ไม่มีเคน แล้วไง ! ซน ซัดสวย พาไก่ดับเรือใบ 1-0
ถือว่าเซอร์ไพรส์เล็กน้อยเลยก็ว่าได้สำหรับ การออกสตาร์ทพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ของพลพรรคลับไก่ เมื่อพวกเขาสามารถเปิดบ้านเอาชนะเต็งแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 1-0
โดยฮีโร่ของทีมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ซน ฮึง-มิน ที่ขยับมาเล่นเป็นกองหน้าเต็มตัว หาช่องโอกาสที่มีอยู่เพียงแค่นิดเดียว ได้ซัดไกลด้วยซ้าย ผ่าน เอแดร์ซอน พุ่งเสียบเสาเข้าไป
ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่นำพาให้ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส โค่นเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้นั่นก็คือ การวางรากฐานเกมรับที่แข็งแกร่งโดยผู้จัดการทีมคนใหม่ นูโน่ เอสปิริโต้ ที่พกพาสไตล์การเล่นที่รัดกุมแพ้ยาก จากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ มาติดตั้งให้กับสเปอร์สด้วย
โดยเฉพาะผู้เล่นอย่าง ดาวิดซอน ซานเชซ ปราการหลังชาวโคลัมเบียที่ปรกติเป็นประเภทสายรั่วเหมือนกับได้เกิดใหม่ มีจังหวะเคลียร์บอลสวยๆ รวมถึงเข้าแท็กเกิ้ลได้หลายหน
จับคู่เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟกับ เอริค ดายเออร์ ได้อย่างเหนียวแน่น ปราบบรรดาแนวรุกค่าตัวรวมกันหลายร้อยล้านปอนด์ได้อย่างอยู่หมัด
ยิ่งไอ้หนูเด็กปั้นของสโมสรอย่าง จาเฟต แทนกันก้า ที่ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็น11ผู้เล่นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวากับเกมดาร์บี้แมตช์สุดกดดัน
แต่ทว่าเจ้าหนูวัย22ปีรายนี้ กลับไม่ได้รู้สึกกดดันประหม่าหรือตื่นเต้นแต่อย่างใด สามารถล็อก ราฮีม สเตอร์ลิง และ เบนจาแม็ง เมนดี้ ไม่ให้ขึ้นเกมทางด้านกราบขวาได้อย่างอยู่หมัด
ส่วนขวัญใจของทีมอย่าง อาตี๋ ซน ฮึง-มิน ที่ถูกขยับมาเล่นเป็นกองหน้าเต็มตัว แม้ว่าจะโดนประกบติดจากคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟทีมเรือใบสีฟ้า แต่ทว่าสตาร์ชาวเกาหลีรายนี้ ก็ยังหาจังหวะจบสกอร์ได้ถึง5ครั้ง ก่อนที่จะมาเป็นประตูชัยสุดเฉียบ น.55 ตอกย้ำความสำคัญของเจ้าตัวกับทีมเป็นอย่างดี
ด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เหมือนจะมีสัญญาณเตือนว่าทีมยังไม่ลงตัวมาตั้งแต่ เกมคอมมูนิติ้ ชิลด์ ที่แพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 แล้ว
โดยเฉพาะในตำแหน่งศูนย์หน้า ที่พวกเขาใช้ แฟร์ราน ตอร์เรส ลงไปรับบทบาทหน้าที่ดังกล่าว แต่ทว่าแข้งชาวสเปนรายนี้ก็ยังเล่นได้ตอบโจทย์ที่เป๊ป ตั้งไว้นัก
ครั้งจะโทษแต่ แฟร์รัน ตอร์เรส ก็คงไม่ได้ ถ้าจะมองไปในรายละเอียดของเกม ต้องบอกว่าหน่วยผู้เล่นสนับสนุนเกมรุกคนอื่นๆอย่าง ริยาด มาห์เรซ / ราฮีม สเตอร์ลิง
รวมไปจนถึงฟูลแบ็กซ้ายขวา อย่าง เบนจาแม็ง เมนดี้ และ ชูเอา กานเชโล่ ไม่ได้ซับพอร์ตหรือเล่นเกมรุกคุกคามแนวรับสเปอร์สได้แบบจะแจ้งเนื้อๆเลย
ไม่มีเคน แต่เรามีอาตี๋ซน
