มอยส์ จีเนียส ! ค้อน เปิดบ้านทุบหงส์ 3-2 ทะยานขึ้นอันดับ3
แปลงร่างจากค้อนธรรมดากลายเป็น ค้อนโยเนียร์ เสียแล้วสำหรับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ เดวิด มอยส์ ในซีซั่นนี้ หลังล่าสุดพวกสามารถโชว์ฟอร์มหล่อเป็นพระเอก เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้แบบสุดมัน 3-2 ทะยานขึ้นไปสู่อันดับ3ของตารางได้สำเร็จ
เป็นอีกหนึ่งบิ๊กแมตช์ของพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้เลยก็ได้สำหรับ เกมที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม ระหว่างเจ้าบ้าน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ ผู้มาเยือน ลิเวอร์พูล ก่อนเกมทีมขุนค้อนฟอร์มร้อนแรงเป็นอย่างมาก หลังเอาชนะมา3นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
ส่วนหงส์แดง ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็สร้างสถิติลากยาวมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการไร้พ่าย25นัดหลังสุดรวมทุกรายการ แต่ทว่าสุดท้ายแล้วสถิติดังกล่าวของทีมเครื่องจักรสีแดง ก็มาถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของ เดวิด มอยส์
เดอะ แฮมเมอร์ส เอาชนะหงส์แดงไปได้สุดมัน 3-2 โดยพวกเขาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 น.4 จากจังหวะเตะมุมแล้ว อลิสซง เบ็คเกอร์ที่ดูเหมือนโดนผู้เล่นเวสต์แฮมกระแทกจนเสียปัดบอลเข้าประตูตัวเองไป
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลก็มาตามตีเสมอได้ 1-1 จากฟรีคิกสุดเฉียบที่หายไปนานของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ น.41
ครึ่งหลังเป็นฝั่งของเวสต์แฮมที่ทำได้ดีกว่าชัดเจน มาได้ประตูแซงนำและฉีกหนีห่างเป็น 3-1 จาก ปาโบล ฟอร์นาลส์ น.67 และ เคิร์ท ซูม่า โขกเต็มๆ น.75 ส่วนทีมเยือนไล่มาได้แค่ประตูเดียว 3-2 จากลูกยิงสุดสวยของซุปเปอร์ซับขั้นเทพ ดิว็อค โอริกี้
ความพ่ายแพ้ดังกล่าวของลิเวอร์พูล ส่งผลให้พวกเขาโดนเวสต์แฮม แซงขึ้นมาเป็นอันดับ3เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้เล่นที่เหมือนจะเจอฝันร้ายสุดๆคือ อลิสซง เบ็คเกอร์ ที่ผิดพลาดผิดฟอร์มจนมีส่วนร่วมกับทุกๆประตูที่ทีมเสียไป
รวมไปจนถึงแนวรับทีมหงส์แดงที่ดูเหมือนจะมีปัญหากับเกมสวนกลับของทีมเจ้าบ้าน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟอร์มดร็อปลงไป รวมไปจนถึง โจเอล มาติป อีกรายที่นัดนี้ฟอร์มผีออกทะเลออกอ่าว แดนกลาง อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่ดูไร้ประโยชน์สุดๆ
ส่วนทีมขุนค้อนนอกจากจะต้องชื่นชมในมันสมองการแก้เกมวางแท็กติกของ เดวิด มอยส์ แล้ว นักเตะที่เด่นสุดๆของพวกเขา บรรดาแข้งความเร็วสูงอย่าง จาร็อด โบเว่น - ปาโบล ฟอร์นาลส์ -ซาอิด เบนราห์มา รวมไปจนถึง เดแคลน ไรซ์ ที่คุมเกมในแดนกลางได้เป็นอย่างดี
