สงครามกุหลาบเดือด ! ผี บุกหลอน ลีดส์ คารัง 4-2 เฟร็ด ซุปเปอร์ซับ
เดือดดาล เตะกันโหดสมชื่อจริงๆ สำหรับศึก The War of the Roses สงครามแห่งดอกกุหลาบจริงๆ ระหว่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อระหว่างเกม90นาที กับ สายฝนที่ตกหนัก มีใบเหลืองปลิวว่อนรวมกันถึง 9ใบ และสุดท้ายเป็นทางฝั่งพลพรรคปีศาจแดง ที่บุกมาเอาชนะ ลีดส์ ไปได้สุดมัน 4-2
เริ่มเกมมาสักช่วง15นาทีแรก เป็นทางฝั่ง ลีดส์ ยูไนเต็ด ของ มาร์เชโล่ บิเอลซ่า ที่ครองเกมได้ดีกว่า แต่ทว่าก็ยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้ จน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาศัยความเฉียบคมในแนวรุกที่มีมากกว่า ซัดสองประตู ขึ้นนำ2-0 ใน45นาทีแรกจาก ลูกโขกของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ บรูโน่ แฟร์นันเดซ น.34 และ 45+5
จบ45นาทีแรกดังกล่าว เชื่อว่าทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์ น่าจะเจอกับงานสบายในช่วงครึ่งหลัง แต่ทว่ากลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย ลูกทีมของ ราล์ฟ รังนิก ออกอาการรวนดื้อๆ หลังเจอลูกยิงจับยัดที่เจตนาเหมือนเปิดมากกว่า ของ โรดริโก้ โมเรโน่ น.53 ไล่มาเป็น 1-2
จากนั้นอีกเพียง58วินาที แนวรับของ แมนฯยูไนเต็ด ก็ออกอาการสติแตกอย่างชัดเจน มาโดนทีมเจ้าบ้านไล่ตีเสมอ 2-2 ได้อย่างสุดช็อก จากลูกเปิดเรียดของ แดเนี่ยล เจมส์ ไปให้กับตัวสำรองอย่าง ราฟินญ่า ชาร์ตเข้าไปง่ายๆ
หลังจากที่ตีเสมอ 2-2 ได้รูปเกมก็กลับมาเป็นของผู้มาเยือนอีกครั้ง โดย ราล์ฟ รังนิก ได้ตัดสินใจเปลี่ยนตัวที่ค้านสายตาแฟนผีอยู่ไม่น้อย เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนเอา ปอล ป็อกบา ที่เล่นได้ค่อนข้างโดดเด่นออก น.67 ให้ เฟร็ด ลงมาเล่นแทน
รวมไปจนถึง เจสซี่ ลินการ์ด ที่นานๆทีจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ก็ถูกถอดออกให้ แอนโธนี่ย์ อิแลงก้า ลงมาบู๊ และสุดท้ายการเปลี่ยนตัวของเจ้าของฉายา "โปรเฟสเซอร์" ก็เห็นผลเพราะทั้ง เฟร็ด และ อิลังก้า ก็ลงมาช่วยให้ทีมคว้า3แต้มได้ เมื่อช่วยกันซัดคนละประตู น.70 และ 88
3แต้มในนัดนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังรักษาความหวังจบอันดับ4 ไปเล่นเวที แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ทว่าพวกเขาก็ยังมีสิ่งที่น่ากังวลเหมือนเดิมนั่นก็คือ การคุมเกมรักษาสกอร์ในสถานการณ์ที่ตัวเองได้เปรียบเอาไว้ไม่ได้ ยังคงเป็นที่มที่พร้อมได้และพร้อมโดนเสมอ
ส่วนในแมตช์นี้ ผู้เล่นปีศาจแดงก็มีโชว์ฟอร์มได้โดดเด่น หลายคนทั้ง เจดอน ซานโช่ เจ้าของผลงาน 2แอสซิสต์ บรูโน่ แฟร์นานเดซ ที่มีบทบาทต่อเกมรุกของทีมเป็นอย่างมาก ก็มาพร้อมกับ 1ประตู 1แอสซิสต์ เหมือนกัน
รวมไปจนถึง ปอล ป็อกบา ที่แม้จะถูกถอดออก น.67 แต่มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสรายนี้ก็โชว์ให้เห็นถึง ทักษะความสามารถ วิสัยทัศน์ ในเกมรุกอย่างเต็มเปี่ยม ทางฝั่งของ ลีดส์ ยูไนเต็ด การขาดคีย์แมนคนสำคัญอย่าง พาทริค แบมฟอร์ด และ คัลวิน ฟิลลิปส์ ก็ดูจะทำให้พวกเขา ฟอร์มรูดลงไปไม่น้อยสำหรับช่วงที่ผ่านมา
