ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) vs เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 กลุ่ม B
แข่งขันวันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564
คิกออฟ เวลา 03.00 น.
สนาม : แอนฟิลด์
อัตราต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.5/1
ลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล หมดสิทธิ์ใช้บริการของ เคอร์ติส โจนส์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่ต่างยังคงต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมด ในขณะที่ ดิโอโก้ โชต้า จะต้องเข้ารับการประเมินสภาพร่างกายก่อนเกมหลังจากการปะทะกับ อารอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูของ อาร์เซนอล ในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นที่คาดการณ์ว่า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงทางฝั่งซ้ายอีกครั้ง รวมไปถึง เจมส์ มิลเนอร์ และ นาบี เกอิต้า ก็ต่างพร้อมกลับมาเป็นตัวเลือกได้เช่นกัน ส่วนในรายของดี ดิว็อก โอริกี พร้อมสแตนด์บายในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าหาก โชต้า ไม่พร้อมเล่น
เอฟซี ปอร์โต้
เอฟซี ปอร์โต้ มีทีมที่ค่อนข้างฟิตสมบูรณ์ในเกมเยือนถิ่น แอนฟิลด์ ครั้งนี้ โดย เซร์โจ้ คอนไซเซา ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส เตรียมส่ง เปเป้ ปราการหลังขาโหดประสบการณ์สูง ลงมาประจำการในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ ชานเซล เอ็มเบมบ้า อดีตแข้ง นิวคาสเซิล ขณะที่ หลุยส์ ดิอาซ แนวรุกชาวโคลอมเบีย ที่มีข่าวเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล จะกลับมาออกสตาร์ทในตำแหน่งตัวรุกริมเส้น เช่นเดียวกับ มาร์โก กรูยิช อดีตเด็กเก่าของ "หงส์แดง" ที่ฟิตพร้อมเป็นตัวเลือกในแดนกลาง แต่จะต้องเบียดแย่งตำแหน่งกับตัวหลักอย่าง แซร์โจ้ โอลิเวยร่า และ มาติอุส อูริเบ
ผลงาน 6 นัดหลังของ ลิเวอร์พูล (WWDWLW)
ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 5-0 (ย)
ชนะ เปรสตัน 2-0 (ย) (ลีกคัพ)
เสมอ ไบรท์ตัน 2-2 (ห)
ชนะ แอต.มาดริด 2-0 (ห) (ยูซีแอล)
แพ้ เวสต์แฮม 2-3 (ย)
ชนะ อาร์เซน่อล 4-0 (ห)
ผลงาน 6 นัดหลังของ เอฟซี ปอร์โต้ (WLWDWW)
ชนะ ทอนเดล่า 3-1 (ย)
แพ้ ซานต้า คลาร่า 1-3 (ย)
ชนะ เบาวิสต้า 4-1 (ห)
เสมอ เอซี มิลาน 1-1 (ย) (ยูซีแอล)
ชนะ ซานต้า คลาร่า 3-0 (ย)
ชนะ ไฟเรนเซ่ 5-1 (ห)
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
29/09/21 (UCL) Porto 1 - 5 Liverpool
18/04/19 (UCL) Porto 1 - 4 Liverpool
10/04/19 (UCL) Liverpool 2 - 0 Porto
07/03/18 (UCL) Liverpool 0 - 0 Porto
15/02/18 (UCL) Porto 0 - 5 Liverpool
29/11/07 (UCL) Liverpool 4 - 1 Porto
19/09/07 (UCL) Porto 1 - 1 Liverpool
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เนโก้ วิลเลียมส์, อิบราฮิม่า โคนาเต้, โจแอล มาติ๊ป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิว็อก โอริกี, ซาดิโอ มาเน่
เอฟซี ปอร์โต้ (4-4-2) : ออกุสติน มาร์เชซิน - เฮซุส โคโรน่า, เปเป้, ชานเซล เอ็มเบ็มบ้า, ไซดู ซานูซี่ - โอตาวิโอ, มาเตอุส อูริเบ, แซร์โจ้ โอลิเวยร่า, หลุยส์ ดิอาซ - เอวานิลสัน, เมห์ดี เตเรมี่
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ (เยอรมัน)
แนวโน้มของเกม
"หงส์แดง" ทานเกมไล่ถล่ม อาร์เซน่อล มาอย่างยับเยิน 4-0 ในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ เตรียมให้โอกาสผู้เล่นตัวสำรองในการเผชิญหน้ากับ ปอโต้ ครั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ในกลุ่มเอ ของพวกเขาลอยลำเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มเป็นที่แน่นอนแล้ว จากชัยชนะทั้ง 4 นัดที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้มาเยือน ที่ยังต้องลุ้นเข้ารอบต่อไปอย่างหนักจากที่มี แอต.มาดริด และ เอซี มิลาน ไล่หลังมาอยู่ ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องมีในเกมนี้เป็นพิเศษอย่างไรก็ตามแม้ว่า ลิเวอร์พูล จะโรเตชั่นผู้เล่นสำรองลงสนามเป็นหลัก แต่ระบบการเล่นและแทคติกที่ เจอเก้น คล็อปป์ ใส่ลงไปให้กับทัพ "เร้ด แมชชีน" นั้น ผู้เล่นสามารถทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง ดังนั้นมีโอกาสที่เจ้าถิ่นจะเบียดคว้าชัยชนะไปได้
ฟันธงโดย : I HEAR TOO
ลิเวอร์พูล 2-1 เอฟซี ปอร์โต้
- วิเคราะห์บอล
- 403
- 24 พ.ย. 2564 06:53