แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2) vs ลิเวอร์พูล (6)
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แข่งขันวันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2566
คิกออฟ เวลา 18.30 น.
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
อัตราต่อรอง : แมนฯ ซิตี้ ต่อ 0.5/1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เจ้านายใหญ่ของทีม "เรือใบสีฟ้า" แสดงความเชื่อมั่นว่าจะได้ตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมกลับมาเป็นตัวปิดบัญชี ลิเวอร์พูล ได้ในเกมนี้ หลังจากถอนตัวจากทีมชาตินอร์เวย์ด้วยปัญหาบาดเจ็บที่ขาหนีบ อย่างไรก็ตามในรายของ ฟิล โฟเดน ที่ถูกตัดออกจากทีมชาติอังกฤษ เนื่องจากเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องพักข้างสนามอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และหลังจากเปลี่ยนทีมในเกม เอฟเอ คัพ ที่ถล่ม เบิร์นลี่ย์ ครึ่งโหลเมื่อสองสัปดาห์ก่อน คาดว่าพวกเขาเตรียมเรียกตัวขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดกลับมาอีกครั้ง โดยมี เอแดร์สัน, จอห์น สโตนส์ และ นาธาน อาเก้ อยู่ในรายชื่อที่คาดว่าจะถูกเรียกคืนเกมรับ ขณะที่กัปตันทีม อิลคาย กุนโดกัน สามารถลงเล่นร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์ และ โรดรี ในตำแหน่งกองกลาง รวมไปถึง ฮูเลียน อัลวาเรซ อาจได้ยืนเป็นตัวจริงหาก ฮาแลนด์ ไม่เหมาะที่จะลงเล่น
ลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดผู้จัดการทีมชาวเยอรมันของทีม "หงส์แดง" ได้ต้อนรับ หลุยส์ ดิอาซ กลับมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ หลังจากพักไป 5 เดือนด้วยอาการบาดเจ็บที่เข่า และปีกชาวโคลอมเบียอาจได้มีส่วนร่วมในทีมแมตช์เดย์นี้ เช่นเดียวกับ ดาร์วิน นูนเญซ น่าจะฟิตพร้อมลงสนามหลังจากเข้ารับการรักษาตัวด้วยปัญหาบาดเจ็บที่ข้อเท้าระหว่างพักเบรกทีมชาติ ขณะที่ในรายของ คอสตาส ซิมิกาส ที่ได้รับบาดเจ็บที่ซี่โครงในระหว่างรับใช้ทีมชาติกรีซ ยังเป็นที่น่าสงสัยสำหรับทริปเยือน เอติฮัด ครั้งนี้ แต่ที่จะหายไปจากทีมแน่ๆ คือ ติอาโก้ อัลคันทารา (สะโพก), สเตฟาน บายเซติช (ต้นขา) และคัลวิน แรมเซย์ ( ข้อเข่า) ที่ยังต้องพักแข้งเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามในแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทำ 3 ประตู ในการดวลแข้งกับ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ทั้งในพรีเมียร์ลีก, คาราบาว คัพ และ คอมมูนิตี้ ชิลด์ พร้อมลงเล่นเกมรุกร่วมกับ โคดี้ กักโป
ผลงาน 6 นัดหลังของ แมนฯ ซิตี้ (WWWWWW)
ชนะ บอร์นมัธ 4-1 (ย)
ชนะ บริสตอล ซิตี้ 3-0 (ย)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (ห)
ชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 (ย)
ชนะ ไลป์ซิก 7-0 (ห) (ยูซีแอล)
ชนะ เบิร์นลีย์ 6-0 (ห) (เอฟเอคัพ)
ผลงาน 6 นัดหลังของ ลิเวอร์พูล (LDWWLL)
แพ้ เรอัล มาดริด 2-5 (ห) (ยูซีแอล)
เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (ย)
ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 (ห)
ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 (ห)
แพ้ บอร์นมัธ 0-1 (ย)
แพ้ เรอัล มาดริด 0-1 (ย) (ยูซีแอล)
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
23/12/22 (LEC) Manchester City 3 - 2 Liverpool
16/10/22 (PRL) Liverpool 1 - 0 Manchester City
30/07/22 (COS) Liverpool 3 - 1 Manchester City
16/04/22 (FAC) Manchester City 2 - 3 Liverpool
10/04/22 (PRL) Manchester City 2 - 2 Liverpool
03/10/21 (PRL) Liverpool 2 - 2 Manchester City
07/02/21 (PRL) Liverpool 1 - 4 Manchester City
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี, อิลคาย กุนโดกัน - แบร์นาร์โด้ ซิลวาเออร์ลิง ฮาแลนด์, แจ็ค กรีลิส
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า ตราโอเร่, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กักโป, ดาร์วิน นูนเญซ
ผู้ตัดสิน : ไซม่อน ฮูเปอร์
แนวโน้มของเกม
เช่นเดียวกับที่พวกเขาทำกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเดือนมีนาคม และ แมนฯ ซิตี้ เมื่อต้นฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องเรียกฟอร์มเหล่านั้นกลับคืนมาเพื่อโอกาสสำคัญในวันเสาร์นี้ และวางฟอร์มนอกบ้านที่ย่ำแย่ หากพวกเขาต้องการเก็บชัยชนะด้วยผลการแข่งขันที่ดีเพื่อเพิ่มความหวังในพื้นที่ท็อปโฟร์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีเครื่องหมายคำถามเกี่ยวกับความฟิตของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ แต่ยังคงคาดหวังว่า "เรือใบสีฟ้า" จะยังคงมีผลงานที่แข็งแกร่งต่อไปในรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ของพวกเขา บวกกับผลงานคลีนชีต 5 นัดหลังสุด และถล่มตาข่ายไปถึง 19 ประตู ในช่วงเวลาเดียวกัน เชื่อว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะสามารถเบียดเอาชนะไปได้เพื่อเป็นการปิดช่องว่างกับ อาร์เซน่อล ให้แคบลงมา
ฟันธงโดย : I HEAR TOO
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ลิเวอร์พูล
- วิเคราะห์บอล
- 148
- 01 เม.ย. 2566 06:40