เรารักน้าโอเล่ ! จิ้งจอกเปิดบ้านถล่มผีเละ 4-2 กองหลังพลาดอนุบาล
ท่าจะกู่ไม่กลับเสียแล้วสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เมื่อล่าสุดพวกเขายังสร้างความผิดพลาดและดร็อปแต้มในพรีเมียร์ลีกอย่างต่อเนื่อง หลังจากพักเบรคโปรแกรมทีมชาติ พวกเขาก็บุกไปโดนเลสเตอร์ ซิตี้ ถล่มแบบไม่ระบมหัวแม่เท้า 4-2 หยุดสถิติไร้พ่ายนอกบ้าน29นัดของ ปีศาจแดงได้สำเร็จ
ก่อนเกมดังกล่าวทีมปีศาจแดงมีข่าวร้ายเล็กน้อยเมื่อ ราฟาเอล วาราน ที่ได้รับบาดเจ็บกับทีมชาติฝรั่วเศส จะหมดสิทธิลงสนามให้กับทีมราวๆ 2-3 สัปดาห์ ส่วน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่มีอาการเดี้ยงอยู่ก่อนหน้า ส่อแววที่จะลงสนามช่วยทีมไม่ได้ เพราะน่าจะยังไม่ฟิตพอ
แต่ทว่าสุดท้ายแล้วปราการหลังหัวโตรายนี้ ก็โดนเข็นส่งสนามจนได้ และผลลัพธ์ก็เป็น แม็คไกวร์ นี่แหละที่มีส่วนร่วมกับความผิดพลาดถึง2ประตู กลายเป็นบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ของทีม ทำให้ผู้เล่นทีมจิ้งจอกสยามเลือกโจมตีเล่นงานได้ตามอำเภอใจ
นอกจากสกอร์ที่แพ้ให้กับ เลสเตอร์ อย่างขาดลอยแล้ว รูปเกมทุกๆสิ่งทุกอย่างที่เป็นฟุตบอลในสนาม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถวางแผนเอาชนะ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ได้ไม่ยากเย็นนัก หลังในเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศปีแล้วเจ้าตัวก็ปราบแมนยู ลงได้3-1
เกม90นาทีที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อคืนต้องบอกได้เลยว่า รูปเกมส่วนใหญ่อยู่ในการครอบครองของทีมจิ้งจอกสยามทั้งสิ้น ทั้งทีมเวิร์คดีกว่า กองกลางครองเกมได้มากกว่า
เวลาบุกขึ้นมามีจังหวะให้ลุ้นหรีอเสียวตลอด หากพวกเขาเฉียบคมมากกว่านี้ หรือ ดาบิด เด เคอา ไม่โชว์ซุปเปอร์เซฟ ปีศาจแดงอาจโดนมากกว่า4ประตู ก็เป็นได้
สิ่งหนึ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องปรับปรุงแต่โดยด่วนนั่นก็คือสมาธิระหว่างเกม หลังจากที่พวกเขาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จาก มาร์คัส แรชฟอร์ด น.82 หลังจากนั้นอีกเพียงแค่ 1นาที ก็มาโดน เจมี่ วาร์ดี้ ซัดประตูแซงขึ้นนำ 3-2 ดื้อๆ แบบไม่มีเหตุผลทั้ง ที่โมเมนต์ตัมของเกมกำลังจะเหวี่ยงมาทางทีมเยือนแล้ว
ส่วนผู้เล่นที่โดดเด่นของทัพ จิ้งจอกสนาม เมื่อคืน นั้นเลือกยากพอสมควรเพราะมีหลายคนที่เล่นได้เข้าตาสุดๆและ ยูริ ตีเลมันส์ มิดฟิลด์ชาวเบลเยี่ยมคือหนึ่งในนั้น
กองกลางหน้าเด็กคนนี้ พาทีมครองเกมในแดนกลางได้อย่างเสร็จสรรพ จ่ายบอลสำคัญๆได้อย่างชาญฉลาด แถมยังมีลูกยิงเท้าชั่งทองอย่างแม่นนำ จากลประตูตีเสมอ 1-1
ทางด้านของ เจมี่ วาร์ดี้ ผู้ซัดประตู3-2เปลี่ยนอารมณ์ของเกม รวมถึงโมเมนต์ตัมต่างๆ หอกวัย34ปีรายนี้ กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่นิยมชมชอบในการทำประตูทีมระดับบิ๊กซิกซ์เสมอ
โดยลูกยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนทำให้นี่คือการพังตาข่ายทัพปีศาจแดงลูกที่6 ในพรีเมียร์ลีกเข้าให้แล้ว
