ปัญหาที่น้าโอเล่ต้องรีบแก้ให้ผีในซีซั่นนี้
แม้จะพึ่งโชว์ฟอร์มดุบุกไปถลุง เรอัล โซเซียดาด ทีมแกร่งจากสเปนที่สนามกลางตูริน 4-0 ในเกมยูโรป้า ลีก แต่ทว่าแฟนผีหลายๆคนคงยังไม่ค่อยอุ่นใจกับฟอร์มการเล่นรวมถึงความสม่ำเสมอของปีศาจแดงชุดนี้มากนัก
ย้อนกลับไปช่วงกลางเดือนมกราคมพลพรรคอสูรแดงผงาดขึ้นเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก หลังจบเกมที่บุกไปเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 จากการซัดไกลสุดสวยของกองกลางตัวตัดผมอย่าง ปอล ป็อกบา
ณ วินาทีนั้น แฟนบอล เดอะ เร้ด เดวิลส์ หลายรายๆ คงมีแอบหวังวาดฝันถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ห่างหายจากอ้อมอกของทีมไปนานถึง7ฤดูกาลเข้าให้แล้ว นับตั้งแต่ที่ชายชื่อ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาตำแหน่งไปเมื่อปี2013
ตั้งแต่มหาบุรุษชาวสก็อตแลนด์ อำลาถิ่นโรงละครแห่งความฝันไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยเข้าใกล้หรือกลายเป็นทีมที่มีสิทธิลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีแบบเต็มตัวเลยแม้แต่ฤดูกาลเดียว
พอมาถึงยุคที่เปลี่ยนกุนซือ มาถึงมือเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ลองผิดลองถูกไปกว่า 1ฤดูกาลครึ่ง มีช่วงวงจรลูปนรก จนมาถึงซีซั่นนี้ที่เหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของทีมในรอบหลายๆปี กับยุคของผู้จัดการทีมลูกหม้อชาวนอร์เวย์
แต่ อนิจจา ผ่านไปไม่ถึง1เดือนจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง พวกเขาตกลงมาอยู่อันดับ2ของตารางคะแนน และที่สำคัญคือตามหลังทีมฟอร์มโคตรคนแกร่งมหากาฬ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง10แต้ม
โดยช่วงเวลาที่ทีมเรือใบฟอร์มติดเทอร์โบขึ้นมาเรื่อยๆ สวนทางกับ ทีมปีศาจแดง ที่ฟอร์มค่อยๆสาละวันเตี้ยลงทั้ง หลุดแพ้ทีมบ๊วย เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คาบ้าน 1-2
โดนเอฟเวอร์ตันตีเสมอช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย 3-3 รวมถึงล่าสุดที่ทำได้แค่เสมอกับทีมรองบ๊วย เวสต์บรอมวิช 1-1
ลองคิดกลับกัน3นัดที่ลูกทีมของน้าโอเล่ ทำแต้มหล่น หากแปรเปลี่ยนเป็นคว้าชัยได้หมดตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น พวกเขาจะตามหลังทีมเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญอย่าง ซิตี้ เพียงแค่3แต้มเท่านั้น ไม่ใช่10แต้มแบบในตอนนี้
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะเข้าวนลูปนรกในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
รวมถึงสิ่งที่ โซลชา ควรจะต้องแก้หากหวังจะให้ แมนฯยู กลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือกลับมาเป็นทีมที่พร้อมลุ้นแชมป์ให้ได้อีกครั้ง
บรูโน่ โคตรสำคัญแต่...
