ฟอร์มสากกะเบือเข้าสิง ! ผี สุดทื่อ เจ๊า วัตฟอร์ด 0-0 โด้ ภาษากายแย่
เหมือนจะทำตัวเองไม่อยากให้จบอันดับ4หรือ ท็อปโฟร์จริงๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเป็นอีกครั้งแล้วครั้งเล่าที่พวกเขาทำตัวน่าผิดหวังดร็อปแต้มกับทีมเล็กๆที่อ่อนชั้นกว่าในพรีเมียร์ลีก โดยล่าสุดเกมเปิดบ้านรับมือทีมรองบ๊วย วัตฟอร์ด พลพรรคปีศาจแดง ก็ทำได้เพียงแค่ เสมอ 0-0 ทั้งที่มีโอกาสนับครั้งไม่ถ้วนที่ ยูไนเต็ด จะเผด็จศึกผู้มาเยือน
ก่อนเกม แมนฯยูไนเต็ด มีความกดดันอยู่บ้างเล็กน้อย เมื่ออีกหนึ่งคู่แข่งลุ้นจบอันดับ4อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส พึ่งบุกไปโชว์ฟอร์มโหดถลุงเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้แบบสบายๆ 4-0 นั่นทำให้ลูกทีมของ " ลุงลาบ " มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องเก็บ3แต้มให้ได้
ด้วยชื่อชั้นตัวนักเตะ อันดับในตารางคะแนน เชื่อว่าหลายๆคน คงมองว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไรสำหรับทีมปีศาจแดง กับการเล่นในบ้านเจอทีมรองบ๊วยอย่าง วัตฟอร์ด อยู่ที่ว่าจะชนะสกอร์ไหน ขาดลอยหรือไม่แค่นั้น
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามสิ้นเสียงนกหวีดยาว 90นาที สกอร์0-0 เป็นผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังมากๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับการไม่สามารถเก็บ3แต้มเข้ากระเป๋าได้ ทั้งที่รูปเกมเป็นพวกเขาเองที่โขยกเข้าใส่ " เดอะ เฮอร์เน็ตส์ " อยู่ฝ่ายเดียว แต่ทว่าปราศจากความเฉียบคมยิงนกตกปลากันไปเอง
โดยเฉพาะ สองสตาร์ชาวโปรตุเกสอย่าง บรูโน่ แฟร์นันเดซ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่มีโอกาสซัดประตูรวมกันนับไม่ถ้วน แต่ทว่าไม่ใช่วันที่ทั้งสองฟอร์มเข้าฝัก หรือวิญญาณเพชฌฆาตความเฉียบคมเข้าสิงร่างนัก
บรูโน่ ที่ในระยะหลังเป็นนักเตะที่พลาดจังหวะง่ายๆบ่อยเหลือเกิน ซึ่งภาพก็ยังติดตามาตั้งแต่ เกมเอฟเอ คัพ ที่พ่ายให้กับ มิดเดิ้ลสโบรช์ 0-1 กับช็อตหมูหกได้ยิงโล่งๆในเขตโทษแต่ทว่าซัดชนเสาออกไปดื้อๆซะงั้น เกมนี้ก็เป็นจังหวะได้เดี่ยวกับ เบน ฟอสเตอร์ ที่สุดท้ายก็ยิงไม่หนีมือนายด่านวัย38ปีรายนี้
ส่วน CR7 ที่ดูจะกระเหี้ยนกระหือรือในการทำประตูเป็นพิเศษ ก็มีอาการสากกะเบือเข้าสิงเช่นกัช ทั้งซัดไปจนเสา เข้าชาร์ตเป็นประตู แต่ถูกจับล้ำหน้าไปก่อน และที่แย่ๆสุดๆของสตาร์เจ้าของบัลลงดอร์ 5สมัยรายนี้ก็คือ ภาษากาย ที่แสดงออกมาหลายๆจังหวะ ไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมทีมเท่าไหร่นักเวลาผิดหวัง
สำหรัผู้มาเยือนวัตฟอร์ด ของ รอย ฮอดจ์สัน เรียกว่าแชร์แต้มกลับบ้านออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้ เพราะความไม่เด็ดขาดของทีมเจ้าบ้านมากกว่า รูปเกมอะไรต่างๆ พวกเขาเป็นทีมที่มีออร่าฉายแสงทีมตกชั้นอย่างเต็มที่ มีเพียงแค่ เอ็มมานูเอล เดนิส และ อิสไมร่า ซาร์ ที่ อันตรายและเป็นอนาคตความหวังในการดิ้นรนหนีการตกชั้นของทีม
บรูโน่& โรนัลโด้ ต่างพากันยิงนกตกปลา
นี่คือ2นักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำประตูให้กับทีมได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้ แต่ทว่าเกมกับวัตฟอร์ด เมื่อคืน ทั้ง บรูโน่ แฟร์นันเดซ และ คริสเตียโน่ ต่างใช้โอกาสทองที่ได้รับไปทิ้งลงชักโครกทั้งคู่