สำหรับทัพยูงทอง ความพ่ายแพ้ดังกล่าว ส่งผลให้พวกเขายังคงอยู่อันดับ15ของตาราง และน่าจะต้องลุ้นหนีตกชั้นจริงๆจังเสียแล้ว เมื่อ4นัดหลัง แพ้ไป3 เสมอ1 มีอยู่ มีอยู่ 23แต้ม จาก24นัด ทิ้งห่างทีมอันดับ 18โซนตกชั้นอย่าง วัตฟอร์ด เพียงแค่ 5แต้มเท่านั้น
ลูกเตะมุมกับความพยายามครั้งที่ 140
นานจนลืมไปแล้วจริงๆว่าในพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำประตูจากลูกเตะมุมได้ครั้งล่าสุดตอนไหน ที่แน่ๆในฤดูกาลนี้ ลูกโหม่งของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ คือครั้งแรกที่ปีศาจแดงได้ประตูจากลูกเตะมุม หลังปราการหลังหัวแตงโมรายนี้ ขวิดลูกเปิดของ ลุค ชอว์ เข้าไป
นั่นเท่ากับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องใช้ความพยายามถึง 140ครั้ง ถึงจะเบิกสกอร์ได้จากลูกเตะมุม ซึ่งหนสุดท้ายต้องย้อนไปไกลถึง วันที่27มกราคม ปี 2021 เกมที่พวกเขาเปิดบ้านพ่ายให้กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-2 ซึ่งก็เป็น แม็คไกวร์ เองนี่แหละที่โขกเข้าไปได้
นอกจากนี้แล้ว ประตูที่ แม็คไกวร์ ทำได้ ยังเป็นลูกแรกของแข้งค่าตัว80ล้านปอนด์ รายนี้ ในรอบ1ปีกว่าๆอีกด้วย โดยเป็นช่วงเหตุการณ์เจ้าตัวถูกวิจารณ์ฟอร์มการเล่นหนักๆช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2020-2021
การที่อดีตกองหลังเลสเตอร์ โหม่งพังประตูได้ในเกมเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-1 เมื่อตุลาคม 2020 ก็ทำให้เรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้มากโข เชื่อว่าแฟนผีคงหวังว่า ลูกโขกใส่ ลีดส์ เมื่อคืนน่าจะทำให้กองหลังกัปตันทีมรายนี้ มีฟอร์มกลับมาอยู่กับร่องกับรอยมากขึ้น
แม้ว่าทีมจะโดนกระซวกตาข่ายไปถึง2เม็ด แต่ทว่าโดยรวมนี่เป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ฟอร์มใช้ได้เลยสำหรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ผนึกกำลังกับ ลินเดอเลิฟ จัดการลูกกลางอากาศได้อย่างอยู่หมัด ไม่ทำอะไรผิดพลาดโง่ เหมือนหลายๆนัดที่ผ่านมา
สิ่งที่น่าแปลกใจและเป็นจุดสังเกตนั่นก็คือ แม็คไกวร์ ดูจะเป็นตัวของตัวเองและเล่นได้ดีมากขึ้น เมื่อจับคู่กับ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และมักจะออกอาการลน ไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาได้จับคู่กับ ราฟาเอล วาราน อาจะด้วยเพราะความเกร็งและสไตล์การเล่นที่ไม่สอดประสานกันก็เป็นได้
แม็คทอม บู๊ไม่กลัวเจ็บ
แมตช์กับ ลีดส์ ที่ ปอล ป็อกบา เล่นได้อย่างโดดเด่น แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วกองกลางชาวฝรั่งเศสรายนี้จะถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ส่วนหนึ่งที่ทำให้ "เฺฮียป็อก " เล่นได้อย่างสะดวก นั่นก็เป็นเพราะการทำงานสกปรกของ สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ นี่แหละ
