บรูโน่ ฮีโร่ ! ผี อัดหงส์ ร่วงเอฟเอ คัพ สุดมัน3-2
เป็นเวอร์ชั่นที่มีอัตราความสนุกเมามันเร้าใจกว่าพรีเมียร์ลีกเสียจริงๆ สำหรับแดงเดือด ในฟุตบอลถ้วยรายการเก่าแก่ของ อังกฤษ เอฟเอคัพ
เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฉือนเอาชนะลิเวอร์พูลไปได้ 3-2
โดยทางฝั่งปีศาจแดงได้ บรูโน่ แฟร์นันเดซ สวมบทพระเอกอัศวินขี่ม้าขาว เป็นตัวสำรอง ลงมาปั่นฟรีคิก เป็นประตูชัยให้กับทีม น.78
ฝั่งลิเวอร์พูล ได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เหมาคนเดียว2ประตู เรียกความมั่นใจเดิมๆกลับมาได้ แม้มันจะไม่เพียงพอให้ทีมหงส์แดงผ่านเข้ารอบต่อไปก็ตาม
หลังประกาศรายชื่อตัวผู้เล่น ทางฝั่งลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อย นั่นก็คือการออกสตาร์ทเป็นผู้เล่น11ตัวจริงของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์
ส่วนทางฝั่งลิเวอร์พูล ก็มีเซอร์ไพรส์ตอนประกาศรายชื่อตัวผู้เล่นเหมือนกันเมื่อ รีส วิลเลี่ยมส์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ รวมถึง เคอร์ติส โจนส์ ที่ได้ลงเล่นก่อน ซาดิโอ มาเน่
การเดิมพันกล้าเสี่ยงด้วยเหตุผลการโรเตชั่นของทั้งสองกุนซือชาวนอร์เวย์และเยอร์มัน ดูเหมือนว่าทางฝั่งของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีราคาที่ต้องจ่ายมากกว่า เพราะ กองหลังดาว รีส วิลเลี่ยมส์ เล่นได้อย่างย่ำแย่
โดยเฉพาะประตูที่สองที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดไปซัดผ่าน อลิสซง เบคเกอร์ได้ ดาวเตะวัย19ปี มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ
ชัยชนะพร้อมการเขี่ยอริตลอดกาลตกรอบ น่าจะส่งผลให้พลพรรคแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่มพูลทวีความมั่นใจขึ้นไปอีก ในเกมที่จะเปิดบ้านพบทีมบ๊วยอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด วันพุธนี้
ส่วนผู้ปราชัยลิเวอร์พูล มีโอกาสสูงเช่นกันที่ขุนพลเครื่องจักรสีแดง จะแผ่วคอมโบเมาหมัดต่อเนื่อง เพราะมีโปรแกรมพรีเมียร์ลีกหนัก เมื่อต้องออกไปเยือน สเปอร์ส วันพฤหัสบดี
ไอ้หนูไม้เขียวยุติช่วงเวลาปืนฝืด
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังฟอร์มขึ้นหม้อสุดๆ หลายคนคงลืมปัญาหาที่เหมือนถูกซุกไว้ใต้พรมแต่ไม่มีใครทันได้สังเกต นั่นก็คือ อาการปืนฝืด ของ เมสัน กรีนวู๊ด
ไอ้หนูไม้เขียว ตีนฝืดส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายไม่ได้นาน10นัดติดต่อกัน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดของเจ้าตัวนับตั้งแต่เดบิวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่เลยทีเดียว
ประตูสุดท้ายที่ กรีนวู๊ด ทำได้ต้องย้อนไปไกลถึงนัดที่เจอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมเลยทีเดียว
โดยเกมเอฟเอ คัพ ที่ดวลกับลิเวอร์พูล เจ้าตัวได้รับโอกาสความไว้วางใจจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ให้ออกสตาร์ทเป็นผู้เล่นตัวจริง
ช่วงต้นเกมดาวยิงวัย 19ปี ทำตัวน่าหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย เมื่อบางจังหวะเลือกโชว์สเต็ปสับขาหลอกแล้วยิงเอง รวมถึงไม่ยอมจ่ายในจังหวะที่ควรจะจ่าย
สุดท้ายกรีนวูีดจะมาแก้ตัวด้วยจังหวะยิงตีเสมอสุดเฉียบ แม้ว่าจะโดนเสียงรบกวนจาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตอนที่กำลังวางเท้ายิงก็ตาม