คงไม่มีใครปฎิเสธว่า ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขยิบผลงานของตัวเองขึ้นมาขนาดนี้ เป็นเพราะอิมแพคการย้ายเข้ามาของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ
ดาวเตะชาวโปรตุเกส แค่คนเดียว ย้ำอีกครั้งว่าแค่คนเดียว จะสามารถเปลี่ยนแปลงพลิกโฉมทีมไปได้ขนาดนี้
หัวใจและทุกๆอย่างของทีม ทีมของผมขาดคุณไม่ได้ นี่คงเป็นสิ่งที่แฟนผีอยากนิยามและบอกกับ อดีตแข้งสปอร์ติ้ง ลิสบอน รายนี้ ดูเหมือนจะพูดโอเวอร์แอ็คติ้งเลยเถิดไป
แต่มันก็คือเรื่องจริงที่จะบอกว่า นักเตะคนสุดท้ายที่ย้ายเข้ามาและส่งผลอิมแพคกับทีมรุนแรงหนักหน่วงสั่นสะเทือนขนาดนี้ นั่นต้องย้อนไปไกลถึง เอริค คันโตน่า เลยทีเดียว
ทุกๆเกมเราจะเห็นเหตุการณ์นี้ซ้ำๆนั่นก็คือ การสร้างสรรค์เกม การคลีเอทเกม ที่ส่วนใหญ่เกินครึ่งมาจากบรูโน่ แฟร์นันเดซ คิดอะไรไม่ออกบอกบรูโน่
เพราะบางนัดขนาดที่เจ้าตัวนอนเจ็บในสนาม เพื่อนร่วมทีมยังตัดสินใจส่งบอลให้เล่นต่อดื้อๆคิดดู
เอานับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ บรูโน่ แฟร์นันเดซ กดไปแล้วถึง13ประตู กับอีก9แอสซิสต์ และรวมทุกรายการเท่ากับ20ประตู แค่นี้ก็บ่งบอกแล้วว่า เจ้าตัวสำคัญแค่ไหนกับทีม
โอเค ฟอร์มที่ร้อนแรงเกินห้ามใจเป็นผลดีผลบวกต่อทีมอยู่แล้ว แต่ทว่าในทางกลับกันมันก็น่ากังวลและเป็นห่วงไม่น้อยว่า
หากวันใดวันหนึ่งแข้งหมายเลข18ของทีมตอนนี้ มีอาการบาดเจ็บล้มหมอนนอนเสื่อต้องพักยาวๆ ปีศาจแดงจะมีสภาพเป็นเช่นไร
เอาง่ายๆแค่ในบางนัดที่ทีมถอดเอา บรูโน่ แฟร์นันเดซ ออกจากสนาม เกมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ตกลงอย่างฮวบฮาบน่าเกลียดจริงๆ
จากเกมที่ข่มคู่แข่งมิดด้ามโขยกเขาอย่างเมามัน กลายเป็นรองเขาดื้อๆ เมื่อไม่มีบรูโน่อยู่ในสนาม
มันเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ ที่มาตรฐานการเล่นของทีมทีมหนึ่ง จะฝากไว้กับนักเตะเพียงแค่คนเดียว ระบบทีมต่างหากคือสิ่งที่สำคัญกว่า ดูอย่างเพื่อนบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้
ไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน ไม่มีปัญหา
ไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ ไม่มีปัญหา
ไม่มี อิลคาย กุนโดกัน ไม่มีปัญหา
แต่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มี บรูโน่ แฟร์นันเดซ มีปัญหาแน่ๆ
มาร์กซิยาลนิ่งทั้งหน้า และผลงานในสนาม
นี่น่าจะเป็นกลุ่มนักเตะความหวังสูงสุดในแนวรุก ในยามที่ บรูโน่ แฟร์นันเดซ เล่นไม่ค่อยออก อองโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นกลุ่มคนนักเตะที่แจ้งเกิด เดบิวต์ ทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2015-2016 ในยุคของ หลุยส์ ฟานกัล
อองโตนี่ มาร์กซิยาล ดูเหมือนจะเป็นดาวยิงความหวังของทีมทันทีตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม เมื่อลงมากดประตูสุดสวยใส่ลิเวอร์พูลในศึกแดงเดือด และกลายเป็น เดอะ แบก ของทีมในฤดูกาลนั้น (2015-2016)