แข้งชาวสก็อตแลนด์รายนี้ บู๊ ได้อย่างถึงพริกถึงขิง จัดการนักเตะทีมเจ้าบ้านร่วงลงไปนอนกับพื้นหลายราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรบิน ค็อค เซ็นเตอร์ชาวเยอรมัน ที่โดนตั๊นจนศรีษะแตก และเล่นต่อไปได้ไม่นาน ถูกถอดออกให้ จูเนียร์ ฟิร์โป้ ลงมาบู๊แทน ตั้งแต่นาทีที่ 31
แม็คโทมิเน่ย์ จัดหนักจัดเต็มในทุกจังหวะการเข้าบอลที่ 50/50 ตามบรรยากาศทีเร้าอารมณ์สุดๆของ แฟนบอลที่ เอลแลนด์ โร้ด ซึ่งจริงๆก็ถือว่าโชคดีไม่น้อยที่ " แม็คทอม " ไม่โดนใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดง เพราะเจ้าตัวเล่นสุ่มเสี่ยงและน่าโดนสุดๆ
ดาวเตะหมายเลข39รายนี้ เข้าแท็กเกิ้ลไป3ครั้ง ตัดบอลได้2หน และที่น่าหวาดเสียวสุดๆนั่นก็คือ การทำฟาวล์คู่แข่งไปมากถึง6ครั้ง แต่ยังโชคดีที่ได้ไปแค่ใบเหลืองเดียว
สิ่งที่ แม็คโทมิเน่ย์ ต้องปรับปรุงในนัดนี่นั่นก็คือการควบคุมอารมณ์ เป็นนักเตะที่ไหลไปกับบรรยากาศที่ดุเดือดของเกมง่าย ซึ่งก็เป็นไปตามแท็กติกของทีมรองอยู่แล้ว ที่มักจะชวนทะเลาะชวนเล่นหนัก กับคู่แข่งที่เหนือกว่า
ซานโช่ เเสงเริ่มออก และน่าจะมี 3แอสซิสต์
ดูจะปรับจูนให้เข้ากับระบบของทีมได้ดีขึ้นมามาก ตั้งแต่ปี2022มา สำหรับ ปีกค่าคัวแพงอย่าง เจดอน ซานโช่ หลังจากที่ เมสัน กรีนวู๊ด ก่อคดีฉาวงามไส้ ก็เป็นอดีตแข้ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รายนี้แหละที่ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งซ้ายหรือขวา
จังหวะกระชาก การเอาตัวรอดในพื้นที่แคบๆ สกิลการเลี้ยงบอลให้ติดเท้า นี่คืออะไรที่ ซานโช่ เริ่มมีมาฝากให้แฟนบอลปีศาจแดงได้เห็นเรื่อยๆ เกมเมื่อคืนที่ เอลแลนด์ โร้ด ก็เช่นกัน
ปีกเจ้าของค่าตัว73ล้านปอนด์ ได้ออกสตาร์ทตัวจริงในตำแหน่งปีกริมเส้นร่วมกับ เจสซี่ ลินการ์ด สลับกันเล่นฝั่งซ้ายและขวาตามสถานการณ์ โดย ท้ายที่สุดแล้ว เจดอน ซานโช่ ก็เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่โดดเด่นสุดๆของทีมเมื่อคืน
นอกจากลีลาการกระชากลากเลื้อยในพื้นที่แคบๆ ไปกับบอลได้ดีแล้ว เจ้าตัวยังมีผลงานที่เป็นรูปธรรมเช่น 2แอสซิสต์ ให้เพื่อนร่วมทีม ทั้งจังหวะหยอดเข้ามาอย่างเท้าชั่งทองให้ บรูโน่ แฟร์นันเดซ โขกเข้าไปไม่เหลือ
รวมไปจนถึงอีกหนึ่งแอสซิสต์ ที่แปะออกซ้ายให้ เฟร็ด วิ่งสอดเข้ามาตะบันเสียบเสาแรกเต็มเหนี่ยว เผลอๆ ซานโช่ เกือบจะทำแฮตทริกแอสซิสต์ด้วยซ้ำ เมื่ออุตส่าห์ลุยกระชากมาจากฝั่งซ้าย
แล้วไหลถวายพาทองให้ เจ้าหนูอิลังก้า ได้ยิงโล่งๆทางฝั่งซ้าย แต่แข้งดาวรุ่งชาวสวีเดนรายนี้ กลับแปเข้าซอง เมสลิเย่ร์ แบบน่าเขกกะโหลก
ซานโช่ ดูจะไม่มีปัญหาเลยในระยะหลังๆกับการถูกโยกจับมาเล่นทางฝั่งซ้าย ในสงครามแห่งดอกกุหลาบ ปีกเบอร์25รายนี้ มีสถิติที่ดีทั้ง แย่งบอลกลับคืนมาได้ 9ครั้ง - สัมผัสบอลในเขตโทษลีดส์ 7ครั้ง ชนะการดวล5ครั้ง
การเปลี่ยนตัวของ ลุงลาบ เห็นผล
ไม่น่ามีใครรู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยกับการเปลี่ยนตัวเอา เจสซี่ ลินการ์ด ออก แล้วให้ แอนโธนี่ย์ อิลังก้า ใช้ความสดความห้างลงมาบู๊แทน แต่ทว่าแฟนบอลน่าจะค้านสายตาและเกิดอาการพ่อไม่เข้าใจตุ้มไม่น้อย สำหรับการเลือกถอด ปอล ป็อกบา ออกของ ราล์ฟ รังนิก
