? ถ้าตอบว่าไม่มีส่วนก็ดูจะอคติลำเอียงใจร้ายไปหน่อย เราต้องยอมรับว่าองค์ประกอบโดยรวมผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณภาพไม่ได้สูงส่งเท่ากับทีมชาติฝรั่งเศส และยูเวนตุส แต่มันก็ไม่ได้ขี้เหร่ถึงขนาดไปวัดไปวาไม่ได้ ตัวอย่างง่ายๆไม่ต้องไปชายตามองที่ไหนไกลเลยดูอย่าง บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่มาแล้วสามารถเสกยกระดับการเล่นของทีมได้อย่างชัดเจน ทั้งที่ใช้เวลาไม่ถึง1ฤดูกาลเต็มด้วยซ้ำ
เคมีไม่ลงตัว ? บางทีฟุตบอลมันก็แปลกเหมือนกันบางเรื่องก็หาเหตุผลอะไรมาอธิบายทั้งหมดไม่ได้ ป็อกบากับทีมปีศาจแดงถือสามง่ามอาจเป็นเคมีสมการที่ไม่เข้ากันอย่างแรงแถมยังทำปฎิกิริยาต้านกันอีกด้วย จังหวะการเล่นหรือสไตล์การเล่นของเจ้าตัว อาจไม่เข้ากับระบบของทีมก็เป็นได้ ความเงื้อง่าราคาแพง รวมถึงจังหวะวันแมนโชว์กูอยากไปคนเดียว ที่พลอยทำให้เกมรุกของทีมสะดุดบอลเสียอยู่บ่อยครั้ง
ความกดดันเรื่องค่าตัวคืออีกหนึ่งตัวแปรที่คอยตามหลอกหลอนป็อกบามาตลอด แฟนผีล้วนคาดหวังกับเจ้าตัวมากกว่าที่ทำได้ตอนนี้ สิ่งที่ป็อกบาต้องเผชิญมันหนักอึ้งเกินกว่าเจ้าตัวจะรับมือไหว อย่าลืมว่าค่าตัว89ล้านปอนด์ มันตีตราหล่นบนบ่าทุกนาทีที่ลงสนาม ยังไม่รวมเรื่องของสื่อเมืองผู้ดีที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องอยากเห็นความฉิบหายวอดวายของคนอื่น
นัดไหนที่เล่นไม่ดี พร้อมจะละเลงเขียนข่าวเล่นงานกะเอาตายตลอด รวมไปจนถึงเรื่องไลฟ์สไตล์นอกสนาม เรื่องการใช้สื่อโชเชียลมีเดีย แม้กระทั่งเรื่องแฟชั่น ที่ป็อกบาโดนล้อว่าเป็นกองกลางตัวตัดผม ทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นเหล่าที่จะโทษสื่อฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ต้องโทษทัศนคติรวมถึงการใช้โซเชียลของป็อกบาด้วย ที่ดูเหมือนไม่อยู่กับร่องกับรอยโฟกัสเรื่องในสนามเท่าที่นักฟุตบอลมืออาชีพควรจะเป็น
โดยส่วนตัวคิดว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของป็อกบา นั่นก็คือสภาพจิตใจและความมุ่งมั่นนี่แหละ เข้าใจว่าอยู่แมนฯยูมันลำบาก ไม่ประสบความสำเร็จง่ายๆ ก็เลยเล่นไปปล่อยจอยไปดื้อๆ อย่างสถานการณ์ล่าสุดที่สูญเสียตำแหน่งตัวจริงในทีมให้กับ สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ และ เฟร็ด แทนที่จะแสดงความกระเหี้ยนกระหือรือ ตั้งใจฝึกซ้อม หรือพิสูจน์ให้เห็นว่ากูยังเอาอยู่นะ ต้องการกลับมาทวงตำแหน่ง11ตัวจริงคืน
แต่ป็อกบากลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามเลย มีโทษฟ้าโทษฝน มิหนำซ้ำยังออกมาพ่นให้ร้ายสังกัดอู่ข่าวอู่น้ำในช่วงที่รับใช้ภารกิจทีมชาติว่า เหมือนได้มาสูดอากาศบริสุทธิ และมีความสุขกว่าตอนอยู่กับสโมสร แฟนผีหลายๆคนฟังแล้วคงแบบ อืม…นะ และนี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่เจ้าตัวออกมาพูดแนวนี้นี่สิ
คุณป็อกเก่งใหม? ในฐานะคนดูบอลอย่างผมเอง ยังเชื่อว่าเจ้าตัวยังเป็นดาวเตะที่มีความสามารถสูง ตรึงตาในจังควบตะบึงไปข้างหน้าอย่างเมามันของเจ้าตัว ความแข็งแกร่ง รวมถึงจังหวะจ่ายบอลแบบได้เสีย(ที่หลังๆไม่มีให้เห็นแล้ว) แต่สิ่งหนึ่งที่ป็อกบาไม่ผ่านมาตลอดคือเรื่องของสภาพจิตใจ ทัศนะคติและความมุ่งมั่น ที่แสดงออกทั้งภาษากายเวลาอยู่ในสนามรวมถึงคำพูดการให้สัมภาษณ์
ฟุตบอลเป็นทีมสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้นอกจาก แท็กติกความสามารถทีมเวิร์คและพละกำลัง นั่นก็คือเรื่องของหัวจิตหัวใจ ป็อกบาขาดตรงนี้มาตลอดนับตั้งแต่กลับมาสวมเครื่องแบบปีศาจแดงรอบสอง ถามว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรไปต่อกับป็อกบาไหม เราต้องถามกลับคืนไปว่าแมนฯยูเสียเวลากับป็อกบาลองผิดลองถูกจูนปรับวิธีการเล่นเพื่อเอื้อให้ป็อกบามา5ปีแล้ว ทุกท่านคิดว่ามันมากพอรึยังละ?
- คอลัมน์นิสต์
- 514
- 18 พ.ย. 2563 17:42