หาแทบไม่เจอ ! 5ดีลสุดคุ้มผี หลังยุคป๋าวางมือ
นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือจากอ่างทองคำไปเมื่อซัมเมอร์ 2013 สละตำแหน่งไปโดยส่งท้ายด้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจะร่วมๆ10ปี ทีมปีศาจแดงสามง่าม ก็ไม่ได้ใกล้หรือเฉียดกับคำว่าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีอีกเลย พบกับความตกต่ำอย่างต่อเนื่อง จนมาเข้าสู่ยุคมืดสุดๆรอยต่อของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ ราล์ฟ รังริก
นอกจากฟอร์มในสนามที่ทำให้แฟนบอลต้องส่ายหน้าเอือมระอาแล้ว เรื่องดีลธุรกิจนอกสนาม เกี่ยวกับการซื้อขายตัวผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเช่นกัน นับตั้งแต่ ซีอีโอคนเก่งอย่าง เดวิด กิลล์ อำลาไปพร้อมกับ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สิ่งหนึ่งที่ ยูไนเต็ด ต้องประสบพบเจอตลอดเรื่องการซื้อขายนั่นก็คือ การโดนโก่งราคาค่าตัวที่แพงโอเวอร์ นักเตะคนไหนที่เป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัวของพวกเขาจะบวกขึ้นอีกราวๆ 20-30ล้านปอนด์ เลยทีเดียว
โอเค เข้าใจว่าคู่แข่งมองเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการขุดรีดทรัพย์ทีมที่ร่ำรวยอย่างปีศาจแดง แต่ทว่าก็ต้องโทษตำหนิ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ประธานฝ่ายบริหารสโมสรด้วยที่ ดำเนินดีลธุรกิจการเจรจาได้ ห่วยแตกและเสียท่าตลอด หรือกว่าจะได้นักเตะมาร่วมชายคาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ล่าช้าเป็นอย่างมาก
เอาแค่ในยุคเริ่มต้นของ เดวิด มอยส์ ลูกน้องคนโปรดอย่าง มารูยาน เฟลไลนี่ ที่กว่าจะเซ็นสัญญาก็ปาเข้าไปช่วงท้ายๆของตลาดซื้อขายนักเตะ หรือเอาในยุคของ หลุยส์ ฟานกัล ฤดูกาลแรก 2014-2015 ก็พาเหรดมาพร้อมนักเตะหน้าไม่นับไม่ถ้วนทั้ง อันเดร์ เอร์เรร่า - ลุค ชอว์ - มาร์กอส โรโฮ - อังเคล ดิ มาเรีย - ดาร์เล่ บลินด์ รวมไปจนถึง แข้งยืมตัวรับค่าเหนื่อย อื้อซ่าอย่าง ราดาเมล ฟัลเกา
ซีซั่นที่สอง อาจารย์หลุยส์ ก็ไปสอยมาเพียบทั้ง เมมฟิส เดอปาย - มอร์กแกน ชไนเดอร์ลิน - มัตเตโอ ดาเมี่ยน - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล มาในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็มีการเททุ่มงบจำนวนมหาศาลเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เอริก ไบยี่ - ชลาตัน อิบราฮิโมวิช - ปอล ป็อกบา และ เฮนริค มคิทาร์ยาน
ขวบปีที่สองของกุนซือแดนฝอยทองก็ได้อาวุธหนักมาทั้ง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ - โรเมลู ลูกากู - เนมานย่า มาติช และ นักเปียโนในตำนานอย่าง อเล็กซิส ซานเชส และปีสุดท้าย 2018-2019 (ที่อยู่ไม่ครบเทอม) ก็ไปสอย เฟร็ด มาแบบงงๆเช่นกัน
มาในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา 2แข้งนักเตะที่ถือว่า โดนโขกราคาแบบน่าหัวเราะเมื่อเทียบกับผลงานแล้วนั่นก็คือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ 80ล้านปอนด์ จากเลสเตอร์ และ อารอน วาน บิสซาก้า จาก คริสตัล พาเลซ 50ล้านปอนด์ ทั้งที่สองแนวรับเหล่านี้พึ่งโชว์ฟอร์มเด่นได้เพียง1-2ฤดูกาล และไม่เคยมีประสบการณ์ในเวทีใหญ่อย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก เลย
เงินพระคลังสโมสรที่ทุบจ่ายไปแตะหลักเกือบ 1000ล้านปอนด์ นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เอาลำทีม แทบจะหานักเตะที่เข้ามาเป็นแกนหลักให้ทีมและสอบผ่านฉลุยไม่ได้เลย แต่ถ้าจะให้เลือกว่าแข้งคนไหนสอบตกแล้ว จิ้มไปตรงไหน คิดชื่ออะไรออกมาก็ใช่กันทั้งนั้น วันนี้เราจึงจะมาดู 5แข้งปีศาจแดงที่ซื้อมาแล้วสอบผ่าน หลังยุคเฟอร์กี้ กัน
ฆวน มาต้า (ผ่านคาบเส้น)
นี่คือนักเตะรายที่สอง ที่ เดวิด มอยส์ ซื้อมาต่อจาก มารูยาน เฟลไลนี่ ในตลาดหน้าหนาวปี 2014 การย้ายมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ ตอนนั้นของ ฆวน มาต้า ถือว่าน่าเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อย เพราะแข้งชาวสเปนรายนี้ โชว์ฟอร์มได้แจ่มมาตลอดกับเซลซี นับตั้งแต่ย้ายมาจากบาเลนเซีย เมื่อปี 2011
แต่ทว่าการเข้ามาคุมเซลซี รอบ2ของ โชเซ่ มูรินโญ่ 2013-2014 กุนซือแดนฝอยทอง ดูจะถูกใจตำแหน่งริมเส้นเป็นหน้าที่ของ วิลเลี่ยม และ เอแด็น อาซาร์ มากกว่า ทำให้สุดท้ายแล้ว " พี่ต้า " ได้ย้ายไปซบปีศาจแดง ด้วยค่าตัวอันเป็นสถิติสโมสร (ตอนนั้น) 37.1 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญาระยะยาวไปจนถึง 2018
ฆวน มาต้า ยึดตำแหน่งตัวจริงริมเส้นฝั่งขวาได้ไม่ยากเย็นนัก เพราะแทบจะไร้คู่แข่งในตำแหน่งดังกล่าว ถึงขนาดทำให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ต้องถูกตัดต่อพันธุกรรมตัวเอง ไปเล่นตำแหน่งแบ็กขวาไปเลย ซีซั่นที่พีคที่สุดในสีเสื้อปีศาจแดง นั่นก็คือฤดูกาล 2014-2015 ที่ แข้งแดนกระทิงดุ ซัดไป9ประตู 4แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์สำคัญที่สุดของ มาต้า คงหนีไม่พ้นการเหมาคนเดียว2เม็ด พาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ 2-1 เมื่อปี 2015 และเป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นได้ตามแท็กติกของผู้จัดการทีมทุกราย ไม่มีปัญหางอแงหรือข่าวลือการย้ายทีมให้เห็น
มาต้า เริ่มหลุดเป็นตัวสำรองถาวรในช่วงที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล พุ่งขึ้นมาและ2ดาวเตะความเร็วสูงทั้งคู่มักถูกจับไปเล่นตำแหน่งริมเส้น เราจึงได้เห็น3ฤดูกาลหลังสุด ฆวน มาต้า ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก เพียงแค่ 35นัด เท่านั้นทำไปเพียง1ประตู 4แอสซิสต์