ก่อนที่จะมาแอสซิสต์ตักบอลสุดสวยให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เข้าไปยิงได้สำเร็จ แม้จะเริ่มต้นได้ไม่ดี ชวนน่าหงุดหงิด แต่การจบออกจากสนามเกมศึกแดงเดือด ด้วย 1ประตู 1แอสซิสต์ ก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจไม่น้อยสำหรับ เมสัน กรีนวู๊ด
แรช ร้อน แรง
เกมแดงเดือดฉบับพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำตัวน่าหงุดหงิดตามง่ามมือง่ามเท้าไม้น้อย สำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด โดยเฉพาะจังหวะหลุดเดี่ยวแล้วไม่ยอมจ่ายให้กับ เอดิสัน คาวานี่
พอมาเกมแดงเดือดภาคฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ แรชชี่ ก็แก้ตัวกับความผิดพลาดน่าเขกกะโหลกของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
นัดนี้ดาวยิงใจบุญเรียกได้ว่าเป็นแมน ออฟ เดอะแมตช์ ของทีมปีศาจแดงเลยก็ว่าได้ เมื่อทำไปได้1ประตู และ1แอสซิสต์
โดยเฉพาะลูกเปิดทแยงมุมกว่า40หลาสุดแม่นยำราวกับใช้มือจับวางให้ กรีนวู๊ด ซัดประตูตีเสมอ ตลอดทั้งเกมดาวเตะหมายเลข10ของปีศาจแดงสร้างความปั่นป่วนให้ เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้เป็นอย่างมาก
รวมไปจนถึงสเต็ปการเลี้ยงจี้เข้าหาตัวที่ทำให้ รีส วิลเลี่ยม หลงหลุดตำแหน่งอยู่บ่อยครั้ง
สถิติหลังเกมของ มาร์คัส แรชฟอร์ด
38 สัมผัสบอล
2 โอกาสยิง
2 เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ
2 เรียกฟาวล์
1 สร้างสรรค์โอกาส
ส่วนสถิติส่วนตัว นับตั้งแต่ทะลุขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ แรชฟอร์ด กดไปได้แล้ว4ประตูด้วยกัน ในการเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในยามที่พบกับทีมหงส์แดง
รีส วิลเลี่ยม สอบตกแบบไม่มีข้อแก้ตัว
เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้โอกาส รีส วิลเลี่ยมส์ ด้วยการซื้อใจกองหลังดาวรุ่งวัย19ปี ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมใหญ่ที่ค่อนข้างกดดัน แต่ทว่าผลงานในสนามของเจ้าตัวถือว่าสอบตกแบบไม่ต้องแก้ซ่อม
โดยเฉพาะจังหวะกะบอลหยอดของ เมสัน กรีนวู๊ด พลาดจนบอลเลยไปหา มาร์คัส แรชฟอร์ด สำเร็จโทษได้สำเร็จ ช็อตดังกล่าวกองหลังวัย19ปีต้องยืดอกรับผิดชอบไปเต็มๆ
ส่วนในเรื่องการรับมือดวลกับแรชฟอร์ด วิลเลี่ยมส์ มีจังหวะลนลาน หลุดตำแหน่งอยู่บ่อยครั้ง เจ้าตัวไม่สามารถแบบความหวังในเกมรับให้กับทีมได้ รวมถึงการอ่านจังหวะทางบอลยังไม่เนี๊ยบละเอียดในจังหวะสำคัญๆ
ฟอร์มของ รีส วิลเลี่ยมส์ เป็นการตบหน้าเรียกสติให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องกะโจนเข้าตลาดนักเตะหน้าหนาว ในการซื้อเซ็นเตอร์ฮาร์ฟมาสู่ทีม
เพราะปัญหาในคู่เซ็นเตอร์คือต้นเหตุที่ทำให้ลิเวอร์พูล รวนไปในหลายๆตำแหน่ง เพราะต้องขยับเอา ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ( ที่เจ็บอยู่) มาขัดตราทัพเล่นแทน
นั่นทำให้ขุมพลังในแดนกลางของลิเวอร์พล ประสิทธิภาพ ลดน้อยถอยลงไป ส่งผลไปถึงแนวรุก และกองหลังแผงแบ็กโฟร์
ด้วยความที่วิลเลี่ยมส์เป็นดาวรุ่งสภาพจิตใจยังไม่แข็งแกร่ง การโดนเผาเครื่องจนเสียความมั่นใจอาจทำให้เจ้าตัวเสียขวัญความมั่นใจยาวๆ ได้
ในสถานการณ์ที่ทีมขาดเซ็นเตอร์ฮาร์ฟตัวจริงอย่าง โจ โกเมซ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ไม่ว่ามองมุมไหนทีมหงส์แดงก็จำเป็นที่จะต้องเสริมผู้เล่นแนวรับเข้ามาสู่ทีมแบบไม่มีข้อยกเว้น
