คุยหลังเกมไก่จิกเรือ 2-0
ท่าจะหวังลุ้นแชมป์ยาวๆเสียแล้วสำหรับเหล่าสาวก ยิด อาร์มี่ หลังจากที่นัดล่าสุดทีมรักอย่าง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส เปิดบ้านเอาชนะของแข็งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เบาะๆ2-0 โดยได้2ประตูจาก ซอน เฮือง-มิน น.5 และ ตัวสำรองอย่าง โจวานี่ โล เซลโซ่ น.65
แม้สกอร์ผลลัพธ์อาจจะดูขาดลอย แต่สถิติครองบอลโอกาสยิงต่างๆ ทางฝั่งไก่เดือยทองดูจะเป็นรอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่นั่นก็อาจเป็นเพราะระบบแทคติกการเล่นที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ติดตั้งวางไว้ โดยไม่สนใจว่ารูปเกมจะออกมาแนวไหน ขอเป้าหมายในการคว้า3แต้มคือสิ่งสำคัญที่ต้องหยิบยื่นเอามาให้ได้ หลังสิ้นเสียงนกหวีด90นาที
ทางด้านผู้ปราชัยอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถือว่ามีการบ้านกองโตให้ต้องสะสางอีกพอสมควร เหมาะทัพเรือใบสีฟ้าของเขาเอง ชักจะแล่นไม่ฉลิวเหมือนที่เคยผ่านมา และการออกสตาร์ทในฤดูกาล 2020-2021 ถือว่าเป็นสถิติการเริ่มต้นซีซั่นใหม่ได้ย่ำแย่ที่สุดในฐานะอาชีพกุนซือของ เป๊ป เลยทีเดียว
ขวบปีที่รุ่งโรจน์ที่สุดของ ซอน
หลังจากที่ปืนฝืดยิงไม่ได้ในพรีเมียร์ลีกมา2นัด ซอน เฮือง-มิน ก็ปลดล็อคอาการเท้าบอดได้ตั้งแต่นาทีที่5ของเกมการแข่งขัน หลังหลุดไปยิงลอดผ่านขานายด่านชาวบราซิลอย่าง เอแดร์ซอน ประตูดังกล่าวส่งผลให้สตาร์ชาวเกาหลีขึ้นนำเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก หลังกดไปแล้ว9ประตู จาก9นัด
อาตี๋ซอน เป็นกำลังหลักที่สำคัญมากๆของทีมไก่เดือยทองในฤดูกาลนี้ หลายเกมพิสูจน์ให้เห็นว่า เจ้าตัวมีอิมแพคความสำคัญมากๆ เกมบิ๊กแมตช์ ซอนสามารถสร้างจุดเปลี่ยนหรือฉวยโอกาสแปรเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ได้
ความแข็งแกร่ง ความเร็ว พละกำลัง ความเฉียบขาดนี่คือสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในตัวซอนมาตลอด เห็นฟอร์มการเล่นของแข้งโสมขาววัย28ปีแล้ว คงจะซูฮกได้อย่างไม่ต้องมีคำครหาแล้วว่า นี่คืออีกหนึ่งนักฟุตบอลที่เข้าใกล้คำว่าแข้งระดับโลกเข้าไปทุกขณะ หาก ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ลา นี่จะเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนผู้เล่นคนสำคัญที่จะพาพลพรรคคลับไก่คว้าโทรฟี่ความสำเร็จในซีซั่นนี้
เรือใบกับพื้นที่เข้าทำจังหวะสุดท้าย
เป็นฤดูกาลที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกสตาร์ทได้ผิดฟอร์มมากๆ 8นัด ชนะ3 เสมอ2 แพ้3 นี่คงเป็นสถิติที่เป๊ปไม่ค่อยอยากจะได้มานัก ถามว่าทำไมทีมเรือใบสีฟ้าถึงแผ่วลงไปอย่างน่าใจหาย คงเป็นเรื่องของการเข้าทำในจังหวะพื้นที่สุดท้ายที่ดูทื่อและตีบตันไปหน่อย
ซิตี้ ยังคงทำได้ดีสม่ำเสมอมาตลอดในส่วนของการต่อบอลกันอย่างไหลลื่นเข้าอกเข้าไจกัน แต่พอมาถึงพื้นที่สุดท้ายพวกเขา มักจะหาทางเจาะไม่เข้ามาตลอด มีแค่ เควิน เดอ บรอยน์ คนเดียวที่ยังพอมีพิษส่งจ่ายบอลเข้าในเขตโทษที่คุกคามคู่ต่อสู่ได้ เหล่าบรรดาตัวซับพอร์ตด้านข้างอย่าง เฟร์ราน ตอร์เรส และ ริยาด มาร์เรซ เล่นแทบไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะแข้งชาวสเปน ที่ฟอร์มเจิดจรัสในทีมชาติเหมือนจะถูกลักพาตัวหายไปเมื่อกลับมารับใช้สโมสร
