ยังอัปยศได้อีก ! ผี โดน ผึ้งต่อยเละ 4-0 จมบ๊วยครั้งแรกในประวัติศาตร์พรีเมียร์
ยังเละและอัปยศได้กว่านี้อีกสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ คศ.นี้หลังจากที่ เปิดฤดูกาลด้วยการแพ้คาบ้าน ต่อ ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน1-2 สัปดาห์ต่อมาคาดการณ์กันว่า พลพรคปีศาจแดงน่าจะมีแรงฮึดกลับมาบ้าง แต่ทว่าไม่เลย ทุกอย่างกับเละไม่เป็นท่า สภาพกลายเป็นโจ๊กไม่มีชิ้นดี เพราะบุกไปโดน เบรนท์ฟอร์ด สอนบอลอย่างน่าอับอาย 4-0
เกมที่สนาม จีเท็ค สเตเดี้ยม ระหว่างเจ้าบ้าน เบรนท์ฟอร์ด บอลที่มีทรงของ โธมัส แฟร้งค์ ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีผู้จัดการทีมคนใหม่ เอริก เทน ฮาก และผลลัพธ์ก็เกิดเข้าขั้นเซอร์ไพรส์สุดๆไปเลย เมื่อ " เดอะ บีส์ " ถล่มเอาชนะไปได้เหมือนบอลคนละชั้น 4-0
35นาที คือเวลาที่พลพรรคผึ้งน้อย เผด็จศึก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จอช ดาซิลวา น.10 - มาเธียส ยานเซ่น น.18 - เบน มี น.30 และ ไบรอัน เอ็มบูเอโม่ น.35 สรุป 4-0 พูลสวัสดิ์ ใน45นาทีแรก ครึ่งหลังแม้ ยูไนเต็ด จะพยายามบุกมาขึ้น แต่ก็แทบไม่มีจังหวะใกล้เคียงจะตีไข่แตกเลย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มาเยือนโดยประเดิมชุดใหม่หญ้าเขียว มีฟอร์มและทรงการเล่นที่ไม่แตกต่างจากยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตอนปลาย และ ราล์ฟ รังนิก เลย แผงหลังยืนจัดระเบียบกันมั่วซั่ว พร้อมเสียประตูได้ทุกรูปแบบทุกนาที
ส่วน ดาบิด เด เคอา จากที่เคยเป็น ฮีโร่ ของทีมมาโดยตลอด นัดนี้โกลชาวสเปนมีส่วนต้องรับผิดชอบเต็มๆกับ2ประตูแรก รวมไปจนถึงดอกที่3 รับไปคนละครึ่งกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ " เดฟ " มีเค้าลางไม่ดีก่อความผิดพลาดมาตั้งแต่ช่วงอุ่นเครื่อง ปรี-ซีซั่นแล้ว
ทางฝั่งของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ การที่เจ้านายคนเก่า เลือกส่งเจ้าตัวลงเป็นตัวจริง2นัดติดต่อกัน ก็ยิ่งเป็นการเปิดแผลให้เห็นอีกว่า กองหลังเจ้าของส่วนสูง 175 ซม.รายนี้ มีปัญหาอย่างยิ่งยวด กับฟุตบอลที่มีความเร็ว ความดุดัน และเน้นลูกกลางอากาศอย่างเวทีพรีเมียร์ลีก
ส่วนแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ต้องพูดถึงทุกอย่างยังเหมือนเดิมทุกระเบียดนิ้ว เจดอน ซานโช่ นี่ก็เข้าสู่ปีที่2 ยังไม่กล้าเล่นกล้าลุยสักที มาร์คัส แรชฟอร์ด คือไม่มีการพัฒนามา2ปีแล้ว ยังทำตัวน่าหงุดหงิดในแนวรุกเสมอ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่หลังๆ กลายเป็นนักเตะที่ชอบยิงโด่งข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้นไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เราก็ควรยกเครดิตความดีความชอบให้กับบอลระบบของเบรนท์ฟอร์ด ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการวางแผนแท็กติกของกุนซือ โธมัส แฟร้งค์ ที่เลือกจี้จุดอ่อน ลิซานโดร โดยใช้กองหน้าที่ไม่ได้มีส่วนสูงมาก แต่มีความโดดเด่นลูกกลางอากาศเป็นเจ้าเวหาอย่าง อีวาน โทนี่ย์ คอยเล่นงานให้ปั่นป่วนตลอดเวลา รวมถึงอาวุธโจมตีที่มาครบทั้ง ลูกทุ่ม บอลโยนยาว ลูกเซ็ตพีซ
