ทีมชาติอังกฤษ (2) vs ทีมชาติฟินแลนด์ (4)

แข่งขันวันอังคารที่ 10 กันยายน 2567
คิกออฟ เวลา 01.45 น.
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : อังกฤษ ต่อ 2/2.5

ทีมชาติอังกฤษ
ไม่มีขุนพลทีมชาติอังกฤษ คนใดของ ลี คาร์สลีย์ มีรายงานอาการบาดเจ็บ ภายหลังจากชัยชนะเหนือ ไอร์แลนด์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่กัปตันทีม แฮร์รี เคน ลงเล่นให้ทีมชาติครบ 99 นัด และตอนนี้นักเตะ บาเยิร์น มิวนิค ก็พร้อมที่จะกลายเป็นแข้งเพียง 10 คนที่ติดทีมครบ 100 นัด ซึ่งเขาน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ 4 แนวรุกที่ไม่เปลี่ยนแปลงร่วมกับ แจ็ค กรีลิช, แอนโธนี กอร์ดอน และ บูคาโย่ ซาก้า และคงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเห็น คาร์สลีย์ ยึด 11 ตัวจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากเกมที่แล้ว แต่ทั้ง เอเบเรซี เอเซ่, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ จอห์น สโตนส์ ต่างพร้อมเป็นตัวสอดแทรกสำหรับเลื่อนชั้นจากม้านั่งสำรอง ขณะที่ ติโน่ ลิฟราเมนโต้ และ โนนี่ มาดูเอเก้ ก็พร้อมลงประเดิมสนามกับทีมชาติครั้งแรก หลังจาก มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ และ อังเคล โกเมส ได้ประเดิมนัดแรกจากม้านั่งสำรองเมื่อสุดสัปดาห์

ทีมชาติฟินแลนด์
ในทางตรงกันข้าม ฟินแลนด์ ต้องเผชิญกับปัญหา 2 เคสทั้งก่อนและระหว่างการไล่ทุบเอาชนะ กรีซ ในนัดที่แล้ว โดย คาน ไคริเนน กองกลางของ สปาร์ต้า ปราก ได้รับบาดเจ็บก่อนการแข่งขัน ก่อนที่ ราสมุส ชูลเลอร์ จะถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไปว่าปัญหาขาของ ชูลเลอร์ จะร้ายแรงพอที่จะทำให้เขาต้องออกจากเกมนี้หรือไม่ แต่กุนซือ มาร์กกู คาเนอร์วา ยอมรับหลังแมตช์ว่าปัญหาของ ชูลเลอร์ ดูไม่ดีนัก ในขณะที่ ไคริเน่น มีรายงานว่าถูกตัดออกไปแล้ว โดย อูร์โฮ นิสซิล่า ผู้เข้ามาแทนที่ ชูลเลอร์ ในเกมที่พ่ายแพ้เมื่อสุดสัปดาห์ น่าจะก้าวเข้ามาตั้งแต่เสียงนกหวีดยาวครั้งแรก ขณะที่ทั้ง โจเอล โปห์ยันปาโล และ ตีมู ปุ๊กกี้ เป็น 2 ตัวเลือกที่โดดเด่นในแดนหน้า

ผลงาน 6 นัดหลังของ อังกฤษ (DWWWLW)
เสมอ สโลวีเนีย 0-0 (ก) (ยูโร2024)
ชนะ สโลวาเกีย 2-1 (E) (ก) (ยูโร2024)
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 5-3 (P) (ก) (ยูโร2024)
ชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 (ก) (ยูโร2024)
แพ้ สเปน 1-2 (ก) (ยูโร2024)
ชนะ ไอร์แลนด์ 2-0 (ย) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงาน 6 นัดหลังของ ฟินแลนด์ (WLWLDL)
ชนะ ซาน มาริโน่ 2-1 (ย) (คัดยูโร)
แพ้ เวลส์ 1-4 (ย) (คัดยูโร)
ชนะ เอสโตเนีย 2-1 (ห) (อุ่นเครื่อง)
แพ้ โปรตุเกส 2-4 (ย) (อุ่นเครื่อง)
เสมอ สกอตแลนด์ 2-2 (ย) (อุ่นเครื่อง)
แพ้ กรีซ 0-3 (ย) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม
24/03/01    (UWC) England 2 - 1 Finland
11/10/00    (UWC) Finland 0 - 0 England
03/06/92    (FRI) Finland 1 - 2 England
22/05/85    (UWC) Finland 1 - 1 England
17/10/84    (UWC) England 5 - 0 Finland
13/10/76    (UWC) England 2 - 1 Finland

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติอังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาร์ค เกฮี, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลีวาย โคลวิลล์ - ค็อบบี้ ไมนู, เดแคลน ไรซ์ - บูกาโย่ ซาก้า, แจ็ค กรีลิช, แอนโธนี่ กอร์ดอน - แฮร์รี เคน (กัปตันทีม)

ทีมชาติฟินแลนด์ (4-2-3-1) : ลูคัส ฮราเด็คกี้ (กัปตันทีม) - อดัม สตาห์ล, อาร์ทตู ฮอสโคเน่น, โรเบิร์ต อิวานอฟ, เยเร่ อูโรเน่น - มัตติ เปลโตล่า, อูโร่ นิสซิล่า - โรบิน ล็อด, เกล็น กามาร่า, โอลิเวอร์ แอนท์แมน - โยเอล โปห์ยันปาโล่

ผู้ตัดสิน : มอร์เท่น โกรก (เดนมาร์ก)

แนวโน้มของเกม
หาก ลูคัส ฮราเด็คกี้ ไม่ทำผิดพลาดอย่างน่าสยดสยองในนัดที่แล้ว ฟินแลนด์ อาจไม่ต้องเผชิญกับการต้องรับกับผลการแข่งขันอันโหดร้ายด้วยน้ำมือของ กรีก แต่ทีมของ มาร์กกู คาเนอร์วา อาจถูกไล่ถล่มแบบเดียวกันอีกครั้งที่สนามเวมบลีย์

โดย อังกฤษ ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม และน่าจะทำประตูได้มากกว่านี้ในเกมกับ ไอร์แลนด์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังเชื่อมั่นว่าทัพ "ทรี ไลออนส์" จะโหดเหี้ยมกว่านี้อีกเล็กน้อยที่สนามเวมบลีย์ กับชัยชนะ 2 นัดติดต่อกันภายใต้การทำทีมของ ลี คาร์สลีย์

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
อังกฤษ 3-0 ฟินแลนด์