เอาในรายของ บรูโน่ นี่คือเกมที่สตาร์หมายเลข18รายนี้ มีโอกาสทำประตูให้ทีมมากถึง 8ครั้ง โดยเฉพาะในครึ่งแรกกับจังหวะที่รับบอลทะลุช่องจาก แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า ไปดวลเดี่ยวกับ เบน ฟอสเตอร์ แต่ทว่าก็ยิงไม่หนีมือโกลวัย 38ปีรายนี้เท่าไหร่
รวมไปจนถึงจังหวะเปิดบอลจากทางกราบซ้ายเข้ามาของ ปอล ป็อกบา ที่สอดเข้ามายิงด้วยเท้าสุดเหยียด ทำให้บอลหลุดออกหลังไปแทบไม่ได้ลุ้น ภาพรวมแม้ว่าจะใช้โอกาสเปลืองอย่างน่าเกลียด แต่การมีส่วนร่วมกับเกม บรูโน่ ก็ยังทำได้ดีมากๆทั้ง จ่ายคีย์พาสให้เพื่อน 2ครั้ง เลี้ยงบอลผ่าน 2หน
ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้จะมีโอกาสซัดประตูเพียงแค่ 4ครั้ง ช็อตที่น่าเสียดายสุดๆเห็นทีจะเป็นในครึ่งแรกที่ จังหวะจ่ายเรียดเข้ามาของ แอรอน วาน -บิสซาก้า " พี่โด้ " ตวัดยิงด้วยซ้าย แต่บอลไปชนเสาอย่างจัง
รวมไปจนถึงจังหวะปาดเข้ามาหน้าประตูจากทางฝั่งซ้ายของ อเล็กซ์ เตลลิส แล้ว โรนัลโด้ สอดเขามาแปเน้นๆตุงตาข่าย แต่ทว่าถูกจับเป็นจังหวะล้ำหน้าไป หลังจบเกมกับวัตฟอร์ด ทำให้เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 5สมัยรายนี้ ซัดไปได้เพียงแค่ 1ประตู จาก6นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
ด้วยอายุที่ปาเข้าไป37ปีทำให้ โรนัลโด้ ออกอาการป้อแป้ ขาอ่อน อย่างชัดเจนในหลายๆจังหวะ บวกกับการกรำศึกมาอย่างหนักถี่ๆไม่ได้พักติดต่อกันมาหลายนัด ที่น่าตำหนิที่สุดของ โรนัลโด้ เมื่อคืนนั่นก็คือ ภาษากาย
เวลาที่เพื่อนร่วมทีม ไม่ส่งบอลให้ หรือ ตัวเองพลาดโอกาสทำประตู โรนัลโด้ ก็จะแสดงอาการผิดหวังท้อแท้ออกมาอย่างชัดเจน ที่หนักที่สุดคือ จังหวะที่บรูโน่ ได้ยิงนอกกรอบเขตโทษ แล้วบอลไปโดนเจ้าตัว ทำให้เหมือนเป็นการสกัดบอลช่วยทีมเยือน
โรนัลโด้ ผายมือทำท่าเหมือนว่าตัวเองยืนอยู่เฉยๆแล้ว บรูโน่ มีความผิดที่ยิงมาโดนเจ้าตัวเอง พร้อมไม่ขยับหาตำแหน่งในจังหวะต่อเนื่องดังกล่าว บางทีอาจถึงเวลาที่รังนิก จะต้องดร็อปสตาร์หมายเลข7รายนี้ ไว้บนม้านั่งสำรองเพื่อให้พักบ้างแล้ว
กลายเป็นเจ้าหนู อีแลงก้า ที่โดดเด่นในแนวรุก
เหมือนจะขึ้นหม้อและได้ความมั่นใจมามากโขเลยทีเดียวสำหรับเจ้าหนูดาวรุ่งอย่าง แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า หลังจากที่ซัดประตูมา2นัดติด ทั้งในแมตช์กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ ในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ แอตเลติโก มาดริด
โดยเกมกับวัตฟอร์ด ดาวรุ่งชาวสวีเดนรายนี้ ได้รับความไว้วางใจจาก ราล์ฟ รังนิก ให้ออกสตาร์ทเป็น 11ผู้เล่นตัวจริง ก่อนหน้า มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ฟอร์มในระยะหลังของ " แรชชี่ " เรียกเสียงสบถด่าจากแฟนบอลไม่หวาดไม่ไหว
ซึ่งแกมกับทีมแตนอาละวาด อีแลงก้า ก็ไม่ได้ทำให้ผู้มอบโอกาสอย่าง " ลุงลาบ " ต้องผิดหวังเลย เพราะนี่คือหนึ่งในผู้เล่นของทีมที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ และความกระตือลือล้นอยู่ตลอดเวลา เวลาจ่ายบอล แล้วเลือกที่จะวิ่งหาช่องเครื่องไปข้างหน้า