เด เคอา อีกจุดอ่อนที่ซ่อนอยู่
ไม่ปฎิเสธว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา นี่คือ " เดอะ แบก " ที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอดพ้นจากความปราชัย หรือคว้าชัยได้อย่างฉิวเฉียดหลายหน แม้จะมีช่วงฤดูกาล 2020-2021 ที่ฟอร์มตกลงไป แต่นายด่าน หน้าเครารายนี้ ก็กลับมาได้อย่างภาคภูมิในฤดูกาล 2021-2022 ที่ผ่านมา
ดาบิด เค เคอา ออกลายที่จะก่อความผิดพลาดมาตั้งแต่ช่วงอุ่นเครื่องปรี-ซีซั่นแล้ว โดย6นัดอุ่นเครื่อง ยูไนเต็ด ไม่เสียประตูเพียงแค่นัดเดียว เกมแรกพรีเมียร์ลีก กับไบร์ทตัน ถ้าสังเกตุดีๆ เค เคอา ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเช่นกัน เพราะปัดลูกบอลออกมาในพิกัดที่ทำให้ คู่แข่งตามซ้ำง่ายๆ
ความพ่ายแพ้อัปยศกับ ไบร์ทตัน เมื่อคืน โกลวัย31ปี มีส่วนเต็มๆกับลูกแรก กับการรับลูกยิงที่เหมือนไม่มีอะไรของ จอช ดาซิลวา ซองแตกไปดื้อๆ ส่วนดอก 2-0 อดีตนายด่านตราหมี ก็ไม่น่าไปจ่ายบอลอันตรายในเขตโทษยัดให้ คริสเตียน อิริคเซ่น เลย
ประตู3-0 ต้องหารกันคนละครึ่งกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ โดย เด เคอา เอง ไม่ยอมออกมาเล่นบอลโด่งในจังหวะดังกล่าวปล่อยให้ เบน มี เบียดโหม่งกับ ลิซานโดร ที่สูงเพียง 175 ซม.ซะอย่างงั้น
การออกบอลด้วยเท้า และการออกมาเล่นลูกกลางอากาศ คือสิ่งที่ ดาบิด เด เคอา มีปัญหาเสมอ แถมในยุคของ เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ ยังเน้นเซ็ตเกมจากแดนหลังอีกด้วย หลังจบเกม ดาบิด เค เคอา ก็ได้ออกมายืดอกยอมรับว่า ตนเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทีมต้องพ่ายเละเทะขนาดนี้
โดยหากจะดร็อป เด เคอา ต้องไม่ลืมว่า ทีมมีนายด่านมือ2เป็น ทอม ฮีตัน ที่อายุปาเข้าไป36ปีแล้ว แถมยังไม่ได้เฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีก มาตั้งแต่ปี 2020อีกด้วย ส่วน ดีน เฮนเดอร์สัน พึ่งถูกปล่อยยืมตัวออกไป
ลิซานโดร โดนส่งลงมาฆ่าอีกครั้ง
ด้วยความเป็นลูกน้องคนเก่า รวมไปจนถึงมีดีกรีเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ อาแจ็กซ์ ฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้ เอริก เทน ฮาก เชื่อมั่น และหมายมั่นปั้นมือมากๆ ที่จะดันให้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เป็นกองหลังตัวหลัก ร่วมกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
กองหลังเจ้าของส่วนสูงกระทัดรัด 175 ซม. เจอฝันร้ายมาแล้วในเกมที่โดน ไบร์ทตัน บุกมาทุบคาบ้าน 1-2 ฝันร้ายนั้นก็ยังคงมาตามหลอกหลอนเจ้าตัวอีกคราวในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด
กุนซือ เบรนท์ฟอร์ด อย่าง โธมัส แฟร้งค์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่า ตนนั้นกำชับให้ลูกทีมใช้ลูกเซ็ตพีชหรือลูกโด่ง เล่นงานแนวรับเลือดฟ้าขาวรายนี้ ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ โดยเฉพาะ อิวาน โทนี่ย์ ที่ทำให้แนวรับปีศาแดงต้องปั่นป่วน