ด้วยปัญหาการอยากย้ายทีมจนถึงขนาดแสดงออกทางสัญลักษณ์ด้วยการงดมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม ของ แฮร์รี่ เคน ทำให้สุดท้ายตัวกุนซืออย่าง นูโน่ เอสปิริโต้ ต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาดด้วยการตัดชื่อดาวยิงความหวังหมายเลข1ออกจากทีมในเกมนัดเปิดสนาม
พร้อมขยับ ซน ฮึง-มิน ไปเล่นเป็นกองหน้าเป้าเต็มตัว ให้อยู่ใกล้กับบริเวณหน้ากรอบเขตโทษมากขึ้น แต่ทว่าการเล่นในตำแหน่งดังกล่าวของแข้งชาวเกาหลีใต้ ก็ไม่ได้ง่ายดายนักเมื่อเจอการประกบติดจากคู่เซนเตอร์ของ ซิตี้ อย่าง รูเบน ดิอ๊าซ และ นาธาน อาเก้
แต่ทุกๆครั้งเวลาที่ได้บอลในเขตพื้นที่อันตราย ซน สามารถดึงบอล พักบอล ครองบอล หรือจ่ายต่อให้เพื่อนร่วมทีมเล่นในจังหวะต่อๆไปได้ แม้จะโดนประกบติดเป็นเงาตามตัวตลอดเวลา แต่ดาวเตะหมายเลข7ของทีมรายนี้ ก็ยังพลิกหาจังหวะซัดไกลให้ทีมได้ 4-5ครั้ง
และด้วยการยืนประกบห่างเพียงเสี้ยววินาทีของ อาเก้ ทำให้ ซน ฮึง-มิน ได้มีเวลาพื้นที่ง้างยิงเพียงนิดเดียว แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้ ซน ส่งบอลเข้าไปเสียบตาข่ายได้อย่างแม่นยำ จนเป็นประตูชัยพาทีมเก็บ3แต้มเข้ากระเป๋าได้ในที่สุด
รวมไปจนถึงความเร็วและความแข็งแกร่งนี่คือสิ่งที่ดาวเตะแดน โอปป้า รายนี้ใช้เป็นอาวุธหลักให้กับทีมไก่เดือยทอง
สปอร์ส ที่เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ โดยการไม่มี แฮร์รี่ เคน สาวก " ยิด อาร์มี่ " คงยักไหล่ว่าไม่เห็นเป็น ไม่มีเคน แต่เรายังมีซน อยู่ทั้งคน
หนังม้วนเดิม ละครบทเดิมของ ราฮีม
นึกว่าจะเอาความมั่นใจกลับมาอย่างเต็มโข กับฟอร์ม3ประตู 1แอสซิสต์ กับทีมชาติอังกฤษในยูโร2020 สำหรับ ราฮีม สเตอร์ลิง นักเตะผู้ที่ถูกว่ากันว่าเป็นลูกรักบุตรบุญธรรมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต โดยเกมเปิดสนามพรีเมียร์ลีก ราฮีม ได้รับโอกาสออกตาร์ทเป็นตัวจริง
ดาวเตะก้นงอนรายนี้ได้รับบทบาทเป็นตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้าย ช่วงแรกดูเหมือน สเตอร์ลิง จะสร้างความปั่นป่วนใช้ได้ แต่ทว่าหลังจากเลยช่วง20นาทีแรก เราก็ได้เห็นราฮีมในร่างที่ตัวเราคุ้นเคยเมื่อช่วงท้ายฤดูกาลก่อน
นั่นก็การเลี้ยงติด การทำบอลเสีย รวมไปจนถึงการล้มง่ายไปหน่อย ทำให้ผู้ตัดสินอย่าง แอนโทนี่ เทย์เลอร์ เมินแทบทุกครั้ง
การประสานงานกับฟูลแบ็กอย่าง เบนจาแม็ง เมนดี้ ก็ทำได้ไม่ลื่นไหลเข้าขากันเท่าไหร่จังหวะสอดขึ้นมา ยังดูติดๆขัดๆประสานงานกันไม่เนี๊ยบ แม้ตัวของ ราฮีม สเตอร์ลิง จะพยายามชดเชยด้วยความขยันในการวิ่งหาช่องอยู่ตลอดก็ตาม
โดยเฉพาะการโดน แบ็กขวาดาวรุ่งของสเปอร์สอย่าง จาเฟต แทนกันก้า เก็บลักพาตัวหายออกจากสนามอย่างไร้ร่องรอย ราฮีมโดนความแข็งแกร่งของแบ็กวัย22ปีรายนี้ จัดการได้อย่างอยู่หมัด
มิหนำซ้ำในการเปลี่ยนตัวเพื่อแก้เกม ราฮีม สเตอร์ลิง ยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่เลือกถอดออก น.70 เพื่อให้ กาเบรียล เซซุส ลงมาเล่นแทน