ครั้นจะไปหวัง โจเอล มาติป ที่3วันดี 4วันเจ็บ ก็คงจะไม่ได้ ถ้าไม่อยากให้ทีมรวนไปทีละส่วนมากกว่านี้ หรือถ้าปล่อยให้ปัญหาดังกล่าว เป็นเหมือนเนื้อร้ายลุกลามไปทั่ว
กว่าจะแก้ไขได้ อาจส่งผลให้พวกเขาหมดสิทธิป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก เร็วกว่าที่ควรจะเป็น
ความแตกต่างของ ฟาน เดอ เบ็ค และ บรูโน่
เกมเมื่อคืนถือว่าเป็นโอกาสทองครั้งใหญ่ของ ดอนนี่ ที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในแมตช์ที่สำคัญๆขนาดนี้ หลังที่ผ่านมา มิดฟิลด์ชาวดัตช์ ทำได้เพียงแค่นั่งตาละห้อยดูเพื่อนร่วมทีมเล่นที่ซุ้มม้านั่งสำรอง
ฟาน เดอ เบ็ค ได้ออกสตาร์ตในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์หมายเลข10 ในตำแหน่งเดียวกับ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ถูกพักในเกมนี้ แต่ทว่าด้วยการได้ลงเล่นในตำแหน่งที่ไม่คุ้นชิน
รวมถึงการที่ต้องร้างสนามไปนาน ทำให้จังหวะจะโคนการเล่นของอดีตกองกลางอาแจ็กซ์ ดูจะไม่ค่อยไหลลื่น และสร้างอิมแพค ในเกมรุกให้กับทีมปีศาจแดงเท่าที่ควร
ถามว่า ฟาน เดอ เบ็ค เล่นแย่ไหม ? ภาพรวมมันก็ไม่ได้แย่มากมาย แต่ด้วยตำแหน่งบทบาทการเล่น สิ่งที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นในสนามมันดูดาดๆและธรรมดามากๆ เทียบกับความรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าต่ำ
แตกต่างกับ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ถูกส่งลงสนามเพียงแค่25นาที แทนที่ ฟาน เดอ เบ็ค เวลาเพียงน้อยน้อยนิดที่อยู่ในสนาม ดาวเตะโปรตุเกสกลับส่งผลอิมแพคต่อทีมเป็นอย่างมาก บ่งบอกว่าใครคือตัวจริงเสียงจริง
ทั้งลูกฟรีคิก ที่เจ้าตัวซัดได้อย่างเฉียบคมเสียบเสาแรกเข้าไป รวมถึงจังหวะตักบอลแม่นอย่างเหมาะเหม่งราวจับวางให้ เอดิสัน คาวานี่ โหม่งไปชนเสา
สถิติของ บรูโน่ 25นาทีในเกมแดงเดือด
25 นาที
21 สัมผัสบอล
3 ครอสบอล
2 ชนะการดวล
1 สร้างสรรค์โอกาส
1 แท็คเกิ้ล
1 ประตู
28ประตู 17 แอสซิสต์ จาก51นัด นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด บ่งบอกความสำคัญอย่างยิ่งยวดของ บรูโน่ ต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เป็นอย่างดี
หงส์ยังหาทางกลับฝั่งไม่เจอ
นี่ก็นับเป็นนัดที่6ติดต่อกันแล้ว ที่ลิเวอร์พูล ฟอร์มหลุดออกอ่าวออกทะเล ไม่ชนะใคร แม้จะมีเรื่องน่าชื่นใจอยู่บ้างเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับมามีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้อีกครั้งหนึ่ง
แต่ทว่าปัญหาของลิเวอร์พูล ก็ยังคงมีให้เห็นในนัดนี้เหมือนเดิมนั่นก็คือ ความไม่มีเสถียรภาพในแนวรับ ที่ยังปราศจากคู่เซ็นเตอร์มืออาชีพที่ไว้ใจได้ในทีม
แบ็กดันสูงแล้วลง ไม่ทัน โดยเฉพาะ เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่แทบไม่วิ่งกลับลงมาเวลาโดนสวนกลับเลย
แล้วเมื่อเหลือไปมองโปรแกรมพรีเมียร์ลีก 5นัดต่อไปของลิเวอร์พูล ล้วนหนักหนาเอาการทั้งสิ้น และไม่มีทางรู้หรือคาดเดาได้เลยว่า เครื่องจักรสีแดงทีมเก่า จะกลับมาผยองอาละวาด ได้อีกครั้งตอนไหน
โปรแกรม5นัดต่อไปในพรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูล
เยือน : สเปอร์ส
เยือน : เวสต์แฮม
เหย้า : ไบร์ทตัน
เหย้า : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เยือน : เลสเตอร์ ซิตี้
- คอลัมน์นิสต์
- 531
- 25 ม.ค. 2564 15:38