ทีมชาติไทย (C-2) vs ทีมชาติเกาหลีใต้ (C-1)
ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รอบ 2 โซนเอเชีย กลุ่ม C
แข่งขันวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2567
คิกออฟ เวลา 19.30 น.
สนาม : ราชมังคลากีฬาสถาน
อัตราต่อรอง : เกาหลีใต้ ต่อ 1/1.5
ทีมชาติไทย
สภาพทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ทุกคนจากนัดที่แล้วยังฟิตพร้อมทุกคน คนที่น่าเป็นห่วงอย่าง "โก๋อุ้ม" ธีราธร บุญมาทัน ทีมีอาการบาดเจ็บช่วงท้ายเกม ล่าสุดก็มีภาพลงซ้อมกับทีมปกติแล้ว เกมนี้ได้กลับมาเล่นในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยสำหรับนักเตะไทยส่วนใหญ่ อาจจะทำให้สภาพความพร้อมดีกว่านัดก่อนด้วยซ้ำไป
ในเกมนี้คาดว่าจะยึดโครงหลักจากนัดก่อนในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม ที่น่าจะยึดมือ 1 อย่างถาวรแล้วหลังจากโชว์ฟอร์มสุดยอดในนัดที่แล้ว เซ็นเตอร์แบ็กใช้ พรรษา เหมวิบูลย์ เป็นตัวยืนคู่กับ สุพรรณ ทองสงค์ หรือ เอเลียส ดอเลาะ แล้วแต่แท็กติกของโค้ช แบ็กสองข้างมี นิโคลัส มิเกลสัน และ ธีราธร บุญมาทัน ประจำการเหมือนเดิม คู่กลางใช้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ วีรเทพ ป้อมพันธุ์ คอยคุมเกม แผงเกมรุก สุภโชค สารชาติ ทางด้านขวา และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ทางด้านขวา ก่อน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่เก็บไว้เป็นทีเด็ดช่วงครึ่งหลัง ในตำแหน่ง เพลเมกเกอร์ ใช้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยืนเหมือนเดิม กองหน้าตัวเป้าเป็น ศุภชัย ใจเด็ด
ทีมชาติเกาหลีใต้
ฮวาง ซุน -ฮง เฮดโค้ช คนใหม่ของ ทีมชาติเกาหลีใต้ โดนโจมตีจากแฟลบอลเกาหลีใต้พอสมควรหลังในเกมก่อนพลาดท่าเสมอกับทีมชาติไทย จากเกมก่อนมีปัญหาการจบสกอร์ที่ไม่เฉียบขาดทำให้ทีมชาติไทยตีเสมอได้ ในช่วงท้ายครึ่งหลังจากโดนตีเสมอนั้นพวกเขาเร่งเกมรุกมากขึ้นโดน ใส่ อี คัง-อิน เข้ามาเพิ่ม เมื่อ อี คัง-อิน เริ่ม ประสานงานกับ ซน ฮึง-มิน ได้ ยิ่งทำให้น่ากลัวขึ้นไปอีก แต่ด้วยเวลาที่ทั้งสองเล่นด้วยกันอาจจะน้อยเกินไปไม่สามารถทำอะไรได้ทัน ดังนั้นเกมนี้อาจจะได้เห็นทั้งคู่ลงเล่นพร้อมกันตั้งแต่เริ่มเกมเลยก็ได้ รวมถึงกองหน้าเบอร์ 9 ที่เด่นในลูกกลางอากาศอย่าง โช กยู-ซอง ด้วย
คาดว่าเกมนี้ พวกเค้าน่าจะมาในระบบ 4 - 3 - 3 ผู้รักษาประตู โจ ฮยอน-อู จาก อุลซาน ฮุนได แผงหลังนำมาโดย คิม มิน-แจ เซ็นเตอร์แบ็กจาก บาเยิร์น มิวนิก ยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีก้า เยอรมัน ส่วนแผงกลางใช้สามคนจากนัดก่อน เพค ซึง-โฮ, ฮวาง อิน-บอม, อี แจ-ซอง แผงเกมรุกใช้ อี คัง-อิน ยืนปีกขวา ขยับ ซน ฮึง-มิน ไปซ้าย และกองหน้าตัวเป้าใช้ โช กยู-ซอง ศูนย์หน้าจาก มิดทิลแลนด์ ทีมในเดนมาร์ก
ผลงาน 6 นัดหลังของ ไทย (LWDDLD)
แพ้ ญี่ปุ่น 0-5 (ย) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 (ก) (เอเชียนคัพ)
เสมอ โอมาน 0-0 (ก) (เอเชียนคัพ)
เสมอ ซาอุดิอาระเบีย 0-0 (ก) (เอเชียนคัพ)
แพ้ อุซเบกีสถาน 1-2 (ก) (เอเชียนคัพ)
เสมอ เกาหลีใต้ 1-1 (ย) (คัดบอลโลก)
ผลงาน 6 นัดหลังของ เกาหลีใต้ (DDWWLD)