วันที่อยากลืมของ อลิสซง
จะว่าไปทั้ง3ลูกที่ลิเวอร์พูล โดนส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย นายด่านชาวบราซิลรายนี้มีส่วนร่วมต้องรับผิดชอบจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกแรก ที่ออกมาปัดบอลแล้วโดนเบียดนิดหน่อย จนเสียหลักปัดบอลพลาดเข้าตัวเข้าประตูตัวเองไป
ลูกสอง โอเค แม้ ฟอร์นาลส์ จะยิงไม่ได้ขี้เหร่ แต่ทว่ามันเป็นลูกยิงที่อยู่ในวิสัยที่ "พี่หมี " ต้องปัดป้องออกมาได้ ส่วนลูกสามที่ เคิร์ท ซูม่า ได้โขกเต็มๆที่เสาสอง ต้องโทษเจ้าตัวด้วยที่ดูแหยงๆไม่ออกมาคว้าบอลจังหวะดังกล่าว รวมไปจนถึง เทรนต์ ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบพื้นที่ตรงนั้นด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเคลือบแคลงในฝีมือของจอมหนึบชาวบราซิลรายนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปฎิกิริยาการเซฟ การออกมาปิดมุมจังหวะหลุดเดี่ยวของคู่แข่ง
อย่างไรก็ตามโกลฝีมือเยี่ยมแค่ไหน ก็ต้องมีผิดพลาดเป็นธรรมดา เกมกับขุนค้อน อลิสซง แสดงความผิดพลาดออกมาให้เห็นในเรื่องของการรับมือกับลูกตั้งเตะลูกกลางอากาศ
จากเท่าที่สังเกตอลิสซงเป็นผู้รักษาประตูฝีมือเยี่ยม ไม่ค่อยพลาด แต่ถ้าเกมไหนที่พลาดก็เหมือนเจ้าตัวจะสมาธิหลุดไปหลายๆจังหวะของเกมนั้นๆจริงๆ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ถ้านัดไหน อลิสซง พลาด มีโอกาสสูงที่ โกลแดนแซมบ้ารายนี้จะหลุดต่อเนื่องกับหลายๆซ็อตจังหวะของเกมนั้นๆ
ทั้ง อังเจโล่ อ็อกบอนน่า (ช่วงที่อยู่ในสนาม) และพี่ถึก มิคาอิล อันโตนิโอ สองนักเตะร่างใหญ่ของขุนค้อน สร้างความปวดหัวให้กับ อลิสซง เป็นอย่างมากในลูกเซ็ตพีช
ใหญ่ ถึก แข็งแกร่ง เขาคือ มิคาอิล อันโตนิโอ
แม้ว่าเกมนี้จะไม่มีสกอร์มาฝาก รวมถึงหลายๆเกมที่ผ่านมาฟอร์มของเจ้าตัวก็ดูดร็อปลงไปอย่างชัดเจน แต่ทว่าในเกมกับลิเวอร์พูล มิคาอิล อันโตนิโอ ก็เล่นงานแนวรับของลิเวอร์พูลให้ต้องออกแรงและหนักอกหนักใจหลายครั้ง
แม้จังหวะได้ดวลกับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เจ้าตัวจะโดนยอดกองหลังชาวดัตช์รายนี้ดักได้ง่ายๆ รวมไปถึงจังหวะจ่อจะได้หลุดเดี่ยว อันโตนิโอ ก็จับบอลกระโตกกระเตก เสียของไปดื้อๆ
แต่ทว่าภาพรวมการสร้างประโยชน์แล้ว ดาวยิงชาวอังกฤษเชื้อสายจาเมก้ารายนี้ มีครบตอบโจทย์มากๆสำหรับการเล่นเพื่อทีม จังหวะลากจังหวะไถ จังหวะบังบอล สร้างความหนักอกหนักใจให้คู่เซ็นเตอร์ลิเวอร์พูล ดีนักแล โดยเฉพาะกับ โจแอล มาติป
ระยะหลังที่ อันโตนิโอ ลั่นสกอร์ในพรีเมียร์ลีกได้เพียงแค่ 1เท่านั้นจาก5นัดหลังสุด แต่นั้นก็ถูกกับช่วงที่ เวสต์แฮม ฟอร์มดีเอาชนะ4เกมรวดในพรีเมียร์ลีก