" พี่ต้า " กลับมาโชว์ฟอร์มเด่นอีกครั้งช่วงท้ายฤดูกาล 2021-2022 แต่ทว่าก็อำลาทีมไปด้วยสัญญาที่หมดลง รวมถึงอายุที่อานามมากขึ้น34ปี ถ้ามองในภาพรวมถือว่า มาต้า สอบผ่านอย่างข้ามเส้น
แต่ทว่าฟอร์มของเจ้าตัวก็ไม่เคยพีคร่างทองเท่าตอนที่อยู่เซลซี ในฤดูกาล 2012-2013เลย ที่เคยเนรมิตผลงานไป 17ประตู 34 แอสซิสต์ จาก61นัดรวมทุกรายการ
อันเดร์ เอร์เรร่า (ผ่านคาบเส้น)
อันเดร์ เอร์เรร่า หรือที่แฟนผีเรียกว่า " พี่เอ๋ " ย้ายจาก แอธเลติก บิลเบา มายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคของ อาจารย์ หลุยส์ ในซัมเมอร์ 2014 ด้วยค่าตัว 28.85ล้านปอนด์ โดยเริ่มแรก เอร์เรร่า ไม่ได้ยื่นต่ำเป็นมิดฟิลด์ประเภทผึ้งงานแต่อย่างใด
ช่วงฤดูกาลแรก 2014-2015 ดาวเตะแคว้นบาสก์รายนี้ เคยถูกดันไปเล่นสูงขนาดเพลย์เมคเกอร์ ยืนข้างหลัง เวย์น รูนี่ย์ ก็มี และเกมดังกล่าวนั่นก็คือนัดที่ทีมเปิดบ้านเอาชนะ แอสตัน วิลล่าไป 3-1 เอร์เรร่า กดเบิ้ลคนเดียว2ประตู จนคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ไป
ช่วงที่อยู่กับทีม เอร์เรร่า เป็นหนึ่งในนักเตะขวัญใจแฟนบอลปีศาจแดงมากๆคนหนึ่ง ด้วยคาแร็กเตอร์ ความขยัน ทำงานหนักเพื่อทีม อารมณ์ร่วมกับเกมสูง มีความเป็นผู้นำในสนาม ว่ากันว่าช่วงที่ดีที่สุดของ กองกลางชาวสเปนนั่นก็คือ การได้ประสานงาน 3มิดฟิลด์ ที่ลงตัวกันช่วงหนึ่งกับ ปอล ป็อกบา และ เนมานย่า มาติช
แต่ถึงกระนั้นก็ดี อันเดร์ เอร์เรร่า ก็ถือว่าหาจุดเด่นของตัวเองไม่เจอเหมือนกันสำหรับการค้าแข้งยังถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะรับก็ไม่ดีจะรุกก็ไม่เด่น เป็นนักเตะประเภทจับฉ่ายเสียมากกว่า สุดท้ายก็ได้ย้ายไป เปแอชเช ในซัมเมอร์ 2019 ฝากผลงาน 20ประตู จาก189นัด ในเครื่องแบบสีแดง
โดยสาเหตุที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับ อันเดร์ เอร์เรร่า นั่นเป็นเพราะเจ้าตัวเรียกค่าเหนื่อยสัญญาฉบับใหม่ แตะหลัก 300,000 ปอนด์/สัปดาห์ รวมไปจนถึงต้องการปลอกแขนกัปตันทีมปีศาจแดง ที่ตอนนั้น อันโตนิโอ วาเลนเซีย ถือครองอยู่ด้วย
ชลาตัน อิบราฮิโมวิช
ถือว่าเป็นดีลที่ เซอร์ไพรส์ เหมือนกันนะสำหรับการลงเอยกันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของ ชลาตัน อิบราฮิโมวิช กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดย "เฮียหลา " ย้ายมาร่วมถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบฟรีๆ ในวัย34ปี หลังหมดสัญญากับ เปแอชเช พร้อมรับค่าเหนื่อย 200,000 ปอนด์/สัปดาห์
ด้วยบารมีของหอกจอมเก๋าชาวสวิดิชรายนี้ ทำให้ดาวเตะรุ่นน้องอย่าง อองโตนี่ มาร์กซิยาล ต้องเกรงใจ ยอมมอบเสื้อหมายเลข9ให้กับ ชลาตัน พร้อมกับตัวของ มาร์กซิยาล เองต้องโยกไปใส่หมายเลข11แทน แบบงอนๆ
อิบราฮิโมวิช ไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษเลย โชว์ฟอร์มระเบิดภูเขา เผากระท่อมได้ทันทีตั้งแต่ฤดูกาลแรก 2016-2017 ประสานงานกับแนวรุกชื่อย่อเห็นแล้วต้องเหนื่อยใจอย่าง " RIP " R = Rooney / I = Ibrahimovic / P = Pogba