การขาดหายไปของ ดาบิด ซิลบา มิดฟิลด์จอมเทคนิคผู้เป็นตัวเชื่อมบอลจากกลางไปหน้า ส่งแรงกระเพื่อมมหาศาลให้กับทีมเรือใบ รวมถึงอาการบาดเจ็บความฟิตที่ไม่เต็มถังของดาวยิงตัวเก่ง อย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน ที่ทำให้มิติความเฉียบดุดันความคมขาดหายไป
VAR เอาอีกแล้ว
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่คงจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้สำหรับเกมนี้ก็คือมาตรฐานการตัดสินของ VAR จังหวะปัญหาดังกล่าว ที่ เอเมอริค ลาป๊อร์กต์ ซัดตีเสมอให้ทีมเรือใบในนาทีที่25
แต่ทว่าประตูดังกล่าวของกองหลังชาวฝรั่งเศส กลับถูกผู้ตัดสินตุลาการในสนามริบประตูคืนทันควัน เพราะจังหวะก่อนหน้านั้น กาเบรียล เชซุส เหมือนจะใช้แขนในการแต่งบอลก่อนที่จะถวายพานให้ลาป๊อร์กต์
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ชมทางบ้านอย่างเราๆพิจารณาผ่านภาพช้าแล้ว ก็ยังบอกได้ไม่ชัด100%ว่า หอกชาวบราซิลเลี่ยนแฮนด์บอลเปล่า เพราะบอลก็เหมือนจะไปโดนลำตัวของเชซุส มากกว่าโดนแขนเช่นกัน
จังหวะที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ Turning point เลยก็ว่าได้ เพราะหากผลลัพธ์ตอนนั้นออกมาเป็น1-1 โมเมนตัมของเกมอาจสวิงมาเข้าทางทีมเรือใบก็เป็นได้ นี่เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ VAR ยังหามาตรฐานที่ชัดเจนในการตัดสินพ่นลมนกหวีดไม่ได้
บอลแบบมูรินโญ่ยังไม่ตกยุค
ช่วงที่โดนตะเพิดไล่ออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชเซ่ มูรินโญ่ เหมือนจะหมดราคาไปแล้ว กูรูลูกหนังหลายคนต่างฟันธงว่า วิธีการเล่นเน้นรัดกุมของกุนซือชาวโปรตุเกส น่าจะหมดยุคจริงๆ กับฟุตบอลสมัยใหม่ที่นิยมชมชอบเกมบุกเป็นหลัก
ความอัดอั้นตันใจดังกล่าวน่าจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อนอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ เจ้าของฉายา สเปเชี่ยลวัน อยากพิสูจน์ตัวเอง แมตช์สยบทีมเรือใบ นั่นแสดงให้เห็นว่านี่แหละบอลแบบมูรินโญ่สไตล์กลับมาแล้ว
หลายคนเข้าใจว่ามูรินโญ่คือบอลสไตล์รถบัส แต่หลังๆมาไม่ใช่เลย มูรินโญ่ คือบอลสไตล์รัดกุม ไม่ต้องเน้นครองบอลเยอะ อาจมีถอยมารับลึกบ้าง แต่อย่าปล่อยให้โจมตีแบบสวนกลับโดยเด็ดขาด บอลแบบเฮียมู พร้อมลงโทษคู่แข่งเสมอ พวกผึ้งงานในแดนกลางอย่าง มุสซ่า ซิสโชโก้ ปิแอร์ เอมิล-ฮอยเบิร์ก ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่มีที่ติ
เห็นไก่เดือยทองชุดปัจจุบัน ทำให้เห็นภาพเซลซี (ช่วงปี2004-2006) รวมถึง อินเตอร์ มิลาน สมัยที่เจ้าตัวคุมได้แชมป์กัลโช่ เซเรียอา (2008-2010) เล่นไม่ต้องสวยงามมาก UGLY WIN แต่คว้า3แต้ม อย่างเช่น
ชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0
ชนะ ไบร์ทตัน 2-1
ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0
ผ่านมา9นัด สถิติชี้ให้เห็นว่าสเปอร์สคือหนึ่งในทีมที่โดนคู่แข่งเจาะตาข่ายน้อยสุด 9ประตู...หรือว่ามูรินโญ่แบบเดิมกำลังจะกลับมาเฉิดฉายอาละวาดในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ?
...อาจารย์หลุยส์...
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์นิสต์ คอลัมน์ฟุตบอล
- 372
- 23 พ.ย. 2563 15:13