เวสต์บรอมวิช อัลเบียน (19) vs ลิเวอร์พูล (5)
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564
คิกออฟ เวลา 22.30 น.
สนาม : เดอะ ฮอว์ธอร์นส์
อัตราต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ 1/1.5
เวสต์บรอมวิช
เวสต์บรอมวิช จะได้ตัว ไอน์ลีย์ เมทแลนด์-ไนล์ส กลับมาประจำการแดนกลางอีกครั้ง หลังติดเงื่อนไขไม่สามารถลงเผชิญหน้ากับ อาร์เซน่อล ต้นสังกัดที่แท้จริงในเกมที่ออกไปแพ้ 1-3 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ในรายของ โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ และ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่บาดเจ็บอยู่ก่อนหน้านี้ จะยังไม่มีชื่ออยู่ในทีมเช่นเดิม คาดว่า แซม อัลลาร์ไดซ์ จะหวนกลับมาในกองหลัง 3 คนอีกครั้งในการเผชิญหน้ากับ ลิเวอร์พูล ซึ่งอาจจะได้เห็น ดารา โอเช ลงมาคุมเกมรับร่วมกับ เซมี่ อาจายี่ และ ไคล์ บาร์ทลีย์
ลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจมีการพิจาณาปรับทัพเล็กน้อยหลังผ่านเกมหนักมาหมาดๆ ด้วยการบุกไปอัดคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด 4-2 ในเกมแดงเดือดที่ถูกเลื่อนมาเมื่อกลางสัปดาห์ โดยในรายของ ซาดิโอ มาเน่ ที่ถูกจับนั่งเป็นตัวสำรองและถูกส่งลงสนามในช่วง 15 นาทีสุดท้าย ก่อนแสดงความไม่พอใจหลังจบเกมด้วยการไม่จับมือกับ คล็อปป์ ยังต้องลุ้นว่าจะกลับมาออกสตาร์ทในเกมนี้ได้หรือไม่ ขณะที่ รีส วิลเลียมส์ ที่ได้รับโอกาสลงมาจับคู่คุมเกมรับร่วมกับ เนธาเนียล ฟิลลิปส์ ถือว่าสอบผ่านและน่าจะคงตำแหน่งเอาไว้ได้ทั้งคู่ ส่วนในราย เคอร์ติส โจนส์ มีลุ้นลงเล่นในแดนกลาง หากมีการโรเตชั่นเกิดขึ้น
ผลงาน 6 นัดหลังของ เวสต์บรอมวิช (WWLDDL)
ชนะ เชลซี 5-2 (ย)
ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0 (ห)
แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-3 (ย)
เสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2 (ย)
เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 (ห)
แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 (ย)
ผลงาน 6 นัดหลังของ ลิเวอร์พูล (WDDDWW)
ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (ห)
เสมอ เรอัล มาดริด 0-0 (ห) (ยูซีแอล)
เสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1 (ย)
เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (ห)
ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 (ห)
ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-2 (ย)
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
27/12/20 (PRL) Liverpool 1 - 1 West Bromwich
21/04/18 (PRL) West Bromwich 2 - 2 Liverpool
28/01/18 (FAC) Liverpool 2 - 3 West Bromwich
14/12/17 (PRL) Liverpool 0 - 0 West Bromwich
16/04/17 (PRL) West Bromwich 0 - 1 Liverpool
22/10/16 (PRL) Liverpool 2 - 1 West Bromwich
15/05/16 (PRL) West Bromwich 1 - 1 Liverpool
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
เวสต์บรอมวิช (3-5-1-1) : แซม จอห์นสตัน - เซมี่ อาจายี่, ไคล์ บาร์ทลีย์, ดารา โอเช - ดาร์เนลล์ ฟูร์ล็อง, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, โอคาย โยคุสลู, ไอน์ลีย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, คอเนอร์ ทาวน์เซ่นด์ - มาเตอุส เปเรยร่า - เอ็มบาย ดิอาย
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เนธาเนียล ฟิลลิปส์, รีส วิลเลียมส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ติอาโก้ อัลคันทาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน
แนวโน้มของเกม
"เดอะ แบ็กกีส์" ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะร่วงตกชั้นลงไปเล่นในลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในซีซั่นหน้า หลังออกไปแพ้ อาร์เซน่อล 1-3 ในเกมลีกนัดล่าสุด เท่ากับว่าพวกเขาไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกัน ขณะที่ "หงส์แดง" โชว์ผลงานสุดเหนือชั้น บุกไปปราบอริเบอร์หนึ่งอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยสกอร์ 4-2 เป็นการกลับมาเก็บชัยในลีก 2 เกมติด พร้อมกับยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นพื้นที่ไปลุยถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการรั้งอันดับ 5 มีแต้มตามหลัง เชลซี อันดับ 4 อยู่ 4 คะแนน ซึ่งหากพวกเขาสามารถเก็บชัยได้ในเกมนี้ก็จะไล่กดดัน เชลซี เหลือแค่คะแนนเดียว และแน่นอนว่าผลการแข่งขันไม่น่าพลิก ชัยชนะจะตกเป็นของ ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน
ฟันธงโดย : I HEAR TOO
เวสต์บรอมวิช 1-3 ลิเวอร์พูล
- วิเคราะห์บอล
- 185
- 16 พ.ค. 2564 07:42