ยิ่งเมื่อไปดูสถิติของเจ้าตัวเวลาลงเล่นให้ทีมเรือใบสีฟ้าระยะหลังนั้น เรียกได้ว่าเข้าขั้นห่วยแตกเลยทีเดียว เมื่อซัดไปได้เพียงแค่1ประตู จากการลงเล่น 1,250 นาทีล่าสุด ให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
จาเฟต แทนกันก้า ผู้เก็บกวาดทั้ง กรีลิช และ ราฮีม
จะว่าได้ออกสตาร์ทเป็น11ผู้เล่นตัวจริงอย่าง เซอร์ไพรส์ ก็คงไม่ใช่สำหรับ จาเฟต แทนกันก้า เนื่องจากแข้งวัย22ปีรายนี้ ก็ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องในช่วงปรี-ซีซั่น และโชว์ผลงานได้น่าประทับใจ
แทนทันก้า ได้ลงเล่นในตำแหน่งถนัดแบ็กขวา ซึ่งก่อนเกมก็น่าจะมีแฟนสเปอร์สหลายคนกังวลว่า เจ้าตัวจะรับมือกับเกมบุกที่เชี่ยวกรากของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้หรือไม่เพราะประสบการณ์ในเวทีพรีเมียร์ลีกของเจ้าตัวมีเพียงแค่13นัดเท่านั้น
แต่ทว่าบทสรุป 83 นาทีในสนามกับการดวลกับแข้งนักเตะเรือใบเมื่อคืน ต้องบอกได้เลยว่า แบ็กวัย22ปีรายนี้ คือนักเตะที่โดดเด่นมากๆ คู่ควรกับรางวัล แมน ออฟ เดอะแมตช์เช่นกัน โดยเฉพาะการรับมือกับผู้เล่นสายพันธุ์จี๊ดจ๊าดอย่าง แจ็ค กรีลิช และ ราฮีม สเตอร์ลิง
โดยเฉพาะกับ ราฮีม ที่ แทนทันก้า ใช้ความใหญ่ ความเร็ว ความแข็งแกร่ง ลักมาตัวออกจากสนาม รวมถึงตอดในทุกๆจังหวะการเล่น จนทำให้แข้งตูดงอนรายนี้ ทำอะไรได้ไม่ถนัดถนี่เท่าที่ควร แม้ว่าช่วงแรกแบ็กดาวรุ่งของสเปอร์สรายนี้จะหนักไปทางการทำฟาวล์ก็ตาม
เสียงปรบมือจากแฟนบอลทั่วทั้งสนาม หลังจากถูก นูโน่ ถอดออกให้ไปพัก น.83 บ่งบอกถึงความประทับใจที่แฟนบอลไก่เดือยทอง มีให้แก่เด็กปั้นลูกหม้อของสโมสรรายนี้อย่างแท้จริง
เห็นทีว่าผู้เล่นซีเนียร์ในตำแหน่งแบ็กขวาของทีมอย่าง แมตต์ โดโฮตี้ และ แซร์จ อูลิเย่ร์ ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ในซีซั่นใหม่ 2021-2022 นี้แน่ๆ
จาเฟต แทนกันก้า Vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้
100% ผ่านบอลยาวแม่นยำ
90% ผ่าบอลแม่นยำ
49 สัมผัสบอล
4 ชนะการดวล
4 ทำฟาวล์
2 แท็กเกิ้ล /เคลียร์บอล
1 ตัดบอล / ครอส
แนวทางและความเด็ดขาดของ นูโน่
ผลงานโฉบเฉี่ยวและไฉไล มาตั้งแต่ช่วงปรี-ซีซั่นแล้ว สำหรับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ในยุคใหม่ นูโน่ เอสปิริโต้ เมื่อพวกเขาเอาชนะ คู่แข่งได้3นัด เสมอ2และไร้พ่าย รวมไปจนถึงเกมรับที่พวกเขาดูจะมีวินัยมากขึ้นเมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อน
กุนซือชาวโปรตุเกส นำระบบเกมรับที่เหนียวแน่นจากสโมสรเก่า วูล์ฟแฮมป์ตัน มาติดตั้งให้กับสเปอร์ส แม้ว่าจะไม่ได้เล่นระบบ3เซ็นเตอร์เหมือนกับทีมหมาป่าก็ตาม
นักเตะไก่เดือยทองทุกรายในเกมบู้กับซิตี้ วิ่งสู้ฟัด กัดไม่ปล่อย แม้กระทั่งตัวรุกอย่าง ลูคัส มูร่า ก็กลับมาได้รับความไว้วางใจอีกครั้งหนึ่ง วิ่งขึ้นลงแทบจะทั้งรุกและรับ
เมื่อโชว์ฟอร์มได้ดี กุนซือหนวดเคราเฟิ้มรายนี้ ก็ไม่ลังเลเลย ที่จะเลือกส่งลงสนาม อย่างเช่นในรายของ จาเฟต แทนกันก้า ที่ได้หลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกในตำแหน่งแบ็กซ้ายเหนือนักเตะรุ่นพี่อย่าง แมตต์ โดเฮอร์ตี้ (ลูกน้องเก่า) และ แซร์จ อูลิเย่ร์
