ลิเวอร์พูล (PRL-2) vs เลสเตอร์ ซิตี้ (PRL-9)
ฟุตบอล คาราบาว คัพ 2021-22 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
แข่งขันวันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564
คิกออฟ เวลา 02.45 น.
สนาม : แอนฟิลด์
อัตราต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ 1
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของยอดกุนซืออย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ แสดงความต่อด้านฝ่ายจัดตารางการแข่งขันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่น่าแปลกใจหากจะได้เห็นผู้เล่นจากทีมเยาวชนหลายรายมีส่วนร่วมในเกมนัดนี้ แถมผู้เล่นชุดใหญ่อย่าง ติอาโก้ อัลคันทาร่า, ฟาบินโญ่ และ เคอร์ติส โจนส์ ต่างมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวกทั้งหมด เช่นเดียวกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมที่ไม่มีชื่อในเกมเสมอ สเปอร์ส 2-2 เนื่องจากป่วย มีแนวโน้มที่ ไทเลอร์ มอร์ตัน มิดฟิลด์ดาวรุ่ง จะยังได้ประจำการในตำแหน่งมิดฟิลด์ตับรับต่อเนื่องเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน รวมไปถึงผู้เล่นสำรองอย่าง เนโก้ วิลเลียมส์, โจ โกเมซ, คอสตาส ซิมิคาส, ทาคูมิ มินามิโนะ และ เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ นายทวารมือ 2 จะมีชื่อออกสตาร์ทร่วมกันทั้งหมด เช่นเดียวกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่จะกลับมาลงตัวจริงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม
เลสเตอร์ ซิตี้
เลสเตอร์ ซิตี้ ของอดีตผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล อย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ค่อนข้างที่จะมีปัญหาหนักหนามากกว่าเจ้าถิ่น เนื่องจากโดนวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เล่นงานผู้เล่นมากถึง 7 คน หนึ่งนั้นในมีทั้ง ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, อโยเซ่ เปเรซ, เคเลชี่ อีเฮียนาโช่ และ อเดโมล่า ลุคแมน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นแกนหลักแทบทั้งสิ้น นอกเหนือจากนั้นปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บยังเป็นอีกโจทย์ใหญ่ที่ผู้มาเยือนต้องเหนื่อยหน่าย เมื่อคู่เซ็นเตอร์ตัวแกร่งทั้ง ชากลาร์ โซยุนชู และ จอนนี่ อีแวนส์ ต่างหายไปพร้อมกันทั้งคู่ รวมกับยังมี เวสลีย์ โฟฟาน่า ที่บาดเจ็บอยู่ก่อนหน้านี้ ดังนั้นมีโอกาสที่ ดาเนียล อมาร์เตย์ และ วิลฟรีด เอ็นดิดี้ จะถูกเลือกให้เข้ามาจับคู่คุมเกมรับชั่วคราว พร้อมกับฝากความหวังการทำประตูไว้กับ ปาตสัน ดาก้า
ผลงาน 6 นัดหลังของ ลิเวอร์พูล (WWWWWD)
ชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-1 (ย)
ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 (ย)
ชนะ เอซี มิลาน 2-1 (ย) (ยูซีแอล)
ชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 (ห)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1 (ห)
เสมอ สเปอร์ส 2-2 (ย)
ผลงาน 6 นัดหลังของ เลสเตอร์ ซิตี้ (WWDLLW)
ชนะ ลีเกีย วอร์ซอว์ 3-1 (ห) (ยูโรปา)
ชนะ วัตฟอร์ด 4-2 (ห)
เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-2 (ย)
แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 (ย)
แพ้ นาโปลี 2-3 (ย) (ยูโรปา)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-0 (ห)
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
13/02/21 (PRL) Leicester City 3 - 1 Liverpool
23/11/20 (PRL) Liverpool 3 - 0 Leicester City
27/12/19 (PRL) Leicester City 0 - 4 Liverpool
05/10/19 (PRL) Liverpool 2 - 1 Leicester City
31/01/19 (PRL) Liverpool 1 - 1 Leicester City
01/09/18 (PRL) Leicester City 1 - 2 Liverpool
30/12/17 (PRL) Liverpool 2 - 1 Leicester City
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ - เนโก้ วิลเลียมส์, โจ โกเมซ, อิบราฮิม่า โคนาเต้, คอสตาส ซิมิคาส - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ไทเลอร์ มอร์ตัน, เจมส์ มิลเนอร์ - ไคเด้ กอร์ดอน, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ทาคูมิ มินามิโนะ
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ดาเนียล อมาร์เตย์, วิลฟรีด เอ็นดิดี้, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - บูบาการี่ ซูมาเร่, ยูริ ตีเลม็องส์ - เจมส์ แม็ดดิสัน, คีแนน ดิวส์บิวรี่-ฮัลล์, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ - ปาตสัน ดาก้า
ผู้ตัดสิน : แอนดี้ แมดลีย์
แนวโน้มของเกม
"หงส์แดง" เพิ่งพลาดท่าสะดุดเสมอกับ สเปอร์ส 2-2 ในเกมล่าสุด หลังจากที่ชนะในลีกมา 6 นัดติดต่อกันก่อนหน้านี้ พร้อมหยุดสถิติชนะรวดติดต่อกันรวมทุกรายการไว้ที่ 8 นัด อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ เตรียมจัดผู้เล่นสำรองลงสนามมากหน้าหลายตา แต่การเจอกับ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ในชั่วโมงนี้ ที่เต็มไปด้วยปัญหาทั้งอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลัก และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำเกมเกมที่จะเจอกับทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ สเปอร์ส ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป เท่ากับว่าพวกเขาไม่มีเกมให้เล่นมานานถึง 10 กว่าวัน ซึ่งอาจส่งผลต่อฟอร์มการเล่นเป็นอย่างมาก จึงเป็นที่น่าเชื่อว่า ลิเวอร์พูล น่าจะมีภาษีที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปมากกว่า
ฟันธงโดย : I HEAR TOO
ลิเวอร์พูล 2-1 เลสเตอร์ ซิตี้
- วิเคราะห์บอล
- 229
- 22 ธ.ค. 2564 08:24