ป็อกบา คือหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นฉายแสงสุดๆของปีศาจแดงเมื่อคืน เพราะเชื่อมเกมสร้างเกมบุกได้อย่างยอดเยี่ยม ครองบอลไว้กับตัวได้เหนียว แถมยังมีจังหวะกระชากลากเลื้อยเกือบจะทำ แอสซิสต์ ให้ทีมได้อีกด้วย แต่ทว่าน่าเสียดายที่ โรนัลโด้ ยิงจ่อๆไปติดเซฟ
เฟร็ด ที่ลงสนามมาแทน ป็อกบา น.67 น่าจะโดนกฐินลงไม่น้อยหากว่าลงมาแล้วโชว์ฟอร์มไม่เอาอ่าว แต่ทว่าการตัดสินใจของ ราล์ฟ นังนิก ก็ถูกต้องสุดๆ เมื่อกองกลางชาวบราซิลรายนี้ คือผู้ทำประตูให้ทีมขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 น.70 เมื่อวิ่งสอดเข้ามาทางฝั่งซ้าย แล้วซัดเสียบเสาแรก ชนิด10เต็ม10
โดยเชื่อว่าผู้จัดการทีมชาวเยอรมันรายนี้ เปลี่ยนเอา ป็อกบา ที่แม้จะเล่นดีออกเพื่อ (แต่ทว่าก็มีบางจังหวะที่ให้บอลช้าและไม่เคลื่อนไปข้างหน้า) เติมการให้บอลเร็วและเคลื่อนไปข้างหน้าตลอด ของ เฟร็ด และหมากนั้นก็ได้ผลดีจริงๆ
ส่วน อิลังก้า จังหวะแรกที่ทำหมูหก ยิงโล่งๆ เข้าซอง อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ง่ายๆ ในขณะที่ทีมนำ3-2 เชื่อว่าหากสุดท้ายสกอร์จบด้วย 3-3 ไอ้หนูวัย19ปีรายนี้ น่าจะโดนเฉ่งยับแน่ๆ แต่ทว่าก็ยังทีที่สุดท้าย มาแก้ตัวได้กับประตูตอกฝาโรง 4-2 ที่ต้องชมผู้แอสซิสต์ อย่าง บรูโน่ แฟร์นันเดซ เต็มๆ
ลีดส์ ทีมสปิริตดี แต่ขาดคีย์แมน ทำเป๋ต่อเนื่อง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่านี่คือศึกแห่งศักดิ์ศรีและศึกแห่งความเกลียดชังด้วยรึเปล่า บรรยากาศของแฟนบอล ฝนเม็ดใหญ่ในสนาม ทำให้รูปเกมส่วนใหญ่ออกมาค่อนข้างสูสี อัดกันแหลกซัดกันนัวในทุกจังหวะ
ทีมยูงทองแม้จะตามหลังถึง 2ประตูใน45นาทีแรก ดูจากเหลี่ยมไหนมุมใด ก็ไม่มีทีท่าว่าลูกทีมของ มาร์เชโล่ บิเอลซ่า จะพลิกนรกกลับมาได้ แต่ทว่าด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นทีมสปิริตบวกกับ ความผิดพลาดสติแตกของผู้มาเยือน ทำให้ ลีดส์ ไล่ตีเสมอ 2-2 ได้เพียงแค่นาทีที่ 54
โดยทั้งสองเม็ดที่ทีมดังย่านยอร์คเชียร์ทำได้ เกิดขึ้นในระยะเวลาห่างกันเพียงแค่ 58วินาทีเท่านั้น แต่ทว่าหลังจากที่ตีเสอได้ คุณภาพนักเตะที่ด้อยกว่าทำให้ ลีดส์ ต้องตกเป็นรอง ปีศาจแดงอีกครั้ง และพ่ายไป 2-4 ในที่สุด
ซีซั่นนี้ยูงทองเจอปัญหาอยู่ไม่น้อยกับการขาดหายไปของ 3คีย์แมน ทั้งในแดนหลัง อย่าง เลียม คูเปอร์ แดนกลางอย่าง คัลวิน ฟิลลิปส์ และแดนหน้าตัวความหวังสูงสุดอย่าง พาทริค แบมฟอร์ม ที่โดนอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปทั้งหมด
ปัจจุบันพวกเขารั้งอยู่อันดับ 15ของตาราง มีอยู่23แต้มจาก 24นัด และจะต้องเป็นทีมดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างเต็มตัว แต่ทว่าเมื่อดูจากภาพรวมของทีมและสปิริตนักสู้ต่างๆ น่าจะทำให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกได้ โดย มีคียแมนในช่วงเวลาที่เหลือเป็น ราฟินญ่า รวมไปจนถึง แดเนี่ยล เจมส์
- คอลัมน์นิสต์
- 402
- 21 ก.พ. 2565 14:50