เสมอ จอร์แดน 2-2 (ก) (เอเชียนคัพ)
เสมอ มาเลเซีย 3-3 (ก) (เอเชียนคัพ)
ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 4-2 (P) (ก) (เอเชียนคัพ)
ชนะ ออสเตรเลีย 2-1 (E) (ก) (เอเชียนคัพ)
แพ้ จอร์แดน 0-2 (ก) (เอเชียนคัพ)
เสมอ ไทย 1-1 (ห) (คัดบอลโลก)
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
27/03/16 (FRI) Thailand 0 - 1 Korea Republic
21/03/24 (AWC) Korea Republic 1 - 1 Thailand
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ทีมชาติไทย (4-2-3-1) : ปฏิวัติ คำไหม - นิโคลัส มิคเคลสัน, พรรษา เหมวิบูลย์, เอเลียส ดอเลาะ, ธีราทร บุญมาทัน (กัปตันทีม) - วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี - เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ - ศุภชัย ใจเด็ด
ทีมชาติเกาหลีใต้ (4-3-3) : โจ ฮยอน-วู - ซอล ยอง-อู, คิม มิน-แจ, คิม ยอง-กวอน, คิม จิน-ซู - ปัก ซึง-โฮ, ฮวาง อิน-บอม, อี แจ-ซุง - อี คัง-อิน, ซน เฮือง-มิน (กัปตันทีม), โช กือ-ซอง
แนวโน้มของเกม
จากเกมก่อนที่เกาหลีใต้ พลาดท่าโดนไทยตีเสมอในครึ่งหลัง นัดนี้พวกเขาต้องการแก้ตัวเพื่อ 3 แต้ม เรียกความเชื่อมั่นให้กับทีมและแฟนบอลเป็นอย่างมากเชื่อว่าพวกเขาจะเริ่มบุกราวกับพายุโหมกระหน่ำ ตั้งแต่กรรมการเป่านกหวีดเริ่มเกม จุดเด่นของ ทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดนี้น่าจะเป็นเกมรุกที่ 2 สตาร์ที่เล่นอยู่ในยุโรปอย่าง อี คัง-อิน และ ซน ฮึง-มิน เล่นด้วยกัน หากพวกเขาประสานงานกันได้ เกมรุกจะอันตรายขึ้นอีกขั้นเลย ส่วนแผงหลังที่นำโดย คิม มิน-แจ ก็โดนแฟนบอลสวดยับมาเช่นกันในนัดที่แล้ว นัดนี้แน่นอนว่าพวกเขาจะระวังตัวมากขึ้น มีสมาธิกับผู้เล่นไทยมากขึ้น ทำให้เกมรุกของทีมชาติไทยทำประตูยากขึ้นอย่างแน่นอน อุปสรรคสำคัญในนัดนี้ของพวกเขาคือ การมาเล่นที่ไทยนอกจากเจอสนามที่แฟนบอลจะเข้ามาเต็ฒความจุแล้ว สภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนก็ทำให้เป็นปัญหาต่อนักเตะพวกเขาเช่นกัน
ส่วนทางด้านทีมชาติไทยที่มี มาซาทาดะ อิชิอิ เป็นเฮดโค้ช สไตล์การเล่นชัดเจน เน้นเกมรับแต่รับเป็นทีม เปลี่ยนรับเป็นรุกเป็นทีมเมื่อมีโอกาส นัดก่อนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถสู้กับทีมระดับโลกอย่างเกาหลีใต้ ด้วยวิธีการที่เป็นแบบแผน และมีวินัย นัดนี้พวกเขาต้องโดนไล่ถล่มกดดันตั้งแต่เริ่มเกมอย่างแน่นอน เกมรับต้องเล่นแบบมีสมาธิ มีวินัยแบบเดิม แต่อาจจะต้องเน้นการจบสกอร์เมื่อมีโอกาสให้คมกว่าเดิม เพื่อให้สามารถมีแต้มอีกในนัดนี้ การเล่นในสภาพแวดล้อมที่คุ้นชินกว่าอาจจะเป็นส่วนที่ได้เปรียบอยู่บ้างเล็กน้อย
เกมนี้เชื่อว่า ทีมชาติเกาหลี จะโหมกระหน่ำบุกใส่ แต่ทีมชาติไทยก็จะเอาตัวรอดได้จากแบบแผนการเล่น วินัยในเกมรับ เสียงเชียร์ในสนามราชมังคลากีฬาสถาน และสภาพอากาศที่บ้านเรา คาดว่าเกมนี้ทีมชาติไทยจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้อีกครั้งด้วยการ ยันเสมอ เกาหลีใต้ไว้ได้ และถึงจะยากมากเพียงใด ก็ยังอาจหวังเล็กๆได้ถึงสามแต้มด้วยซ้ำ
ฟันธงโดย : I HEAR TOO
ไทย 1-1 เกาหลีใต้
สนับสนุนเนื้อหา>>>www.sport.trueid.net
- วิเคราะห์บอล
- 71
- 26 ม.ค. 2567 10:15