Viva Ronaldo ! ผี ยืดลมจบท็อปโฟร์ เฉือนไก่ 3-2 โรนัลโด้ แฮตทริก
ก่อนเกมนัดที่29ในพรีเมียร์ลีกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส นี่ถือว่าเป็นแมตช์สุดสำคัญมากๆของพลพรรคปีศาจแดง ในการต่อลมหายใจจบอันดับ4ไปเล่นในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยส์ ลีก ฤดูกาลหน้า หลังจากที่ลูกทีมของ ราล์ฟ รังนิก ทำแต้มหกเรี่ยราดเป็นอย่างมาก จากโปรแกรมที่ผ่านมาที่ไม่หนักเท่าไหร่
โดยเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อคืน นี่คือการกลับมาลงสนามอีกครั้งของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในเกมที่บุกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-4 (ก่อนภายหลังจะมาทราบว่ามีอาการบาดเจ็บจริงๆ) และสุดท้ายก็เป็น เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5สมัย รายนี้นี่แหละที่เป็นฮีโร่ให้กับทีม
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลบเสียงคำวิจารณ์ฟอร์มเท้าบอดในปี 2022 ได้อย่างสิ้นซาก กับผลงานชิ้นมาสเตอร์พีช เมื่อระเบิดฟอร์มร่างทองกดแฮตทริก ใส่สเปอร์ส ด้สำเร็จ จนพา ยูไนเต็ด คว้าชัยไปอย่างหวุดหวิด 3-2
ลูกตั้งป้อมยิงไกลงามหยด 30หลา -เข้าชาร์ตลูกเปิดของ เจดอน ซานโช่ และจังหวะเทกตัวสุดสูงโขกลูกเตะมุมไม่เหลือซาก ที่คือการซัดแฮตทริก ครั้งที่สองในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นับตั้งแต่ปี 2008 เลยทีเดียว
ส่วนสเปอร์ส พวกเขาไล่ตีเสมอได้ถึง2ครั้ง จากจุดโทษของ แฮร์รี่ เคน และการสงเคราะห์แจกโชคสกัดเข้าประตูตัวเองของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขามีแต้มออกจากโรงละครแห่งความฝันได้
ลูกทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ดูจะมาผิดฟอร์มกันไปหน่อยทั้งเกมรับ และรุก โดยเฉพาะในรายของ ซน ฮึง-มิน ที่เงียบสนิทจริงๆในนัดนี้ มีโอกาสซัด1ครั้งแต่ทว่าพลาดเป้าออกไป โดยแข้งชาวเกาหลีรายนี้ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการวิ่งลื่นล้มไปกองบนสนามหญ้า
ทางฝั่งของผู้ชนะ ยูไนเต็ด ต้องบอกเลยว่าก่อนเกม แฟนผีมีใจเสียตุ้มๆต่อมๆเล็กน้อย กับการไม่มี บรูโน่ แฟร์นันเดซ อยู่ในทีมเนื่องจากถูกรายงานว่า มีอาการป่วย และรู้สึกเสียวสันหลังมากขึ้นไปอีกที่มีชื่อของ แม็คไกวร์ ออกสตาร์ทเป็น11ตัวจริง
อย่างไรก็ตามการขาดหลายไปของเพลย์เมคเกอร์เบอร์18ของทีม เกมของพวกเขากลับทำกันได้ไหลลื่นมากๆ เฟร็ด ที่สวมบทบาทคล้ายๆมิดฟิลด์หมายเลข8 คอยเชื่อมบอล พลิกบอล จ่ายบอลงามๆในการเล่นเกมสวนกลับได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าโอกาสในการจบท็อปโฟร์จะยังถือว่ายากพอสมควร เมื่อทีมของ ราล์ฟ รังนิก นำห่าง อาร์เซน่อล อยู่เพียง2แต้ม แต่ทว่ากลับแข่งมากกว่าพลพรรคปืนใหญ่ถึง4นัด