ประตู3-0คือชัดเจนที่สุดว่า ส่วนสูง คือสิ่งที่เป็นปัญหาอย่างมากของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ในเวทีฟุตบอลอังกฤษ เพราะบอลที่ลอยโด่งกำลังจะเข้าประตู แต่ทว่าเจ้าตัว ไม่สามารถตั๊นหรือเบียด เบน มี ได้เลย ก่อนที่อดีตกองหลังเบิร์นลี่ย์ รายนี้จะเผด็จศึกเข้าไปง่ายๆ
แนวนับของ แมนฯยู ดูนิ่งขึ้นมาทันที (อาจจะด้วยเบรนท์ฟอร์ด ไม่เน้นบุกแล้ว) เมื่อถอดเอา ลิซานโดร ออกแล้ว ในช่วงพักครึ่ง ให้ ราฟาเอล วาราน ที่มีความสูง 191ซม. มายืนปักหลักแทน โอเคมันอาจจะเร็วไปที่จะตัดสินว่า ลิซานโดร จะรุ่งไหมกับเวทีพรีเมียร์ลีก แต่ทว่าด้วยสไตล์ฟุตบอลแบบอังกฤษ ด้วยส่วนสูงของเจ้าตัว จะตกเป็นเป้าโจมตี ของคู่แข่งอย่างแน่นอน
โรนัลโด้ ในวัย37 ผียังต้องซื้อกองหน้าเพิ่ม
น่าแปลกใจเหมือนกันที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ตัดสินใจซื้อกองหน้าเข้ามาเพิ่ม ทั้งที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ร้องขออยากย้ายทีม เอดิสัน คาวานี่ ก็ถูกปล่อยออกไป รวมไปจนถึง อองโตนี่ มาร์กซิยาล ก็มีอาการบาดเจ็บน่าจะต้องพักตลอดเดือนสิงหาคม
ครั้นจะไปหวังพึ่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในตำแหน่งหน้าเป้าก็เหมือนเป็นการรีดเลือดจากปู ยังไงอย่างงั้น เมื่อคืนเราจึงได้ เห็น " พี่โด้ " ที่งอแงย้ายทีมมาตลอด ได้ออกสตาร์ทเป็น11ผู้เล่นตัวจริง
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นผู้เล่นที่ออกแพสชั่น โวยวาย หรือกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมทุกครั้ง ที่เสียประตู อย่างไรก็ตามฟอร์มในสนามของ CR7 แม้จะมีความพยายามเต็มร้อย แต่ทว่าเรื่องของระบบทีม รวมไปจนถึงสภาพร่างกายก็ส่งผลออกมาชัดเจน
โรนัลโด้ ในวัย37ปี แข้งขาดูอ่อนแรงทุกครั้ง เวลาที่ต้องดวลเดี่ยวกับแข้งไบร์ทตัน ที่หนุ่มกว่าฟิตกว่า สตาร์ชาวโปรตุเกสรายนี้ มีจังหวะเบียดหรือกระแทกเสียเปรียบตลอด ในระยะหลังเราจึงได้เห็น " พี่โด้ " ไปนอนกองกับพื้นบ่อยๆ
โดยประตูแรก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย เพราะเจ้าตัวเป็นคนที่ทำบอลเสีย จนโดนโต้กลับ เมื่อคืน โรนัลโด้ มีโอกาสยิง4ครั้ง แต่แทบไม่มีจังหวะใกล้เคียงเลย แถมยังเป็นจังหวะฝืนยิงเองเสียมากกว่า
แถมจบเกม เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์5สมัย ยังมีประเด็นอีกจนได้เมื่อไม่เดินไปขอบคุณแฟนบอล หลังสิ้นเสียงนกหวีด 90นาที ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเตะมักจะทำตามธรรมเนียม แม้ว่าผู้ช่วยกุนซืออย่าง สตีฟ แม็คคลาเรน จะเดินไปบอกให้ทำแล้วก็ตาม
จุดเด่น โทนี่ อาวุธ ทำลายผี ! เยนเซ่น ก็เด่น
นึกว่าจะเป็น Second Season Syndrome สำหรับ เบรนท์ฟอร์ด แต่ทว่าการเปิดซีซั่นใหม่ 2022-2023 ของทีมผึ้งน้อย กับโปรแกรมที่ค่อนข้างหนักกับ เลสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ทว่าพวกเขากับเก็บได้ถึง4แต้มด้วยกัน
เกมที่ถล่มและ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นักเตะของผึ้งน้อยเล่นกันดีแทบจะทุกคน โดยเฉพาะในแดนหน้า อย่าง อีวาน โทนี่ย์ ที่แม้ไม่ได้มีประตูมาฝาก แต่ทว่าก็เล่นลูกกลางอากาศป่วน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ได้เป็นอย่างดี แถมยังมี 2แอสซิสต์ มาฝากอีกด้วย