แม็คไกวร์การเดิมพันของ โซลชา
ก่อนเกมมีข่าวออกมาว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแววสูงที่จะออกสตาร์ท11ผู้เล่นตัวจริงโดยมี คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟเป็น เอริค ไบยี่ และ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ เนื่องจาก ราฟาเอล วาราน มีอาการบาดเจ็บมาจากทีมชาติฝรั่งเศส รวมไปจนถึง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ยังไม่ฟิตเท่าไหร่
แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วเป็นกองหลัง80ล้านปอนด์รายนี้ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงคู่กับ ลินเดอเลิฟ ทั้งที่หลายๆคนมองว่าแม็คไกวร์น่าจะยังไม่ฟิตมากพอ รวมไปจนถึงช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังไม่เห็นภาพเจ้าตัวซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเลย
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า น้าโอเล่ เลือกที่จะเข็น แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ลงสนามรับความเสี่ยง มากกว่าที่จะเลือกใช้คู่เซ็นเตอร์สำรองอย่าง ไบยี่ และ ลินเดอเลิฟ และก็ต้องบอกตรงๆเลยว่าการเลือกเดิมพันกับ แม็คไกวร์ ของโซลชา นั้นได้ผลลัพธ์ที่เลวร้ายมากๆ
กองหลังกัปตันทีมรายนี้กลายเป็นบ่อน้ำมันอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะในเกมเมื่อคืนมีทั้ง ความผิดพลาดส่วนตัว การยืนตำแหน่งที่ไม่ดูไลน์เพื่อ รวมไปถึงความช้าอืดอาด (ที่ปรกติก็มีเยอะอยู่แล้ว) นี่คือหายนะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และวันฝันร้ายของ แม็คไกวร์สุดๆ
ลูกแรก1-0ก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่มัวไปคลึงบอลพยายามจะล็อกหลบ อิเฮียนาโช่ แต่ทว่าก็โดนดาวยิงชาวไนจีเรียรายนี้ฉกไปทำแอสซิสต์ ส่วนประตูที่เลสเตอร์นำ3-2 ก็เป็นแม็คไกวร์เจ้าเก่าเจ้าเดิมนี่แหละที่สมาธิเสียยืนประกบห่างเจมี่ วาร์ดี้ มากจนเกินไป
แม็คไกวร์ ที่ปรกติก็ช้าอืดอาด เฟอะฟะ โดนนักเตะประเภทความเร็วสูงคล่องตัวเล่นเสียสุนัขอยู่เป็นประจำ ยิ่งพอมาลงสนามในสภาพความฟิตที่ไม่เต็มร้อย ยิ่งบรรลัยเข้าไปใหญ่
โอเคก็ต้องโทษกองหลังหัวแตงโมรายนี้ด้วยกับฟอร์มห่วยขั้นเทพดังกล่าว แต่ว่าคนที่รับผิดชอบสุดๆก็ต้องเป็น น้าโอเล่ นี่แหละที่เลือกดันทุรังส่งลงสนาม
เกมรุกที่สะเปะสะปะของ ปีศาจแดง
เมื่อคืนแม่จะลั่นสกอร์ใส่คู่แข่งได้ถึง 2เม็ด แต่ทว่าก็เป็นในรูปแบบของการใช้ความสามารถเฉพาะตัวทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นลูกยิงผีจับยัดอย่างตีนระเบิดของ เมสัน กรีนวู๊ด รวมไปจนถึงลูกยิงตีเสมอ 2-2ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด จากการวางยาวสุดเฉียบของ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ
แต่ทว่าการจังหวะเข้าทำแบบโอเพ่นเพลย หรือการอาศัยทีมเวิร์ค นี่คือสิ่งที่ขาดหายไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาลที่ถลุงเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไป 5-1