แถมยังเกือบมีแอสซิสต์ได้ด้วย โชคร้ายที่ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ยิงได้ไม่ดีพอ รวมไปจนถึงจังหวะสอดมารับลูกไขว้เปลี่ยนทางของ ปอล ป็อกบา อย่างเหมาะเจาะ ในระยะ6หลา น่าเสียดายที่ อีแลงก้า ซัดเน้นไปหน่อย หลุดเสาแรกออกไปแบบได้ลุ้นสุดๆ
ความเร็วและความปราดเปรียวนรกแตก กล้าเล่น นี่คือจุดเด่นของ แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะหวังพึ่งเด็กอายุ19ปีรายนี้ ไปตลอดรอดฝั่งคงไม่ได้ เพราะมีจังหวะที่ต้องอาศัยประสบการณ์ในการเพาะบ่มเหมือนกัน แต่หนทางของ อีแลงก้า ในอนาคต ก็พอให้แฟนผีลุ้นให้พัฒนาขึ้นได้อีกแน่ๆ
ดร็อป แม็คไกวร์ แนวรับดูเสถียรขึ้น
แม้ว่าจะฟอร์มรั่ว ทำตัวน่าหวาดเสียวในเกมรับขนาดไหน แต่ถ้าไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่แบน ชื่อของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ก็มักจะได้ออกสตาร์ทเป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟตัวจริงเสมอ แต่ทว่าเมื่อคืนกับวัตฟอร์ด นั่นต่างออกไป
หลังจากที่ทะลึ่งปล่อยให้ ชูเอา เฟลิกซ์ พุ่งมาโขกทำประตูง่ายๆใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เหมือน ราล์ฟ รังนิก จะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในแผงหลัง นั่นจึงทำให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ต้องตกเป็นผู้เล่นบนม้านั่งสำรอง
คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟตัวจริงของทีมจึงตกเป็นของ ราฟาเอล วาราน และ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ โอเคว่า อาจจะด้วยความอ่อนชั้นของ วัตฟอร์ด เอง ที่ทำให้แนวรับของ ยูไนเต็ด ไม่ต้องโดนบททดสอบอะไรมากนัก
ทั้งปราการหลังชาวฝรั่งเศสและสวีเดน จัดการเหล่าบรรดากองหน้าของผู้มาเยือนอย่าง เอ็มมานูเอล เดนิส และ โจซัว คิง ได้อย่างอยู่หมัดเวลาดวลเดี่ยวๆ โดยเฉพาะกับการเก็บกินลูกกลางอากาศของวัตฟอร์ด ได้อย่างไม่มีปัญหา
เป็นเกมนี่คู่เซ็นเตอร์ของ ยูไนเต็ด ไม่ต้องเจอกับงานหนักอะไรมาก ซึ่งก็อาจจะยังวัดประสิทธิภาพอะไรไม่ได้ แต่ทว่าก็ยังดูอุ่นใจกว่า ในยามที่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ลงไปเซิ้งแข้ง
จากเกมที่ไม่มีอะไรปราการหลังหัวแตงโมรายนี้ สามารถเสกบันดาลทำให้ทีมเสียประตูได้แบบไม่มีเหตุผลและความเข้าใจใดๆทั้งสิ้น จากความเชื่องช้า ทั้งในเรื่องของอาการ เหวอ จ่ายบอลไม่ดูตาม้าตาเรือ เล่นลูกยาก ไปจนถึงไม่ตามตัวประสบไปตลอดรอดฝั่ง
อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องดู ราล์ฟ รังนิก อีกครั้งว่า กุนซือชาวเยอรมันรายนี้ จะวางสถานะให้ แม็คไกวร์ เป็นเซ็นเตอร์ตัวเลือกอันดับ3ของทีมถาวรหรือไม่ หรือเพียงแค่ยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์ คู่แข่งในแต่ละนัด
ผีเข้าสู่โปรแกรมโหด และห่างไกลท็อปโฟร์
ผลเสมอนัดนี้บอกเลยว่าเสียหายมากๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับการจบอันดับ4ไปเล่น ท็อปโฟร์ โดยปัจจุบันปีศาจแดงยังคงรั้งอันดับ4ของตาราง แต่ทว่าพวกเขามีแต้มมากกว่าทีมอันดับ5อย่าง อาร์เซน่อล แค่2แต้ม แต่ทว่ากลับแข่งมากกว่าพลพรรคปืนใหญ่ถึง 3นัด