โทนี่ มีโอกาสสัมผัสบอล36ครั้ง - สัมผัสบอลในเขตโทษแมนยู 6ครั้ง - ชนะการดวล5ครั้ง - สร้างสรรค์โอกาส4ครั้ง - ชนะลูกกลางอากาศ 4หน แม้จะไม่ใช่กองหน้าประเภทสูงใหญ่ก็ตาม แต่ก็อาศัยการเทกตัวที่ชาญฉลาดเสมอ
โทนี่ เป็นคนโหม่งแอสซิสต์ ให้ เบน มี ประตู 3-0 และจ่ายตัดให้ ไบรอัน เอ็มบูเอโม่ ซัดประตูตอกฝาโรง 4-0 ส่วนอีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้กันเมื่อคืนนั่นก็คือ ห้องเครื่องอย่าง มาเธียส ยานเซ่น ผู้ซัดประตูที่2ให้กับทีม
ยานเซ่น เป็นผู้ใช้ความขยันไปปั้มจังหวะเซ็ตเกมจากแดนหลัง ของ คริสเตียน อิริคเซ่น ฉกไปยิงง่ายๆลูก 2-0 กองกลางชาวเดนมาร์ก บดบี้แดนกลางของ ยูไนเต็ด จนไม่สามารถทำเกมได้สะดวกโยธินเลย ไปจนถึงทำเฟร็ด เป็นร่างห่วย "เฟร็ดเฟ่" อีกครั้ง
มาเธียส ยานเซ่น จบเกมด้วยผลงาน 1ประตู 1แอสซิสต์ - ครอสบอล 2ครั้ง - โยนบอลยาว3ครั้ง -เคลียร์บอล1ครั้ง - เข้าแท็กเกิ้ล2ครั้ง แม้จะไม่ใช่กองกลางเชิงรุก แต่เมือคืนโดดเด่นกว่า คริสเตียน อิริคเซ่น เสียอีก
เทน ฮาก ประมาท พร้อมสร้างสถิติเลวร้าย
ชักจะยังๆแล้วสำหรับ การโยกมารับงานคุมลีกใหญ่ยุโรปครั้งแรกของ เอริก เทน ฮาก และเป็นงานที่ว่ากันว่าเป็นชิ้นที่ยากและกดดันที่สุดในโลกอีกด้วย ว่าแล้วกุนซือหัวเหม่งรายนี้ ก็ออกสตาร์ทกับปีศาจแดงด้วยการแพ้2นัดรวดซะเลย
ไม่มีใครปฎิเสธว่านักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดนี้คุณภาพบัดซบขนาดไหน ซึ่งมันก็สะท้อนมาจากผลงานตั้งแต่ยุคกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ ราล์ฟ รังนิก แต่ทว่าอย่างไรก็ตามก็ต้องโทษรูปแบบวิธีการเล่น และการเตรียมทีมของ เทน ฮาก ด้วย
เกมที่แพ้ ไบร์ทตัน และ เบรนท์ฟอร์ด เห็นได้ชัดว่าทีมปีศาจแดง คล้ายๆอาแจ็กซ์ ในบอลยุโรปนั่นก็คือ บุกขึ้นสูงแล้วเหลือแนวรับจำนวนน้อยคน ลูกสวนหลุดทะลุขึ้นมาประจำ Overload แต่ไม่โดนลงโทษบ่อย
แต่นี่คือเวทีพรีเมียร์ลีก ที่ทุกทีมเล็กหรือกลางพร้อมลงโทษทีมใหญ่ได้เสมอ อีกจุดที่ เทน ฮาก ถือว่าประมาทไปหน่อยนั่นก็คือการเตรียมทีมหรือเสริมทัพ ซึ่งเห็นได้ชัดมาตลอดว่า กองกลางคือจุดยุทธศาสตร์ที่มีปัญหามา 2-3 ปี
แต่ทว่าเมื่อไม่ได้ แฟรงกี้ เดอ ยอง นายใหญ่ชาวดัตช์ ก็ไม่เล็งหากองกลางคนใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่าคู่ " แม็คเฟร็ด " เลย เพราะคิดว่าน่าจะเอาอยู่ แต่ทว่าผลลัพธ์ก็พังไม่เป็นท่ากับ2เกมแรกในพรีเมียร์ลีก
การแพ้2เกมแรกในลีก สิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องย้อนไปไกลถึงปี 1921เลยทีเดียว ในยุคของกุนซือ จอร์จ แชปแมน และมีโอกาสที่จะแพ้3นัดรวดอีกด้วย เพราะเกมหน้าพวกเขาจะได้เล่นในบ้านเจอกับทีมคู่ปรับตลอดกาลที่พวกเขา สู้ไม่ได้เลยในระยะหลังเลยอย่าง ลิเวอร์พูล
นอกจากนี้แล้ว การปราชัยต่อ ไบร์ทตัน และ เบรนท์ฟอร์ด ยังทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จมบ๊วยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ปี 1992 (ที่ก่อตั้ง) อีกด้วย
- คอลัมน์นิสต์
- 529
- 14 ส.ค. 2565 13:29