เป็นเพราะกองหน้าวัย31ปีรายนี้ เป็นเหมือนเป้าสนใจของเกมรุกของทีม เปิดทางให้ผู้เล่นตำแหน่งอื่นๆอย่าง โบเว่น - ฟอร์นาลส์ -เบนราห์มา เล่นสะดวกง่ายได้ฉายแสงมากขึ้น
ถึงกระนั้นก็ดี แม้สไตล์การเล่นส่วนตัวของ อันโตนิโอ จะสร้างประโยชน์ให้กับ เวสต์แฮม มากๆ แต่ทว่าเมื่อคืน หอกร่างยักษ์รายนี้ก็มีจังหวะจับบอลแย่ๆถึง7ครั้งด้วยกัน แถมตลอด90นาทีก็มีโอกาสยิงแค่ครั้งเดียว และไม่ใกล้เคียงกับการได้ประตูอีกเลย
เดแคลน ไรซ์ กองกลางตัวรับที่ดีเป็นลำดับต้นๆในลีก
ฟอร์มพัฒนาขึ้นมาแบบนี้เห็นที ทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกจ้องตาเป็นมันแน่ๆ สำหรับ เดแคลน ไรซ์ เมื่อคืนเป็นอีกหนึ่งเกมที่3มิดฟิลด์ของลิเวอร์พูล เล่นกันได้อย่างย่ำแย่ ซึ่งมันก็เกิดจากการประสานงานกันที่เยี่ยมยอดของ กองกลางเวสต์แฮม
โทมัส ซูเช็ค - เดแคลน ไรซ์ ผนึกกำลังกันได้อย่างลงตัว ในการสกัดกั้นสร้างความรำคาญการขึ้นเกมในแดนกลางของลิเวอร์พูล โดย เฉพาะ ไรซ์ ที่ซีซั่นนี้พัฒนาฝีเท้าได้รุดหน้าเป็นอย่างมาก หลังกลับมาจากบอลยูโร 2020
ตัดบอลเยี่ยม คุมจังหวะเกมได้ โฮลบอล อยู่แทบจะในทุกพื้นที่ของสนาม ขึ้นเกมกระชากบอลจากแดนกลางไปหน้า ไรซ์ ครบเครื่องต้มยำสำหรับการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับสมัยใหม่ ดีนักแล
เล่นเอากองกลางหงส์แดงอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ต้องเจอกับเกมแย่ๆทำเกม ขึ้นเกมกันได้อย่างยากลำบาก ทำให้ผู้มาเยือนต้องไปเน้นเจาะจากทางฝั่งริมเส้นแทน
สถิติตัวเลขหลังเกมของ ไรซ์ นั้นขั้นเทพมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ผ่านบอลแม่นยำ 91% - แย่งบอล 10ครั้ง (มากที่สุดในสนาม) - ชนะการดวล 6ครั้ง (มากที่สุดในสนาม) - แท็กเกิ้ล 5ครั้ง (มากที่สุดในสนาม) - ตัดบอล 1ครั้ง
การเปลี่ยนตัวที่เห็นผลทั้ง ดอว์สัน และ โอริกี้
เกมนี้การแก้เกมของทั้ง เดวิด มอยส์ และ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นเห็นผลมากๆ กับตัวสำรองอย่าง เคร็ก ดอว์สัน และ ดิว็อค โอริกี้ 2ดาวเตะชาวอังกฤษและเบลเยี่ยม ทำให้เกมของทีมดีขึ้น หรือลงมาแทนโดยไม่ก่อความผิดพลาดใดๆ
อันเจโล่ อ็อกบอนน่า ที่โดนศอกกลับของ ดิโอโก้ โชต้า จน คอนคัสชั่น ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ให้ เคร็ก ดอว์สัน ลงมาเล่นแทน น.22 ตอนแรกหลายๆคนคงคิดว่าการขาดหายไปของ เซ็นเตอร์ชาวอิตาลีรายนี้ จะทำให้เกมรับของทีมขุนค้อนรวนพอสมควร
แต่ทว่า เคร็ก ดอว์สัน ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ก็ไม่ได้เป็นจุดอ่อนของทีมเลย มิหนำซ้ำยังโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งด้วยไม่ว่าจะเป็น ชนะการดวล 5ครั้ง - สัมผัสบอล 34ครั้ง