แต่ทว่าด้วยฟอร์มการเล่นของทีมในนัดนี้ (ไม่รู้จะดีต่อเนื่องไปอีกกี่แมตช์) และการกลับมาเข้าฝักของ โรนัลโด้ น่าจะทำให้ สาวก เดอะ เร้ดเดวิลส์ พอจะมองเห็นแสงสว่างเล็กๆที่ปลายอุโมงค์อยู่บ้าง
Viva Ronaldo แฮตทริกที่59ในชีวิต
หลังเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างสุดช้ำ 1-4 การหายตัวออกไปจากทีมแบบไม่มีร่องรอย ก่อนมีรายงานภายหลังว่า " พี่โด้ " มีอาการบาดเจ็บบาดเจ็บสะโพกและบินกลับไปโปรตุเกส
โดยแมตช์กับไก่เดือยทอง เมื่อคืน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาเป็น11ตัวจริง ศูนย์หน้าของทีมอีกครั้ง พร้อมการได้พักน่องแข้งเต็มๆ หลังจากที่กรำศึกมาอย่างหนัก แถมยังเป็นช่วงที่ฟอร์มฝืดเพราะซัดประตูได้เพียงแค่ 1เม็ดเท่านั้น ในปี 2022 จนโดนล้อกันสนุกสนาน
อย่างไรก็ตามเกมเมื่อคืน คือฟอร์มที่ดีที่สุดของสตาร์ชาวโปรตุเกส นับตั้งแต้ย้ายมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คำรบสองเลยทีเดียว เมื่อ โรนัลโด้ กดแฮตทริกได้สำเร็จ หลังตะบันไกลสุดสวยเกือบ30หลา - เข้าชาร์ตลูกเปิดของ เจดอน ซานโช่ และ เทคตัวสูงโขกลูกเตะมุมไม่เหลือซาก
นอกจากจะแฮตทริกฮีโร่ของทีมแล้ว ภาพรวมการมีส่วนร่วมกับเกม แข้งวัย37ปีรายนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นแบบทะลุ80ตีนถีบ ช่วยวิ่งบีบไล่บอล ลงมาเชื่อมเกม จ่ายบอลจากแดนกลางแล้ววิ่งทะยานไปข้างหน้าหลายๆจังหวะ
การตะบัน3เม็ดดังกล่าวส่งผลให้นี่คือการกดแฮตทริกครั้งที่ 59ในอาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัวแล้ว ทั้งในนามทีมชาติและสโมสร และเป็นการทำแฮตทริกได้ 13ปีปฎิทินติดต่อกันด้วย นับตั้งแต่ฤดูกาล 2012-2013 เป็นต้นมา
แม้จะมีบางช่วงที่โดนวิจารณ์อย่างหนักหน่วง มีบางนัดขาอ่อนหมดเรี่ยวแรงอย่างชัดเจน แต่ทว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ยังเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่วันยังค่ำ18ประตู จาก31นัดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เลวร้ายเกินไปตามคำวิจารณ์ในระยะหลังเลย
นอกจากนี้แฮตทริกที่ทำใส่สเปอร์ส เมื่อคืน ยังส่งผลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลายเป็นแข้งที่ทำประตูได้มากสุดในประวัติศาสตร์ลูกหนัง (ตามสถิติบันทึก) 807ประตู แซงหน้า โจเซฟ บิคาน ที่กดไป 805ประตู
เฟร็ด ไฉไล เมิ่อไม่ต้องเล่นต่ำ
น่าจะพอได้เห็น ไกด์ไลน์ ใช้งานเฟร็ด เรื่อยๆแล้วสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า กับการใช้งาน เฟร็ด ให้เหมาะสมตำแหน่งที่คู่ควร เกมกับสเปอร์ส เมื่อคืน เฟร็ด เล่นในบทบาทคล้ายๆกองกลางหมายเลข 6ผสมกับ8
แข้งบราซิลเสิ่นเจิ้นรายนี้ โดดเด่นมากๆ ในแดนกลาง มีจังหวะจ่ายบอล พลิกบอล เปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ชนิดที่แฟนผีไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง นึกว่าเห็น อันเดรส อิเนสต้า มาเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เฟร็ด ผ่านบอลเข้าเขตพื้นที่สุดท้ายถึง 16ครั้ง - ชนะการดวล5ครั้ง - เปลี่ยนบอลจากรับเป็นรุก 8ครั้ง - สร้างสรรค์โอกาส3ครั้ง แอสซิสต์ ให้ โรนัลโด้ 1ครั้ง