เกมกับทัพจิ้งจอกสยามคือเห็นได้ชัดเลยว่า แนวรุกของปีศาจแดงไร้ระเบียบและแบบแผนขนาดไหน การส่งบอลจ่ายบอลในจังหวะง่ายๆ พวกเขาก็มักจะพลาดเมื่อโดนคู่แข่งวิ่งเข้ามาบีบไล่เพรสซิ่ง ทำให้จ่ายบอลได้เต็มที่คือ 4-5 จังหวะเท่านั้น
ระยะหลังเราจึงมักจะได้เห็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงมาล้วงบอลต่ำ ทำให้ในเขตโทษไม่มีผู้เล่นที่ประจำการรออยู่ทำประตูคู่แข่งเลย การประสานงานทางฝั่งซ้ายระหว่าง ซานโช่ & ชอว์ ยังพอมีให้เห็นบ้าง
แต่ทว่าฝั่งขวา กรีนวู๊ด - วาน บิซซาก้า เหมือนเล่นกันคนละทีมมีจ่ายบอลขาดๆล้นๆตลอด " ไอ้แมงมุม " ที่การเล่นเกมรุกยังมีปัญหาเสมอ โดยเฉพาะเรื่องการเปิดบอลที่ไม่เข้าซองผู้รักษาประตูหรือไม่ก็หลุดไกลเสาสอง
สปีดในเกมรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นเนิบนาบช้าเป็นเต่าคลานมากๆ แม้จะต้องเล่นสวนกลับ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจ่ายบอล หรือสปีดบอลมาข้างหน้าเล่นงานทัพ เดอะ ฟ็อกส์ ได้
รวมถึงความหื่นกระหายในชัยชนะที่ลูกทีมของน้าโอเล่ เหมือนจะทำหายไปหมดแล้วทั้งที่ เริ่มต้นพรีเมียร์ลีก ได้เพียงแค่8นัดเท่านั้น
กรีนวู๊ด ตีนระเบิด และ แรชฟอร์ด คัมแบ็ก
ความพ่ายแพ้ของปีศาจแดง ยังพอมีข้อดีให้เห็นอยู่บ้าง นั่นก็คือการกลับมายิงฟอร์มระเบิดตีนคมของ เมสัน กรีนวู๊ด หลังจากที่เท้าบอดซัดประตูไม่ได้มา7นัดหลังสุดรวมทุกรายการ แถมยังมีจังหวะหวงบอลดันทุรังซัดเล่นเอง ยิงเองหลายครั้ง
แต่จะว่าไปเกมกับ เลสเตอร์ เจ้าหนูไม้เขียวก็ไม่ได้เล่นดีหรือแย่อะไร เข้าข่ายความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฎ แต่ทว่าก็มาได้ลูกยิงตะบัน25หลาแบบผีจับยัด ช่วยให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ที่เป็นซิกเนเจอร์ของเจ้าตัวมาตลอดในระยะหลัง
ทางด้านของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาลงสนามให้ทีมได้เป็นครั้งแรกในซีซั่นนี้ ด้วยบทบาทตัวสำรอง หลังจากที่หายหน้าหายหน้าหายตาจากทีมไปร่วมๆ3เดือน เพราะต้องไปเข้ารับการผ่าตัดหัวไหล่ ที่เจ็บเรื้อรังมานานกว่า11เดือน
" แรชชี่ " ลงมาสร้างความวูบวาบให้แนวรุกทางฝั่งซ้ายได้มากกว่า เจดอน ซานโช่ และ ดาวเตะใจบุญผู้นี้ก็ไม่ใช้โอกาสเปลืองแต่อย่างใด เพียงแค่โอกาสยิงครั้งแรก แรชฟอร์ด ที่รับบอลวางยาวของ ลินเดอเลิฟ เข้าไปซัดผ่าน แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล จนตาข่ายแทบขาด
ความเร็วและความวูบวาบ นี่คือสิ่งที่ ดร.แรชฟอร์ด มอบให้กับทีมปีศาจแดงได้อยู่เสมอ การคัมแบ็กของเจ้าตัวน่าจะทำให้ ยึดตำแหน่งตัวจริงริมเส้นฝั่งซ้ายได้สบายๆ นั่นทำให้ เจดอน ซานโช่ จะได้ไปเล่นฝั่งขวาที่ถนัดอย่างจริงจัง แต่ทว่าต้องไปแย่งตำแห่งกันลงกับ เมสัน กรีนวู๊ด
ยูริ ตีเลมันส์ กลางหน้าเด็กที่เล่นอย่างชาญฉลาด
ตอนแรกน่ากังวัลเหมือนกันที่ เลสเตอร์ ซิตี้ จะไม่มีหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดของทีมอย่าง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ แต่ทว่าด้วยการปรับระบบการเล่นมายืนหลัง3ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในซีซั่นนี้ รวมถึงเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสิ่งที่เวิร์คพอสมควร