หลังจากนั้นเป็นต้นมาดาวยิงชาวฝรั่งเศสรายนี้ก็มีฟอร์มการเล่นในแต่ฤดูกาลที่ขึ้นๆลงๆตลอด
ว่ากันว่าสาเหตุหนึ่งมาจากการที่เจ้าตัว เคยโดน ชลาตัน อิบราฮิโมวิช ขโมยเสื้อหมายเลข9ไปด้วย เล่นเอาเกิดอาการน้อยใจพ่อไม่เข้าใจตุ้มไปพักหนึ่ง
ซีซั่นที่มาร์กซิยาลยิงได้ระเบิดเป็นไฟพะเนียงที่สุุดคือฤดูกาลที่แล้วนี่เอง (2019-2020) เมื่อกดไปได้ถึง 23ประตูรวมทุกรายการ แต่ทว่าซีซั่นต่อมา หรือซีซั่นปัจจุบัน ดาวยิงวัย25ปีชาวฝรั่งเศส กลับทำตัวน่าผิดหวังอีกครั้ง
เสียงสบถ คำก่นด่า คอมเม้นต์ แย่ๆในโซเชียล นี่คือสิ่งที่แฟนบอลพร้อมใจกันมอบให้หอกหมายเลข9ของทีมตอนนี้
ภาษากายรวมถึงฟอร์มการเล่นในสนาม มาร์กซิยาล สอบตกแบบไม่ต้องซ่อม จนหลายคนคิดไปในทิศทางเดียวกันว่า ถ้าหากไม่มีอะไรดีขึ้น นี่น่าจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเจ้าตัวยังถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดแล้ว
4ประตู ในพรีเมียร์ลีก กับในฐานะบทบาทการเป็นกองหน้าทีมลุ้นแชมป์ แค่นี้ก็บอกได้แล้วว่า " หมักเซียว " ยังพอไหวได้ไปต่อไหม
แรชฟอร์ด ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
หากใครจำกันได้นี่คือหนึ่งในนักเตะที่เคยถูกหยิบไปยืนขนาบข้างกับ คิลิยัน เอ็มปั๊ปเป้ กับกลุ่มนักเตะยังบลัดที่จะขึ้นมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ในอนาคต
แต่พอมองกลับมาที่ภาพตอนนี้ เอ็มปั๊ปเป้ ไปไกลถึงดวงจันทร์แล้ว ส่วน มาร์คัส แรชฟอร์ด ยังก้าวไปไหนได้ไม่ไกลเลย
จังหวะนรก นี่คือคำนิยามของดาวเตะหมายเลข10ของปีศาจแดงชุดนี้ โอเคว่าจะมีหลายนัดที่เจ้าตัวจะสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับคู่แข่ง และมีสกอร์รวมถึงแอสซิสต์มาฝากแฟนๆบ่อยครั้ง
แต่ก็มีอีกหลายนัดไม่น้อยเช่นกันที่เจ้าตัว เรียกเสียงสบถ เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งออกจาก เมื่อดูผ่านหน้าจอโทรทัศน์
ซิกเนเจอร์ของแรชฟอร์ดในระยะหลังๆนั่นก็คือ จังหวะยึกๆยักๆ เลี้ยงบอลไปแล้วหยุดดื้อๆจนเพื่อนร่วมทีมเสียจังหวะ
จังหวะควรยิงกลับจ่าย จังหวะควรจ่ายกลับยิง หรือความอยากเด่นอยากโชว์ประเภท ฉันขอโชว์ไปคนเดียวหน่อยเถอะจังหวะแบบนี้ต้องปล่อยของสักหน่อย นี่คือด้านแย่ๆที่ แรชฟอร์ดยังสลัดออกจากตัวไม่ได้
ฤดูกาลที่แล้ว2019-2020 เป็นฤดูกาลที่ดีของดาวยิงสายบุญเลยก็ว่าได้เพราะซัดไปได้ถึง17ประตู กับอีก 7แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก แม้ว่าจะมีช่วงที่โดนอาการบาดเจ็บรังควานก็ตาม
กรณีของ แรชชี่ เชื่อว่าหลายคนคงพอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้าง กูรูลูกหนังหลายท่านมองไปยังทิศทางเดียวกันว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะขึ้นมาเป็นยอดแข้งฝีเท้าดีได้
ทั้งความเร็ว ความมั่นใจ ทักษะความสามารถส่วนตัวที่เหลือรับประทาน จะขาดก็เรื่องความเฉียบคม และการตัดสินใจในพื้นที่สุดท้ายจังหวะชี้เป็นชี้ตาย
