บอร์นมัธ (แชมเปี้ยนชิพ) vs เชลซี
ฟุตบอล อุ่นเครื่องระดับสโมสร
แข่งขันวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2564
คิกออฟ เวลา 01.45 น.
สนาม : วิตาลิตี้ สเตเดี้ยม
อัตราต่อรอง : เชลซี ต่อ 1
บอร์นมัธ
บอร์นมัธ ที่เพิ่งประกาศแต่งตั้ง สกอตต์ ปาร์คเกอร์ อดีตกุนซือ ฟูแล่ม เข้ามารับงานคุมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เตรียมส่ง เอมิเลียโน่ มาร์คอนเดส เพลเม็คเกอร์ตัวใหม่ที่เพิ่งเซ็นฟรีมาจาก เบรนท์ฟอร์ด ลงประจำการในตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 10 เดินเกมรุกอยู่หลัง ไจดอน แอนโทนี่ ศูนย์หน้าดาวรุ่งที่จะได้รับโอกาสยืนเป็นตหน้าเป้า ขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูที่เพิ่งขาย อัสเมียร์ เบโกวิช ไปให้กับ เอฟเวอร์ตัน หมาดๆ ดังนั้น มาร์ค ทราเวอร์ส จะถูกดันขึ้นมาเป็นมือ 1 แทนทันที โดยมี สตีฟ คุ้ก กองหลังตัวเก๋ากัปตันทีม จับคู่กับ คริส เมปาม ยืนเป็นป้อมปราการในแนวรับ
เชลซี
เชลซี ได้ผู้เล่นหลายรายที่เดินทาไปแข่งขันยูโร 2020 เมื่อช่วงเดือนที่แล้ว ทยอยเดินทางกลับมารายงานตัวฝึกซ้อมกับทีมนำโดย 2 ผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศสอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ เคิร์ท ซูม่า พร้อมกับ อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ไค ฮาแวร์ทซ์ และ ติโม แวร์เนอร์ 3 แข้งทีมชาติเยอรมัน รวมไปถึง มาเตโอ โควาซิช มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชีย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 6 รายยังไม่น่าจะพร้อมเล่นในเกมนี้ แต่แข้งตัวหลักรายอื่นๆ ที่อยู่ในทีมอย่าง เอร์ดูอาร์ เมนดี้, มาร์กอส อลอนโซ่, คริสเตียน ปูริซิช, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, ฮาคิม ซีเย็ค และ แทมมี่ อับราฮัม จะเป็นแกนนำนำทัพลงสนามในเกมนี้
ผลงาน 6 นัดหลังของ บอร์นมัธ (LLWLWL)
แพ้ วีคอมบ์ 0-1 (ย)
แพ้ สโต๊ค ซิตี้ 0-2 (ห)
ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 1-0 (ก) (เพลย์ออฟ)
แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 (ก) (เพลย์ออฟ)
ชนะ ไลเนนเซ่ 4-2 (ห) (อุ่นเครื่อง)
แพ้ กรานาด้า 1-2 (ย) (อุ่นเครื่อง)
ผลงาน 6 นัดหลังของ เชลซี (WLLWLW)
ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 (ย)
แพ้ อาร์เซน่อล 0-1 (ห)
แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 (ก) (เอฟเอคัพ)
ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 (ห)
แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 (ย)
ชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 (ก) (ยูซีแอล)
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
29/02/20 (PRL) Bournemouth 2 - 2 Chelsea
14/12/19 (PRL) Chelsea 0 - 1 Bournemouth
31/01/19 (PRL) Bournemouth 4 - 0 Chelsea
20/12/18 (LEC) Chelsea 1 - 0 Bournemouth
01/09/18 (PRL) Chelsea 2 - 0 Bournemouth
01/02/18 (PRL) Chelsea 0 - 3 Bournemouth
21/12/17 (LEC) Chelsea 2 - 1 Bournemouth
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
บอร์นมัธ (4-2-3-1) : มาร์ค ทราเวอร์ส - จอร์แดน เซมูร่า, คริส เมปาม, สตีฟ คุ้ก, ดีเอโก้ ริโก้ - ลูอิส คุ้ก, เจ็ฟเฟอร์สัน เลอร์มา - เดวิด บรู๊คส์, เอมิเลียโน่ มาร์คอนเดส, ฟิลิป บิลลิง - ไจดอน แอนโทนี่
เชลซี (3-4-2-1) : เจมี่ คัมมิ่ง - เมาลังก์ ซาร์, แมตต์ เมียซก้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น - ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, แดนนี่ ดริ๊งค์วอเตอร์, รอสส์ บาร์คลีย์, บาบา ราห์มาน - ฮาคิม ซีเย็ค, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย - แทมมี่ อับราฮัม
แนวโน้มของเกม
"เดอะ เชอร์รีส์" ภายใต้การทำทีมของ สกอตต์ ปาร์คเกอร์ กุนซือใหม่วัยหนุ่ม เพิ่งพาทีมผ่านเกมอุ่นเครื่อง 2 นัด ด้วยการคว้าชัยเหนือ ไลเนนเซ่ 4-2 และล่าสุดออกไปแพ้ กรานาด้า 1-2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ "สิงห์บลูส์" เตรียมลงสนามเกมปรีซีซั่นเป็นนัดแรกในรอบกว่า 2 เดือน หรือหลังจากคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยชัยชนะเหนือ แมนฯ ซิตี้ 1-0 เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แน่นอนว่า โทมัส ทูเคิ่ล จะยังไม่มีแข้งหลักที่เดินทางไปแข่งยูโร 2020 ให้ได้ใช้งาน แต่ผู้เล่นที่มีอยู่ในทีม ณ ตอนนี้ยังถือว่ามีศักยภาพเหนือกว่า บอร์นมัธ แทบทุกขุมกำลัง ดังนั้น เชลซี จะเป็นฝ่ายเก็บชัยไปได้ตามฟอร์ม
ฟันธงโดย : I HEAR TOO
บอร์นมัธ 1-3 เชลซี
- วิเคราะห์บอล
- 438
- 27 ก.ค. 2564 11:07