ส่วนนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมอย่าง ตองกี เอ็นดอมเบเล่ แม้จะถูกซื้อมาด้วยค่าตัวสถิติสโมสร บวกแอด-ออน ต่างๆที่อาจทะลุไปราวๆ 65ล้านปอนด์
เมื่อไม่พร้อมโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจตามมาตรฐานตอนซ้อม นูโน่ ก็ไม่ลังเลเลย ที่จะตัดชื่อเจ้าตัวออกจากทีมเกมเมื่อคืน แล้วให้โอกาส โอลิเวอร์ สคิปป์ กองกลางวัย20ปี รับหน้าที่แทน
รวมไปจนถึงความเด็ดขาดที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดนั่นก็คือ การตัดดาวยิงหมายเลข1ของทีมอย่าง แฮร์รี่เคน ที่แสดงอาการอารยขัดขืน
ไม่มาฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมช่วงปรี-ซีซั่น ออกจากทีม ในเกมเปิดฤดูกาลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แค่นี้ก็บ่งบอกถึง ความเฮี๊ยบของกุนซือมาดนิ่งวัย47ปีรายนี้ ได้เป็นอย่างดี
กรีลิช ประเด็มไม่แย่ และจิ๊กซอว์ที่เรือใบขาดหาย
ประเดิมเกมลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับดาวเตะค่าตัว 100ล้านปอนด์ แจ็ค กรีลิช แม้ว่าบทสรุปจะไม่สวยงามลงเอยด้วยความปราชัยของทีม 0-1 แต่ทว่าภาพรวม " ไอ้แจ็ค " นั้นไม่ได้ย่ำแย่มากเลย
กรีลิช ได้ออกสตาร์ทในบทบาทตามแผงผังการเล่นคือ มิดฟิลด์ตัวรุก แต่ทว่าเวลาเล่นจริง อดีตสตาร์ แอสตัน วิลล่า รายนี้ มีการโยกมาเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้ายบ่อยครั้ง
ดาวเตะหมายเลข10รายนี้ มีจังหวะกระดกบอลเล่นกลางอากาศสวยๆ รวมถึงจังหวะกระชากหนี โอลิเวอร์ สคิปป์ ดื้อๆ
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม กรีลิช ยังต้องปรับในเรื่องของการเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายที่ยังขาดๆเกินๆนิดหน่อย รวมถึงปรับสไตล์การเล่นที่ต้องประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมหลายจังหวะมากขึ้น
ซึ่งแตกต่างจากตอนที่อยู่ แอสตัน วิลล่า ที่ระบบทำให้เจ้าตัวเป็นสตาร์ได้ฉายเดี่ยวบ่อยครั้ง ไม่เหมือนกับที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีปรัชญาทุกคนต้องเล่นประสานงานกันเป็นหลัก
แง่ดีในเกมนี้ยังมีอยู่บ้างนั่นก็คือ การได้เห็น เควิน เดอ บรอยน์ ถูกส่งลงสนามมาเป็นตัวสำรอง น.79 เพียงแค่15นาที (รวมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ) ที่อยู่ในสนาม KDB สร้างความแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจน
รูปเกมของ ซิตี้ ดูไหลลื่น ทะลุไปข้างน่าได้ง่ายขึ้น มีการจ่ายบอลที่ทะลุทะลวงหลากหลายมากขึ้น
ปัญหาเดียวที่ยังขาดอยู่ในตอนนี้ก็คือ ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า และ แฮร์รี่ เคน เองที่ไม่มีชื่ออยู่ในทีมสเปอร์ส จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะเข้ามาที่ทำให้แผนการเล่นของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สมบูรณ์แบบ
- คอลัมน์นิสต์
- 467
- 16 ส.ค. 2564 14:40