นี่คือสิ่งที่คอยฉุดรั้งไม่ให้เจ้าตัวก้าวขึ้นไปเป็นสตาร์หรือตัวความหวังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยสักที
แต่ก็อย่าพึ่งปล่อยปะละเลยไม่รีบแก้ไขโดยเร่งด่วย เพราะปัจจุบันเอง มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็อายุปาเข้าไป23ปีแล้ว เขากำลังไม่ใช่แข้งดาวรุ่งอีกต่อไป เวลาทีเขาจะทำผิดพลาดได้เหมือนปัจจุบัน เหลือน้อยลงเต็มที่
เด เคอา ไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่จะทำให้ทีมเป็นแชมป์(อีกแล้ว)
ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมาปฎิเสธไม่ได้ว่า ดาบิด เด เคอา ก่อความผิดพลาดส่วนตัวจนเป็นเหตุทำให้ทีมเสียประตูอยู่บ่อยครั้งนับไม่ถ้วน
ถ้าจะพูดให้ใจร้ายหน่อยก็คงจะบอกได้ว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของนายด่านชาวสเปนรายนี้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเหมือนสายน้ำที่ผ่านไปแล้วและจะไม่หวนกลับมาอีก
ไม่มีใครปฎิเสธได้ถึงความยอดเยี่ยมของเจ้าตัวกับลูกเซฟมหัศจรรย์นับไม่ถ้วน การันตีได้จากผลงานนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร4 (เซอร์ แมตส์ บัสบี้ อวอร์ด) สมัย และคว้ารางวัลดังกล่าว3สมัยซ้อน 2013-2016
เป็นนักเตะจากตำแหน่งผู้รักษาประตูคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่คว้ารางวัลดังกล่าวได้
และเป็นผู้เล่นคนแรกที่คว้ารางวัลดังกล่าวได้3สมัยติดต่อกัน และกลายเป็นผู้เล่นที่คว้า เซอร์ แมตส์ บัสบี้ อวอร์ด ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร4สมัย
ว่ากันว่า ดาบิด เด เคอา เริ่มฟอร์มตกมือไม่เหนียบหนึบฉมังเท่าเดิมเกิดขึ้นในศึกฟุตบอลโลก2018 ที่ใครที่ยิงเข้ากรอบ ทีมชาติสเปนก็แทบจะเสียประตูรอได้เลย ความมั่นใจที่หดหาย ส่งผลมายังฟอร์มส่วนตัวกับสโมสรด้วย
นอกจากความผิดพลาดส่วนตัวที่เราเห็นบ่อยๆกับอดีตนายด่านแอตเลติโก มาดริด ในระยะหลังๆ จังหวะออกมาตัดบอลชกบอล ที่เป็นรอยแผลเหวอะหวะ ให้คู่แข่งโจมตีเล่นงานตลอด
การจัดการสั่งการลูกตั้งเตะมุม การตัดสินใจออกมาเล่นชกบอลที่ผิดพลาดคือสิ่งที่ เด เคอา โดนคู่แข่งฉกขโมยประตูได้อยู่บ่อยครั้ง
จังหวะเซฟมหัศจรรย์ " What A Save " มีให้เห็นแทบจะนานๆนับครั้งได้ ยิ่งสถิติหลังจบเกมที่เสมอกับเอฟเวอร์ตัน 3-3 ก็ยิ่งน่าตกใจไม่น้อย
เมื่อตัวเลขสะท้อนผลงานบอกว่า นายด่านหมายเลขหนึ่งของปีศาจแดงรายนี้่ มีเปอร์เซ็นเซฟลูกยิงตรงกรอบได้น้อยที่สุดเป็นอันดับรองสุดท้ายของลีก มีแค่ หลุยซ์ ปาทริซิโอ ที่แย่กว่าเพียงเจ้าเดียว
ถึงกระนั้นภาพรวม ดาบิด เด เคอา อาจไม่ได้แย่มาก แต่สำหรับทีมที่ต้องการคว้าแชมป์หรือประสบความสำเร็จแล้ว นายด่านคนสุดท้ายของทีมต้องมีความพิเศษหรือไว้วางใจได้มากกว่าที่เจ้าตัวเป็นอยู่ตรงนี้
