ทีมชาติกรีซ (B-1) vs ทีมชาติอังกฤษ (B-2)

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567
คิกออฟ เวลา 02.45 น.
สนาม : โอลิมเปียโก้ สตาดิโอ สปายรอส หลุยส์

อัตราต่อรอง : อังกฤษ ต่อ 0.5

ทีมชาติกรีซ
ดิมิทริออส คูร์เบลิส กองกลางทีมชาติกรีซ จะถูกแบน 1 นัด เนื่องจากมีใบเหลืองสะสม ดังนั้นทั้ง เปตรอส มันตาลอส, คริสตอส ซาเฟยริส หรือ โซติริส อเล็กซานโดรปูลอส ก็สามารถลงเล่นเคียงข้าง มาโนลิส ซิโอปิส กองกลาง คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ได้ ในขณะที่ โอดิสเซอาส วลาโชดิมอส พยายามดิ้นรนเพื่อลงเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล ในฤดูกาลนี้ แต่เขายังคงสถานะผู้รักษาประตูหมายเลขหนึ่งของทีมบ้านเกิด และคาดว่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงอย่างแน่นอน โดยที่มี คอสตาส ซิมิกาส ของ ลิเวอร์พูล และ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส ของ เวสต์แฮม ต่างก็ถูกกำหนดให้ออกสตาร์ทเกมรับ ส่วนในรายของ วานเจลิส ปาฟลิดิส ที่หลังจากทำ 2 ประตูในเกมที่พบกับ อังกฤษ เมื่อเดือนที่แล้ว เชื่อว่าเขายังสามารถยึดตำแหน่งหน้าเป้าต่อไปได้ แม้ว่า โฟติส อิโออันนิดิส ซึ่งทำได้ 3 ประตูในเกมเนชั่นส์ ลีก 2 เกมแรก จะกลับมาอยู่ในทีมอีกครั้งหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ

ทีมชาติอังกฤษ
ทีมชาติอังกฤษ จะไร้เงา บูกาโย่ ซาก้า, เดแคลน ไรซ์, ฟิล โฟเด้น, แจ็ค กรีลิช, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โคล พาลเมอร์, ลีวาย โคลวิลล์ และ อารอน แรมส์เดล ต่างก็ถอนตัวออกจากทีมของ ลี คาร์สลีย์ เช่นเดียวกับ จอห์น สโตนส์, ค็อบบี ไมนู, แฮร์รี แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ และ เอเบเรชี เอเซ่ ต่างถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมดเนื่องจากอาการบาดเจ็บ โดยผู้เล่นอย่าง มอร์แกน โรเจอร์ส, เทย์เลอร์ แฮร์วู้ด-เบลลิส และ ลูอิส ฮอลล์ ต่างถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก พร้อมกับ จาร์ร็อด โบเวน, จาร์ราด แบรนธ์เวต, ติโน่ ลิฟราเมนโต้ และ เจมส์ แทรฟฟอร์ด ต่างถูกเรียกตัวเข้ามาสมทบ อย่างไรก็ตาม ไคล์ วอล์คเกอร์ ยังคงอยู่ในทีมแม้จะยังมีข้อสงสัยเรื่องความฟิต และต้องรอดูว่าเขาจะพร้อมออกสตาร์ทในตำแหน่งแบ็คขวาหรือไม่ ขณะที่การไม่มี ไรซ์ อาจทำให้ อังเคล โกเมส ของ ลีลล์ ได้จับคู่กับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ของ แอต.มาดริด ในตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กลาง ขณะที่ โนนี่ มาดูเอเก้, จู๊ด เบลลิงแฮม และ แอนโธนี่ กอร์ดอน ทั้งหมดอาจเชื่อมโยงกันในพื้นที่สุดท้ายร่วมกับ แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีม

ผลงาน 6 นัดหลังของ กรีซ (LWWWWW)
แพ้ เยอรมัน 1-2 (ย) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ มอลตา 2-0 (ย) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ ฟินแลนด์ 3-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ ไอร์แลนด์ 2-0 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ อังกฤษ 2-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ ไอร์แลนด์ 2-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงาน 6 นัดหลังของ อังกฤษ (WLWWLW)
ชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 (ก) (ยูโร2024)
แพ้ สเปน 1-2 (ก) (ยูโร2024)
ชนะ ไอร์แลนด์ 2-0 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ ฟินแลนด์ 2-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
แพ้ กรีซ 1-2 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ ฟินแลนด์ 3-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม
11/10/24    (UNL) England 1 - 2 Greece
16/08/06    (FRI) England 4 - 0 Greece
06/10/01    (UWC) England 2 - 2 Greece
07/06/01    (UWC) Greece 0 - 2 England
17/05/94    (FRI) England 5 - 0 Greece
08/02/89    (FRI) Greece 1 - 2 England
31/03/83    (UEC) England 0 - 0 Greece

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติกรีซ (4-2-3-1) : โอดิสซีอาส วลาโชดิมอส - ลาซารอส โรต้า, ดินอส มาฟโรปานอส, คอนสแตนตินอส คูเลียรากิส, คอสตาส ซิมิกาส - มาโนลิส ซิโอปิส, เปตรอส มานตาลอส - จอร์จอส มาซูราส, อนาสตาซิออส บากาเซตาส (กัปตันทีม), คริสตอส โซลิส - วานเจลิส ปาฟลิดิส

ทีมชาติอังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไคล์ วอร์คเกอร์ (กัปตันทีม), เอซรี คอนซ่า, มาร์ค เกฮี, ริโก้ ลูอิส - อังเคล โกเมส, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ - โนนี่ มาดูเอเก้, จู๊ด เบลลิงแฮม, แอนโธนี่ กอร์ดอน - แฮร์รี่ เคน

ผู้ตัดสิน : ดาเนียล ซีแบร์ต (เยอรมัน)

แนวโน้มของเกม
ความกดดันตกอยู่ที่ ลี คาร์สลีย์ ในการนำพาอังกฤษไปสู่ชัยชนะครั้งสำคัญ โดยที่ อังกฤษ อาจจะไม่มีนักเตะดาวดังหลายคนที่ต่างโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานกันถ้วนหน้า ซึ่งเป็นสิงที่ คาร์สลีย์ กลึนไม่เข้าคายไม่ออกในการเป็นผู้นำทัพ "สิงโตคำราม" ในวาระส่งท้าย อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อลึกๆ ว่าทีมที่เต็มไปด้วยแข้งมากพรสวรรค์หลากหลายตำแหน่ง แม้ว่าจะมีผู้เล่นหลายคนที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในระดับนานาชาติ แต่น่าจะมีดีมากพอที่จะสามารถเบียดคว้าชัยชนะกลับมาได้

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
กรีซ 1-2 อังกฤษ