ชลาตัน ประเดิมสกอร์แรกในสีเสื้อปีศาจแดงตั้งแต่เกิดประเดิมสนามที่บุกไปเอาชนะ บอร์นมัธ 3-1 และเล่นเดบิวต์ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยการเหมา2ตุงพาทีม เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปได้2-0 และยังมี แฮตทริก ในเกมยูโรป้าลีกที่เอาชนะ แซงต์ เอเตียน ยับ3-0
แต่ทว่าในเดือนเมษายน 2017 อิบราฮิโมวิช ก็มีอาการเอ็นหัวเข่าฉีก จนต้องปิดฤดูกาลก่อนใครเพื่อน พร้อมฝากผลงาน 28ประตู จาก46นัดรวมทุกรายการ และ2ในนั้นคือการยิงในนัดชิงชนะเลิศ ลีกคัพ เฉือน เซาธ์แฮมป์ตัน ไปได้ 3-2 ซึ่งฤดูกาลดังกล่าว หากไม่มีอาการเดี้ยงรบกวน เชื่อว่าดาวยิงจอมติสรายนี้ จะกดได้ถึง 30ประตูแน่
หลังจบฤดูกาล 2016-2017 ยูไนเต็ด เลือกที่จะจ่อสัญญากับ ชลาตัน อิบราฮิโมวิช ออกไปอีก12เดือน แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บเรื้อรัง และการเข้ามาของ ดาวยิงคนใหม่ โรเมลู ลูกากู ทำให้ "เฮียหลา " ที่โยกมาสวมเบอร์ 10 ได้ลงเล่นรวมทุกรายการเพียงแค่7นัดเท่านั้น ก่อนย้ายไป แอลเล กาแล็กซี่ เมื่อมีนาคม 2018
บรูโน่ แฟร์นันเดซ
ก่อนย้ายมาร่วมชายคา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อตลาดหน้าหนาวปี 2020 บรูโน่ แฟร์นันเดซ มีข่าวกับปีศาจแดงมาตั้งแต่ ซัมเมอร์ 2019 แต่ทว่าท้ายที่สุดไม่สามารถปิดดีลกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้ ทำให้ปีศาจแดงต้องฝืนทนใช้ อันเดรส เปเรย์ร่า ในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ ไปก่อน
ท้ายที่สุดแล้ว บรูโน่ ก็ได้สวมเครื่องแบบปีศาจแดงสมใจ ช่วงเดือนมกราคม 2020 สนธิค่าตัวรวมทุกอย่างอยู่ที่ราวๆ 54-55ล้านปอนด์ โดยสถิติก่อนมาค้าแข้งที่อังกฤษ ฤดูกาลก่อนหน้า 2018-2019 เพลย์เมคเกอร์หัวร้อยรายนี้ผลงานโหดมากๆ กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน 26ประตู กับอีก19แอสซิสต์
โดยกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครึ่งฤดูกาลแรก คงไม่มีใครคาดคิดว่า บรูโน่ แฟร์นันเดซ จะอิมแพคกับทีมได้ขนาดนี้ ทำไปได้8ประตู 7แอสซิสต์ จาก14นัดในพรีเมียร์ลีก เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ ทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา (ตอนนั้น) ติดแรงปลายเข้าป้ายอันดับ3 ไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ
การมาของ บรูโน่ ทำให้เหล่าบรรดากองหน้าอย่าง อองโตนี่ มาร์กซิยาล -มาร์คัส แรชฟอร์ด - เมสัน กรีนวู๊ด ได้โอกาสใส่สกอร์ มีจังหวะถวายพานงามๆจาก สตาร์ชาวโปรตุกีส ซึ่งในซีซั่น (ต่อมา) 2020-2021 ดาวเตะหมายเลข18 ฟอร์มดุมากๆ ทำไปได้ 18ประตู 11แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก มีชื่อเข้าชิงเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของ PFA
