แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) vs เชลซี (อังกฤษ)
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ
แข่งขันวันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม 2564
คิกออฟ เวลา 02.00 น.
สนาม : เอสตาดิโอ โด ดราเกา (โปรตุเกส)
อัตราต่อรอง : แมนฯ ซิตี้ ต่อ 0.5
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีขุมกำลังที่พร้อมรบในทุกตำแหน่ง แถมยังได้ตัว อิลคาย กุนโดกัน ฟิตสมบูรณ์กลับมาพร้อมประจำการในแดนกลางอีกครั้ง โดยมีโอกาสที่จะได้เล่นร่วมกับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ โรดรี หรือ แฟร์นานดินโญ่ ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ อาจเป็นตัวสอดแทรกในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ เท่ากับว่า เควิน เดอ บรอยน์ จะถูกดันขึ้นไปเล่นเป็นศูนย์หน้าตัวหลอก ลุยเกมรุกร่วมกับ ฟิล โฟเด้น และ ริยาด มาห์เรซ ที่อยู่ด้านกว้าง นั่นหมายความว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ยิง 2 ประตูในนัดสั่งลาพรีเมียร์ลีก ยังต้องอยู่ข้างสนามเช่นเดิม เช่นเดียวกับ กาเบรียล เชซุส ศูนย์หน้าธรรมชาติอีกราย
เชลซี
โทมัส ทูเคิล ยังคงเป็นกังวลกับสภาพความฟิตของ เอดูอาร์ เมนดี ผู้รักษาประตูมือ 1 และ เอ็กโกโล่ ก็องเต้ กองกลางจอมขยัน โดยรายแรกมีอาการบาดเจ็บต้องถูกถอดในช่วงพักครึ่ง ส่วน ก็องเต้ บาดเจ็บมาจากเกมชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ซึ่งทั้งคู่อยู่ในข่ายรอผลประเมินสภาพร่างกายก่อนเกมว่าพร้อมลงสนามหรือไม่ ขณะที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า น่าจะได้ลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวที่ 3 เปิดทางให้ รีซ เจมส์ ลุยริมเส้นฝั่งขวา ส่วนในรายของ ไค ฮาแวร์ตซ์, คริสเตียน ปูริซิช และ ฮาคิม ซีเย็ค ต้องเบียดแย่ง 1 ตำแหน่งกันเองเพื่อลงมาประจำการแนวรุกร่วมกับ เมสัน เมาท์ และ ติโม แวร์เนอร์
ผลงาน 6 นัดหลังของ แมนฯ ซิตี้ (WWLWLW)
ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 (ย)
ชนะ เปแอสเช 2-0 (ห) (ยูซีแอล)
แพ้ เชลซี 1-2 (ห)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-3 (ย)
แพ้ ไบรท์ตัน 2-3 (ย)
ชนะ เอฟเวอร์ตัน 5-0 (ห)
ผลงาน 6 นัดหลังของ เชลซี (WWLLWL)
ชนะ เรอัล มาดริด 2-0 (ห) (ยูซีแอล)
ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 (ย)
แพ้ อาร์เซน่อล 0-1 (ห)
แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 (ก) (เอฟเอคัพ)
ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 (ห)
แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 (ย)
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
08/05/21 (PRL) Man City 1 - 2 Chelsea
17/04/21 (FAC) Chelsea 1 - 0 Man City
03/01/21 (PRL) Chelsea 1 - 3 Man City
26/06/20 (PRL) Chelsea 2 - 1 Man City
24/11/19 (PRL) Man City 2 - 1 Chelsea
24/02/19 (LEC) Chelsea 0 - 0 Man City
10/02/19 (PRL) Man City 6 - 0 Chelsea
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์ สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี, อิลคาย กุนโดกัน - ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เบน ชิลเวลล์ - ฮาคิม ซีเย็ค, เมสัน เมาท์ - ติโม แวร์เนอร์
ผู้ตัดสิน : อันโตนิโอ มาเตว ลาโอซ (สเปน)
แนวโน้มของเกม
"เรือใบสีฟ้า" กำลังมองหาถ้วยใบที่ 3 ของฤดูกาล หลังจากคว้าแชมป์ลีกคัพ และ พรีเมียร์ลีก มาหมาดๆ ซึ่งถือเป็นการทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ขณะที่ "สิงห์บลูส์" อกหักพลาดท่าแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ในเกมนัดชิงฯ เอฟเอ คัพ ทำให้อดชูถ้วยรางวัลก่อนหน้านี้ แต่พวกเขายังโชคดีสามารถจบอันดับ 4 ได้ตามเป้า แม้ว่าจะแพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 ในนัดส่งท้ายฤดูกาลก็ตาม อีกทั้งพวกเขาสามารถเบียดคว้าชัยเหนือ แมนฯ ซิตี้ ได้ทั้ง 2 ครั้งล่าสุดในยุคของ โทมัส ทูเคิล ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความมั่นใจก่อนลงสนาม อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะมองข้ามฝีมือระดับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ไม่น่าพลาดท่าพาทีมแพ้ เชลซี เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันเป็นอย่างแน่นอน ดังนั้น แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสหยิบแชมป์ยุรปใบใหญ่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
ฟันธงโดย : I HEAR TOO
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เชลซี
- วิเคราะห์บอล
- 171
- 29 พ.ค. 2564 11:10