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ กองกลางวัย29ปีรายนี้ ได้โชว์ฟอร์มที่ไฉไลนั่นเป็นเพราะ ได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด ตำแหน่งเหมือนกับที่เคยเล่นกับทีมชาติบราซิล และ สโมสรเก่า ชัคตาร์ โดเน็ตส์ กล่าวคือขึ้นสูงมากกว่าต่ำ เกมรับเป็นหน้าที่ของ เนมานย่า มาติช ไป
เพราะเวลาที่เฟร็ด ทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ด้วยรูปร่างที่เล็ก ทำให้เวลาเข้าเบียดเข้าปะทะจะเห็นเจ้าตัวกลิ้งล้มเป็นลูกขนุนตลอด รวมถึงเซ้นต์บอลในเกมรับของเจ้าตัวก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่อีกด้วย
ป็อกบา กับตำแหน่งของ บรูโน่
ก่อนเกม บรูโน่ แฟร์นันเดซ ไม่มีชื่ออยู่ในทีมอย่างน่าเซอร์ไพรส์ และมีรายงานว่ามีอาการป่วย (ไม่รู้เพราะ ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เปล่า) นั่นจึงทำให้ ตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ของทีมเป็นหน้าที่ของ ปอล ป็อกบา ที่มาพร้อมกับทรงผมใหม่โล้นเกรียน
โดยถ้ามองในภาพรวมถือว่า ป็อกบา ทำหน้าที่ได้ค่อนข้างน่าพอใจ ครองบอลได้เหนียวแน่นหลายๆจังหวะ และเอาชนะมิดฟิลด์ของไก่เดือยทองอย่าง โรดริโก้ เบนตานกูร์ ในแดนกลาง
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม จะให้ดีหมดทุกอย่างก็คงจะไม่ใช่กองกลางจอมตัดผมรายนี้ ป็อกบา เงื้อง่าราคาแพงหลายครั้ง ในการจ่ายบอล จ่ายบอลเสีย ออกบอลช้า ในจังหวะที่ควรจะสวนกลับไปถึงแดนหน้า
จากข้อมูลสถิติตัวเลข ป็อกบา ทำบอลเสียไปทั้งหมด3ครั้ง และถือว่าน่าผิดหวังไม่น้อยที่เล่นในตำแหน่งจอมทัพของทีม แต่ทว่าไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนได้เลย แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าไม่ใช่ตำแหน่งที่ เจ้าของค่าตัว 89ล้านปอนด์ รายนี้ถนัดมากเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามการขาด บรูโน่ ก็ยังทำให้ทีมได้เห็นแง่ดีแง่งามอยู่บ้างนั่นก็คือ พวกเขาเล่นเป็นทีมกันได้ในเกมรุก โดยที่ไม่ต้องพึ่งพา อดีตดาวเตะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เหมือนเกือบทุกนัดที่ผ่านมา ที่เกมบุกทุกอย่างจะไปอยู่หวังพึ่งพา บรูโน่ แฟร์นันเดซ ตลอด
เคน มา แต่อาตี๋ ซน ไม่มา
แม้จะทำได้ประตูเดียว แถมยังมาจากการยิงจุดโทษ แต่ทว่าภาพรวมทั้งเกม แฮร์รี่ เคน คือทุกอย่างในแนวรุกของ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส จริงๆ เพราะเป็นผู้เล่นที่ลงมาล้วงบอล จ่ายบอล บังบอลให้เพื่อนได้ เรียกได้ว่าทำเกือบทุกหน้าที่จริงสำหรับดาวยิงกัปตันทีมชาติอังกฤษรายนี้
