ทีมชาติอังกฤษ (C-1) vs ทีมชาติสโลวีเนีย (C-3)
ฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2024" รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C
แข่งขันวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567
คิกออฟ เวลา 02.00 น.
สนาม : โคโลญจน์ สเตเดี้ยม - โคโลญจน์, เยอรมัน (สนามกลาง)
อัตราต่อรอง : อังกฤษ ต่อ 1/1.5
ทีมชาติอังกฤษ
แกเร็ธ เซาธ์เกต พยายามหลีกเลี่ยงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การเลือกทีมของเขา อย่างน้อยเมื่อเทียบกับทัวร์นาเมนท์ใหญ่ครั้งก่อน แต่การตัดสินใจของเฮดโค้ชวัย 53 ปีในการเรียก ลุค ชอว์ ที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งยังคงฝึกซ้อมเป็นรายบุคคลนั้นส่งผลเสียอย่างแท้จริง และแข้งจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงถูกจัดว่าเป็นข้อสงสัยสำคัญสำหรับการแข่งขันในนัดส่งท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แต่ควรเป็นเพียงแข้งคนเดียวที่ขาดหายไปสำหรับ "ทรี ไลออนส์" ซึ่งแฟนบอลเรียกร้องให้ เซาธ์เกต แก้ไข 11 ตัวจริงของเขา และเห็นได้ชัดว่าการทดลองใช้งาน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในตำแหน่งกองกลางไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ดังนั้น คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ซึ่งมีใบเหลืองคาดโทษติดตัวอยู่ สามารถถูกส่งตัวกลับมาเป็น 11 ตัวจริงได้ หรือขยับถอย จู๊ด เบลลิงแฮม ลงมาเล่นในตำแหน่งลึกเคียงข้างกับ เดแคลน ไรซ์ ซึ่งจะทำให้ ฟิล โฟเดน ทำงานจได้จากตำแหน่งหมายเลข 10 และ แอนโธนี่ กอร์ดอน หรือ เอเบเรซี่ เอเซ่ อาจถูกส่งลงเล่นทางฝั่งซ้าย
ทีมชาติสโลวีเนีย
สำหรับทีมชาติสโลวีเนีย ของกุนซือ มัตยาซ เค็ค ต้องกุมขมับเล็กน้อยเกี่ยวกับปัญหาความฟิตของตัวรุกดาวรุ่ง เบนจามิน เซสโก้ ซึ่งล้มเหลวในการอยู่ในสนามครบ 90 นาที ในเกมกับ เซอร์เบีย เนื่องจากปวดกล้ามเนื้อ แต่เขาได้รับการฝึกซ้อมตามปกติในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และน่าจะไม่เป็นไรที่จะเป็นผู้นำในแดนหน้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยาน โอบลัค ผู้รักษาประตูชื่อดังพลาดการฝึกซ้อมเมื่อสุดสัปดาห์ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถอธิบายได้ ขณะที่ดูโอกองกลาง ติมี แม็กซ์ เอลส์นิค และ อดัม เนซด้า เชริน ยังไม่ได้ลงสนาม 100% นับตั้งแต่แมตช์ที่ 2 ทำให้พวกเขาอาจมีส่วนร่วมได้ไม่เต็มเวลา อย่างไรก็ตาม คงเป็นเรื่องที่น่าตกใจหากไม่เห็น โอบลัค ซึ่งทำหน้าที่หยุดยั้งโอกาสสำคัญในเกมเจอ เซอร์เบีย คอยเฝ้าเสา ขณะที่ จอน โกเรนซ์ สแตนโควิช เป็นทางเลือกในตำแหน่งกองกลาง ถ้าทั้ง เอลส์นิค และ เซริน ไม่ได้รับไฟเขียวให้ออกสตาร์ท
ผลงาน 6 นัดหลังของ อังกฤษ (LDWLWD)
แพ้ บราซิล 0-1 (ห) (อุ่นเครื่อง)
เสมอ เบลเยียม 2-2 (ห) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ บอสเนีย 3-0 (ห) (อุ่นเครื่อง)
แพ้ ไอซ์แลนด์ 0-1 (ห) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ เซอร์เบีย 1-0 (ก) (ยูโร2024)
เสมอ เดนมาร์ก 1-1 (ก) (ยูโร2024)
ผลงาน 6 นัดหลังของ สโลวีเนีย (DWWDDD)
เสมอ มอลตา 2-2 (ย) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ โปรตุเกส 2-0 (ห) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ อาร์เมเนีย 2-1 (ห) (อุ่นเครื่อง)
เสมอ บัลแกเรีย 1-1 (ห) (อุ่นเครื่อง)
เสมอ เดนมาร์ก 1-1 (ก) (ยูโร2024)
เสมอ เซอร์เบีย 1-1 (ก) (ยูโร2024)
ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม
06/10/17 (UWC) England 1 - 0 Slovenia
12/10/16 (UWC) Slovenia 0 - 0 England
14/06/15 (UEC) Slovenia 2 - 3 England
16/11/14 (UEC) England 3 - 1 Slovenia
23/06/10 (FWC) Slovenia 0 - 1 England
05/09/09 (FRI) England 2 - 1 Slovenia
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติอังกฤษ (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี, คีแรน ทริปเปียร์ - เดแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิงแฮม - บูกาโย่ ซาก้า, ฟิล โฟเดน, แอนโธนี่ กอร์ดอน - แฮร์รี เคน (กัปตันทีม)
ทีมชาติสโลวีเนีย (4-4-2) : ยาน โอบลัค (กัปตันทีม) - ซาน คาร์นิชนิค, ดาวิด เบรคาโล่, ยาก้า บิโยล, เอริค ยานซ่า - ยาน มลาการ์, อดัม เนซด้า เชริน, ติมี แม็กซ์ เอลส์นิค, เปตาร์ สโตยาโนวิช - อันดราซ สปอราร์, เบนจามิน เซสโก้
ผู้ตัดสิน : เคลม็องต์ ตูร์แป็ง (ฝรั่งเศส)
แนวโน้มของเกม
มีเหตุผลที่สนับสนุน สโลวีเนีย เหนือกว่า อังกฤษ อย่างปฏิเสธไม่ได้สำหรับการปะทะกันครั้งสำคัญในนัดนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนทัวร์นาเมนท์ และการทำลายการป้องกันของ ยาน โอบลัค ควรพิสูจน์ได้ว่าเป็นงานที่หนักอึ้งสำหรับทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับกรณีในแอฟริกาใต้เมื่อ 14 ปีที่แล้ว (อังกฤษ ชนะ 1-0) การได้เห็นเพียง 1 ประตูน่าจะเพียงพอที่จะผลักดันให้ "ทรี ไลออนส์" ที่จืดชืดผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม แม้ว่าจะสร้างแรงบันดาลใจเพียงเล็กน้อยสำหรับเกมข้างหน้า
ฟันธงโดย : I HEAR TOO
อังกฤษ 1-0 สโลวีเนีย
- วิเคราะห์บอล
- 186
- 25 มิ.ย. 2567 09:34