นัดนี้ " บีร็อด " ใช้คู่กลางเป็น ยูริ ตีเลมันส์ และ บูบาการี่ ซูมาเร่ ในครึ่งแรกเป็นมิดฟิลด์ เบลเยี่ยม &ฝรั่งเศสรายนี้ ข่มเอาชนะคู่มิดฟิลด์ของทีมเยือนอย่าง ป็อกบา และ มาติซ ได้อย่างอยู่หมัด
โดยเฉพาะ ตีเลมันส์ นั้นฟอร์มของเจ้าตัวที่คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อคืน ไม่ทำให้แปลกใจเลยว่าทำไมถึงตกเป็นข่าวกับหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ความขยันวิ่ง และการเล่นใช้สมองอย่างชาญฉลาดในการคุมแดนกลาง ออกบอลจังหวะที่ทำให้ทีมได้เปรียบ ฟอร์มของตีเลมันส์รวมถึง ซูมาเร่ นี่คือหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไม เกมตรงกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงดูติดๆขัดๆ รวมถึงเกมจากกลางไปหน้าของเลสเตอร์ ก็ถูกลำเลียงไปอย่างไหล่รื่น
เมื่อคืน ตีเลมันส์ ผ่านบอลแม่นยำถึง 91% / ครอสบอลได้ถึง7ครั้ง / ชนะการดวล5ครั้ง / มีโอกาสยิง4ครั้ง / สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อน และ เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้เท่ากัน3หน
โดยเฉพาะประตูตีเสมอ1-1 ต้องให้คะแนนความท้าวชั่งทองกับมิดฟิลด์วัย24ปีรายนี้แบบ 10เต็ม10เลยจริงๆ
วาร์ดี้ ผมชอบยิงทีม บิ๊กซิกซ์
แม้จะวัยร่วงโรยไป 34ปี และความเร็วจะลดน้อยถอยลงไปบ้าง (แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย) วาร์ดี้ ก็ยังคงอันตรายสำหรับคู่แข่งเสมอ แม้บางเกมจะเหมือนถูกลักพาตัวออกไปจากสนาม แต่ทว่าอยู่ดีๆ เจ้าตัวก็โผล่มามีชื่อบนสกอร์บอร์ดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเหมือนกัน
เกมเมื่อคืน วาร์ดี้ มีโอกาสซัดประตูลูกทีมของน้าโอเล่3ครั้ง แต่เพียง1ครั้งที่ใกล้เคียง ก็สามารถบันดาลแปรเปลี่ยนให้บอลไปซุกกองตรงก้นตาข่ายได้ และมันเป็นประตูที่สำคัญมากๆเพราะห่างจากที่ แมนฯยู พึ่งได้ประตูตีเสมอ 2-2 เพียงแค่ 1นาที
ดาวยิงผู้เคยเป็นอดีตหนุ่มโรงงานรายนี้ แม้จะค่อนข้างเงียบสำหรับเกมเมื่อคืน แต่ประตูแซง3-2 ก็คือการบ่งบอกพิษสงของเจ้าตัวที่เคยเป็นมาตลอดได้อย่างดี หายจากเกมไม่เป็นไร ขอเพียงแค่โอกาสจังๆจะ วาร์ดี้ ก็สามารถเสกให้เป็นประตูได้
ลูกยิงของ วาร์ดี้ นอกจากจะทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำแล้ว ยังเป็นการเปลี่ยนโมเมนต์ตัมของเกม ที่กำลังจะเหวี่ยงสวิงไปทางทีมเยือน ให้กลับมาอยู่กับทัพจิ้งจอกอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเอาชนะไปได้ 4-2
และนี่คือประตูที่7ของ เจมี่ วาร์ดี้ แล้วในซีซั่นนี้ ขึ้นเป็นดาวซัวโวเทียบเท่ากับ โม ซาลาห์
ประตูที่ทำให้เมื่อคืน ส่งผลให้ เจมี่ วาร์ดี้ ซัดประตูใส่ปีศาจแดงได้เป็นลูกที่6ในพรีเมียร์ลีก รวมถึงยังเป็นประตูที่ 38 เข้าให้แล้วสำหรับการล่าตาข่ายให้ทีม Big6
- คอลัมน์นิสต์
- 466
- 17 ต.ค. 2564 14:55