อีกคนที่โชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวสำหรับ เดยัน คูลูเชฟสกี้ ที่เอาชนะ อเล็กซ์ เตลลิส ได้เกือบจะทุกจังหวะ แถมยังเป็นคนเปิดบอลไปโดน แบ็กซ้ายชาวบราซิล จนทำให้สเปอร์สได้ลูกจุดโทษอีกด้วย
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามหนึ่งคนที่โชว์ฟอร์มไม่ออกเลย ทั้งที่เป็นหนึ่งในความหวังในเกมรุกและเป็น ดูโอ้ ของ เคน นั่นก็คือ ซน ฮึง-มิน " อาตี๋ " ที่ไม่รู้ว่าเกมนี้เจ้าตัวไปเปลี่ยนสตั๊ดใหม่ ปุ้มสั้นเกินไปจนไม่คุ้นชินรึเปล่า
เพราะตลอดทั้งเกมแข่งชาวเกาหลีใต้รายนี้้ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการลื่นล้มลงไปนอนกองกับพื้นสนามนับรวม 3-4ครั้งได้ แถมยังดูติดๆขัดๆกับการประสานงานกับ เซร์คิโอ เรกีล่อน แบ็กซ้ายชาวสเปนที่ฟอร์มโหล่ยโท่ยเช่นกัน
ซน มีโอกาส ได้ซัดในเขตโทษจากลูกเปิดเรียดหักข้อเข้ามาของ เดยัน คูลูเซฟสกี้ แต่ทว่า ซน ฮึง-มิน ล้มตัวซัดตามน้ำหลุดออกเสาแรกไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ เชื่อว่าถ้าเป็นฟอร์มปรกติของเจ้าตัวบอลน่าจะหายวับไปกองตรงก้นตาข่ายได้แล้ว
ผลงานรถไฟเหาะและแนวรับไก่ยังมีปัญหา
เหมือนจะดีขึ้นมากๆ สำหรับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส นับตั้งแต่เปลี่ยนกุนซือมาเป็น อันโตนิโอ คอนเต้ 8นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ชนะ5 เสมอ 3 แต่ทว่า9นัดต่อมา (รวมเกมกับ แมนยู) พลพรรคคลับไก่ ก็กลายเป็นทีมผีออกอย่างชัดเจน ชนะ4แพ้ 5
ถ้าเทียบจากมาตรฐานการเล่นเกมนี้ ถือว่าสเปอร์ส หลุดฟอร์มไปมากในการมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แนวรับก็ผิดพลาดกันชัดเจนทั้ง เอริค ดายเออร์ ที่ไม่รู้อะไรดลใจทำให้ตัดสินใจถอยห่าง จากลูกยิงไกลของ โรนัลโด้ รวมไปจนถึงเกือบทำทีมเสียจุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลอีกด้วย
ส่วน เซร์คิโอ เรกีลอน เป็นนัดที่ วิงแบ็กชาวสเปนรายนี้ทำตัวน่าผิดหวังมากๆ ทั้งในเรื่องของเกมรับ ที่ประตู2-1ของ แมนฯยู ก็มาจาก เจ้าตัวนี่แหละที่ยืนห้อยต่ำไม่เช็กไลน์
จนคนถวายพาน แอสซิสต์อย่าง เจดอน ซานโช่ ไม่ล้ำหน้า รวมไปจนถึงจังหวะเปิดครอสจากด้านข้างก็ทำเสียของไปหมด
ส่วนห้องเครื่องคนใหม่อย่าง โรดริโก้ เบนตานกูร์ ถือว่าโดนเหลี่ยมบอลของ ปอล ป็อกบา เล่นงานหลายครั้ง ครองเกมได้ดีแค่เฉพาะตอนที่ แมนยู ตั้งรับในครึ่งแรก ถ้าเทียบกับคูแข่งในตำแหน่งใกล้เคียงกันอีกฝั่ง ถือว่า เฟร็ด เด่นกว่าอย่างชัดเจน
ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / แพ้ เบิร์นลี่ย์ / ชนะ ลีดส์ ถล่มทลาย แต่ทว่ามาแพ้ มิดเดิ้ลสโบรช์ตกรอบ เอฟเอ คัพ นี่คือสเปอร์ส ณ นาทีนี้ ที่ผลงานพร้อมจะผีเข้าผีออกอยู่ตลอดเวลา และเป็นสิ่งที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ต้องปรับจูนแก้ไขขนานใหญ่ในซัมเมอร์
- คอลัมน์นิสต์ มวยไทย ข่าวกีฬารอบโลก
- 674
- 13 ม.ค. 2565 15:14