โดยนับตั้งแต่ที่ ราล์ฟ รังนิก เข้ามาคุมบังเหียนปีศาจแเดง โปรแกรมพรีเมียร์ลีกของ ยูไนเต็ด ถือว่าเบามากๆ เพราะ13นัด ไม่ได้เจอกับทีมระดับ ท็อป6เลย แต่ทว่ากลับทำแต้มหกเรี่ยราด น่าเสียดายทั้ง
เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 / แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-1 / เสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2 / เสมอ เบิร์นลี่ย์ 1-1 / เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 และล่าสุดเจ๊ากับ วัตฟอร์ด 0-0
ซึ่งหากดูจากชื่อชั้นของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรจะเก็บชัยชนะได้อย่างน้อยถึง4นัด จากโปรแกรม 6แมตช์ ที่ทำแต้มหล่นดังกล่าว บทสรุป13นัดของ "ลุงลาบ " ในลีก ชนะ7 เสมอ5 แพ้1 ซึ่งเมื่อดูจากคู่แข่งพวกเขาไม่ควรทำแต้มหล่นขนาดนี้เลย
แล้วเหลือบไปมองดูโปรแกรม3นัด ในพรีเมียร์ลีกตลอดเดือนมีนาคม ต้องบอกเลยว่า อ๊วกแตกได้เลยสำหรับปีศาจแดงชุดนี้ เพราะต้องไปเยือนทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - ลิเวอร์พูล และได้เล่นในบ้านเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส
โอเคว่าในทางทฎษฎีโอกาสจะยังเปิดกว้างให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบท็อปโฟร์ อันดับ4 แต่ทว่าด้วยฟอร์มการเล่น และมาตรฐานที่ไม่แน่นอน สามวันดีสี่วันไข้ ผีเข้าผีออก คงยากเหลือเกินที่ ปีศาจแดงจะเข้าป้ายเป็นอันดับ4ได้ เมื่อจบโปรแกรมนัดที่ 38
แม้ได้1แต้ม แต่วัตฟอร์ด ก็ไม่น่ารอดตกชั้น
แม้ว่าจะเปลี่ยนกุนซือจาก ซิสโก้ มูยอซ มาเป็น เคลาดิโอ รานิเอลรี่ มาจนถึงล่าสุด รอย ฮ็อดจ์สัน วัตฟอร์ด ก็ยังคงมีสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีในการดิ้นรนหนีตกชั้นนัก
เพราะปัจจุบันพวกเขายังรั้งอยู่อันดับ19ของตาราง อยู่ห่างจากพื้นที่ปลอดภัยอันดับ17กับทีมอย่าง เอฟเวอร์ตัน 3แต้ม แต่ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินยังแข่งน้อยกว่า พวกเขาอยู่ถึง2นัด
จะว่าไปการบุกมาเก็บ1แต้มที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แม้จะต้องยกเครดิตในเกมรับของทีมด้วย แต่ทว่าก็ต้องถือว่าโชคดีไม่น้อยที่บรรดาแนวรุกของทีมเจ้าบ้าน ฟอร์มฝืดสากกะเบือเข้าสิงกันไปเอง ทั้ง บรูโน่ แฟร์นันเดซ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ทั้งที่ก่อนเกมดังกล่าวทีมแตนอาละวาด โดนคู่แข่งทะลวงตาข่ายไปมากถึง 47ดอก เยอะที่สุดเป็นอันดับ3ของลีก รองจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด (60ประตู) และ นอริช ซิตี้ (55 ประตู)
โดยนี่เป็นเพียงแค่คลีนชีตที่3ของวัตฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เท่านั้น แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม " เดอะ เฮอร์เน็ตส์ " พึ่งจะเก็บ3แต้มในพรีเมียร์ลีก ได้เพียงแค่ นัดเดียวเท่านั้น ใน13เกมหลังสุด
แนวรุกของทีมถือว่าไม่ได้ขี้เหร่เลย เพราะทั้ง เอ็มมานูเอล เดนิส (9ประตู) - อิสไมร่า ซาร์ (5ประตู) และ โจซัว คิง (5ประตู) ต่างซัดประตูในลีกได้จำนวนที่น่าประทับใจ
แต่ทว่าด้วยเกมรับที่หละหลวมในหลายๆนัดที่ผ่านมา (ยกเว้นเกมกับ แมนฯยู) น่าจะทำให้พวกเขาหล่นลงไปเล่น ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ กับ นอริช ซิตี้ อีกครั้ง
- คอลัมน์นิสต์
- 659
- 27 ก.พ. 2565 15:04