หรือหากจะนับรวมทั้งฤดูกาล 2020-2021 บรูโน่ ทำไปได้ถึง 28ประตู 17แอสซิสต์ จาก 58นัดรวมทุกรายการ เป็นนักเตะประเภทที่ทีมขาดไม่ได้ มีอารมณ์ร่วมและแพสชั่นเสมอ เวลาที่ได้ไปบู๊ในสนาม
อย่างไรก็ดีฤดูกาล 2021-2022 ที่พึ่งจบไป บรูโน่ แฟร์นันเดซ ก็ฟอร์มตกลงไปพอสมควร เหมือนกับเพื่อนร่วมทีมรายอื่นๆ จ่ายบอลกล้าได้กล้าเสียมากเกินกว่าเหตุ และใช้เวลาส่วนใหญ่ในสนามไปกับการบ่นเพื่อนร่วมทีมและผู้ตัดสิน ทำให้ซัดไปได้เพียงแค่ 10ประตู 6แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก
แต่ก็มีแฮตทริกแรกในสีเสื้อปีศาจแดงได้สำเร็จ ในเกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีก ที่เอาชนะลีดส์ ไป5-1 รวมไปจนถึงยังเป็นนักเตะที่ทำแอสซิสต์ในแชมเปี้ยนส์ลีก มากที่สุดฤดูกาลที่ผ่านมา (7ครั้ง) แม้ทีมจะตกรอบตั้งแต่ไก่โห่ รอบ16ทีมก็ตาม
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
จะว่าไปนี่ก็เป็นเหมือนความฝันของแฟนบอลปีศาจแดงทุกหมู่เหล่าก็ว่าได้นะสำหรับ การรีเทิร์น คืนถิ่นโรงละครแห่งความฝันในช่วงท้ายของอาชีพการค้าแข้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งย้ายกลับมาด้วยค่าตัว ราวๆ 12.85 ล้านปอนด์ พร้อมรับค่าเหนื่อยสุดงาม สัปดาห์ละ 510,000 ปอนด์
เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 5สมัย ไม่ต้องใช้เวลานานเลย กับการเดบิวต์(รอบ2) ในเครื่องแบบปีศาจแดง เมื่อเจ้าตัว เหมาทำคนเดียวได้2ประตู ในเกมถล่มเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล และคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง
อย่างไรก็ตามด้วยภาพรวมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จบฤดูกาล 2021-2022 ได้อย่างน่าอดสู่ มีแต้มสะสมน้อยที่สุดตั้งแต่ฟุตบอลลีกสูงสุดอังกฤษเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีก (1992) จบอันดับ6 มีอยู่เพียง58แต้ม และผลประตูได้เสียเป็น 0
CR7 คือหนึ่งในแพะที่โดนเล่นงานว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมฟอร์มตกและสปิริตทีมแตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ช่วยทีมวิ่งเพรสซิ่งไล่บอล แต่ทว่าอย่างไรก็ตามหากเอาสถิติมากางดู จะพบว่าหากซีซั่นนี้ ยูไนเต็ด ไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พวกเขาจะจบไกลถึงอันดับ 14ของตารางเลยทีเดียว
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กดไปได้18ประตู 3แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก มีสองแฮตทริกในเกมชนะ สเปอร์ส และ นอริช ซิตี้ 3-2 แถมยังมีชื่อเป็น 6แข้ง เข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ PFA ประจำฤดูกาล สิริรวมทุกรายการแล้ว ในวัย37ปี "พีโด้ " กดไป 24ประตู จาก38นัดด้วยกัน
- คอลัมน์นิสต์
- 374
- 30 มิ.ย. 2565 18:06