สิ่งที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องทำนั่นคือ การลองให้ ดีน เฮนเดอร์สัน ลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกบ้าง หากคิดว่า เดเคอา จะไม่ดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ หรือไม่ก็มองชายตามองผู้รักษาประตูหนึบๆสักคนในช่วงตลาดซัมเมอร์
กองหลังที่ชอบหลับ
นี่เป็นซีซั่นที่ ยูไนเต็ด นิยมชมชอบในการเสียประตูให้คู่แข่งไปก่อนเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะสไตล์ชอบคัมแบ็กอะไรนั่นหรอก แต่เป็นเพราะพวกเขาเองชอบหลับเข้าสู่เกมช้า
ทั้ง อารอน วาน-บิสซาก้า / แฮร์รี่ แม็คไกวร์ / วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ รวมถึง ลุค ชอว์ ต่างล้วนพากันก่อความผิดพลาดอยู่เป็นระยะ ไม่คนใดก็คนหนึ่ง ไม่นัดใดก็นัดหนึ่ง
วาน-บิสซาก้า แม้จะถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหลังที่เสียบสกัดบอลแม่นที่สุดของลีก แต่ทว่ามีหลายครั้งมากๆที่เจ้าของฉายาไอ้แมงมุม ยืนตำแหน่งผิดพลาด จนเป็นเหตุทำให้ทีมโดนกระซวกตาข่าย
ส่วน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แม้ว่าจะถูกยกให้เป็นผู้นำในเกมรับหรือเซ็นเตอร์ฮาร์ฟตัวเก่งของทีม มีความโดดเด่นในลูกกลางอากาศ
แต่ทว่าบทจะพลาดก็พลาดง่ายๆดื้อๆแบบไม่มีเหตุผลทั้งสิ้น หรือในยามที่พลาดก็หลุดแบบเสียเชิงกองหลังค่าตัว80ล้านปอนด์ไปเลย
ที่หนักและโคม่าสุดคงหนีไม่พ้น วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่เหมือนจะเล่นดีขึ้นมาในระยะหลังๆ แต่ก็มาดีแตกในเกมเสมอกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1
โอเคเมื่อพิจารณาภาพช้ามันก็มองได้ว่า กองหลังชาวสวีเดนรายนี้ ทั้งโดนเหนี่ยวโดนทำฟาวล์จากกองหน้าของทีมมวยโลก อาจจะพลาดตรงที่ผู้ตัดสินไม่เป่าในจังหวะดังกล่าว
แต่ทว่าในฐานะกองหลังแล้วคุณก็ต้องคอยเบียดคอยแซะ กระทุ้งกองหน้าฝั่งตรงข้ามบ้าง พุ่งเข้าหาบอล ไม่ใช่ยืนแช่อยู่กับที่รอบอลอย่างเดียว นี่คือปัญหาของ ลินเดอเลิฟ ที่แฟนผีน่าจะเห็นมาโดยตลอดแล้ว
ครั้นจะให้หวังพึ่ง เอริค ไบยี่ ที่ถึงแม้จะฟอร์มดี เร็ว คล่องแคล่ว กล้าบวกกล้าชน แต่ก็ยังสภาพร่างกายเปราะเป็นแก้ว 3วันที4วันป่วย ก็คงจะไม่ได้
สิ่งที่โซลชาพอจะทำได้ก่อนที่จะไปเล็งเสริมทัพเซ็นเตอร์ฮาร์ฟใหม่ในช่วงตลาดหน้าร้อนนั่นก็คือ การซ้อมระบบเกมรับให้ดี ให้แนวรับทุกคนมีสมาธิ
หรืออาจจะรวมไปถึงการปรับ Formation แผงหลังใหม่อาจจะลองเล่นระบบหลัง3เวลาดวลกับทีมระดับท็อปที่แนวรุกอันตราย
ซึ่งสถิติที่ออกมาก็น่าตกใจไม่น้อยเมื่อตัวเลขระบุออกมาว่า ในบรรดาทีม Top10 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียไปถึง31ประตู มากที่สุดเป็นอันดับ3 จากทีมกลุ่มบนของตาราง
ทีมที่จะประสบความสำเร็จเกมรับคือรากฐานที่สำคัญมากๆ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอง ณ วินาทีนี้ไม่มีรากฐานที่มั่นคงหนักแน่นตรงนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
- คอลัมน์นิสต์
- 383
- 20 ก.พ. 2564 15:24