เคลียร์บอล 4ครั้ง - บล็อค 3ครั้ง (มากสุดในสนาม) - ตัดบอล และ เอาชนะลูกกลางอากาศ อย่างละ2หน แถมยังมีจังหวะโขกชนคานอีกด้วย
ส่วน ดิว็อค โอริกี้ พลันนาทีที่ คล็อปป์ เลือกส่งกองหน้าขั้นเทพชาวเบลเยี่ยมรายนี้ มาแทน โชต้า น.76 หลายคนคงเกาหัวงงกันไปตามๆกัน สำหรับการเลือกเชื่อใจ โอริกี้ ครั้งนี้
แต่ทว่าการตัดสินใจดังกล่าวของคล็อปป์ ก็เห็นผลจริงๆ เมื่อ "เทพกี้ " ลงมาสร้างความกระชุ่มกระชวยให้เกมรุกหงส์แดง ซัดประตูสุดสวย 10เต็ม10 ให้ทีมไล่มามีลุ้นเป็น 2-3 น.83 แถมยังมีโอกาสได้โขกท้ายเกมแต่ทว่าบอลไม่ได้หนีมือ ฟาเบียนสกี้ เท่าไหร่
ประตูที่ โอริกี้ ทำได้เมื่อคืน ถือว่าเป็นการซัดประตูในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกของเจ้าตัว นับตั้งแต่เกมกับนิวคาสเซิ่ล เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี2020 เลยทีเดียว
เดวิด มอยส์ เดอะ จีเนียส วัน
ติดลมบนไปแล้วสำหรับ เดวิด มอยส์ กุนซือคนเก่งของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จริงๆขุนค้อน ก็ยกระดับขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่ากลัวในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ที่ผู้จัดการทีมชาวสก็อตแลนด์รายนี้ เข้ามารับตำแหน่งคำรบ2 เมื่อเดือนธันวาคม 2019
แม้ตัวผู้เล่นจะเป็นรองลิเวอร์พูล แต่ มอยส์ ก็สามารถวางแท็กติกการเล่นเอาชนะลิเวอร์พูลได้ ทั้งในเรื่องการยืนเกมรับ การเล่นเกมสวนกลับ รวมไปจนถึงการเล่นลูกเซ็ตพีช ที่สร้างความเสียหายให้กับหงส์แดงถึง2ลูก
สไตล์การเล่นที่ดุดันเร้าใจ เกมรุกที่จี๊ดจ๊าดทั้ง ซาอิด เบนราห์มา - จาร็อด โบเว่น รวมไปจนถึง ปาโบล ฟอร์นาลส์ สร้างให้ทีมขุนค้อนกลายเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลสมัยใหม่ ไม่เหมือนในช่วงยุคก่อนๆที่ ใช้ แผนการเล่นแบบโบราณ มีกองหน้าเป็น แอนดี้ คาร์โรล
ความล้มเหลวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอดีต รวมไปจนถึงการไปเสียเชิงมวยที่สเปนกับ เรอัล โซเซียดาด มลทินดังกล่าวนี้ มอยส์ น่าจะลบออกไปจนหมดสิ้นแล้ว กับการสร้างทีมเวสต์แฮมชุดกลมกล่อมนี้ขึ้นมา นี่คือผลงานวีรกรรมของ " เดอะ จีเนียส วัน " ในฤดูกาลนี้
- หยุดสถิติไร้พ่ายของ ลิเวอร์พูล 25 นัดรวมทุกรายการได้สำเร็จ
- แซงหงส์แดงขึ้นไปอยู่อันดับ3 แต้มเท่า แมนฯซิตี้ ตามหลังจ่าฝูงเซลซี 3แต้ม
- บรรจงถีบ สองทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์ ตกรอบคาราบาวคัพ
- พา เวสต์แฮม ชนะ4นัดติดในพรีเมียร์ลีก
- เข้ารอบ32ทีม ยูโรป้า ในขณะที่เล่นไปเพียงแค่ 4นัด
- คอลัมน์นิสต์
- 706
- 08 พ.ย. 2564 14:35